หากพูดถึง รถยนต์ ในปัจจุบัน ต้องบอกเลยว่ามีวิวัฒนาการและเทคโนโลยีต่างๆ ที่ทำให้รถยนต์มีความก้าวหน้าและมีความสะดวกสบายมากขึ้น ยิ่งทุกวันนี้คนเราหันมาใส่ใจการอนุรักษ์พลังงานและการรักษาสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ทำให้ผู้ผลิตรถยนต์เริ่มพัฒนาเครื่องยนต์ที่ปล่อยไอเสียน้อยลง ไปจนถึง การผลิตรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า ซึ่งได้มีการพัฒนาระบบต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง ส่วนรถยนต์ไฟฟ้าจะมีระบบใดบ้างนั้น เราตาม masii ไปหาคำตอบกันเลยค่ะ
รถยนต์ไฟฟ้า คืออะไร มีระบบแบบใดบ้าง
รถยนต์ไฟฟ้า คือ รถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า โดยใช้พลังงานไฟฟ้าที่เก็บอยู่ในแบตเตอรี่หรืออุปกรณ์เก็บพลังงานไฟฟ้าแบบอื่นๆ ซึ่งข้อดีของมอเตอร์ไฟฟ้าทำให้เกิดแรงบิดได้ทันที ส่งผลให้รถยนต์พลังงานไฟฟ้ามีอัตราเร่งที่เรียบและรวดเร็ว ซึ่งปัจจุบันรถยนต์ไฟฟ้าได้แบ่งเป็นประเภทต่างๆ ตามระบบการใช้งาน ดังนี้
รถยนต์ไฟฟ้าไฮบริด (HEV)
รถยนต์ไฟฟ้าระบบไฮบริด หรือ Hybrid Electric Vehicle (HEV) มีรูปแบบการทำงานที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงผสมกับพลังงานไฟฟ้า โดยยังคงใช้เครื่องยนต์หลักดั้งเดิมในการขับเคลื่อน แต่จะมีมอเตอร์และแบตเตอรี่ที่จะช่วยให้รถยนต์สามารถวิ่งได้ด้วยการใช้ไฟฟ้าประมาณ 2-3 กิโลเมตร โดยเครื่องยนต์หลักที่ใช้จะทำงานผสมผสานกับระบบมอเตอร์ไฟฟ้าในการขับเคลื่อน ซึ่งระบบจะเลือกทำงานเองโดยอัตโนมัติ โดยมอเตอร์จะช่วยออกตัวด้วยระบบไฟฟ้า ก่อนที่เครื่องยนต์จะทำงานต่อ ทั้งนี้หากเมื่อรถติด หรือรถหยุดนิ่ง ถ้ารถมีแบตเตอรี่มากพอ เครื่องยนต์จะดับ แล้วดึงไฟจากแบตเตอรี่มาใช้ในอุปกรณ์ต่างๆ เช่น ไฟหน้ารถ แอร์รถยนต์ เครื่องเสียง เป็นต้น
รถยนต์ไฟฟ้าปลั๊ก-อิน ไฮบริด (PHEV)
มาต่อกันที่รถยนต์พลังงานไฟฟ้าระบบ ปลั๊ก-อิน ไฮบริด หรือ Plug-in Hybrid (PHEV) ซึ่งเป็นรถยนต์ประเภทหนึ่งของไฮบริด ที่ผสานเครื่องยนต์เบนซินหรือดีเซลกับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่ชาร์จไฟได้ โดยการเสียบปลั๊กไฟฟ้าที่อยู่ในบ้านหรือที่สถานีชาร์จไฟ ใช้เวลาชาร์จประมาณ 4-6 ชั่วโมงจนแบตเตอรี่เต็ม ซึ่งช่วยให้รถยนต์สามารถวิ่งได้โดยใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่อย่างเดียว ประมาณ 20-50 กิโลเมตร โดยไม่ต้องใช้น้ำมันเลย แต่ทั้งนี้ก็สามารถกลับมาใช้ระบบไฮบริดที่ใช้ทั้งน้ำมันและไฟฟ้าได้เช่นกัน
รถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV)
สำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% หรือ Electric Vehicle (EV) จะใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่เพียงอย่างเดียว ไม่มีเครื่องยนต์ระบบสันดาปภายในไว้ใช้งาน จึงไม่มีการปล่อยไอเสียและไม่สร้างมลพิษ ซึ่งสามารถชาร์จไฟได้สม่ำเสมอเมื่อแบตเตอรี่หมด ผ่านทางที่ชาร์จภายในบ้านหรือสถานีชาร์จไฟ โดยใช้เวลาประมาณ 6-8 ชั่วโมงในการชาร์จปกติ หรือ 2-4 ชั่วโมงในการชาร์จผ่านแทนชาร์จเร็ว ทั้งนี้รถยนต์ไฟฟ้าจะมีองค์ประกอบหลักๆ ได้แก่ แบตเตอรี่ มอเตอร์ขนาดใหญ่ และอุปกรณ์แปลงกระแสไฟฟ้า โอดยตัวแปลงจะดึงพลังงานจากแบตเตอรี่ไปเป็นพลังงานไฟฟ้ากระแสสลับและส่งต่อไปยังมอเตอร์เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อน สามารถทำให้รถวิ่งได้อย่างน้อย 300 กิโลเมตรขึ้นไป
อี–พาวเวอร์ (E-Power)
เทคโนโลยี อี-พาวเวอร์ เป็นเทคโนโลยีที่ถูกคิดค้นและพัฒนาขึ้นโดยค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่อย่างนิสสัน ซึ่งมีการผสมผสานการทำงานระหว่างมอเตอร์ไฟฟ้า และระบบเครื่องกำเนิดไฟฟ้า โดยหลักการง่ายๆ ของระบบอี-พาวเวอร์ ค่อนข้างคล้ายกับระบบไฮบริด คือประกอบด้วย เครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า ต่างกันที่ อี-พาวเวอร์ จะขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า โดยมีเครื่องยนต์ขนาดเล็กทำหน้าที่ปั่นกระแสไฟฟ้าเก็บไว้ที่แบตเตอรี่และส่งพลังงานไปยังมอเตอร์ไฟฟ้า ขณะที่ไฮบริดขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์โดยมีมอเตอร์ไฟฟ้าค่อยสนับสนุน อีกทั้งยังต่างกับรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ตรงที่ไม่ต้องเสียบปลั๊กชาร์จไฟ เพียงแค่เติมน้ำมันก็สามารถใช้งานได้เหมือนรถยนต์ทั่วไปแล้ว
รถพลังงานไฮโดนเจน (Fuel Cell)
ปิดท้ายกันที่รถยนต์ที่ใช้พลังงานไฮโดรเจน หรือรถยนต์ Fuel Cell ซึ่งถือเป็นรถยนต์ไฟฟ้าประเภทหนึ่งเช่นกัน เพราะมีการใช้ไฮโดรเจนที่เป็นพลังงานสะอาด มาแปลงเป็นกระแสไฟฟ้าแล้วนำไปขับเคลื่อนมอเตอร์ไฟฟ้าให้รถยนต์สามารถวิ่งได้ โดยในโครงสร้างจะมีแผงเซลล์เชื้อเพลิงที่เก็บไฮโดรเจนในรูปแบบของเหลว มอเตอร์ไฟฟ้าที่ทำหน้าที่ขับเคลื่อนและชาร์จกระแสไฟฟ้า และแบตเตอรี่ ซึ่งหลักการทำงานของรถยนต์ระบบนี้ จะมีการส่งไฮโดรเจนและอากาศที่มีออกซิเจนเข้าไปสู่แผงเซลล์เชื้อเพลิงเพื่อทำปฏิกิริยาการสร้างกระแสไฟฟ้าเข้ามาเก็บในแบตเตอรี่ จากนั้นกระแสไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ก็จะถูกส่งไปที่มอเตอร์ไฟฟ้าเพื่อใช้ในการขับเคลื่อนรถยนต์ต่อไป
เป็นอย่างไรบ้างกับความรู้ดีๆ เกี่ยวกับ รถยนต์ไฟฟ้า ที่มาสินำมาฝากกันในวันนี้ แม้ว่ารถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยจะยังมีราคาค่อนข้างสูง แต่ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า รถยนต์ที่ใช้น้ำมันหรือใช้แก๊สเป็นเชื้อเพลิง ผู้ขับขี่ก็ควรขับขี่อย่างปลอดภัย ไม่ประมาท เพราะอาจเกิดอุบัติเหตุได้ทุกเมื่อ ถ้าจะให้ดีมาสิแนะนำว่าควรทำประกันรถยนต์ไว้ด้วยเพื่อความอุ่นใจ โดยสามารถ คลิกที่นี่ เพื่อเปรียบเทียบประกันรถยนต์กับเว็บไซต์มาสิได้ง่ายๆ เลยค่ะ
สนใจสมัครประกันรถยนต์
หากใครมีข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถโทร.มาสอบถามรายละเอียดกับทีมงานมาสิได้ที่ 02 710 3100 หรือแอดไลน์มาเป็นเพื่อนกับเราที่ @masii (มี @ ด้วยนะ) เพื่อติดตามข่าวสารและบทความดีๆ เกี่ยวกับ ประกันรถยนต์ ประกันมอเตอร์ไซค์ ประกันภัยโดรน ประกันเดินทาง ประกันสุขภาพ รวมไปถึง สินเชื่อส่วนบุคคล และบัตรเครดิต จากสถาบันการเงินชั้นนำได้เลยค่ะ