ทำประกันแบบใดถึงจะสามารถใช้ในการหักภาษีได้

ทำประกันแบบใดถึงจะสามารถใช้ในการหักภาษีได้
ทำประกันแบบใดถึงจะสามารถใช้ในการหักภาษีได้
สมัครรถแลกเงินโปรโมชั่น แจกฟรี Voucher Lazada

เรื่องของการลงทุนในระยะยาวนั้นเป็นแนวทางที่ทางด้านของรัฐบาลพยายามที่จะทำการส่งเสริมแก่ประชาชนเสมอ เนื่องจาก สิ่งนี้เป็นสิ่งที่จะเป็นหลักประกันให้กับทางผู้ออมในภายภาคหน้า การที่คนเรานั้นมีปริมาณเงินออมอยู่ภายในระบบจำนวนมากจะเป็นการช่วยทำให้ส่วนของระบบเชิงองค์รวมของประเทศจะยังคงมีฐานเงินออมซึ่งนั่นจะเป็นส่วนสำคัญสำหรับเรื่องของการลงทุนภายในภาคเศรษฐกิจโดยไม่จำเป็นต้องหันไปพึ่งพาการกู้เงินจากทางต่างประเทศอีกต่อไป

ทำประกันแบบใดถึงจะสามารถใช้ในการหักภาษีได้

สำหรับเรื่องของการส่งเสริมเกี่ยวกับการออมนั้นสิ่งหนึ่งที่ทางรัฐบาลได้นำมาใช้ในการสนับสนุนหรือใช้ในการสร้างแรงบันดาลใจให้กับตัวผู้ออมก็คือ “มาตรการเกี่ยวกับเรื่องของภาษี” คุณทราบหรือไม่ว่าการทำประกันนั้นสามารถใช้ในการนำมาหักลดหย่อนภาษีได้แล้วการประกันลดหย่อนภาษีนั้นสามารถทำได้อย่างไร?

สำหรับกรณีค่าเบี้ยประกันชีวิตอันเป็นส่วนของตัวผู้ที่มีเงินได้ ส่วนนี้ทางผู้ออมเงินสามารถนำมาใช้ในการหักลดหย่อนได้ในลักษณะเท่าที่จ่ายไปตามเป็นจริงแต่ทั้งนี้ทั้งนั้นจะต้องไม่เกินไปกว่า 100,000 บาท สำหรับเงื่อนไข อาทิเช่น จะต้องเป็นกรมธรรม์ที่ได้มีการกำหนดเอาไว้เป็นระยะเวลามากกว่า 10 ปีขึ้นไป, ค่าเบี้ยประกันที่มีจะต้องไม่เป็นเงินที่มีการรวมค่าเบี้ยประกันอย่างอื่นอันเป็นของสัญญาใด ๆ เพิ่มเติมและกรณีนี้จะต้องเป็นกรมธรรม์ที่ต้องมีผลประโยชน์ที่เป็นส่วนของผลตอบแทนคืนโดยผลตอบแทนเหล่านี้จะต้องเป็นเงินที่ไม่เกิน 20 % ของตัวเบี้ยประกันชีวิตแบบรายปีหรือตัวเบี้ยประกันสะสม

สำหรับกรณีค่าเบี้ยประกันที่เป็นส่วนของประกันสุขภาพบุคคลอันเป็นบิดาและมารดา ส่วนนี้ทางผู้ออมสามารถนำมาใช้ในการหักลดหย่อนได้ในลักษณะเท่าที่จ่ายไปตามเป็นจริงแต่ทั้งนี้ทั้งนั้นจะต้องไม่เกินไปกว่า 15,000 บาท สำหรับเงื่อนไข อาทิเช่น ผู้มีเงินได้นั้นจะต้องเป็นบุตรตามกฎหมายของบุคคลอันเป็นบิดามารดา, ตัวของบิดาและมารดานั้นจะต้องมีเงินได้ที่ไม่เกินไปกว่า 30000 บาท ฯลฯ

สำหรับกรณีค่าเบี้ยประกันในรูปแบบของส่วนบำนาญของตัวบุคคลอันเป็นผู้มีเงินได้ ส่วนนี้ทางผู้ออมสามารถนำมาใช้ในการหักลดหย่อนได้ในลักษณะเท่าที่จ่ายไปตามเป็นจริง (จะต้องไม่เกิน 15 % ของส่วนอันเป็นเงินได้) ต้องไม่เกินไปกว่า 200,000 บาท สำหรับเงื่อนไข อาทิเช่น ผู้มีเงินได้ยังคงได้รับผลประโยชน์ส่วนของเงินบำนาญได้ก็ต่อเมื่อบุคคลนั้นมีอายุ 55 ปีขึ้นไปเท่านั้นและจะต้องเป็นบุคคลที่ทำการชำระเงินครบถ้วนเรียบร้อยก่อนถึงวันได้รับผลประโยชน์, ผู้มีเงินได้สามารถได้รับผลประโยชน์ส่วนนี้ในลักษณะของรายงวดได้ตลอดระยะเวลาการมีชีวิต ฯลฯ