สำหรับพนักงานประจำคงคุ้นเคยกับประกันสังคมเป็นอย่างดีใช่หรือเปล่าครับ ก็เพราะในทุกๆเดือนเงินเดือนของเราจะมีส่วนหนึ่งที่ถูกหักออกไป เพื่อเข้าประกันสังคมนั่นเอง หลายคนคงคุ้นเคยกับเงินที่ถูกหักไปและไม่มีข้อสงสัยแน่ๆ แต่บางคนคงสงสัยว่าเงินประกันสังคมที่ถูกหักไปนั้น ถูกหักไปให้ประกันสังคมทำไม และเรามีสิทธิ์อะไรสำหรับประกันสังคมนั้นๆ
สิทธิประกันสังคม ที่ควรรู้
สำหรับประกันสังคมหากพูดกันตามจริงนั้น จะมีสิทธิ์มากมายเลยครับ ซึ่งเรามาพูดถึงสิทธิ์ประกันสังคมที่เราจะต้องใช้แน่ๆ หรือสิทธ์ประกันสังคมที่จำเป็นกับตัวเราดีกว่าครับว่ามีสิทธิ์ข้อไหนโดดเด่นน่าสนใจบ้าง
ซึ่งได้แก่ สิทธิ์ในกรณีออกจากงาน สิทธิ์การตรวจสุขภาพประจำปี สิทธิ์ค่ารักษาพยาบาล
กรณีออกจากงาน
เงื่อนไขสำหรับการขอเงินชดเชยจากการว่างงานนั้นมีหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้ครับ
- จ่ายเงินสมทบมาแล้ว 6 เดือน ภายในระยะเวลา 15 เดือน ก่อนการว่างงานกับนายจ้างรายสุดท้าย หรือกรณีผู้ประกันตนว่างงานเนื่องจากเหตุสุดวิสัย
- มีระยะเวลาการว่างงานตั้งแต่ 8 วันขึ้นไป
- ผู้ประกันตนต้องขึ้นทะเบียนผู้ว่างงานผ่านระบบอินเทอร์เน็ต (เว็บไซต์ https://empui.doe.go.th) ของสำนักงานจัดหางานของรัฐภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ลาออกหรือถูกเลิกจ้าง หรือสิ้นสุดสัญญาจ้างจึงจะมีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานนับแต่วันที่ 8 ของการว่างงาน
- ต้องรายงานตัวตามกำหนดนัดผ่านระบบอินเทอร์เน็ต (เว็บไซต์ https://empui.doe.go.th) ของสำนักงานจัดหางานไม่น้อยกว่าเดือนละ 1 ครั้ง
- เป็นผู้มีความสามารถในการทำงาน และพร้อมที่จะทำงานที่เหมาะสมตามที่จัดให้
- ต้องไม่ปฏิเสธการฝึกงาน
- ผู้ที่ว่างงานต้องไม่ถูกเลิกจ้างเนื่องจากกรณี มีดังนี้
- ทุจริตต่อหน้าที่กระทำผิดอาญาโดยเจตนาแก่นายจ้าง
- จงใจทำให้นายจ้างได้รับความเสียหาย
- ฝ่าฝืนข้อบังคับ หรือระเบียบเกี่ยวกับการทำงาน หรือคำสั่งอันชอบด้วยกฎหมายในกรณี ร้ายแรง
- ละทิ้งหน้าที่เป็นเวลา 7 วันทำงานติดต่อกัน โดยไม่มีเหตุอันควร
- ประมาทเลินเล่อเป็นเหตุให้นายจ้างได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง
- ได้รับโทษจำคุกตามคำพิพากษา
- ต้องมิใช่ผู้มีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนในกรณีชราภาพ
ซึ่งสำหรับผู้ว่างงาน จำเป็นต้องยื่นเรื่องว่าเป็นผู้ว่างงานครับ และสถานที่ยื่นเรื่อง ก็ตามรายละเอียดด้านล่างนี้
- ผู้ประกันตนต้องขึ้นทะเบียนผู้ว่างงานและรายงานตัวผ่านระบบอินเตอร์เน็ต (เว็บไซต์ www.empui.doc.go.th) ของสำนักงานจัดหางานของรัฐภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ถูกเลิกจ้างหรือลาออก หรือสิ้นสุดสัญญาจ้าง และรายงานตัวตามกำหนดนัด เพื่อมิให้เสียสิทธิในการรับเงินทดแทน
- ยื่นแบบคำขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงาน (สปส. 2-01/7) ได้ที่สำนักงานประกันสังคม กรุงเทพมหานครพื้นที่/สำนักงานประกันสังคมจังหวัดและสาขาทั่วประเทศ (ยกเว้น สำนักงานใหญ่ในบริเวณกระทรวงสาธารณสุข) สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทรสายด่วน 1694 ในวันและเวลาราชการ 08.30-16.30 น.
**ขอบคุณข้อมูลจาก sso.go.th หรือสำนักงานประกันสังคม **
ตรวจร่างกายตามระบบ
1. การคัดกรองการได้ยิน (Finger Rub Test) อายุ 15 ปีขึ้นไป ตรวจได้ 1 ครั้งต่อปี
- การตรวจเต้านมโดยแพทย์หรือบุคลากรสาธารณสุข
- อายุ 30-39 ปี ตรวจทุก 3 ปี
- อายุ 40-54 ปี ตรวจได้ทุกปี
- อายุ 55 ปีขึ้นไป ตรวจตามความเสี่ยง
- การตรวจตาโดยความดูแลของจักษุแพทย์
- อายุ 40-54 ปี ตรวจ 1 ครั้งต่อปี
- อายุ 55 ปีขึ้นไป ตรวจทุก ๆ 1-2 ปี
- การตรวจวัดสายตาด้วยสาย Snellen Eye Chart อายุ 55 ปีขึ้นไป ตรวจ 1 ครั้งต่อปี
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ (Lab)
1. ความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด CBC
- อายุ 18-54 ปี ตรวจได้ 1 ครั้ง
- อายุ 55-70 ปี ตรวจ 1 ครั้งต่อปี
- ตรวจปัสสาวะ UA อายุ 55 ปีขึ้นไป ตรวจ 1 ครั้งต่อปี
- ตรวจน้ำตาลในเลือด FBS
- อายุ 35-54 ปี ตรวจทุก 3 ปี
- อายุ 55 ปีขึ้นไป ตรวจ 1 ครั้งต่อปี
- การทำงานของไต Cr อายุ 55 ปีขึ้นไป ตรวจ 1 ครั้งต่อปี
- ไขมันในเส้นเลือดชนิด Total & HDL Cholesterol อายุ 20 ปีขึ้นไป ตรวจทุก 5 ปี
การตรวจอื่น ๆ
1.เชื้อไวรัสตับอักเสบ HB sAg ตรวจได้ 1 ครั้ง
2.มะเร็งปากมดลูกแบบ Pap Smear
- อายุ 30-54 ปี ตรวจทุก 3 ปี
- อายุ 55 ปีขึ้นไป ตรวจตามความเหมาะสม
3.ตรวจมะเร็งปากมดลูกวิธี VIA อายุ 30-54 ปีขึ้นไป ตรวจทุก 5 ปี
4.ตรวจเลือดในอุจจาระ FOBT อายุ 50 ปีขึ้นไป ตรวจ 1 ครั้งต่อปี
5.การเอ็กซ์เรย์ทรวงอก Chest X–ray อายุ 15 ปีขึ้นไป ตรวจ 1 ครั้งต่อปี
สิทธิ์ค่ารักษาพยาบาล
เวลาเจ็บป่วยขึ้นมาหากมีประกันสังคมก็เข้าโรงพยาบาลตามสิทธิที่คุณเลือกโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย แต่หากเกิดเจ็บป่วยฉุกเฉินต้องสำรองจ่ายไปก่อนแล้วค่อยเบิกคืนจากสำนักงานประกันสังคม
ซึ่งการสำรองจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลในกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉินไปแล้ว สามารถนำเอกสารดังนี้ มาเบิกคืนได้ที่ สำนักงานประกันสังคมภายใน 90 วันนับตั้งแต่วันที่จ่าย
- แบบคำขอรับประโยชน์ทดแทน (สปส.2-01 )
- ใบรับรองแพทย์ (ระบุอาการที่เกิดขึ้นโดยละเอียด)
- ใบเสร็จรับเงิน (กรณีฉุกเฉินไม่เข้าโรงพยาบาลตามบัตรรับรองสิทธิฯ)
- หนังสือรับรองจากนายจ้าง (กรณีเบิกเงินทดแทนการขาดรายได้)
- สถิติวันลาของผู้ยื่นคำขอ
- เอกสารหลักฐานอื่นหาเจ้าหน้าที่ขอเพิ่มเติม เพื่อประกอบการพิจารณา
- สำเนาสมุดบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ธนาคารหน้าแรก ได้ 11 ธนาคาร ดังนี้
- ธนาคารกรุงไทย
- ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
- ธนาคารกรุงเทพ
- ธนาคารไทยพาณิชย์
- ธนาคารกสิกรไทย
- ธนาคารทหารไทย
- ธนาคารธนชาต
- ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย
- ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย
- ธนาคารออมสิน
- ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)
ซึ่งทั้งหมดที่เรายกมานี้คือข้อมูลส่วนหนึ่งครับ จะเห็นได้ว่า ประกันสังคมที่เราจ่ายในทุกๆเดือนนั้น จะมีส่วนช่วยอย่างมากในกรณีที่เราตกงาน หรือสามารถนำมาเป็นค่ารักษาพยาบาลได้นั่นเอง แต่หากในตอนนี้เราต้องการเงินด่วน เงินสินเชื่อส่วนบุคคล หรือเงินก้อน ที่เราอยากกู้นั้น ก็สามารถช่วยเราหากต้องการเงินในเวลาฉุกเฉินได้ครับ เข้ามาเปรียบเทียบสินเชื่อที่เหมาะสมกับฐานเงินเดือนของเราได้เองครับ แค่คลิกที่นี่
เปรียบเทียบสินเชื่อส่วนบุคคล
หรือ แอด Line @ :@masii ครับ