น้ำท่วมรถ ทำไงดี เคลมประกันได้ไหม ? แน่นอนว่าคำถามนี้ คงอยู่ในใจใครหลายคน ยิ่งโดยเฉพาะในช่วงหน้าฝนแบบนี้ด้วยแล้ว วันดีคืนดีอาจเกิดฝนตกหนัก จนน้ำท่วมรถ และสร้างความเสียหายให้แก่รถยนต์ของเราได้ ถ้าหากเกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้นมาจริงๆ จะทำยังไงดี แล้วจะยังสามารถเคลมประกันรถยนต์ที่ทำไว้ได้หรือไม่ เราไปหาคำตอบพร้อมกับ masii กันเลยค่ะ
น้ำท่วมรถ ทำไงดี เคลมประกันได้ไหม ?
ในช่วงหน้าฝนนี้ นอกจากจะต้องเสี่ยงกับการเจอฝน เจอพายุแล้ว บางครั้งที่ฝนตกหนักๆ ก็อาจทำให้เกิดน้ำท่วมขังบนท้องถนน หรือท่วมบ้านเรือนที่อยู่อาศัย ซึ่งน้ำท่วมถือเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากธรรมชาติ ซึ่งจัดให้อยู่ในความคุ้มครองประเภทภัยธรรมชาติ โดยประเภทประกันภัยที่ครอบคลุมภัยธรรมชาตินั้น มีดังนี้
ประกันรถยนต์ที่คุ้มครองน้ำท่วม
- ประกันรถยนต์ชั้น 1
- ประกันรถยนต์ชั้น 2+ (บางกรมธรรม์)
- ประกันรถยนต์ชั้น 3+ (บางกรมธรรม์)
น้ำท่วมรถแบบไหน ถึงเคลมประกันได้
1. น้ำท่วมรถขณะจอดรถอยู่ที่บ้าน หรือลานจอดรถ
ในกรณีที่จอดรถอยู่ที่บ้านหรือที่ลานจอดรถ แล้วมีพายุฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน ทำให้เกิดน้ำท่วม หรือน้ำป่าไหลหลาก ไม่สามารถย้ายรถได้ทัน ทำให้น้ำท่วมรถ หรือเข้ารถบางส่วน
2. น้ำท่วมขณะเดินทางบนท้องถนน
หากขณะขับรถอยู่บนท้องถนน หรือรถติดแล้วเกิดฝนตกหนักนานหลายชั่วโมง จนน้ำท่วมขังและทำให้รถยนต์เกิดความเสียหาย ก็สามารถแจ้งเคลมประกันได้
3. ตั้งใจขับผ่านเส้นทางน้ำท่วม ประกันไม่รับเคลม
ในกรณีที่ผู้ขับขี่ทราบว่าถนนหรือเส้นทางด้านหน้ามีน้ำท่วม แต่ก็ยังขับรถลุยน้ำท่วมไป จนทำให้รถเกิดความเสียหาย เช่น น้ำเข้าห้องเครื่อง เครื่องยนต์ดับ หรือน้ำท่วมเข้ามาในห้องโดยสารจนทำให้เบาะรถหรืออุปกรณ์อื่นๆ เสียหาย จะไม่สามารถเคลมประกันได้ เนื่องจากมีเจตนาลุยน้ำท่วม และเกิดจากความประมาทของผู้ขับขี่เอง
4. น้ำท่วมรถนอกอาณาเขต ประกันไม่คุ้มครอง
ในกรณีที่ต้องขับรถไปต่างประเทศ เช่น ประเทศเพื่อนบ้าน แล้วเกิดเหตุการณ์น้ำท่วม ก็ไม่สามารถเคลมประกันรถยนต์ได้ เพราะว่ารถยนต์ประสบเหตุนอกประเทศไทยซึ่งเป็นอาณาเขตที่ให้ความคุ้มครองนั่นเอง
เกณฑ์การพิจารณาค่าสินไหมทดแทน
สำหรับการชดใช้ค่าเสียหายจากบริษัทประกันในกรณีน้ำท่วมรถนั้น ก็มีการแบ่งตามความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถยนต์คันเอาประกัน เป็น 2 กรณี ดังนี้
1. กรณีเสียหายโดยสิ้นเชิง (Total loss)
สำหรับกรณีเสียหายโดยสิ้นเชิง หมายถึง รถยนต์เสียหายจนไม่สามารถซ่อมให้กลับไปในสภาพเดิมได้ เช่น น้ำท่วมมิดคัน หรือ น้ำท่วมเกินคอนโซลหน้า จนเกิดความเสียหายทั่วทั้งห้องโดยสาร และไม่สามารถซ่อมแซมให้ใช้งานได้อีก หรือไม่คุ้มที่จะซ่อม โดยทางบริษัทประกันจะประเมินค่าชดเชยเป็น 70-80 % ของทุนประกัน ซึ่งผู้เอาประกันควรถ่ายรูปรถให้ชัดเจนเพื่อใช้เป็นหลักฐานในการเคลมประกัน
2. กรณีเสียหายบางส่วน (Partial loss)
แต่ในกรณีที่รถยนต์ถูกน้ำท่วมเพียงบางส่วน เช่น น้ำท่วมมิดล้อ ช่วงล่าง ไม่สามารถเบรกได้ปกติ หรือรู้สึกว่ารถขับเคลื่อนได้ไม่ดีเหมือนเดิม ทางบริษัทประกันจะประเมินสภาพรถยนต์ว่ายังสามารถซ่อมแซมได้ และจะชดเชยค่าเสียหายเฉพาะค่าซ่อมรถที่เกิดขึ้นจริงเท่านั้น เช่น ค่าซ่อมเครื่องยนต์ ค่าซ่อมระบบไฟต่างๆ ค่าซ่อมแซมอุปกรณ์ภายในห้องโดยสาร ค่าทำความสะอาดพรมพื้นรถหรือเบาะรถ เป็นต้น
น้ำท่วมรถ เคลมประกันอย่างไร
หากเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมรถ แล้วได้ตรวจสอบแล้วว่าประกันรถยนต์ที่ทำอยู่นั้น คุ้มครองกรณีน้ำท่วมรถด้วย ให้เพื่อนๆ เตรียมเอกสารสำหรับการเคลมประกันรถยนต์ ดังนี้
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และใบขับขี่ของเจ้าของรถ
- กรมธรรม์ประกันภัยของรถยนต์
- สมุดคู่มือประจำรถยนต์
- หลักฐานขณะเกิดเหตุ เช่น ภาพถ่ายขณะน้ำท่วมรถ
- ในกรณีที่ไม่มีหลักฐาน ให้ระบุว่าน้ำท่วมสูงถึงระดับไหน พร้อมแจ้งวันเวลาเกิดเหตุ หรือมีใบแจ้งความ
เมื่อเตรียมเอกสารครบแล้ว ให้รีบแจ้งบริษัทประกัน โดยหลังจากที่เจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบสภาพรถแล้ว จะได้รับใบเคลมที่สามารถนำไปยื่นกับอู่ซ่อมรถ หรือศูนย์ซ่อมเพื่อทำการประเมินราคา และรอซ่อมในลำดับต่อไป
เมื่อได้ทราบกันแล้วว่าหากน้ำท่วมรถ ทำไงดี และสามารถเคลมประกันรถยนต์ได้หรือไม่นั้น ในช่วงที่ฝนตกเป็นประจำทุกวันอย่างนี้ ก็ขอให้เพื่อนๆ ขับขี่กันอย่างปลอดภัย ไม่ประมาท เพราะฝนตก ถนนลื่น เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายๆ อย่างไรแล้วควรทำประกันรถยนต์ไว้ด้วยเพื่อความอุ่นใจ โดยสามารถ คลิกที่นี่ เพื่อเปรียบเทียบประกันรถยนต์กับเว็บไซต์มาสิได้เลย
สนใจสมัครประกันรถยนต์
หรือหากมีข้อสงสัยและต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถโทร.มาพูดคุยปรึกษากับทีมงานมาสิได้ที่ 02 710 3100 หรือแอดไลน์มาเป็นเพื่อนกับเราที่ @masii (มี @ ด้วยนะ) เพื่อติดตามข่าวสารและบทความดีๆ เกี่ยวกับ ประกันรถยนต์ ประกันมอเตอร์ไซค์ ประกันบิ๊กไบค์ ประกันภัยโดรน ประกันเดินทาง ประกันสุขภาพ รวมถึง สินเชื่อส่วนบุคคล และบัตรเครดิตจากสถาบันการเงินชั้นนำได้เลยค่ะ