ต้องบอกเลยว่า ประกันรถยนต์ นั้นถือเป็นสิ่งที่สำคัญและจำเป็นสำหรับผู้ใช้รถใช้ถนนในปัจจุบันเป็นอย่างมาก เพราะประกันรถยนต์นั้นให้ความคุ้มครองต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อร่างกายและทรัพย์สินของผู้เอาประกัน รวมไปถึงผู้โดยสาร คู่กรณีและบุคคลภายนอก ซึ่งประกันรถยนต์นั้นมีให้เลือกหลายประเภท หลายความคุ้มครอง และมีค่าเบี้ยประกันต่างกันไป วันนี้ masii ก็มี เทคนิค หาประกันรถยนต์ที่คุ้มที่สุด มาฝากกัน ไปดูกันเลยว่ามีอะไรบ้าง
เทคนิค หาประกันรถยนต์ที่คุ้มที่สุด
1. ค่าเบี้ยประกันรถยนต์
สำหรับราคาค่าเบี้ยประกันรถยนต์นั้นจะถูกหรือแพง ขึ้นอยู่กับประเภทของประกันภัยซึ่งให้ความคุ้มครองและทุนประกันที่แตกต่างกันไปตามแต่ละกรมธรรม์ ทั้งยังขึ้นอยู่กับอายุ และรุ่นของรถยนต์คันที่ทำประกันด้วย โดยประกันรถยนต์ส่วนใหญ่มีราคาตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักหมื่น อย่างไรก็ควรหาประกันรถยนต์ที่มีเบี้ยประกันที่เหมาะสมกับการใช้งานและสภาพรถยนต์ของเราให้มากที่สุด หากไม่ค่อยขับรถบ่อยเท่าไรนัก อาจเลือกทำประกันรถยนต์ชั้น2+ หรือประกันรถยนต์ชั้น 3+ ก็จะถูกกว่าประกันรถยนต์ชั้น1 แต่ให้ความคุ้มครองไม่ต่างกันมากนัก
2. ทุนประกันภัยที่ได้รับ
เมื่อเลือกประเภทของประกันรถยนต์ได้แล้ว ลองเลือกเปรียบเทียบระหว่างประกันรถยนต์ประเภทเดียวกันของแต่ละบริษัท ว่าแต่ละที่มีค่าเบี้ยเท่าไร และได้รับทุนประกันภัยเท่าไร ซึ่งทุนประกันภัย ก็คือ ค่าสินไหมทดแทนที่ผู้เอาประกันจะได้รับจากบริษัทประกัน ในกรณีที่เกิดความเสียหายต่อร่างกายและทรัพย์สินของผู้เอาประกันภัยนั่นเอง ซึ่งคุณอาจเลือกหาประกันรถยนต์ที่ให้ทุนประกันเหมาะสมกับรถยนต์ของเรามากที่สุด หากมีรถป้ายแดง ก็ควรเลือกทำประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่มีทุนสูงประกันสูงกว่าประกันรถยนต์ประเภทอื่นๆ
3. ความคุ้มครองของประกันรถยนต์
นอกจากเราจะเลือกประกันภัยรถยนต์จากทุนประกันภัยที่ได้รับแล้ว ความคุ้มครองของประกันรถยนต์ก็เป็นอีกสิ่งที่ผู้ซื้อควรเลือกเปรียบเทียบให้ดีๆ เพราะประกันรถยนต์ของแต่ละบริษัทก็จะมีความคุ้มครองและเงื่อนไขยกเว้นที่แตกต่างกันไป ซึ่งขึ้นอยู่กับประเภทของประกันรถยนต์ด้วย เช่น ประกันรถยนต์ชั้น 1 ก็จะให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุมมากกว่าประกันรถยนต์ชั้น 2+ และประกันรถยนต์ชั้น 3+ เป็นต้น
4. ค่าเสียหายส่วนแรก
ค่าเสียหายส่วนแรก คือ ค่าใช้จ่ายที่ผู้เอาประกันต้องจ่ายเองก่อน ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุแบบไม่มีคู่กรณีหรือตนเองเป็นฝ่ายผิด โดยค่าเสียหายส่วนแรกอาจมีราคาตั้งแต่ 1,000-5,000 บาท ซึ่งช่วยให้เบี้ยประกันถูกลงกว่าเดิม อย่างไรแล้วผู้ซื้อประกันก็ควรเปรียบเทียบประกันรถยนต์ในส่วนของค่าเสียหายส่วนแรกด้วย ว่ามีไหมและคุ้มค่าหรือเปล่า
5. ขั้นตอนเคลมประกัน
ปิดท้ายกันที่ ขั้นตอนเคลมประกัน ซึ่งก็อาจจะต้องหาข้อมูลจากพวกเพจหรือเว็บไซต์ที่มีการรีวิว หรือรายละเอียดของการเคลมประกันรถยนต์จากบริษัทนี้ ว่ามีขั้นตอนการเคลมประกันอย่างไร รวดเร็วไหม ให้บริการดีหรือเปล่า รวมถึงบริการเสริมต่างๆ ของประกันรถยนต์ เช่น บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน รถลาก รถใช้ระหว่างซ่อม รวมถึงอู่ซ่อมรถ ว่าได้รับมาตรฐานหรือไม่อย่างไร
สนใจสมัครประกันรถยนต์
และนี้ก็คือเทคนิคเคล็ดลับดีๆ ในการหาประกันรถยนต์ที่คุ้มที่สุด หากใครที่กำลังอยากซื้อประกันรถยนต์ก็ลองทำตามวิธีที่มาสินำมาฝากกันได้ หรือ คลิกที่นี่ เพื่อเปรียบเทียบประกันรถยนต์กับเว็บไซต์มาสิได้ง่ายๆ หรือโทรสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับทีมงานได้ที่ 02 710 3100 หรือแอดไลน์มาที่ @masii (มี @ ด้วยนะ) เพื่อติดตามข่าวสารและโปรโมชั่นที่น่าสนใจเกี่ยวกับประกันรถยนต์ ประกันมอเตอร์ไซค์ ประกันภัยโดรน ประกันภัยร้านกาแฟ รวมไปถึงสินเชื่อส่วนบุคคล และบัตรเครดิตจากสถาบันการเงินชั้นนำได้เลยค่ะ
