สำหรับใครที่ยังไม่เคยทำใบขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ และต้องการไปสอบใบขับขี่มอเตอร์ไซค์ แต่ยังไม่รู้ว่าการสอบใบขับขี่มอเตอร์ไซค์นั้นมีขั้นตอนอย่างไรบ้าง มีข้อสอบทฤษฎีอย่างไร ข้อสอบปฏิบัติอย่างไร และจะยากง่ายขนาดไหน เราตาม masii ไปหาคำตอบกันเลยค่ะ
สอบใบขับขี่มอเตอร์ไซค์ยากมั้ย ต้องทำอะไรบ้าง
ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่า ใบขับขี่รถจักรยานยนต์ หรือ ใบขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ นั้นถือว่ามีความสำคัญมาก เพราะเป็นใบอนุญาตให้ผู้ถือสามารถขับขี่รถจักรยานยนต์บนท้องถนนได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งก่อนจะได้ใบขับขี่นั้น ก็ต้องผ่านการทดสอบและการอบรมต่างๆ โดยมีเอกสารที่ต้องเตรียมและขั้นตอนการสอบใบขับขี่มอเตอร์ไซค์ ดังนี้
เอกสารในการสอบใบขับขี่มอเตอร์ไซค์
- บัตรประจำตัวประชาชน (ฉบับจริง)
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน
- ใบรับรองแพทย์ ที่มีอายุไม่เกิน 1 เดือนจนถึงวันสมัคร
- ใบรับรองการอบรม (กรณีได้รับการอบรมนอกกรมขนส่ง)
1. จองคิวเพื่อรับการอบรม
เนื่องจากมีคนต้องการทำใบขับขี่เป็นจำนวนมากในแต่ละวัน หากไม่อยากไปเสียเที่ยวแนะนำว่าควรทำการจองคิวอบรมเพื่อสอบใบขับขี่ล่วงหน้าก่อน ผ่านทาง 3 ช่องทาง ดังนี้
- จองคิวล่วงหน้าด้วยตนเองที่กรมการขนส่งทางในเขตพื้นที่ใกล้บ้าน พร้อมเอกสารประกอบคำขอ ได้แก่ บัตรประจำตัวประชาชนตัวจริงพร้อมสำเนา และใบรับรองแพทย์ (ไม่เกิน 1 เดือน)
- จองทางโทรศัพท์ 02-271-8888 ต่อ 4201-4 หรือ 1584 (กรมการขนส่งทางบก จตุจักร)
- จองคิวอบรมผ่านแอปพลิเคชั่น DLT Smart Queue
2. ทดสอบสมรรถภาพร่างกาย
หลังจากที่จองคิวอบรมทำใบขับขี่และทราบวันเวลาในการสอบใบขับขี่แล้ว เมื่อมาถึงวันอบรม จะต้องเข้ารับการตรวจสมรรถภาพร่างกาย ซึ่งเป็นการทดสอบปฏิกิริยา และการทดสอบสายตา ดังนี้
- ทดสอบตาบอดสี
- ทดสอบสายตาทางกว้าง
- ทดสอบสายตาทางลึก
- ทดสอบการตอบสนองของเท้า (การเหยียบเบรก)
3. เข้ารับการอบรม
ผู้ทดสอบจะต้องเข้ารับการอบรม โดยใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง ซึ่งเนื้อหาการอบรมจะเกี่ยวกับความรู้ด้านกฎหมายการจราจรทางบก เทคนิคการขับรถอย่างปลอดภัย มารยาทในการขับรถ ความรับผิดชอบของผู้ขับรถ เป็นต้น
4. สอบข้อเขียน
จากนั้นผู้เข้าอบรมจะต้องทำการสอบข้อเขียน เป็นข้อสอบปรนัย ทั้งหมด 50 ข้อ มีให้เลือกตอบ ก–ง ผู้สอบจะต้องทำคะแนนให้ได้ 45 คะแนน หรือคิดเป็น 90% ของข้อสอบทั้งหมด แต่หากสอบไม่ผ่านเกณฑ์ สามารถมาสอบใหม่ได้ภายใน 90 วัน ซึ่งข้อสอบจะมีเนื้อหาเกี่ยวกับกฎจราจรและป้ายจราจรต่างๆ โดยจะเน้นเชิงวิเคราะห์ การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าและเหตุการณ์ฉุกเฉินในการขับขี่
5. สอบภาคปฏิบัติ
ในการสอบภาคปฏิบัติ หรือการสอบขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ ผู้ทดสอบสามารถใช้รถของตัวเองหรือเช่ารถมอเตอร์ไซค์ของกรมขนส่งก็ได้ ค่าเช่าคันละ 50 บาท โดยจะมีการทดสอบทั้งหมด 5 ท่า ดังนี้
- ท่าที่ 1 ขับขี่มอเตอร์ไซค์ตามเครื่องหมายจราจร
- ท่าที่ 2 ขับขี่มอเตอร์ไซค์ทรงตัวบนทางแคบ ทรงตัวไว้โดยไม่ให้เท้าแตะพื้นประมาณ 10 วินาที
- ท่าที่ 3 ขับขี่มอเตอร์ไซค์ผ่านโค้งแคบ รูปตัว Z หรือโค้งหักศอก
- ท่าที่ 4 ขับขี่มอเตอร์ไซค์ผ่านโค้ง รูปตัว S
- ท่าที่ 5 ขับขี่มอเตอร์ไซค์ผ่านสิ่งกีดขวาง เป็นรูปซิกแซก
6. ชำระค่าธรรมเนียมและถ่ายรูปทำใบขับขี่
หลักจากที่ผ่านการทดสอบทั้งข้อเขียนและภาคปฏิบัติแล้ว ก็ถึงขั้นตอนการถ่ายรูปทำใบขับขี่และชำระค่าธรรมเนียม ซึ่งมี ค่าคำขอ 5 บาท ค่าใบอนุญาตขับรถยนต์ส่วนบุคคลชั่วคราว 100 บาท เป็นทั้งสิ้น 105 บาท
สำหรับใบขับขี่มอเตอร์ไซค์ที่ได้ จะเป็นใบขับขี่ชั่วคราว ซึ่งมีอายุเพียง 1 ปี หลังจากครบกำหนด ก็ต้องมาต่อใบขับขี่มอเตอร์ไซค์ให้เป็นแบบ 5 ปี ซึ่งต้องทำการยื่นเอกสารต่อใบขับขี่ และทดสอบสมรรถภาพร่างกาย แต่ไม่ต้องสอบข้อเขียนและสอบภาคปฏิบัติ
และนี่ก็คือขั้นตอนการสอบใบขับขี่มอเตอร์ไซค์ที่มาสินำมาฝากกัน หากใครที่ยังไม่เคยทำใบขับขี่มอเตอร์ไซค์ และต้องการไปทำใบขับขี่ล่ะก็สามารถไปที่กรมขนส่งทางบก หรือสำนักงานขนส่งพื้นที่ใกล้บ้าน แต่อย่างไรแล้วก็ควรขับขี่มอเตอร์ไซค์กันอย่างปลอดภัย ไม่ประมาท หากอยากได้ความคุ้มครองเพิ่มเติม สามารถ คลิกที่นี่ เพื่อสมัครประกันมอเตอร์ไซค์กับมาสิได้ง่ายๆ
สนใจสมัครประกันรถมอเตรอ์ไซค์
หรือหากมีข้อสงสัยสามารถติดต่อสอบถามที่ได้ที่ 02 710 3100 หรือแอดไลน์มาเป็นเพื่อนกับเราที่ @masii (มี @ ด้วยนะ) เพื่อติดตามข่าวสารและบทความดีๆ เกี่ยวกับ ประกันมอเตอร์ไซค์ ประกันรถยนต์ ประกันภัยโดรน ประกันเดินทาง รวมไปถึง ประกันสุขภาพ ได้เลยค่ะ