อุบัติเหตุบนท้องถนน เป็นเรื่องที่ไม่ว่าใครก็คงไม่อยากให้เกิดขึ้น เพราะเมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นในแต่ละครั้งย่อมนำมาซึ่งความเสียหายทั้งต่อร่างกายและทรัพย์สิน ซึ่งทาง พ.ร.บ.รถยนต์ ได้ให้ความคุ้มครองแก่ผู้ประสบภัยจากรถ เป็นค่าเสียหายเบื้องต้น และค่าสินไหมทดแทน ต่อความสูญเสียที่เกิดขึ้นต่อชีวิตและร่างกาย แต่ในกรณีที่รถยนต์คันที่เกิดอุบัติเหตุของคู่กรณี ไม่มี พ.ร.บ.รถยนต์ แบบนี้จะยังสามารถเรียกร้องอะไรได้บ้าง เราตาม masii ไปหาคำตอบกันเลยค่ะ
คู่กรณีไม่มี พ.ร.บ. ต้องทำอย่างไร
การทำ พ.ร.บ. รถยนต์ ถือเป็นการทำประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ ที่จะช่วยคุ้มครองผู้ประสบภัยจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ซึ่งรวมทั้งผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร และบุคคลภายนอก แต่หากรถยนต์ของคู่กรณีที่ประสบอุบัติเหตุร่วมกับเราไม่มี พ.ร.บ. รถยนต์ จะต้องทำอย่างไร สามารถเบิกประกันพ.ร.บ. ในส่วนใดบ้าง มาสิของแยกตอบเป็นกรณีดังนี้
คู่กรณี ไม่มี พ.ร.บ. เป็นฝ่ายถูก
หากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น คู่กรณีเป็นฝ่ายถูก และเราเป็นฝ่ายผิด เช่น ถูกรถของเราชนจนอีกฝ่ายได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต แม้ว่ารถยนต์ของคู่กรณี จะไม่มี พ.ร.บ. รถยนต์ ก็ยังคงได้รับความคุ้มครองจาก พ.ร.บ. ของอีกฝ่าย ในฐานะผู้ประสบภัย ซึ่งสามารถเรียกร้องค่าเสียหายเบื้องต้นได้จากกองทุนทดแทนผู้ประสบภัย เป็นค่ารักษาพยาบาลตามจริง ไม่เกิน 30,000 บาท หรือเงินชดเชยกรณีเสียชีวิต 35,000 บาท
คู่กรณี ไม่มี พ.ร.บ. เป็นฝ่ายผิด
แต่หากอุบัติเหตุดังกล่าว เราถูกคู่กรณีชนจนได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต เราก็ยังได้รับความคุ้มครองจาก พ.ร.บ.รถยนต์ เป็นค่าเสียหายเบื้องต้น และค่าสินไหมทดแทนจากกองทุนทดแทนผู้ประสบภัยจากรถ โดยในภายหลังทางกองทุนทดแทนจะไปไล่เบี้ยจากฝั่งคู่กรณีที่ไม่มี พ.ร.บ. และบวกเงินเพิ่มอีก 20% พร้อมค่าปรับที่นำรถยนต์ไม่มี พ.ร.บ. มาใช้ เป็นเงินไม่เกิน 10,000 บาท ส่วนความเสียหายที่เกิดขึ้นกับคู่กรณี จะไม่สามารถเบิกเงินชดเชยกับทาง พ.ร.บ. ได้ เพราะรถยนต์ที่นำมาใช้ไม่มี พ.ร.บ. รถยนต์ แต่จะสามารถใช้สิทธิการรักษากับประกันที่ได้ทำไว้ เช่น ประกันสังคม ประกันสุขภาพ ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล
ไม่มี พ.ร.บ. ทั้งคู่
แต่ถ้าในอุบัติเหตุ ต่างฝ่ายต่างไม่มี พ.ร.บ. รถยนต์ ผู้ประสบภัยที่เป็นฝ่ายถูกสามารถเรียกร้องค่าเสียหายจากคู่กรณีที่เป็นฝ่ายผิดได้ก่อน แต่หากอีกฝ่ายไม่จ่าย หรือจ่ายไม่ครบ สามารถใช้สิทธิเบิกจากกองทุนเงินทดแทนผู้ประสบภัยได้เฉพาะค่าเสียหายเบื้องต้นเท่านั้น
จะเห็นว่า พ.ร.บ. รถยนต์ นั้นนอกจากจะเป็นสิ่งที่กฎหมายกำหนดแล้ว ยังให้ความคุ้มครองแก่ผู้ประสบภัยเป็นค่าเสียหายเบื้องต้นและค่าสินไหมทดแทนเพิ่มเติม ซึ่งถือว่าเป็นประโยชน์และช่วยแบ่งเบาภาระให้แก่ผู้ประสบภัยได้เป็นอย่างมาก อย่างไรแล้วผู้ขับขี่รถยนต์ อย่าปล่อยให้ พ.ร.บ.รถยนต์ หมดอายุ เด็ดขาด โดยสามารถทำการ ต่ออายุ พ.ร.บ. รถยนต์ ล่วงหน้า 3 เดือน
สนใจสมัครประกันรถยนต์
หรือหากใครต้องการความคุ้มครองเพิ่มเติม สามารถทำประกันรถยนต์ได้โดย คลิกที่นี่ เพื่อสมัครประกันรถยนต์หรือเปรียบเทียบประกันรถยนต์กับเว็บไซต์มาสิได้ง่ายๆ หรือโทร.มาสอบถามข้อมูลได้ที่ 02 710 3100 หรือแอดไลน์มาที่ @masii (มี @ ด้วยนะ) เพื่อติดตามข่าวสารและบทความดีๆ เกี่ยวกับ พ.ร.บ. รถยนต์ ประกันรถยนต์ ประกันมอเตอร์ไซค์ ประกันการเดินทาง ประกันภัยโดรน รวมไปถึง สินเชื่อส่วนบุคคลและบัตรเครดิตได้เลยค่ะ
