การขับรถตอนกลางคืน หรือในสภาพแวดล้อมที่มืดมิด ย่อมทำให้ทัศนวิสัยหรือการมองเห็นถนนนหนทางรอบตัวไม่ดีเท่ากับการขับรถตอนกลางวัน ทั้งยังเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายๆ นอกจากความสามารถในการมองเห็นจะลดลงแล้ว ยังมีเรื่องของสภาพร่างกายมาเป็นตัวแปรอีกด้วย เพราะผู้ขับขี่บางคนอาจเกิดอาการอ่อนเพลีย ง่วงนอน และเกิดการหลับในได้ วันนี้ masii เลยได้นำเทคนิคดีๆ ในการขับรถตอนกลางคืนให้ปลอดภัยมาฝากกัน ไปดูกันเลยว่ามีอะไรบ้าง
เทคนิคขับรถตอนกลางคืนให้ปลอดภัย
รู้ไหมว่า สถิติการเกิดอุบัติเหตุกว่า 50% นั้นมักเกิดขึ้นในเวลากลางคืน โดยสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากระยะจำกัดของแสงไฟ มองไม่เห็นรถหรือเส้นทางข้างหน้าได้ชัดเจน โดยเฉพาะช่วงเวลาโพล้เพล้ที่แสงอาทิตย์ใกล้หมด สายตาอาจยังปรับสภาพได้ไม่ดีเท่าที่ควร ซึ่งผู้ที่ต้องขับรถในช่วงกลางคืนควรรู้เทคนิคในการขับขี่ ดังนี้
1. มีสติในการขับรถ
การขับรถในตอนกลางคืนจำเป็นต้องใช้ความระมัดระวังและมีสติสัมปชัญญะให้มากๆ เพราะว่ามีทัศนวิสัยที่จำกัดอันมาจากความมืดและไฟส่องสว่างที่ไม่ดีเท่าแสงธรรมชาติ ทั้งยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ทำให้ขับรถยากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์คันอื่น สภาพอากาศ เช่น หมอกจัด ฝนตกหนัก หรือแม้แต่ร่างกายผู้ขับขี่ที่ต้องการการพักผ่อนในเวลากลางคืน เป็นต้น ทำให้การขับรถตอนกลางคืนต้องมีสติและเพิ่มความระมัดระวังให้มากกว่าการขับรถตอนกลางวันเป็นพิเศษ
2. ใช้ไฟสูงเมื่อจำเป็น
การขับรถตอนกลางคืนบนเส้นทางที่มืดมากๆ ไม่มีแม้แต่แสงไฟจากเสาไฟฟ้าหรือรถยนต์คันอื่น ผู้ขับขี่สามารถเปิดไฟสูงจากรถยนต์ได้ ซึ่งจะช่วยให้มองเห็นถนนหนทางได้ชัดเจนขึ้นในระยะไกลๆ แต่ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ควรใช้ไฟสูงพร่ำเพรื่อ โดยเฉพาะเมื่อมีรถคันอื่นอยู่ร่วมบนถนน เพราะจะเป็นการรบกวนการขับขี่และการมองเห็นของผู้อื่นนั่นเอง
3. ระวังรถที่จอดอยู่ข้างทาง
ในช่วงเวลากลางคืนบนท้องถนนอาจมีรถยนต์หรือรถบรรทุกจอดพัก หรือจอดเสียอยู่ริมทางและไม่ได้เปิดไฟสัญญาณฉุกเฉิน ซึ่งอาจทำให้ผู้ขับขี่มองไม่เห็นจนเกิดการชนเข้าอย่างจัง โดยเฉพาะบริเวณทางที่เป็นเนินขึ้นลงเขา ทางโค้ง หรือมุมอับที่แสงจากไฟหน้ารถส่องไม่ถึง อย่างไรแล้วเพื่อความปลอดภัยแนะนำให้เปิดไฟสูงสลับกับไฟต่ำบ่อยๆ เพื่อสำรวจถนนหนทางด้านหน้าว่ามีอะไรขวางการจราจรอยู่หรือไม่ แต่ก็ระวังอย่าเปิดไฟสูงค้างไว้นานจนไปแยงตารถคันอื่นเข้าล่ะ
4. เว้นระยะห่างจากคันหน้าให้พอดี
ข้อนี้ไม่ว่าจะขับรถช่วงเวลาไหนๆ ก็ควรเว้นระยะห่างให้พอดี แต่ถ้าเป็นช่วงกลางคืน ยิ่งต้องทิ้งระยะให้ห่าง เพราะด้วยข้อจำกัดของแสงไฟหน้ารถ รวมถึงไฟเบรกของรถคันหน้าอาจไม่ทำงาน หากเกิดการเบรกกะทันหันอาจทำให้เราหยุดรถไม่ทันและชนท้ายรถคันหน้าได้ง่ายๆ ดังนั้นยิ่งขับรถเว้นระยะห่างจากคันหน้ามากเท่าไร ก็จะเพิ่มความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะช่วงที่ฝนตก ถนนลื่น ต้องใช้ความระมัดระวังมากกว่านี้
5. ระบบไฟภายในรถต้องใช้งานได้ปกติ
ระบบไฟต่างๆ ภายในรถ ถือเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งต่อการขับรถตอนกลางคืน ไม่ว่าจะเป็น ไฟหน้ารถ ไฟท้าย ไฟสูง ไฟตัดหมอก (ถ้ามี) ไฟเลี้ยว ไฟเบรก ไฟฉุกเฉิน และไฟส่องสว่างในห้องโดยสาร ซึ่งผู้ขับขี่ควรหมั่นตรวจสอบก่อนออกเดินทางทุกครั้งว่าระบบไฟทั้งหมดสามารถใช้งานได้ตามปกติ หากพบว่าไฟดวงใดดวงหนึ่งดับ ควรรีบเปลี่ยนทันทีเพื่อความปลอดภัย โดยเฉพาะ ไฟหน้ารถ ไฟท้าย ไฟเลี้ยว และไฟเบรก เพราะเป็นสิ่งที่จำเป็นต่อการขับรถ นอกจากนี้การพกไฟฉายไว้ในรถก็ถือว่าจำเป็น เผื่อในกรณีฉุกเฉินนั่นเอง
6. เตรียมสภาพร่างกายให้พร้อมขับรถ
นอกจากรถจะพร้อมแล้ว ผู้ขับขี่ก็ควรเตรียมสภาพร่างกายให้พร้อมขณะขับรถตอนกลางคืนเช่นกัน โดยควรพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อป้องกันการหลับใน แต่หากใครที่รู้สึกง่วง แนะนำให้จอดรถพักงีบก่อนสักครู่ เมื่อรู้สึกดีขึ้นแล้วจึงค่อยขับรถต่อ หรือหาอะไรรับประทานให้ร่างกายรู้สึกสดชื่น ตื่นตัว นอกจากนี้ควรหลีกเลี่ยงการทานยาที่มีฤทธิ์ทำให้ง่วงนอน และที่สำคัญก็คือเมาไม่ขับนะจ๊ะ
เมื่อได้ทราบเทคนิคการขับรถตอนกลางคืนให้ปลอดภัยกันไปแล้ว ก็อย่าลืมนำไปทำตามกันด้วยนะ แต่ที่สำคัญเลยไม่ว่าจะเวลากลางวันหรือกลางคืนก็ควรขับขี่อย่างปลอดภัย ไม่ประมาท และถ้าจะให้ดีมาสิแนะนำว่าควรทำประกันรถยนต์เพิ่มเติม เพื่อความอุ่นใจ โดยสามารถ คลิกที่นี่ เพื่อเปรียบเทียบประกันรถยนต์กับเว็บไซต์มาสิได้ง่ายๆ
สนใจสมัครประกันรถยนต์
หรือหากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมสามารถโทร.มาสอบถามทีมงานได้ที่ 02 710 3100 หรือแอดไลน์มาเป็นเพื่อนกับเราได้ที่ @masii (มี @ ด้วยนะ) เพื่อติดตามข่าวสารและบทความดีๆ เกี่ยวกับ ประกันรถยนต์ ประกันมอเตอร์ไซค์ ประกันภัยโดรน ประกันเดินทาง ประกันสุขภาพ รวมไปถึง สินเชื่อส่วนบุคคล และบัตรเครดิตจากสถาบันการเงินชั้นนำได้เลยค่ะ