ในช่วงที่เชื้อไวรัสโควิด-19 กำลังระบาดอยู่ในขณะนี้ การทำความสะอาดและการดูแลสุขอนามัยจึงถือว่าเป็นเรื่องที่จำเป็น ไม่ว่าจะเป็นการทำความสะอาดในบ้าน หรือการทำความสะอาดรถยนต์ ยิ่งในช่วงนี้มีศูนย์บริการรถยนต์และคาร์แคร์หลายแห่งที่ให้บริการพ่นฆ่าเชื้อโควิด-19 และอบโอโซนในรถยนต์เพื่อช่วยกำจัดเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย แต่เพื่อนๆ รู้ไหมว่า การทำความสะอาดภายในรถยนต์ทั้ง 2 วิธีนี้มีความแตกต่างกันอย่างไร แบบไหนจะดีกว่ากันบ้าง เราไปหาคำตอบพร้อมกับ masii กันเลยค่ะ
ฆ่าเชื้อโควิด-19 ในรถ พ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ หรือ อบโอโซน แบบไหนดีกว่า
ในช่วงที่โควิด-19 ระบาด ทั้งศูนย์รถยนต์และคาร์แคร์แต่ละที่ต่างก็มีบริการทำความสะอาดฆ่าเชื้อโควิด-19 ภายในรถยนต์ ซึ่งมีทั้งแบบพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ และอบโอโซน โดยมีวิธีการและข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกัน ดังนี้
การพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโควิด-19
การพ่นฆ่าเชื้อ จะใช้วิธีการพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคที่มีประสิทธิภาพสูงด้วยเครื่องพ่นละอองฝอย ซึ่งน้ำยาฆ่าเชื้อของแต่ละที่ก็จะมีสูตรที่แตกต่างกันไป เช่น สารกลูตารัลดีไฮด์ (glutaraldehyde) และสารอื่นๆ ตามสูตรของแต่ละที่ ซึ่งควรเป็นสารที่ได้รับรองคุณภาพจากอย. หรือกระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้มั่นใจว่าน้ำยาฆ่าเชื้อเหล่านั้นเหมาะสำหรับการใช้ฉีดพ่นฆ่าเชื้อโควิด-19 ในรถยนต์ได้อย่างปลอดภัย
คุณสมบัติในการฆ่าเชื้อโรค
เมื่อน้ำยาฆ่าเชื้อโรคสัมผัสกับเชื้อโรคหรือเชื้อไวรัส ตัวสารเคมีในน้ำยาจะเข้าไปละลายไขมันในผนังเซลล์ หรือทำให้โปรตีนและกรดนิวคลิอิกของไวรัสเสียสภาพและถูกทำลายไปในที่สุด
วิธีการพ่นฆ่าเชื้อ
การพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรคจะใช้การพ่นลงบนอุปกรณ์ต่างๆ ภายในรถ เช่น เบาะ คอนโชล พวงมาลัย เกียร์ หน้าต่าง ที่จับประตู ช่องปรับอากาศ และอื่นๆ โดยใช้น้ำยาที่มีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อโรค ซึ่งระหว่างที่ฉีดพ่นฆ่าเชื้อควรสตาร์ทรถ และเปิดระบบหมุนเวียนอากาศภายใน
ข้อดีของการพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโควิด-19 ในรถยนต์
- สามารถฆ่าเชื้อโรคได้ตรงจุด
- สามารถเข้าถึงพื้นที่ที่ต้องการฆ่าเชื้อโรคได้ละเอียดกว่า
- น้ำยาฆ่าเชื้อสามารถคงประสิทธิภาพอยู่ได้ประมาณ 1 เดือนบนพื้นที่ที่ถูกปกคลุมด้วยละอองน้ำยาฆ่าเชื้อ
ข้อเสียของการพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ โควิด-19 ในรถยนต์
- อาจมีสารเคมีตกค้างมากน้อยขึ้นอยู่กับสารที่ใช้ฉีดพ่นฆ่าเชื้อ
- มีราคาค่อนข้างสูง
การอบโอโซนฆ่าเชื้อโควิด-19
โอโซน หรือ ก๊าซโอโซน (O3) คือ ก๊าซที่ประกอบไปด้วยออกซิเจน 3 อะตอม ซึ่งเกิดจากโมเลกุลออกซิเจนได้รับพลังงานจากแหล่งพลังงาน เช่น ฟ้าผ่า แสง UV โคโรน่าดิสชาร์จ จึงเกิดการแตกตัวและรวมเป็น 3 อะตอม โดยโอโซนจะทำการแยกย่อยสลายของโมเลกุลในสารปนเปื้อนต่างๆ เช่น แบคทีเรียและเชื้อไวรัส ทั้งยังสามารถกลับไปเป็นก๊าซออกซิเจนได้โดยไม่เป็นอันตรายใดๆ ต่อชีวิต
คุณสมบัติในการฆ่าเชื้อโรค
เมื่อก๊าซโอโซนจับตัวกับเชื้อโรค จะเกิดการแตกตัวเป็นออกซิเจน (O + O2) ซึ่งออกซิเจนอะตอมนี้เองที่จะเข้าไปทำลายผนังเซลล์ ทำให้เชื้อโรค เชื้อไวรัสและแบคทีเรียสลายไป อีกทั้งยังมีประสิทธิภาพในการทำลายโมเลกุลโครงสร้างของกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่างๆ ช่วยกำจัดกลิ่นเหม็น กลิ่นอับได้เป็นอย่างดี
วิธีอบโอโซน
ก่อนทำการอบโอโซนในรถยนต์ จะต้องเช็ดถูทำความสะอาดภายในรถก่อน หลังจากนั้นจึงนำเครื่องอบโอโซนเข้ามาและทำการปล่อยโอโซนอบไว้ภายในรถเพื่อฆ่าเชื้อ พร้อมกับปิดประตูและหน้าต่างทั้งหมด โดยใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมงในการอบโอโซน และปล่อยทิ้งไว้อีก 1 ชั่วโมงเพื่อปล่อยให้โอโซนสลายตัว จึงสามารถกลับมาใช้งานรถยนต์ได้ปกติ
ข้อดีของการอบโอโซนในรถยนต์
- ไม่มีสารตกค้าง จึงไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายในระยะยาว
- สามารถทำได้บ่อยเท่าที่ต้องการ
- ราคาย่อมเยา
ข้อเสียของการอบโอโซนในรถยนต์
- ก๊าซโอโซนสามารถกลายสภาพเป็นพิษได้เมื่อมีความเข้มข้นมากกว่า 50 ไมโครกรัมต่อลิตรในอากาศ ดังนั้นหลังจากอบโอโซนในรถเสร็จ จึงจำเป็นต้องปล่อยทิ้งไว้อย่างน้อย 1 ชั่วโมง เพื่อให้โอโซนภายในรถยนต์สลายตัวกลายเป็นออกซิเจนนั่นเอง
เมื่อได้ทราบกันไปแล้วว่า ฆ่าเชื้อโควิด-19 ในรถยนต์ ด้วยการพ่นน้ำฆ่าเชื้อ กับ อบโอโซน แตกต่างและมีข้อดีข้อเสียอย่างไรบ้าง ก็คงช่วยให้ใครหลายคนตัดสินใจกันได้แล้วใช่ไหมล่ะ แต่อย่างไรก็ตามควรเลือกศูนย์บริการหรือร้านที่น่าเชื่อถือ ใช้ของที่มีประสิทธิภาพ และมีราคาที่เหมาะสม ที่สำคัญอย่าลืมขับขี่กันอย่างปลอดภัย โดยสามารถ คลิกที่นี่ เพื่อเลือกเปรียบเทียบหรือสมัครประกันรถยนต์กับมาสิได้
สนใจสมัครประกันรถยนต์
หรือหากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถโทร.มาสอบถามทีมงานได้ที่ 02 710 3100 หรือแอดไลน์มาเป็นเพื่อนกับเราที่ @masii (มี @ ด้วยนะ) เพื่อติดตามข่าวสารและบทความดีๆ เกี่ยวกับ ประกันรถยนต์ ประกันมอเตอร์ไซค์ ประกันภัยโดรน ประกันเดินทาง ประกันสุขภาพ ประกันไวรัสโคโรนา รวมไปถึง สินเชื่อส่วนบุคคล และบัตรเครดิตจากสถาบันการเงินชั้นนำเลยค่ะ