เครื่องเสียงรถยนต์ ถือว่ากำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เพราะว่าเป็นสิ่งที่สร้างความบันเทิงให้กับเจ้าของรถได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะผู้ที่ชอบฟังเพลง และชอบเสียงดนตรีอันเร้าใจ ซึ่งอุปกรณ์เครื่องเสียงรถยนต์นั้นก็มีมากมาย ทั้งเครื่องเล่นหรือฟร้อนท์ ลำโพง และพาวเวอร์แอมป์ ซึ่งแต่ละตัวก็มีราคาสูงไม่ใช่น้อย เราจึงต้องหมั่นดูแลและบำรุงรักษาเครื่องเสียงรถยนต์ให้ใช้งานได้นานๆ วันนี้ masii เลยได้นำ วิธีดูแลเครื่องเสียงรถยนต์ มาฝากกัน ไปดูกันเลยว่ามีวิธีใดบ้าง
วิธีดูแลเครื่องเสียงรถยนต์ ให้ใช้งานได้นานๆ
การดูแลเครื่องเสียงรถยนต์ มีทั้งการดูแลอุปกรณ์เครื่องเสียง กับการดูแลรถยนต์ ซึ่งทั้งหมดล้วนเกี่ยวข้องกับการใช้งานของเครื่องเสียงรถยนต์ทั้งนั้น เริ่มที่การดูแลรถยนต์กันก่อนเลย
การดูแลรักษาตัวรถยนต์
1.จอดรถในที่ร่ม หรือใช้ม่านบังแดด
หากอยากปกป้องเครื่องเสียงรถยนต์ให้ใช้งานได้นานๆ โดยเฉพาะ ลำโพงรถยนต์ แนะนำว่าควรจอดรถในที่ร่มจะดีที่สุด แต่ถ้าจำเป็นต้องจอดกลางแจ้งจริงๆ ก็ควรมีม่านบังแดดติดหน้ากระจกไว้ทุกด้านที่แสงแดดส่องถึง หรือบังในส่วนที่เป็นลำโพงรถยนต์ก็ได้ เพราะหากปล่อยให้ลำโพงโดนแดดส่องนานๆ อาจทำให้ลำโพงเสื่อมสภาพเร็ว ขอบลำโพงเปื่อย วอยซ์คอยล์ละลาย หรือกรวยลำโพงซีดเร็ว ซึ่งมีผลให้เสียงที่ออกจากลำโพงมีความผิดเพี้ยน เสียงไม่ดีเท่าที่ควร
2. ปิดเครื่องเสียงก่อนสตาร์ทและก่อนดับเครื่องยนต์
ก่อนสตาร์ทรถควรเช็กทุกครั้งว่าได้ปิดวิทยุและเครื่องเสียงลงเรียบร้อยแล้ว เพราะถ้าเปิดวิทยุหรือเครื่องเสียงค้างไว้ เวลาสตาร์ทรถอาจเกิดไฟกระชากอย่างรุนแรง ทำให้เกิดการช็อต หรืออุปกรณ์เครื่องเสียงรถยนต์เสียหายได้ เช่น กราวด์ในเครื่องเล่นหรือฟร้อนท์ขาด ทำให้เกิดเสียงวี้ดๆ เวลาเร่งเครื่อง หรือหน้าจอฟร้อนท์ไม่ติด และก่อนที่จะดับเครื่องยนต์ก็ควรปิดวิทยุหรือปิดเครื่องเสียงรถยนต์เสียก่อนเพื่อตัดระบบเสียงทั้งหมด และเป็นการปิดอุปกรณ์เครื่องเสียงทั้งหมดด้วย
3. เช็กแบตเตอรี่รถยนต์อยู่เสมอ
ผู้ใช้รถควรหมั่นตรวจสอบเช็คสภาพไฟ และแบตเตอรี่รถยนต์อย่างสม่ำเสมอ ถ้าน้ำกลั่นต่ำกว่าระดับ หรือแบตเตอรี่ครบอายุการใช้งานควรที่จะเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ หรือในกรณีที่แบตเตอรี่ไม่ใช้น้ำกลั่น ก็ให้ตรวจดูตาแมวแบตเตอรี่ ว่ามีสัญลักษณ์เป็นอย่างไร แบตเตอรี่พร้อมใช้งานหรือไม่ โดยควรเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์ทุกๆ 3 ปี ถ้าใช้เกินกว่านี้แบตจะเสื่อมสภาพ และส่งผลมายังเครื่องเสียงรถยนต์ให้ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ อาจเกิดเสียงผิดเพี้ยนได้
4. ล้างรถให้สะอาด
นอกจากจะล้างรถให้สะอาดทั้งภายในและภายนอกแล้ว บริเวณห้องเครื่องก็เป็นส่วนที่ควรดูแลรักษาความสะอาดเช่นกัน เพราะอาจมีพวกหนูเข้ามากัดสายไฟได้ ส่วนการทำความสะอาดภายในให้ใช้น้ำธรรมดา ห้ามใช้น้ำยาที่เหนียว หรือมันวาวเช็ดที่หน้ากรวย หรือดอกลำโพงเด็ดขาด เพราะจะทำให้ลำโพงเสื่อมสภาพเร็ว และหมั่นดูดฝุ่นเป็นประจำ ป้องกันฝุ่นเข้าไปในเครื่องเสียง ไม่ว่าจะเป็น หน้าจอวิทยุ พาวเวอร์แอมป์ และโปรเซสเซอร์ เพราะฝุ่นพวกนี้อาจสร้างความเสียหายแก่อุปกรณ์เครื่องเสียงรถยนต์ได้
การดูแลรักษาอุปกรณ์เครื่องเสียงรถยนต์
1. ฟิวส์เครื่องเสียงรถยนต์ควรใส่ในอุปกรณ์กันน้ำ
ฟิวส์และกระบอกฟิวส์ที่ติดตั้งในห้องเครื่องรถยนต์ ควรใส่ไว้ในกล่องหรืออุปกรณ์ที่กันน้ำได้ เพราะหากน้ำเข้าไปในกระบอกฟิวส์อาจเกิดความเสียหายขึ้นได้ ส่วนกล่องฟิวส์ที่ติดตั้งก็ควรมีอุปกรณ์ป้องกันเช่นกัน ป้องกันฝุ่นหรือเศษชิ้นส่วนอื่นๆ ตกลงไปสร้างความเสียหายได้
2. ตรวจแบตเตอรี่เสริมสำหรับเครื่องเสียงรถยนต์
สำหรับรถยนต์คันไหนที่ติดตั้งแบตเตอรี่เสริมสำหรับเครื่องเสียงรถยนต์ด้วยละก็ ควรตรวจดูแบตเตอรี่ให้อยู่ในสภาพดีเสมอ และหมั่นตรวจดูน้ำกลั่นอย่าให้ต่ำกว่าระดับมาตรฐาน
3. ทำความสะอาดฟร้อนท์อยู่เสมอ
ควรเช็ดฝุ่นทำความสะอาดบริเวณฟร้อนท์หรือเครื่องเล่นวิทยุอยู่เสมอ หากเป็นฟร้อนท์ที่ถอดหน้าจอได้ ควรถอดหน้าจอเก็บไว้ในซองหรือห่อแรพ หากจะจอดรถไว้นานๆ หรือหากฟร้อนท์ติดๆ ดับๆ แนะนำว่าควรถอดหน้าจอออกมาเพื่อทำความสะอาด เช็ดสิ่งสกปรกที่ติดอยู่ เพื่อให้กลับมาใช้งานได้ดังเดิม
4. อย่าให้ลำโพงโดนแดดนานๆ
หากจอดรถ พยายามอย่าให้ลำโพงโดนแสงแดด โดยควรหาม่านบังแดดไม่ให้โดนลำโพง และควรใส่กริลป้องกันเด็กไปโดนลำโพง หรือถ้าถอดลำโพงออกมาควรห่อหุ้มด้วยพลาสติกอีกชั้นป้องกันฝุ่นตกลงไปในช่องของวอยซ์คอยซ์
5. ติดตั้งพาวเวอร์แอมป์และครอสโอเวอร์ไว้ในที่อากาศถ่ายเท
ควรติดตั้ง พาวเวอร์แอมป์ และโปรเซสเซอร์ หรือครอสโอเวอร์ไว้ในที่อากาศถ่ายเท เพื่อให้พาวเวอร์แอมป์ระบายความร้อนได้ดี แต่หากต้องติดตั้งในที่ปิดทึบ ควรเจาะช่องใส่พัดลมเพื่อระบายอากาศ หรือหากจำเป็นต้องติดตั้งพาวเวอร์แอมป์ไว้ใต้เบาะ ควรมีฐานวาง ไม่ควรวางพาวเวอร์แอมป์บนพื้นรถโดยตรง เพราะหากขับรถลุยน้ำ อาจทำให้น้ำซึมเข้าพาวเวอร์แอมป์ได้ หากถอดพาวเวอร์แอมป์ ก็ควรหุ้มพลาสติกป้องกันฝุ่นไว้ด้วยเช่นกัน จากนั้นควรเก็บไว้ในกล่องอุปกรณ์ให้เรียบร้อย
และนี่ก็คือ วิธีดูแลเครื่องเสียงรถยนต์ ให้ใช้งานได้นานๆ ที่มาสินำมาฝากกัน และเมื่อดูแลเครื่องเสียงกันไปแล้ว ก็อย่าลืมดูแลรถยนต์ด้วย ที่สำคัญควรขับขี่อย่างปลอดภัย ไม่ประมาท และถ้าจะให้ดีมาสิแนะนำว่าควรทำประกันรถยนต์ไว้ด้วยเพื่อความอุ่นใจ โดยสามารถ คลิกที่นี่ เพื่อเปรียบเทียบประกันรถยนต์กับมาสิได้ง่ายๆ
สนใจสมัครประกันรถยนต์
หรือหากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถโทร.มาสอบถามทีมงานมาสิได้ที่ 02 710 3100 หรือแอดไลน์มาเป็นเพื่อนกับเราที่ @masii (มี @ ด้วยนะ) เพื่อติดตามข่าวสารหรือบทความดีๆ เกี่ยวกับ ประกันรถยนต์ ประกันมอเตอร์ไซค์ ประกันภัยโดรน ประกันเดินทาง ประกันสุขภาพ รวมไปถึง สินเชื่อส่วนบุคคล และบัตรเครดิต จากสถาบันการเงินชั้นนำได้เลยค่ะ