ประกันรถยนต์ เป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับผู้ขับขี่รถยนต์ในปัจจุบัน เพราะว่าช่วยให้ความคุ้มครองในกรณีที่รถยนต์เกิดอุบัติเหตุจนเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายต่อตัวผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร รถยนต์คันทำประกัน และบุคคลภายนอก ซึ่งประกันรถยนต์นั้นมีหลายประเภท แต่เราจะเลือกประกันรถยนต์แบบไหนให้เหมาะกับตัวเองดีละก็ ตาม masii ไปหาคำตอบกันเลยค่ะ
เลือกประกันรถยนต์แบบไหนให้เหมาะกับตัวเอง
สำหรับ ประกันรถยนต์ ในปัจจุบัน มีด้วยกันหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น ประกันรถยนต์ชั้น 1, ประกันรถยนต์ชั้น 2+, ประกันรถยนต์ชั้น 3+ และประกันรถยนต์ชั้น 3 ซึ่งแต่ละประเภทก็ให้ความคุ้มครองแตกต่างกัน ดังนี้
ความคุ้มครองประกันรถยนต์ชั้น 1
- ความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อชีวิต ร่างกาย และอนามัยของผู้เอาประกันและคู่กรณี
- ความเสียหายต่อรถยนต์ของผู้เอาประกันและคู่กรณี
- คุ้มครองรถยนต์คันเอาประกัน แม้เกิดอุบัติเหตุแบบไม่มีคู่กรณี เช่น ขับรถชนเสาไฟฟ้า หินดีด กระจกร้าว ยางแตก
- คุ้มครองคุ้มครองอุบัติเหตุส่วนบุคคล และค่ารักษาพยาบาลสำหรับผู้ขับขี่ และผู้โดยสาร
- คุ้มครองกรณีรถหาย ไฟไหม้
- คุ้มครองเงินประกันตัวผู้ขับขี่ในคดีอาญา
ความคุ้มครองประกันรถยนต์ชั้น 2+
- ความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อชีวิต ร่างกาย และอนามัยของผู้เอาประกันและคู่กรณี
- ความเสียหายต่อรถยนต์ของผู้เอาประกันและคู่กรณี (แต่จะซ่อมรถคันเอาประกันก็ต่อเมื่อเกิดจากกรณีรถชนรถเท่านั้น)
- คุ้มครองอุบัติเหตุส่วนบุคคล และค่ารักษาพยาบาลสำหรับผู้ขับขี่ และผู้โดยสาร
- คุ้มครองกรณีรถหาย ไฟไหม้
- คุ้มครองเงินประกันตัวผู้ขับขี่ในคดีอาญา
ความคุ้มครองประกันรถยนต์ชั้น 3+
- ความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อชีวิต และร่างกาย ของผู้เอาประกันและคู่กรณี
- ความเสียหายต่อรถยนต์ของผู้เอาประกันและคู่กรณี (แต่จะซ่อมรถคันเอาประกันก็ต่อเมื่อเกิดจากกรณีรถชนรถเท่านั้น)
- คุ้มครองอุบัติเหตุส่วนบุคคล และค่ารักษาพยาบาลสำหรับผู้ขับขี่ และผู้โดยสาร
- คุ้มครองเงินประกันตัวผู้ขับขี่ในคดีอาญา
- ไม่คุ้มครองกรณีรถหาย ไฟไหม้
ความคุ้มครองประกันรถยนต์ชั้น 3
- คุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สินเฉพาะของคู่กรณีเท่านั้น
- ไม่คุ้มครองความเสียหายของรถยนต์คันเอาประกัน
- ไม่คุ้มครองกรณีรถหาย ไฟไหม้
- คุ้มครองค่ารักษาพยาบาล และค่าชดเชยอุบัติเหตุส่วนบุคคลของผู้ขับขี่ และผู้โดยสาร
- คุ้มครองเงินประกันตัวผู้ขับขี่ในคดีอาญา
ประกันรถยนต์แต่ละประเภทก็จะมีความคุ้มครองที่แตกต่างกัน ทำให้มีเบี้ยประกันที่ต่างกันไปด้วย ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับว่าเราจะเลือกประกันรถยนต์แบบไหนให้เหมาะกับตัวเอง รวมถึงเลือกให้เหมาะกับลักษณะการใช้รถยนต์มากที่สุด ซึ่งมาสิได้ลองยกตัวอย่างมาให้เพื่อนๆ ได้ดูกัน ดังนี้
ประกันรถยนต์สำหรับมือใหม่หัดขับ
สำหรับมือใหม่หัดขับรถ แนะนำว่าควรทำประกันรถยนต์ชั้น 1 ไปเลย เพราะว่าให้ความคุ้มครองได้ครอบคลุมที่สุด ไม่ว่าจะเกิดอุบัติเหตุแบบไม่มีคู่กรณี เช่น ขับรถชนรั้ว ถอยหลังชนเสา รถชน รถเฉี่ยว ฯลฯ ยังไงก็ยังคงได้รับความคุ้มครองแน่นอน
ประกันรถยนต์สำหรับรถป้ายแดง
โดยส่วนใหญ่เวลาออกรถใหม่ ทางโชว์รูมมักแถมประกันรถยนต์ชั้น 1 ให้กับผู้ซื้ออยู่แล้ว แต่หากไม่ได้รับโปรโมชั่นดังกล่าว ก็แนะนำว่าทำประกันชั้น 1 ไว้เลยก็ดีกว่า หรือจะเลือกเป็นประกันรถยนต์ชั้น 2+ ก็ไม่ต่างกันมากนัก แต่ประกันชั้น 2+ จะคุ้มครองค่าซ่อมรถคันเอาประกัน เมื่อชนกับรถด้วยกันเท่านั้น หากใครรู้ตัวว่ามีความเสี่ยงน้อยที่จะขับรถเฉี่ยวชนเองละก็ เลือกประกันรถยนต์ชั้น 2+ ก็ถือว่าคุ้มค่า
ประกันรถยนต์สำหรับรถเก่า
สำหรับใครที่ใช้รถยนต์ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 7 ปี หรือ 10 ปีขึ้นไป บางบริษัทก็อาจไม่รับทำประกันรถยนต์ชั้น 1 ให้ ซึ่งแนะนำว่าให้เลือก ประกันรถยนต์ชั้น 2+ ประกันรถยนต์ชั้น 3+ ที่คุ้มครองทั้งเขาทั้งเรา แต่จะคุ้มครองค่าซ่อมรถเมื่อเกิดอุบัติเหตุแบบมีคู่กรณีเท่านั้น หรือหากอยากประหยัดงบ ก็เลือก ประกันรถยนต์ชั้น 3 ที่คุ้มครองเฉพาะคู่กรณีก็ได้เหมือนกัน
เมื่อเพื่อนๆ ได้ทราบกันไปแล้วว่าควรเลือกประกันรถยนต์แบบไหนให้เหมาะกับตัวเองละก็ หากใครสนใจอยากทำประกันรถยนต์ก็สามารถ คลิกที่นี่ เพื่อเปรียบเทียบประกันรถยนต์กับเว็บไซต์มาสิได้ง่ายๆ
สนใจสมัครประกันรถยนต์
หรือหากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถโทร.มาสอบถามรายละเอียดได้ที่ 02 710 3100 หรือแอดไลน์มาเป็นเพื่อนกับเราที่ @masii (มี @ ด้วยนะ) เพื่อติดตามข่าวสารที่น่าสนใจเกี่ยวกับประกันรถยนต์ ประกันมอเตอร์ไซค์ ประกันบิ๊กไบค์ ประกันภัยโดรน ประกันภัยร้านกาแฟ รวมไปถึงสินเชื่อส่วนบุคคล และบัตรเครดิตจากสถาบันการเงินชั้นนำได้เลย