สำหรับผู้ที่ขับรถเป็นประจำนอกจากจะต้องทำ พ.ร.บ. รถยนต์ ติดรถไว้อยู่แล้ว สิ่งหนึ่งที่จำเป็นมากๆ ที่ผู้ขับขี่รถทุกคนต้องมีติดตัวไว้ นั่นก็คือ “ใบขับขี่” นั่นเอง โดยใบขับขี่ขนิดชั่วคราว ที่ได้หลังจากสอบใบขับขี่ครั้งแรก จะมีอายุ 2 ปี จะนั้นจะเปลี่ยนเป็น ใบขับขี่ แบบ 5 ปี ซึ่งเราสามารถไปต่อใบขับขี่แบบ 5 ปีได้เมื่อใบขับขี่ชั่วคราวมีอายุครบ 1 หรือจะรอให้ใบขับขี่ชั่วคราวครบ 2 ปีหมดอายุก่อน แล้วไปเปลี่ยนเป็นใบขับขี่แบบ 5 ปีก็ได้ค่ะ แต่ไม่ว่าจะเป็นใบขับขี่ประเภทไหน เมื่อใบขับขี่หมดอายุ ก็ต้องทำการต่อใบขับขี่ แล้วถ้าใบขับขี่หมดอายุ ต้องต่อภายในกี่วัน เราไปหาคำตอบพร้อมกับ masii กันเลยค่ะ
ใบขับขี่หมดอายุ ต้องต่อภายในกี่วัน
เพราะใบขับขี่เป็นสิ่งที่ยืนยันตัวตนผู้ขับขี่รถ และเป็นสิ่งที่แสดงว่าผู้นั้นได้รับอนุญาตให้ขับขี่รถประเภทต่างๆ ทั้งยังถือว่าเป็นผู้มีความรู้ความสามารถในการขับขี่รถยนต์จริง และได้ผ่านการทดสอบจากกรมการขนส่งทางบกเรียบร้อยแล้ว ซึ่งอย่างที่บอกไปเบื้องต้นว่าใบขับขี่ชั่วคราวมีอายุการใช้งาน 2 ปี และใบขับขี่ แบบ 5 ปี เมื่อใบขับขี่หมดอายุ ก็ต้องทำการต่อใบขับขี่ ซึ่งมีเงื่อนไขดังนี้
- หากใบขับขี่หมดอายุหมดอายุไม่เกิน 1 ปี สามารถทำการต่อใบขับขี่ได้เลย ไม่ต้องสอบข้อเขียน หรือ สอบปฏิบัติใหม่ เพียงแค่ทดสอบสมรรถภาพร่างกาย หรืออาจมีการอบรมเพิ่มเติม จากนั้นก็ชำระค่าธรรมเนียมในขั้นตอนต่อไป
- หากใบขับขี่หมดอายุเกินกว่า 1 ปี แต่ไม่เกิน 3 ปี ผู้ขับขี่จะต้องสอบข้อเขียนใหม่ ซึ่งมี 50 ข้อ และต้องตอบให้ถูก 45 ข้อ ถึงจะผ่านการทดสอบ
- กรณีที่ใบขับขี่หมดอายุเกิน 3 ปี ผู้ขับขี่ต้องสอบข้อเขียน และสอบภาคปฏิบัติ ซึ่งมีการทดสอบ 3 ท่า ดังนี้
- ท่าที่ 1 จอดรถให้ตรงจุด
- ท่าที่ 2 ถอยรถเข้าซอง (หักพวงมาลัยได้ไม่เกิน 7 ครั้ง)
- ท่าที่ 3 จอดรถเทียบขนานทางเท้า
หลักฐานประกอบคำขอต่ออายุใบขับขี่ มีดังนี้
- ใบขับขี่เดิม หรือใบแทน
- บัตรประชาชนฉบับจริง พร้อมสำเนา
- ใบรับรองแพทย์ (ในกรณีที่เปลี่ยนจากใบขับขี่ชั่วคราวเป็น 5 ปี หรือกรณีที่ใบขับขี่หมดอายุเกินกว่า 3 ปี)
ขั้นตอนการต่อใบขับขี่
- ตรวจสอบเอกสาร และออกคำขอต่อใบขับขี่
- ทดสอบสมรรถภาพร่างกาย
- ทดสอบการมองเห็นสี
- ทดสอบสายตาทางลึก (ผู้ขับขี่จะต้องปรับแท่งแนวตั้งให้ขนานกันได้มากที่สุด)
- ทดสอบสายตาทางกว้าง (ผู้ขับขี่จะต้องบอกสีที่ปรากฏอยู่บนจอบริเวณมุมตา)
- ทดสอบปฎิกิริยาเท้า (การเหยียบเบรก)
- เข้ารับการอบรมกฎจราจร 1 ชั่วโมง
- ชำระค่าธรรมเนียมในการออกใบขับขี่ เป็นเงิน 505 บาท
- ค่าใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ 500 บาท
- ค่าคำร้อง 5 บาท
จากนั้นเป็นขั้นตอนการถ่ายรูปประจำตัวผู้ขับขี่ เพื่อนำมาพิมพ์ลงใบขับขี่ รอสักพักก็รับใบขับขี่ใบใหม่กลับบ้านได้เลยจ้า
ไม่พกใบขับขี่ ปรับเท่าไร
หลายคนอาจคิดว่าถ้าไม่พกใบขับขี่คงไม่เป็นไรมาก แต่รู้หรือไม่ว่าใบขับขี่เป็นสิ่งที่จำเป็นมากๆ เพราะช่วยระบุตัวตนผู้ขับขี่ นอกจากนี้ยังเป็นสิ่งกฎหมายบังคับ หากไม่ปฏิบัติตามจะมีโทษฝ่าฝืนตาม พ.ร.บ. รถยนต์ พ.ศ. 2522 ดังนี้
– ผู้ใดขับรถยนต์โดยไม่มีใบขับขี่ ผู้นั้นต้องโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
– หากผู้ใดขับรถยนต์ โดยที่ใบขับขี่หมดอายุ หรือถูกยึดใบขับขี่ จะต้องโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท
จะเห็นได้ว่าใบขับขี่เป็นสิ่งที่จำเป็นมากจริงๆ และการสอบใบขับขี่ก็ไม่ยากอย่างที่คิด อีกทั้งยังสามารถไปสอบใบขับขี่หรือต่อใบขับขี่ในวันเสาร์-อาทิตย์ได้แล้วอีกด้วย นอกจากนี้ยังสามารถ ต่อใบขับขี่ล่วงหน้าได้ 3 เดือน คราวนี้เมื่อเรามีใบขับขี่อย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้ว ก็ควรปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด ขับรถอย่างระมัดระวัง ไม่ประมาท ซึ่งถ้าจะให้ดีมาสิแนะนำว่าควรทำประกันรถยนต์ไว้ด้วย เพื่อความอุ่นใจ หากเกิดอุบัติเหตุ หรือเหตุฉุกเฉินก็ยังคงได้รับความคุ้มครองจากประกันรถยนต์นั่นเองค่ะ
สนใจสมัครประกันรถยนต์
และหากใครสนใจอยากสมัครประกันรถยนต์ก็สามารถติดต่อกับมาสิได้เลยที่ 02 710 3100 หรือแอดไลน์มาที่ @masii (มี @ ด้วยนะ) เพื่อสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับ พ.ร.บ. รถยนต์ ประกันรถยนต์ หรือ ประกันมอเตอร์ไซค์ ได้เลยค่ะ