หลังจากที่เป็นประเด็นบนโลกออนไลน์มาสักพัก หลังทนายคนดังออกมาโพสต์ถึงกรณีนักแสดงรุ่นใหญ่ตบหน้านักแสดงชายวัยรุ่น เหตุไม่ยอมไปกินปูด้วย กลางห้างที่ เกาหลี ทำให้ผู้คนต่าง ๆ ออกมาวิพากย์วิจารและคาดเดากันไปต่าง ๆ นา ๆ กว่านักแสดงทั้งสองเป็นใคร จนถึงขั้นเจ้าต้องออกมาชี้แจ้งเรื่องที่เกิดขึ้น แม้ประเด็นดังกล่าวที่เกิดขึ้น จะได้รับความสนใจในหมู่ของคนกลุ่มหนึ่งก็ตาม แต่ในวันนี้ มาสิ กลับไม่ได้เอาประเด็นดังกล่าวมาเล่าให้ฟังกันในครั้งนี้ ในทางกลับกัน วันนี้ มาสิ กลับยกประเด็นที่คาดว่าอาจจะเป็นหนึ่งในสาเหตุขอองการเกิดประเด็นในครั้งนี้ กับการไป กินปู ที่ประเทศเกาหลี ว่าแต่ทำไมปูที่นี่ถึงขึ้นชื่อ แล้วแตกต่างจากที่อื่นๆ อย่างไร จนใครก็ไม่อยากที่จะพลาดที่ไม่ได้กินกันไม่ได้ ว่าแล้วก็เตรียมพร้อมให้พร้อมแล้วไปหาคำตอบไปพร้อมกัน
6 ชนิดของ ปู ที่คนนิยมทาน
1.ปูยักษ์อลาสก้า
ปูอลาสก้าเป็นหนึ่งในปูที่ชื่อดังของโลกเลยก็ว่าได้ เพราะด้วยในเรื่องของความใหญ่และแพงมากๆ ถ้าถูกจับในทางตอนเหนือของทวีปยุโรปหรือบริเวณอลาสก้าก็จะเรียกว่า “ปูอลาสก้า” เพราะถิ่นที่อยู่อาศัยของพวกมันจะอยู่ในแถบทะเลแบริ่ง และอ่าวอลาสก้า (พื้นที่ทะเลระหว่างสหรัฐอเมริกาและรัสเซีย) และที่ทะเลแบริ่งนี้ก็มีความลึกมาเพราะใต้ทะเลมีหุบเหว มีความลึกเฉลี่ย 1,600 เมตร และยังมีอุณหภูมิที่ต่ำมาก อยู่ที่ 0 องศาเซลเซียส หรือติดลบเลยทีเดียว ความยากลำบากในการจับปูค่อนข้างสูง ซึ่งบวกกับสภาพอากาศของคลื่นทะเลและต้องต่อสู้กับอากาศที่หนาวเหน็บ ทั้งหมดนี้ก็เป็นสาเหตุว่าทำไม “ปูอลาสก้า” ถึงมีราคาแพงนัก แต่ว่ารสชาติของปูอลาสก้าก็ไม่น้อยหน้าใคร ทั้งเนื้อนุ่มหวานฉ่ำ แถมยังมีคุณค่าทางโภชนาการและไขมันต่ำด้วย จึงเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคทั่วโลกแม้ว่าจะต้องจ่ายหนักกว่ากินปูชนิดอื่น ซึ่งในแถบอลาสก้าจะมี King Crab อยู่ 3 สายพันธุ์ คือ Red King Crab, Blue King Crab และ Brown King Crab (Golden King Crab)
เมนูที่นิยมนำปูอลาสก้ามาประกอบอาหาร
เนื้อของเจ้าปูอลาสกานี้ สามารถนำไป Cookking ได้หลากหลายพอสมตวร แต่เมนูที่นิยมทำรับประทาน ก็เห็นจะมีแต่ การเอาไปนิ่งให้สุกจนเนื้อนุ่มฟู แน่นๆ หรือ ทานแบบซาชิมิ ก็นิยมมากๆ เพราะจะได้รสสัมผัสที่เด้ง หวาน หอม และอร่อยสุดๆ ไม่แพ้กับแบบนึ่งสุกเลย
2.ปูทาราบะ
ปูทาราบะก็คือปูอลาสก้า เพียงแต่อาศัยที่อยู่อาศัยจะอยู่ในน่านน้ำบริเวณของญี่ปุ่น และจะถูกจับทางตอนเหนือของญี่ปุ่นซึ่งจะถูกเรียกว่า “ปูทาราบะ” บางคนก็เรียก “ปูยักษ์ฮอกไกโด”
King Crab เป็นปูที่มีขนาดใหญ่มาก บางตัวมีน้ำหนักหลายสิบกิโลกรัมจนได้ชื่อว่าเป็นราชาแห่งปู อาศัยอยู่ในทะเลที่ค่อนข้างลึกและเย็นจัด ซึ่งการจับปูชนิดนี้ก็ไม่ได้แตกต่างปูอลาสก้าฝั่งยุโรปเลยแม้แต่น้อย เพราะเนื่องจากปูชนิดนี้อาศัยในอากาศที่หนาวจัด อุณหภูมิติดลบ เพราะฉะนั้นความยากลำบากในการออกเรือเดินทางไปจับ ก็มีมากไม่น้อยเลยทีเดียว นอกจากนี้ เจ้าปูทาราบะยังมีแบ่งออกเป็น 2 สายพันธุ์ นั่นก็คือ สายพันธุ์ Red King Crab (ทาราบะกานิ) และ Blue King Crab (อะบุระกานิ) สายพันธุ์ที่เป็นที่นิยมจะเป็น Red King Crab เนื่องจากมีสีสันและรสชาติที่ดีกว่า (ราคาก็แพงกว่าด้วยนะ) วิธีสังเกต Red King Crab ไม่ยากปูชนิดนี้จะมีสีน้ำตาลแดงหรือน้ำตาลค่อนข้างเข้ม เมื่อปรุงสุกแล้วจะมีสีแดงสด ส่วน Blue King Crab จะมีสีเขียวหรือฟ้าน้ำทะเล เมื่อปรุงสุกแล้วจะมีสีส้มอ่อน ๆ
เมนูที่นิยมนำปูทาราบะมาประกอบอาหาร
ปูทาราบะนี้ ยิมนำมาทำเป็นซูชิ หรือ นำมาย่างถ่านก็หอมอร่อยไม่เบา เพราะเนื้อจะแน่นและหวานมากอยู่แล้ว หรือจะนำเนื้อปูมาใส่ในซุปก็ให้รสชาติหวาน กลมกล่อม อร่อย
3.ปูชูไว,ปูหิมะ หรือ Snow Crab
ปูชนิดนี้อาศัยอยู่ในน้ำที่เย็นจัดของญี่ปุ่น ปูชนิดนี้จะตัวเล็กกว่าปูทาราบะเล็กน้อย และจับได้เยอะกว่าปูทาราบะทำให้ราคาของปูชูไวถูกกว่า แต่ด้านของความอร่อยไม่แพ้กันเลยทีเดียวโดยเฉพาะปูตัวผู้ที่มีเนื้อเยอะกว่าปูตัวเมีย ทำให้ปูตัวผู้แพงกว่าปูตัวเมีย ปูชูไวที่นิยมกินมากทั้งส่วนเนื้อ (โดยเฉพาะขาปู) ไข่ และมันปู (kanimiso)
เมนูที่นิยมนำปูทาราบะมาประกอบอาหาร
ปูชนิดนี้จะนิยมทานแบบ ซาชิมิ โดยเฉพาะเนื้อบริเวณกล้าม หรือจะนำปูไปประกอบอาหารพวกซุป ต้มทั้งตัวหรือหม้อไฟแบบชาบูก็อร่อยไม่แพ้กัน
4.ปูขน หรือ Hair Crab, Horsehair Crab
ปูขนเป็นญี่ปุ่นอีกชนิด ที่มีชื่อเรียกเยอะเหลือเกิน ทั้ง Mokuzugani, Mokuzou, Zugani, Tsugani และ Kegani ซึ่งเป็นชื่อที่นิยมเรียกกันทั่วไป ปูชนิดนี้จะจับได้ปริมาณมากในช่วงฤดูในไม้ร่วงและฤดูหนาวเช่นกัน และจะจับได้เยอะในแถบแหลมอิซุ จังหวัดชิซุโอกะ ปูขนมีลักษณะเฉพาะก็คือมีขนเล็กๆ
เมนูที่นิยมนำปูทาราบะมาประกอบอาหาร
ปูขน ดูภายนอกมีลักษณะที่ยากต่อการแกะมาทาน เพราะมีหนามปกคลุมทั่วตัวทำให้ยากในการกิน แต่เพราะปูขนนั้นมีรสชาติที่หวาน มีความชุ่มช่ำเลยทำให้คนญี่ปุ่นเลือกทานปูชนิดนี้ ปูขนนี้ นิยมนำมาทำซุปก็หอม หรือใส่ในซุปมิโสะ ต้มหรือนึ่งเพื่อเอาเนื้อไปปรุงในเมนูอื่นๆก็ได้เช่นกัน
5.ปูแมงมุม หรือ Spider Crab
ปูที่มีขนาดใหญ่ที่สุดที่ถูกจับได้ในญี่ปุ่น ตัวโตเต็มวัยอาจมีขายาวได้ถึงราว 4 เมตร เฉพาะลำตัวอาจจะกว้างได้ถึง 37 ซ.ม. หนักได้เกือบ 20 ก.ก. กระดองและขามีสีส้ม และมีจุดสีขาวกระจายอยู่ทั่วไป จะอาศัยอยู่ในบริเวาณน่านน้ำรอบๆประเทศญี่ปุ่น โดยเฉพาะในแถบจังหวัดชิซุโอกะ ปัจจุบันจำนวนของปูแมงมุมลงลดเหลือน้อยมากทำให้ต้องมีการเพาะเลี้ยงก่อนแล้วจึงปล่อยลงสู่ทะเล
เมนูที่นิยมนำปูทาราบะมาประกอบอาหาร
เมนูนำมาประกอบอาหารแล้วอร่อยสุดๆ ในญี่ปุ่นปูแมงมุมถือเป็นอาหารชั้นดี รสชาติดีเยี่ยม และมีราคาแพงมากๆ ส่วนการประกอบอาหารก็จะนิยมนำไปนึ่ง ทอดเป็นเทมปุระ ทำซูชิและซาชิมิ
6.ปูนิ่ม
ปูนิ่ม (Soft-Shell Crab) คือ ปู ที่ถูกนำมาเลี้ยงจนกระทั่งลอกคราบ เมื่อลอกคราบใหม่ๆ กระดองปูจะนิ่มจนรับประทานได้ทั้งกระดอง เป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนการ มีปริมาณแคลเซี่ยมสูง คอเลสเตอรอลต่ำ ต้นทางของการทำปูนิ่มส่วนมากมาจากจังหวัดชายฝั่งอันดามัน เช่น ระนอง หรือสตูล พื้นที่ที่มีการทำฟาร์มปูนิ่มจะคล้ายกับการทำฟาร์มกุ้งคือมีบ่อขนาดใหญ่เรียงรายกันอยู่เป็นจำนวนมาก แต่ที่แตกต่างจากการเลี้ยงกุ้งคือจะมีตะกร้าใบเล็กๆวางเรียงรายกันเป็นแพอยู่เต็มบ่อ แต่จริงๆแล้ว ปูอื่นๆสามารถนำมาทำปูนิ่มได้เช่นกัน
เมนูที่นิยมนำปูทาราบะมาประกอบอาหาร
ปูนิ่มสามารถกินทั้งเปลือกได้ เพราะฉนั้นคนจะชอบนำมาชุบแป้งทอดทำเป็นสลัดหรือ มาผัดเป็นปูนิ่มผัดผงกะหรี่ หรือถ้าเป็นอาหารญี่ปุ่นก็นิยมนำมาสอดไส้เป็นโรลต่างๆ เพราะให้รสชาติที่อร่อย เป็นปูที่สารพัดเมนูมากๆ บางคนก็นมยมทานแบบนึ่ง ให้รสชาติหวานๆ
ทำไมต้อง “กินปู” ที่ เกาหลี
เมนู กินปู ที่เกาหลี กลายเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด เนื่องจากการกินปูที่ว่านี้ไม่เหมือนปูทะเลทั่วไปแบบที่เราคุ้นเคย แต่เป็น King Crab หรือ ปูยักษ์ ที่มีขนาดตัวพอๆ กับลูกฟุตบอล พร้อมด้วยขาและก้ามขนาดใหญ่ จึงทำให้มีเนื้อและมันปูในปริมาณเยอะมาก เรียกได้ว่าเป็นสวรรค์ของคนชอบกินปูและชอบซีฟู้ดเลยทีเดียว
สำหรับวิธีการ กินปู ที่เกาหลี คือนำเจ้าปูยักษ์ที่ว่านี้ไปนึ่งทั้งตัวแล้วทางร้านจะแกะเปลือก ขา ก้าม พร้อมมันปูมาให้เราพร้อมทาน โดยมีอุปกรณ์คือถุงมือพลาสติกและเหล็กแท่งยาวสำหรับใช้เป็นไม้เกี่ยวเนื้อปูที่อยู่ในขาหรือในก้ามแล้วดึงออกมากินได้อย่างง่ายดายโดยไม่เลอะเทอะเปรอะเปื้อน โดยส่วนมากชาวเกาหลีจะกินปูแบบเปล่าๆ โดยไม่จิ้มน้ำจิ้มเหมือนบ้านเรา เพื่อลิ้มรสความสดใหม่ของรสชาติปูยักษ์
ส่วนรสชาติของการกินปูที่เกาหลีนั้นจะแตกต่างจากปูม้าบ้านเรา เพราะไม่มีรสชาติหวานแบบเนื้อปูม้าที่เราคุ้นเคย แต่จุดเด่นคือมีเนื้อสัมผัสที่แน่น เด้ง ฉ่ำ เคี้ยวเพลิน หากใครชอบรสจัดและกลัวเลี่ยนแนะนำว่าควรพกน้ำจิ้มซีฟู้ดแบบสำเร็จรูปติดไปด้วยเพื่อเพิ่มรสชาติความแซ่บและทำให้การกินปูที่เกาหลีเอร็ดอร่อยยิ่งขึ้น
นอกจากเนื้อปูที่อร่อยแล้ว ยังมีในส่วนของมันปูที่ทางร้านจะนำมาทำเป็นข้าวผัดมันปู โดยผัดเข้ากับข้าวเกาหลีแล้วใส่เนื้อปู หอมหัวใหญ่ งาขาว น้ำมันงา ปรุงรสให้กลมกล่อมแล้วโรยหน้าด้วยสาหร่ายทะเล ซึ่งชาวเกาหลีมักจะกินคู่กับซอสโคชูจัง แต่คนไทยสายแซ่บแบบเรา แนะนำว่ากินคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดคือเด็ดมาก ต้องไปลอง
หากมาเที่ยวเกาหลีใต้แล้วอยากลอง กินปู ดูสักครั้ง ที่นี่มีหลายร้านให้เลือก ทั้งในกรุงโซลหรือเมืองปูซานก็สามารถค้นหาร้านที่มีเมนูปูยักษ์นี้ได้ไม่ยาก สำหรับราคาจะคิดตามน้ำหนักตัว ซึ่งเมื่อเทียบกับขนาดและปริมาณแล้วก็ถือว่าคุ้มค่า
ขอขอบคุณ : Fun-Japan และ ไทยรัฐออนไลน์
ทั้งนี้ ไม่ว่าจุดหมายปลายทางจะเป็นที่ไหน เป้าหมายการเดินทางจะเป็นอย่างไร เรื่องของเอกสารและการเตรียมความก็เป็นเรื่องที่เราควรใส่ใจ แต่จะดีขึ้นไปอีกหรือไม่หากเรามีการเตรียมพร้อมรับมือกับทุกปัญหาที่อาจจะขึ้นระหว่างการเดินกับ iTravel ประกันเดินทางต่างประเทศ จาก Tune Protect ที่ให้ความคุ้มครองครบ ไม่ว่าจะเจ็บป่วย ไฟลท์ยกเลิก ตกเครื่อง ถูกยกเลิกการเดินทาง หรือ ของสูญหาย ให้คุณสนุกกับการท่องเที่ยวได้อย่างเต็มที่ พร้อมดูแลคุณตลอด 24 ชั่วโมง
iTravel ประกันเดินทางต่างประเทศ จาก Tune Protect
ไฮไลท์แผนความคุ้มครอง
- ไฟลท์ยกเลิก ตกเครื่อง หรือ ถูกยกเลิกการเดินทาง
- ให้ความคุ้มครองตลอด 24 ชั่วโมงทั่วโลก ทั้งการบาดเจ็บ, ทุพพลภาพ การเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ รวมทั้งค่าใช้จ่ายในการเคลื่อนย้ายฉุกเฉิน
- ทุกแผนคุ้มครองการรักษาจากไวรัส COVID-19
- ได้รับการรับรองจากสถานทูตใช้ยื่นขอวีซ่าเชงเก้น (Schengen)
- เงินชดเชย กรณียื่นวีซาไม่ผ่าน*
- คุ้มครองทรัพย์สินภายในที่อยู่อาศัยขณะเดินทาง
- ความคุ้มครองเมื่อเจ็บป่วย มีอุบัติเหตุฉุกเฉิน ขณะอยู่ต่างประเทศ
- ค่ารักษาพยาบาลขณะอยู่ต่างประเทศ สูงสุด 4,000,000 บาท*
- คุ้มครองอุบัติเหตุและการเสียชีวิต สูงสุด 5,000,000 บาท*
- ความช่วยเหลือฉุกเฉินทั่วโลกตลอด 24 ชม
- ไม่ต้องสำรองจ่าย ในเครือโรงพยาบาล ทั่วโลก
เงื่อนไขและรายละเอียดความคุ้มครอง
- คุ้มครองการเดินทางรายเที่ยว
1.1. ผู้เอาประกันภัยต้องซื้อประกันอย่างน้อย 1 ชั่วโมงก่อนออกเดินทางจากประเทศไทย
1.2. สามารถซื้อกรมธรรม์ล่วงหน้าได้ 8 เดือน
2.ความคุ้มครองการเดินทางรายปี – คุ้มครองการเดินทางได้หลายครั้ง โดยแต่ละครั้งการเดินทางสูงสุดไม่เกิน 180 วัน
3.ไม่อนุญาตให้ขยายระยะเวลาคุ้มครอง
4.ผู้เอาประกันภัยต้องเดินทางออกจากประเทศไทย
5.กรณีวันที่ซื้อประกันภัยและวันที่มีผลใช้บังคับเหมือนกัน กรมธรรม์จะเริ่มทันทีหลังจากชำระเบี้ยประกันภัยสำเร็จ
6.การยกเลิกกรมธรรม์:
6.1. ความคุ้มครองการเดินทางครั้งเดียว – ในกรณีที่มีการยกเลิกหลังจากออกกรมธรรม์แล้ว เบี้ยประกันภัยจะไม่ได้รับคืน เว้นแต่ผู้เอาประกันภัยจะไม่ได้รับการอนุมัติวีซ่า
6.2. ความคุ้มครองการเดินทางรายปี – ผู้เอาประกันภัยและบริษัทสามารถยกเลิกกรมธรรม์ได้ตามเงื่อนไขกรมธรรม์
- ผู้ที่สามารถใช้บริการ Health2GO ได้คือ ลูกค้าที่ถือกรมธรรม์ของ Tune Protect Thailand โดยมีบริการ Health2GO ตามแผนประกันที่ท่านเลือกไว้ และใช้บริการได้ 1 สิทธิ์ต่อ 1 กรมธรรม์* (เป็นไปตามบริษัทกำหนด) โดยท่านสามารถใช้บริการ Health2GO ได้ในวันถัดไปหลังได้รับกรมธรรม์
เกณฑ์การพิจารณารับประกันภัย
- อายุ 1 ปี – 85 ปี
- สัญชาติไทย หรือ ชาวต่างชาติที่มีถิ่นที่อยู่ปัจจุบันอยู่ในประเทศไทย
- สูงสุด 1 กรมธรรม์ต่อผู้เอาประกันภัยแต่ละรายต่อระยะเวลาคุ้มครอง
- บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ไม่รับประกันภัยสำหรับผู้ที่ทำงานในสถานที่ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น อาคารสูง แท่นขุดเจาะน้ำมันหรือก๊าซธรรมชาติ เหมืองใต้ดิน หรือแรงงานในงานก่อสร้างประมง เก็บผลไม้ หรืองานเครื่องจักรกลขนาดใหญ่
- ผู้สมัครจะต้องมีสุขภาพแข็งแรง
- ผู้สมัครให้ความยินยอมและอนุญาตให้สถานพยาบาลรวมทั้งโรงพยาบาลและคลินิก เจ้าหน้าที่ของบริษัทประกันภัยหรือหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องเปิดเผยข้อมูลแก่ Tune Protect ประเทศไทย เมื่อได้รับทำการสอบถามเกี่ยวกับผู้สมัคร
ประเทศที่ยกเว้น
อัฟกานิสถาน, อาเซอร์ไบจาน, คิวบา, อิหร่าน, อิรัก, อิสราเอล, คีร์กีซสถาน, เลบานอน, ลิเบีย, เนปาล, นิการากัว, เกาหลีเหนือ, ปากีสถาน, ปาเลสไตน์, ซีเรีย, ทาจิกิสถาน, เติร์กเมนิสถาน, อุซเบกิสถาน
สนใจทำ iTravel ประกันเดินทางต่างประเทศ จาก Tune Protect
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถโทรมาสอบถามรายละเอียดต่างๆ ได้ที่ 02 710 3100 หรือแอดไลน์ @masii ( มี @ ด้วยนะ ) เพื่อติดตามข่าวสารและบทความดีๆ ที่ มาสิบล็อก เกี่ยวกับ ประกันวินาศภัย ประกันรถยนต์ ประกันรถมอเตอร์ไซด์ ประกันสุขภาพ ประกันโดรน ประกันการเดินทาง ประกันอุบัติเหตุ ประกันภาคธุรกิจ และพ.ร.บ. รวมทั้ง ผลิตภัณฑ์ทางการเงินจากสถาบันการเงินชั้นนำทั่วประเทศ
อ่านบทความที่น่าสนใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ประกันการเดินทาง
-
เริ่มแล้ววันนี้! แพ็กกระเป๋าให้พร้อม ไต้หวัน ฟรีวีซ่าให้คนไทย พักได้ 14 วัน
-
สายลุยห้ามพลาด! อุทยานแห่งชาติ ดอยภูคา เปิดรับผู้ที่สนใจเดินป่าเด่นช้างนอน
-
masii ชวนรู้! 10 ของต้องห้ามขึ้นเครื่องบิน มีอะไรบ้าง เช็กให้ดีก่อนเดินทาง
-
masii ไขข้อข้องใจ… ประกันการเดินทาง ให้ค่าชดเชย เมื่อ ไฟลต์บินดีเลย์ ด้วยหรือไม่ ?
_____________________________________________
Please become Masii Fan !!
Facebook: www.facebook.com/MasiiThailand
Website: www.masii.co.th
Blog: https://blog.masii.co.th/
Line : @masii
Tel: 02 710 3100
Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCV-5rpO5ZqAGfgLdKqzKGFw
Instagram: www.instagram.com/masii_thailand/
Twitter: twitter.com/MasiiGroup
#ประกันสุขภาพ #ประกันโควิด #ประกันไข้เลือดออก #ประกันการเดินทาง
#สินเชื่อส่วนบุคคล #บัตรกดเงินสด #สินเชื่อส่วนบุคคลออนไลน์ #กู้เงิน
#เงินสด #เงินก้อน #เงินกู้ทันใจ #เงินด่วน #เงินด่วนทันใจ
#ประกันภัยโดรน #ประกันโดรน #ลงทะเบียนโดรน #ขึ้นทะเบียนโดรน #Dronethailand
#ประกันรถยนต์ #ประกันรถยนต์ชั้น1 #สมัครประกันรถยนต์ #ประกันรถที่คุ้มที่สุด
#masii #มาสิ #ครบง่ายสะดวก #เพื่อความสุขในชีวิตที่ดีกว่า
#ครบง่ายสะดวกเพื่อความสุขในชีวิตที่ดีกว่า #SimplifiedComparison