ประกันภัยรถยนต์

เมื่อเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน หรือรถเสียกลางทาง จนไม่สามารถเคลื่อนย้ายรถไปยังอู่ซ่อมรถได้ วิธีแก้ปัญหาที่นิยมมากที่สุดคือ การใช้บริการรถยก รถลาก ซึ่งจะเป็นบริการเสริมสำหรับบางบริษัทประกันภัยรถยนต์ แต่อาจจะมีค่าใช้จ่ายต่างๆ ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขที่กำหนด ทั้งนี้บริการรถยกกับรถลากเลือกแบบไหนดีกว่ากัน เรามีคำตอบมาฝาก รถยกกับรถลาก มีข้อดีข้อเสียอะไรบ้าง?    รถยกกับรถลาก คืออะไร  เป็นวิธีการเคลื่อนย้ายรถที่นิยมมากสุดในปัจจุบัน เพื่อย้ายรถไปยังอู่ซ่อมหรือศูนย์ซ่อมรถ หากรถของคุณเกิดเหตุฉุกเฉินจนไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ เช่น รถเสีย รถสตาร์ทไม่ติด รถชน เป็นต้น การใช้บริการรถยก รถลาก เปรียบเสมือนตัวช่วยที่อำนวยความสะดวก รวดเร็ว ให้กับเจ้าของรถเมื่อรถเกิดมีปัญหา รถยก เหมาะสำหรับรถที่ขับเคลื่อนด้วย 4 ล้อ เน้นบริการรถที่เสียหายอย่างหนักจนไม่สามารถใช้รถลากได้ ส่วนวิธีการย้ายจะเป็นการนำรถที่เสียหายนั้นลากขึ้นไปบนรถกระบะหรือรถบรรทุกขนาดใหญ่ โดยไม่ต้องลากตลอดทาง และปลอดภัยกับช่วงล่างของรถยนต์  รถลาก เป็นบริการเคลื่อนย้ายรถยนต์แบบลากจูง เหมาะสำหรับรถที่ขับเคลื่อนด้วย...

การซื้อประกันภัยรถยนต์ หลายคนนิยมทำไว้เพื่อความอุ่นนใจ เพราะหากเกิดอุบัติเหตุ หรือเหตุฉุกเฉินขึ้นกับรถยนต์ของเราก็ยังได้รับความคุ้มรองตามวงเงินที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ โดยเราสามารถสามารถนำรถยนต์ไปเคลมประกันกับอู่ซ่อมของบริษัท หรืออู่ซ่อมทั่วไปก็ได้ แต่การเคลมประกันรถยนต์นั้น มีหลายประเภท ส่วนจะมีแบบไหน และเลือกเคลมประกันแบบไหนดีที่สุด ตาม masii ไปดูกันเลย เคลมประกันรถยนต์ มีกี่แบบ เลือกเคลมแบบไหนดีที่สุด การเคลมประกันรถยนต์ เป็นการใช้สิทธิ์รับความคุ้มครองจากการซื้อประกันภัยรถยนต์ โดยสามารถเคลมค่าซ่อมรถคันเอาประกันได้ตามความเสียหายที่เกิดขึ้น ซึ่งการเคลมประกันรถยนต์ สามารถแบ่งออกเป็น 2 แบบหลักๆ นั่นก็คือ เคลมสด และ เคลมแห้ง โดยมีรายละเอียดดังนี้ เคลมประกันรถยนต์ แบบเคลมสด การเคลมสด คือการเคลมประกันรถยนต์หลังจากเกิดอุบัติเหตุทันที แม้ว่าจะมีหรือไม่มีคู่กรณีก็ตาม โดยผู้เอาประกันจะต้องโทรเรียกพนักงานเคลมของบริษัทประกันมา ณ จุดเกิดเหตุ เพื่อทำการบันทึกข้อมูลในการเกิดอุบัติเหตุทั้งหมด พร้อมตรวจสอบความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งของเราและคู่กรณี หลังจากนั้นพนักงานเคลมก็จะออกใบเคลม...

โดยปกติแล้วในการใช้ชีวิตของเรา อาจมีความจำเป็นที่จะต้องขับรถทางไกล เนื่องจากมีกิจกรรมหรือภารกิจที่ต้องเดินทาง กลับภูมิลำเนา หรือจะขับรถไปต่างจังหวัด เพื่อท่องเที่ยวใน วันหยุด หรือ วันหยุดยาว ในเทศกาลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเทศกาล ปีใหม่ วันสงกรานต์ ฯลฯ ซึ่งจะต้องใช้เวลาในการขับรถกันเป็นเวลานานๆ อาจทำให้เกิดความเหนื่อย เมื่อยล้า เพื่อให้การขับขี่ของทุกๆ ท่านมีความปลอดภัย เนื่องจากต้องขับรถเป็นเวลานานๆ นั้น วันนี้ masii มีเทคนิคในการขับรถทางไกลให้ปลอดภัยมาฝากกัน กับ 5 วิธี ขับรถทางไกล ให้ ประหยัดน้ำมัน คุ้มกว่าในทุกเส้นทาง ไปดูกันเลยครับ ... ขับรถทางไกล อย่างไร...

สำหรับใครที่มีรถยนต์ส่วนตัว แน่นอนว่าการทำประกันรถยนต์นั้น ถือว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก เพราะเป็นสิ่งที่ช่วยคุ้มครองตัวรถยนต์รวมไปถึงผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร และบุคคลภายนอก ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ หรือเกิดเหตุไม่คาดฝัน เช่น รถหาย รถถูกน้ำท่วม รถไฟไหม้ เป็นต้น ซึ่งอย่างที่ทราบกันว่า ประกันรถยนต์ชั้น 1 ถือเป็นประกันรถยนต์ที่ให้ความคุ้มครองได้ครอบคลุมมากกว่าประกันรถยนต์ประเภทอื่นๆ แต่ก็มีราคาที่สูงกว่าเช่นกัน วันนี้ masii เลยจะมาแนะนำ ประกันรถยนต์ชั้น 1 ราคาถูก ให้เพื่อนๆ ได้รู้จักกัน มาดูกันเลยว่ามีที่ใดบ้าง แนะนำ ประกันรถยนต์ชั้น 1 ราคาถูก ถ้าพูดถึงความคุ้มครองของประกันรถยนต์ชั้น 1 แน่นอนว่าย่อมมีมากกว่าประกันรถยนต์ชั้น 2+ หรือประกันรถยนต์ชั้น 3+ อยู่แล้ว...

ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2566 นี้ หากใครมีแพลนที่จะขับรถทางไกล ขับรถไปต่างจังหวัดเพื่อท่องเที่ยวหรือเดินทางกลับภูมิลำเนาที่ต่างจังหวัดละก็ นอกจากจะต้องเช็กสภาพรถยนต์ให้พร้อมใช้งานสำหรับเดินทางไกลแล้วละก็ ก็จำเป็นต้องเช็กสภาพร่างกายของผู้ขับขี่ด้วยเช่นกัน และเพื่อความปลอดภัยในการขับรถ วันนี้ masii เลยได้นำ วิธีเตรียมร่างกายให้พร้อม ก่อนขับรถทางไกล มาฝากกัน ไปดูกันเลยว่ามีวิธีใดบ้าง ขับรถทางไกล ขับรถไปต่างจังหวัด ต้องเตรียมร่างกายให้พร้อม ลดความเสี่ยงอุบัติเหตุ 1. พักผ่อนให้เพียงพอ ก่อนขับรถออกเดินทาง ผู้ขับขี่ควรพักผ่อนให้เพียงพอ ยิ่งใครที่ต้องขับรถทางไกลด้วยแล้ว ยิ่งควรต้องนอนให้ได้อย่างน้อยวันละ 6-8 ชั่วโมง ติดต่อกันอย่างน้อย 2 คืน ห้ามอดหลับอดนอนเด็ดขาด เพราะจะทำให้เกิดอาการง่วงนอนสะสม เวลาขับรถอาจรู้สึกง่วงนอน และหลับในได้ 2. ไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขณะขับรถ จะทำให้สติสัมปชัญญะในการตัดสินใจลดน้อยลง ซึ่งมีผลต่อความสามารถในการขับขี่รถยนต์ นอกจากนี้การเมาแล้วขับ...

สมัครสินเชื่อ รถแลกเงิน จำเป็นต้องทำ ประกันรถยนต์ ไหม? และหากมีไม่ ประกันรถยนต์ จะมีผลต่อการพิจารณาสินเชื่อหรือไม่ จริงแล้ว ๆ การพิจารณาอนุมัติ สินเชื่อรถ จะขึ้นอยู่กับ รุ่น อายุ ปีที่ผลิต และสภาพรถยนต์ที่ใช้เป็นหลักทรัพย์ รวมถึงคุณสมบัติของผู้สมัครสินเชื่อ ซึ่งในบางธนาคารหรือสถาบันการเงิน ได้กำหนดให้กรมธรรม์ ประกันรถยนต์ เป็นเอกสารประกอบการยื่นสมัคร สินเชื่อรถแลกเงิน แต่อย่างไรก็ตามไม่ว่าคุณจะสมัคร สินเชื่อรถแลกเงิน หรือไม่ก็ตามการทำ ประกันรถยนต์ ก็ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม สมัครสินเชื่อ รถแลกเงิน จำเป็นต้องทำ ประกันรถยนต์ ไหม ประกันรถยนต์ ทำไว้ยังไงก็อุ่นใจกว่า  ไม่ว่าจะสมัครสินเชื่อรถแลกเงินหรือไม่ก็ตาม แต่การทำ ประกันรถยนต์ ไว้ยังไงก็อุ่นใจกว่าเยอะ เพราะเมื่อเกิดอุบัติเหตุก็จะได้รับความคุ้มครองตามกรมธรรม์...

สำหรับใครหลาย ๆ คนที่มีรถยนต์คันแรก แน่นอนว่าสิ่งที่เราจะต้องทำนั่นก็คือ พ.ร.บ. เพื่อให้เราขับรถได้ถูกต้องตามกฎหมาย นอกจาก พ.ร.บ. แล้วก็ยังมีประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ หรือประกันภัยรถยนต์ชั้น1 ชั้น2+ ที่เรารู้จักกัน ซึ่งเราสามารถเลือกได้ว่าจะทำหรือไม่ทำ แต่ก็มีอีกอย่างนึงที่คนที่มีรถยนต์จะต้องทำนั่นก็คือ การตรวจสภาพรถนยนต์ประจำปี ถ้าใครสงสัยว่าทำไมเราถึงต้องตรวจรถยนต์ประจำปี วันนี้ masii เอาคำตอบมาให้เพื่อน ๆ กัน ทำไมเราถึงต้องตรวจสภาพรถยนต์ประจำปี? การตรวจสภาพรถยนต์ประจำปี คืออะไรหรอ? การตรวจสภาพรถยนต์ประจำปี ก็คือการที่เรานำรถยนต์ของเราไปตรวจสภาพตามชื่อเลย หรือบางคนก็อาจจะชินกับคำว่า ตรวจสภาพรถ ตรอ. มากกว่า ใครที่จะเสียภาษีรถยนต์จะต้องผ่านการตรวจสภาพ ตรอ. มาทุกคันนั่นเอง   แล้วทำไมเราจะต้องตรวจสภาพรถยนต์ประจำปี หรือตรวจสภาพ ตรอ. ด้วยล่ะ? รถยนต์ทุกคันไม่ว่าจะใช้เพื่อการขนส่ง...

สำหรับใครที่มีรถยนต์ส่วนตัวใช้ แน่นอนว่านอกจากจะต้องขับรถอยู่เป็นประจำแล้ว ก็ควรต้องหมั่นดูแลรักษารถอยู่เสมอ เพื่อให้รถยนต์มีสภาพพร้อมใช้งาน ไม่สึกหรอ และเป็นการยืดอายุรถยนต์ให้นานกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นการเช็กสภาพรถเป็นประจำทุกปี หรือการสังเกตสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้นกับรถของเราทั้งภายในและภายนอก เช่นเดียวกับ แอร์รถยนต์ ที่ก็จำเป็นต้องดูแลรักษา หรือล้างทำความสะอาดแอร์รถยนต์ นั่นเอง แต่หลายคนอาจสงสัยว่า ควรล้างแอร์รถยนต์เมื่อไร และมีวิธีล้างแอร์อย่างไรบ้าง ตาม masii ไปหาคำตอบกันค่ะ ควรล้างแอร์รถยนต์เมื่อไร ล้างอย่างไรให้สะอาด โดยปกติแล้วควรล้างแอร์รถยนต์ทุกๆ 1 ปี หรือประมาณระยะทาง 20,000 กิโลเมตร หรือเมื่อผู้ขับขี่รู้สึกได้ถึงสัญญาณเตือนที่ควรล้างแอร์ ดังนี้ แอร์ไม่เย็น > อาจเกิดจากท่อแอร์รั่ว มีรอยแตก หรือน้ำยาแอร์น้อยเกินไป แอร์มีกลิ่นอับ >...

มิตซูบิชิ แอททราจ ปี2019 ได้ปรับโฉมใหม่ทั้งภายใน และภายนอกให้มีความโดดเด่น ยังเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกให้เหมาะกับรถที่เป็น City Car ตอบโจทย์การใช้งานของลูกค้าได้อย่างครบถ้วน ตาม masii มาดูกันเลยดีกว่าว่าจะมีอะไรที่โดดเด่น ๆ บ้างสำหรับ มิตซูบิชิ แอททราจ ตัวนี้ Mitsubishi Attrage GLX CVT MY2019 ภายนอก Mitsubishi Attrage GLX CVT MY2019 กระจังหน้าดีไซน์ฮันนี่โคมบ์ คิ้วฝากระโปรงท้ายตกแต่งโครเมียมรมดำ ล้ออัลลอยดีไซน์สีดำ ขนาด 15 นิ้ว   ภายใน Mitsubishi Attrage...

ในช่วงที่โควิด-19 กำลังระบาดอยู่ในขณะนี้ เพื่อเป็นการป้องกันการติดเชื้อและการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส ทุกคนจึงจำเป็นต้องหันมาใส่ใจตัวเองมากขึ้น เช่น การใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ การเว้นระยะห่างจากผู้อื่น รวมถึงการทำความสะอาดบ้าน ห้องนอน หรือแม้แต่รถยนต์ที่ต้องใช้ในการเดินทางเป็นประจำ วันนี้ masii เลยได้นำวิธีทำความสะอาดรถที่ช่วยให้รถปลอดภัยจากเชื้อโควิด-19 มาฝากกัน ไปดูกันเลยว่ามีอะไรบ้าง วิธีล้างรถให้ปลอดภัยจากโควิด-19 นอกจากจะต้องล้างทำความสะอาดภายนอกรถแล้ว การทำความสะอาดภายในรถยนต์ก็จำเป็น เพราะเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคได้เช่นกัน ซึ่งจุดที่ควรทำความสะอาดภายในรถ ได้แก่ ปุ่มสตาร์ต (ถ้ามี) ที่เปิดประตูรถทุกด้าน ปุ่มหรือที่เปิดถังน้ำมันและฝากระโปรงท้าย ช่องแอร์ เกียร์และเบรคมือ ปุ่มควบคุมการทำงานต่างๆ ของรถ จอระบบสัมผัส พวงมาลัย ที่บังแดด กระจกมองหลัง แผงข้างประตู ...