อย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่า ประกันรถยนต์ นั้นช่วยให้ความคุ้มครองแก่ผู้ทำประกัน ในกรณีที่รถยนต์ประสบอุบัติเหตุ หรือเกิดเหตุฉุกเฉิน รถหาย ไฟไหม้รถ แต่รู้หรือไม่ว่า ประกันรถยนต์ ก็มีข้อยกเว้นที่จะไม่ได้รับความคุ้มครองหรือรับผิดชอบจากบริษัทประกันภัยด้วยเช่นกัน ส่วนจะมีกรณีใดบ้างนั้น ตาม masii ไปหาคำตอบกันเลยค่ะ
ประกันรถยนต์ไม่คุ้มครอง กรณีใดบ้าง
1.เมาแล้วขับ
ผู้ที่มีแอลกอฮอล์ในเลือดเกินกว่า 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์แล้วมาขับรถ ถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ซึ่งนอกจากจะถูกตำรวจจับปรับฐานเมาแล้วขับ หากเกิดอุบัติเหตุใดๆ ขึ้นมา ประกันรถยนต์ก็ไม่คุ้มครองด้วยนะ
2. ขับรถแข่งความเร็ว
ประกันรถยนต์จะไม่คุ้มครองกรณีใช้รถยนต์ในการแข่งความเร็วที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งหากใครที่นำรถยนต์ไปใช้แข่งความเร็ว หรือขับซิ่ง เมื่อเกิดความเสียหายขึ้นมาจากเหตุดังกล่าว ก็จะไม่ได้รับความคุ้มครอง
3. ไม่มีใบขับขี่
ในกรณีนี้หมายถึงผู้ที่ไม่เคยทำใบขับขี่มาก่อน หรือเคยมีแต่ถูกตัดสิทธิ์ตามกฎหมาย เมื่อนำรถยนต์ไปใช้แล้วเกิดอุบัติเหตุก็จะไม่ได้รับคุ้มครองจากประกันรถยนต์ แต่หากมีใบขับขี่อยู่แล้ว แต่ลืมใบขับขี่ ใบขับขี่หาย หรือใบขับขี่หมดอายุ ก็ยังได้รับความคุ้มครองตามปกติ แต่ถ้าตำรวจเรียกตรวจก็อาจถูกปรับได้
4. นำรถยนต์ไปใช้ในทางผิดกฎหมาย
รถยนต์ที่ถูกนำไปใช้ผิดกฎหมาย นำไปปล้นทรัพย์ หรือขนสิ่งของผิดกฎหมาย หรือขนยาเสพติด แล้วเกิดอุบัติเหตุ หรือความเสียหายใดก็ๆ ตาม จะไม่ได้รับความคุ้มครองจากประกันรถยนต์
5. ความเสียหายที่เกิดจากการใช้งานหนัก หรือ รถเสื่อมสภาพตามอายุ
สำหรับเงื่อนไขนี้ เป็นสิ่งที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ตั้งแต่ต้น เพราะว่าประกันรถยนต์จะให้ความคุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นจากอุบัติเหตุ หรือเหตุฉุกเฉินตามที่ระบุไว้เท่านั้น
6. ขับออกนอกพื้นที่คุ้มครอง
การนำรถยนต์ไปใช้งานนอกประเทศไทย หรือนอกอาณาเขตพื้นที่คุ้มครองของประกันรถยนต์ เมื่อรถยนต์เกิดความเสียหายจะไม่ได้รับความคุ้มครองใดๆ จากประกันรถยนต์ เช่น กรณีขับรถไปเที่ยวหรือไปทำงานที่ประเทศเพื่อนบ้าน เป็นต้น
7. ใช้งานรถยนต์นอกเหนือจากที่จดกรมธรรม์ไว้
การใช้งานรถยนต์นอกเหนือจากที่จดกรมธรรม์ไว้ เช่น จดทะเบียนเป็นรถยนต์ส่วนบุคคล แต่นำไปใช้งานเชิงพาณิชย์ เช่น รถรับจ้าง หากเกิดอุบัติเหตุหรือมีความเสียหายใดๆ ก็จะไม่ได้รับความคุ้มครองจากประกันรถยนต์
8. นำรถไปลากจูง
การนำรถยนต์คันทำประกันไปใช้ลากจูงรถคันอื่น ก็ถือเป็นการใช้งานรถยนต์ผิดประเภทเช่นกัน อีกทั้งการลากจูงอาจทำให้รถยนต์เสียหาย โดยที่ไม่ได้เกิดจากการใช้งานรถยนต์แบบปกติ ยกเว้นรถลางจูงที่ได้ทำประกันไว้แล้วโดยเฉพาะ
9. กรณีเกิดสงคราม
ประกันรถยนต์ไม่คุ้มครองความเสียหายต่อตัวรถยนต์ที่เกิดจากการโดยยิงด้วยกระสุน ทุบรถ หรือระเบิด ขณะมีสงครามกลางเมือง
10. ปรมาณู
ประกันรถยนต์ไม่คุ้มครองความเสียหายต่อตัวรถยนต์ที่เกิดจากการโดนยิงขีปนาวุธ วัตถุอาวุธปรมาณู หรือนิวเคลียร์
11. กัมมันตภาพรังสีของเชื้อเพลิงปรมาณู
ประกันรถยนต์ไม่คุ้มครองความเสียหายต่อตัวรถยนต์ที่เกิดจากการกัมมันตภาพรังสีของเชื้อเพลิงปรมาณู หรือการระเบิดของปรมาณู ที่ส่งผลให้มีกัมมันตภาพรังสีรุนแรงกระจายทั่วพื้นที่โดยรอบ
เมื่อได้ทราบกันไปแล้วว่ามีกรณีใดบ้างที่ประกันรถยนต์ไม่จ่าย และไม่ให้ความคุ้มครองแก่ผู้ทำประกัน ก็คงทำให้เข้าใจเกี่ยวกับประกันรถยนต์มากขึ้น ที่สำคัญควรขับรถอย่างปลอดภัย ไม่ประมาท และหากใครสนใจอยากทำประกันรถยนต์แต่ไม่รู้จะเลือกแบบไหนดี สามารถ คลิกที่นี่ เพื่อเปรียบเทียบประกันรถยนต์กับเว็บไซต์มาสิได้ง่ายๆ
สนใจสมัครประกันรถยนต์
หรือหากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถโทร.มาสอบถามรายละเอียดได้ที่ 02 710 3100 หรือแอดไลน์มาเป็นเพื่อนกับเราที่ @masii (มี @ ด้วยนะ) เพื่อติดตามข่าวสารและบทความดีๆ เกี่ยวกับ ประกันรถยนต์ ประกันมอเตอร์ไซค์ ประกันภัยโดรน ประกันเดินทาง ประกันสุขภาพ รวมไปถึงสินเชื่อส่วนบุคคล และบัตรเครดิตจากสถาบันการเงินชั้นนำได้เลยค่ะ