เรื่องของอาหารการกิน ประเทศไทยของเราเรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งประเทศที่ขึ้นชื่อและเป็นที่ยอมรับถึงความหลากหลายและรสชาติดีเป็นอย่างมาก ซึ่งเห็นได้จากผลสำรวจมากมายที่เมนูอาหารไทยของเราได้ติดอันดับอาหารยอดนิยม อาทิ ข้าวซอยไทย คว้าที่หนึ่งซุปที่ดีในโลก จากการจัดอันดับ TasteAtlas ในปีที่ผ่านมา และนอกจากอาหารไทยที่มีความหลากหลายและขึ้นชื่อแล้วนั้น ในแต่ละภูมิภาคของไทยเราก็ยอมที่จะมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างและมีความแปลกที่ไม่เหมือนกัน ทั้งนี้ ด้วยความต่างอันเป็นเอกลักษณ์อย่างนี้มักที่จะมีเมนูที่พิเศษที่มีการบริโภคแบบแปลก อย่างเช่น การบริโภคของสดพวก ซอยจุ๊ กุ้งเต้น หรือลาบเลือด เป็นต้นเหล่านี้ ที่อาจจะนำมาซึ่งความเสี่ยงภัยจากการบริโภคอาหารเหล่านี้ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรค ไข้หูดับ ที่ในปีนี้ กระทรวงสาธารสุขได้ออกมาเตือนกันตั้งแต่ต้นปี เนื่องด้วยเพราะคนไทยมีอัตราเสี่ยงเพิ่มขึ้น และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย ซึ่งรายละเอียดจะเป็นอย่างไรบ้างนั้น มาสิ เอามาฝากให้ได้อ่านกัน
โรค ไข้หูดับ เกิดจากอะไร ?
โรคไข้หูดับ เกิดจากการติดเชื้อสเตรฟโตคอกคัส ซูอิส (Streptococcus Suis) เป็นเชื้อแบคทีเรียที่อาศัยอยู่ในหมูเกือบทุกตัว โดยเชื้อชนิดนี้จะไม่ก่อให้เกิดโรค แต่หากหมูเกิดอาการป่วยเชื้อชนิดนี้ก็จะค่อยๆ เพิ่มจำนวนมากขึ้น จนทำให้หมูตัวนั้นตาย และสามารถติดต่อไปสู่คนได้ 2 ทาง คือ
- เกิดจากการบริโภคเนื้อและเลือดหมูแบบดิบ หรือสุกๆ ดิบๆ
- การสัมผัสเนื้อหมูที่มีเชื้อโดยตรง จากทางบาดแผล เยื่อบุตา และสัมผัสสารคัดหลั่งของหมู
อาการเมื่อรับเชื้อโรคไข้หูดับ
สำหรับอาการเมื่อรับเชื้อโรคไข้หูดับ ผู้ป่วยจะเริ่มมีอาการหลังรับเชื้อเข้าสู่ร่างกายโดยเฉลี่ยใน 3 วัน โดยเชื้อจะมีระยะฟักตัวในร่างกายก่อนที่จะแสดงอาการไม่เกิน 3-5 วัน ส่วนใหญ่จะมีอาการไข้สูง ปวดท้อง ท้องเสีย คลื่นไส้ อาเจียน เวียนศรีษะจนทรงตัวไม่ได้ มีจ้ำเลือดตามตัวและผิวหนัง ซึม คอแข็ง ชัก บางรายที่มีอาการรุนแรงก็จะส่งผลให้เยื้อหุ้มสมองอักเสบ และเกิดภาวะแทรกซ้อนทำให้ประสาทหูอักเสบจนหูดับหรือหูหนวก ดังนั้นหากมีอาการเหล่านี้ให้รีบมาพบแพทย์ เพราะหากปล่อยไว้อาจทำให้ติดเชื้อในกระแสเลือดและส่งผลให้อันตรายถึงชีวิตได้อีกด้วย
ทั้งนี้ เมื่อเชื้อเข้าสู่เยื่อหุ้มสมอง และกระแสเลือด ทําให้เยื่อหุ้มสมองอักเสบ ข้ออักเสบ ม่านตาอักเสบได้ เนื่องจากเยื่อหุ้มสมองอยู่ใกล้กับประสาทหูชั้นในทั้งสองข้าง เชื้อสามารถลุกลาม ทำให้เกิดหนองบริเวณปลายประสาทรับเสียง และปลายประสาททรงตัว ทำให้หูตึงไปจนถึงหูหนวก ซึ่งกว่าร้อยละ 40 ของผู้ที่ติดเชื้อนี้จะสูญเสียการได้ยินถาวร อาการทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นภายใน 14 วัน หลังจากเริ่มมีไข้ และ หากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้องและทันท่วงที ผู้ป่วยอาจเสียชีวิตได้
กระทรวงสาธารณสุข เตือนคนไทยเสี่ยงโรค “ไข้หูดับ” เพิ่มขึ้น
กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข พยากรณ์โรคประจำสัปดาห์ คาด ผู้ป่วยโรคหูดับสูงกว่าปี 2565 จากกระแสสังคมบนสื่อออนไลน์ได้รีวิวการกินอาหารดิบและพฤติกรรมดื่มสุราร่วมกับอาหารสุกๆดิบๆ กว่า 40 % ของผู้ที่ติดเชื้อนี้จะสูญเสียการได้ยินถาวร ภายใน 14 วัน หลังจากเริ่มมีไข้
กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เผย ตั้งแต่ 1 มกราคม – 11 กุมภาพันธ์ 2566 มีรายงานผู้ป่วย 19 ราย เสียชีวิต 1 ราย กลุ่มอายุที่พบผู้ป่วยมากที่สุด คือ อายุมากกว่า 65 ปี รองลงมาคือ อายุ 55-64 ปี และอายุ 45-54 ปีตามลำดับ ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกร และทำงานบ้าน โดยจังหวัดที่พบผู้ป่วยมากที่สุด คือ จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเมื่อเทียบกับปี 2565 พบผู้ป่วยรวม 386 ราย เสียชีวิต 9 ราย โดยในปีนี้มีแนวโน้มที่จะพบจำนวนผู้ป่วยมากขึ้น
การพยากรณ์โรคและภัยสุขภาพประจำสัปดาห์นี้ คาดว่าในช่วงนี้มีโอกาสจะพบผู้ป่วยโรคไข้หูดับเพิ่มขึ้น จากกระแสสังคมบนสื่อออนไลน์ได้รีวิวการกินอาหารดิบและพฤติกรรมดื่มสุราร่วมกับอาหารสุกๆดิบๆ เช่น เนื้อหมูสด เนื้อวัวสด ซอยจุ๊ ลาบดิบ ก้อย แหนมดิบ เป็นต้น รวมถึงปัจจัยแวดล้อมและวัฒนธรรมการรับประทานอาหาร จึงขอเตือนให้ประชาชนระมัดระวังการกิน การประกอบอาหารและรับประทานอาหารถูกสุขลักษณะ
วิธีการรักษาโรคไข้หูดับ
สำหรับวิธีการรักษาไข้หูดับ คือ การให้ยาปฏิชีวนะในกลุ่มยาเพนนิซิลลิน (Penicillin) หรือยาเซฟไตร อะโซน (Ceftriaxone) เข้าหลอดเลือดดำ ในรายที่แพ้ยาดังกล่าวอาจใช้ยา แวนโคมัยซิน (Van comycin) ทั้งนี้เชื้อมักดื้อต่อยา อีรีโทรมัยซิน (Erythromycin) หรือยาซัลฟา(Sulfa-group)
แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยบางคนที่รอดชีวิตมา ยังอาจมีความผิดปกติหลงเหลืออยู่ เช่น ความผิดปกติในการทรงตัว เนื่องจากเชื้อได้เข้าไปทำลายเยื่อหุ้มสมอง หรือหากเชื้อเข้าปลายระบบประสาทตา จะทำให้ม่านตาอักเสบ ลูกตาฝ่อ หรือตาบอดได้ นอกจากนี้ผู้ป่วยบางคนยังอาจเป็นอัมพาตครึ่งซีกได้เช่นกัน
แนะวิธีป้องกันโรคไข้หูดับ
- ไม่รับประทานหมูที่ป่วย หรือ หมูที่ตายจากโรค หลีกเลี่ยงการซื้อเนื้อหมูที่มีกลิ่นคาวหรือสีคล้ำ และควรเลือกบริโภคหมูที่มาจากแหล่งผลิตที่ได้มาตรฐาน
- หลีกเลี่ยงการรับประทานเนื้อหมูดิบ หรือสุก ๆ ดิบๆ โดยให้ผ่านความร้อนมากกว่า 70 องศาเซลเซียส
- ควรแยกภาชนะและอุปกรณ์ที่ใช้ประกอบอาหาร สำหรับเนื้อสุกและดิบออกจากกัน เช่น เขียง จาน เนื่องจากอาจปนเปื้อนเชื้อดังกล่าว
- ผู้ที่เลี้ยงหมู และผู้ที่ต้องสัมผัสเนื้อหมู ควรใส่เสื้อผ้าปกปิดมิดชิด ใส่รองเท้าและถุงมือทุกครั้งเมื่อเข้าไปทำงานที่สัมผัสกับหมูหรือเนื้อหมู
- หลีกเลี่ยงการจับหมูที่ตายด้วยมือเปล่า ล้างมือทุกครั้งหลังการสัมผัส หากมีบาดแผลต้องปิดแผลให้มิดชิดก่อน เพื่อป้องกันการสัมผัสโรคจากหมูที่ป่วย
- ผู้ที่จำหน่ายควรรับเนื้อหมูมาจากโรงฆ่าสัตว์ที่ได้มาตรฐาน เก็บเนื้อหมูที่จะขายในอุณหภูมิที่ต่ำกว่า 10°C และทำความสะอาดแผงด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อทุกวันหลังเลิกขาย
- หากมีอาการผิดปกติ หลังสัมผัสหมูที่ป่วยหรือหลังรับประทานเนื้อหมูไม่สุก ให้รีบไปพบแพทย์ทันที
ขอขอบคุณ : pptvhd36,paolohospitalและ สำนักงานพัฒนาระบบข้อมูลข่าวสุขภาพ
จะเห็นได้ว่าเรื่องของอาหารการกินนั้น เป็นสิ่งที่จำเป็นและสำคัญต่อการดำรงชีวิตของเราเป็นอย่างมาก ซึ่งก็ไม่ได้ต่างอะไรจากคำพูดที่ใครหลายคนได้กล่าวไว้เลยว่า “กินอย่างไร มักที่จะได้อย่างนั้น” ดังนั้นแล้ว เรื่องเลือกบริโภคอาหารที่ดี มีประโยชน์ และถูกสุขลักษณะจึงเป็นเรื่องที่จำเป็นและสำคัญอย่างยิ่งสำหรับตัวเรา และนี่ก็เป็นเพียงสาระดี ๆ ที่ มาสิ ได้หยิบเอามาฝากกัน ทีนี้เมื่อได้อ่านคงตระหนักได้แล้วว่าไม่มีอะไรจะสำคัญได้เท่ากับสุขภาพของเรา ดังนั้นแล้ว มาเสริมความคุ้มครองในชีวิตกับ ประกันสุขภาพและอุบัติเหตุส่วนบุคคล V Prestige Care จาก วิริยะประกันภัย ที่ให้ความคุ้มครองครบทั้งการเจ็บป่วย และบาดเจ็บ จะมีความน่าสนใจอย่างรบ้างนั้น ตามมาสิไปดูกัน
ประกันสุขภาพและอุบัติเหตุส่วนบุคคล V Prestige Care
จาก วิริยะประกันภัย
จุดเด่นที่น่าสนใจ
- คุ้มครองค่ารักษาผู้ป่วยใน เหมาจ่ายต่อครั้งสูงสุด 5 ล้าน
- คุ้มครองค่าห้อง ค่าอาหาร ค่าบริการ ผู้ป่วยในสูงสุด 12,000/วัน
- สามารถต่ออายุได้ถึง 100 ปี
- ไม่มีเคลม มีเงินคืน
- ไม่ปฏิเสธการต่ออายุแม้มีเคลม
- สามารถลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 25,000 บาท
- ไม่ต้องสำรองจ่าย กรณีเข้ารักษาที่โรงพยาบาลในเครือ ที่มีคู่สัญญากว่า 500 แห่งในประเทศไทย
เงื่อนไขการรับประกันภัย
- สมัครได้ตั้งแต่อายุ 15 วัน – 65 ปี
- ผู้เอาประกันภัยอายุ ไม่เกิน 60 ปี สามารถต่ออายุได้ถึง 100 ปี
- ผู้เอาประกันภัยอายุ 61 – 65 ปี สามารถต่ออายุได้ถึง 70 ปี
- ผู้เอาประกันที่อายุระหว่าง 15 วัน ถึง 15 ปี ต้องสมัครพร้อมบิดาหรือมารดาอย่างน้อย 1 คน และแผนประกันจะต้องให้ความคุ้มครองที่ต่ำกว่าหรือเทียบเท่ากับบิดาหรือมารดาหรือผู้ปกครองโดยชอบธรรม
- บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์การพิจารณาใบคำขอฯ ตามหลักเกณฑ์การรับประกันภัยของบริษัท และผ่านเกณฑ์การพิจารณารับประกันภัยของบริษัท
- ความคุ้มครองการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุจะคุ้มครองทันที ในวันที่กรมธรรม์มีผลบังคับครั้งแรก
เงื่อนไขและข้อยกเว้นที่สำคัญ
- การเจ็บป่วยใด ๆ ที่เกิดขึ้นในระยะเวลา 30 วัน (Waiting Period) หลังจากที่กรมธรรม์ประกันภัยมีผลบังคับครั้งแรก
- การเจ็บป่วยดังต่อไปนี้ที่เกิดขึ้นในระยะเวลา 120 วัน (Waiting Period) หลังจากที่กรมธรรม์ประกันภัยมีผลบังคับครั้งแรก เนื้องอก ถุงน้ำ หรือมะเร็งทุกชนิด, ริดสีดวงทวาร, ไส้เลื่อนทุกชนิด, ต้อเนื้อ หรือต้อกระจก, การตัดทอนซิล หรืออดีนอยด์, นิ่วทุกชนิด, เส้นเลือดขอดที่ขา, เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่
- โรคที่เป็นมาแต่กำเนิด โรคเรื้อรัง การบาดเจ็บหรือการเจ็บป่วยที่ยังมิได้รักษาให้หาย ก่อนวันทำสัญญาประกันภัย
หมายเหตุ
- เบี้ยประกันภัยสำหรับปีต่ออายุจะปรับเปลี่ยนตามอายุที่เปลี่ยนแปลง และประวัติการเคลม
- เงื่อนไขและข้อยกเว้นข้างต้นนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น โปรดศึกษารายละเอียด และข้อยกเว้นความคุ้มครองเพิ่มเติมในกรมธรรม์ประกันภัย
- ผู้ซื้อควรทำความเข้าใจในรายละเอียดความคุ้มครอง และเงื่อนไขก่อนตัดสินใจทำประกันทุกครั้ง
สนใจสมัครประกันสุขภาพและอุบัติเหตุส่วนบุคคล V Prestige Care
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถโทรมาสอบถามรายละเอียดต่างๆ ได้ที่ 02 710 3100 หรือแอดไลน์ @masii ( มี @ ด้วยนะครับ ) เพื่อติดตามข่าวสารและบทความดีๆ ที่ มาสิบล็อก เกี่ยวกับ บัตรเครดิต บัตรเดบิต บัตรกดเงินสด สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อบ้านแลกเงิน สินเชื่อรถแลกเงิน และผลิตภัณฑ์ทางการเงินจากสถาบันการเงินชั้นนำทั่วประเทศ
อ่านบทความที่น่าสนใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ประกันสุขภาพ
-
” เบบี้คริสตัล ” คืออะไร หาคำตอบ ทำไมถึงอันตรายมากๆ สำหรับเด็ก
-
สาย อาหารเสริม ระวังไว้ “วิตามินบี 6” กินมากเกินไป เสี่ยงเส้นประสาทอักเสบได้
_____________________________________________
Please become Masii Fan
Facebook: https://lnkd.in/gFFh8mh
Website: www.masii.co.th
Blog: https://masii.co.th/blog
Line: @masii
Tel: 02 710 3100
Youtube: https://lnkd.in/gbQf9eh
Instagram: https://lnkd.in/ga4j5ri
Twitter: twitter.com/MasiiGroup
#สินเชื่อ #ประกัน
#รถแลกเงิน #บ้านแลกเงิน #สินเชื่อส่วนบุคคล
#บัตรกดเงินสด #เงินด่วนทันใจ #สินเชื่อส่วนบุคคลออนไลน์
#กู้เงิน #เงินสด #เงินก้อน #เงินด่วน #เงินกู้ทันใจ #masii
#มาสิ #ครบง่ายสะดวก #เพื่อความสุขในชีวิตที่ดีกว่า
#ครบง่ายสะดวกเพื่อความสุขในชีวิตที่ดีกว่า #SimplifiedComparison