How to ทิ้ง… รวมเทคนิค จัดบ้านอย่างไรไม่ให้บ้านรก

โดย

13/01/2023

สมัครรถแลกเงินโปรโมชั่น แจกฟรี Voucher Lazada

เรื่องของ บ้าน สวย ๆ เป็นระเบียบ สะอาด เป็นสิ่งที่ใครหลายคนใฝ่ฝันและต้องการให้บ้านของเรานั้นคงอยู่อย่างนี้ตลอดเวลา แต่ด้วยภาระหน้าที่หรือนิสัยบางอย่างของคนบางคน ไม่ว่าจะช่วงอายุไหน ๆ อย่างนิสัยการเก็บของ เก็บไว้ก่อนเผื่อเลือก หรือซื้อไว้ก่อนเผื่อได้ใช้ ทั้งที่ความจำเป็นต้องการใช้ก็ไม่ได้จำเป็นขนาดนั้นก็อาจที่จะทำให้ความฝันตรงนั้นเปลี่ยนแปลงไปได้ เพราะเราอาจจะต้องเจอกับปัญหาข้าวของเครื่องใช้มากมาย ที่กองอยู่ตามตู้ โต๊ะ หรือชั้นเก็บของต่าง ๆ ได้ วันนี้ มาสิ เลยได้รวบมาให้แล้วกับ How to เทคนิคการจัดบ้านอย่างไรให้ บ้าน ไม่รก ซึ่งจะมีเทคนิคไหนน่าสนใจกันบ้าง ตาม มาสิ ไปดูกันเลยดีกว่า

ระวัง บ้านรกอาจเป็นเพราะโรค (โรคเก็บสะสมสิ่งของ) HOARDING DISORDER หรือเปล่า

โรคชอบเก็บสะสมสิ่งของ สมาคมจิตเวชศาสตร์ในสหรัฐอเมริกาหรือ American Psychiatric Association ได้ให้คำนิยามถึงโรคนี้ไว้ว่า “เป็นการเก็บสะสมสิ่งของที่ผู้อื่นมองว่าไม่มีค่าไว้มากเกินไป” โดยผู้ที่มีอาการดังกล่าวจะไม่สามารถตัดใจทิ้งสิ่งของที่เก็บสะสมเอาไว้ได้ โดยเชื่อว่าของเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ในอนาคต จนส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน ทำให้บ้านหรือที่ทำงานเต็มไปด้วยสิ่งของที่ไม่จำเป็น ทั้งนี้ ผู้ที่เป็นโรคนี้จะมีพฤติกรรมแตกต่างจากนักสะสม เนื่องจากจะเก็บแต่สิ่งของทั่วไปที่ไม่ได้หายากหรือมีราคา และไม่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ เช่น หนังสือพิมพ์เก่า นิตยสารเก่า กล่องพัสดุ ขวดน้ำ เป็นต้น

โดยโรคชอบเก็บสะสมสิ่งของอาจจะส่งผลกระทบต่อทั้งสุขภาพร่างกายและจิตใจของผู้ที่อาศัยอยู่ในบ้านได้ ดังนั้นแล้ว การจัดบ้านให้สะอาด จัดของให้เป็นระเบียบ จึงเป็นสิ่งที่เราควรทำไว้ให้ติดเป็นนิสัยตลอดเวลาดีที่สุด

How to ทิ้ง… รวมเทคนิค จัดบ้านอย่างไรไม่ให้บ้านรก

1.จัดการพื้นที่การจัดเก็บสำภาระ

หากเราเป็นผู้ที่รักและชื่อนชอบในการเก็บสะสมข้าวของจนเป็นชีวิตจิตใจ ข้าวของเครื่องใช้ที่ไม่จำเป็นเหล่านนี้ในบ้าง บางครั้งก็อาจจะเปรียบได้กับ วัชพืช แมลงศัตรูพืชตัวร้ายที่บุกเข้ามาทำรายบ้านสวยๆของเรา ซึ่งเราจึงต้องทำการถอนรากถอนโคนจนถึงจึงจะสามารถกำจัดได้อยู่มัด เพราะหากเรายังมีพื้นที่ที่ยังสามารถเก็บของได้ เราก็อาจจะยังเก็บของมาเติมอยู่เรื่อย ๆ ตลอดเวลา ดังนั้นแล้ว สิ่งแรกที่เราควรทำ คือ การทำลายแหล่งซ่องสุ่มของสำภาระให้สิ้นซาก จัดระเบียบให้เรียบร้อย และเก็บไว้เพียงสิ่งของที่จะเป็นเท่านั้น

2.กำจัดสิ่งที่เห็นได้ว่าเป็นขยะอย่างชัดเจน

สำหรับข้อถัดมานั่น คือ การเริ่มกำจัดสิ่งของที่ไม่มีค่า หรือเห็นได้ว่าเป็นขยะได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็น กระป๋องเปล่า กล่องข้าว โบรชัวร์ หรือแม้กระทั่งของต่าง ๆ ที่แช่เอาไว้อยู่ในตู้เย็น หากหมดอายุแล้วก็ควรกำจัดทิ้งไปให้สิ้นซาก ซึ่งในส่วนนี้ก็ยังรวมไปถึง เสื้อผ้า สิ่งของหนึ่งชื่อที่ใครหลายคนมีมากมายเกินจะใส่ ให้ลองทำการสำรวจสอบดู หากยังอยู่ในสภาพดีอยู่ก็ให้แยกไว้เพื่อขายต่อ บริจาด หรือเก็บไว้ใช้ต่อ เป็นต้น

3.ทิ้งของที่มีซ้ำกันหลายชิ้น

ลำดับถัดมาเมื่อเราได้เริ่มจัดการกับข้าวของสำภาระต่าง ๆ แล้ว ในระหว่างนี้ก็ให้เราทำการสำรวจข้าวของเครื่องใช้ที่เรามีไปด้วย เนื่องจากว่าบ้างครั้งเราก็อาจจะลืมว่าเรามีของสิ่งนี้อยู่แล้วเมื่อหาไม่เจอเราก็หาซื้อเติมเข้ามาใหม่จนมีซ้ำกันมากมายหลายชิ้น ดังนั้นแล้ว เมื่อทำการสำรวจแล้วหากสิ่งของที่มีซ้ำกันสิ่งไหนที่แต่ใช้ไม่ได้ หรือไม่ค่อยได้ใช้ก็ให้ทำการกำจัดในส่วนที่เกินความจำเป็นนั้นออกไป

4.ทิ้งของที่ไม่ได้ใช้นานเกินกว่า 1 ปี

อีกหนึ่งกฏเหล็กในการเริ่มกำจัดข้าวของเครื่องใช้ให้มีน้อยลง คือ การกำจัดข้าวของเครื่องใช้ที่เราไม่ได้มีการใช้งานมาเป็นเวลานาน หรือสิ่งของที่เราคิดว่าคงจะไม่ได้ใช้งานอีกต่อไปแล้ว โดยอาจจะเริ่มต้นที่ข้าวเครื่องที่เราไม่ได้ใช้งานเกินกว่า 1 ปี เพราะให้ลองนึกดูก็ได้ว่า ขนาดผ่านระยะเวลามาแล้วตั้ง 1 ปี เรายังสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติโดยที่ไม่ได้มีการใช้งานข้าวของเครื่องใช้นั้น ๆ เลย ดังนั้น ต่อให้เป็นปีหน้าหรือปีต่อ ๆ ไปเราก็คงไม่มีความจำเป็นต้องใช้งานของชิ้นนั้นเช่นกัน ซึ่งในส่วนนี้ยกเว้นของที่เตรียมเอาไว้กรณีฉุกเฉินเท่านั้น

5.เก็บไว้เพียงภาพความทรงจำ

เป็นอีกหนึ่งไอเดียที่น่าสนใจให้สำหรับผู้ที่เกิดความลังเลใจการตัดสินใจกำจัดข้าวของที่ไม่ได้ใช้แต่มีคุณค่าทางจิดใจ นั่นก็คือ การถ่ายภาพของสิ่งนั้นเก้บไว้แทน เพราะการทิ้งสิ่งของเป็นคนเรื่องกับการทิ้งความทรงจำที่ผูกติดไว้ของเรานั้น การถ่ายรูปไว้จึงเป็นการเปลี่ยนรูปแบบในการเก็บข้าวของเหล่านี้ให้เก็บรักษาได้ง่าย เล็กลง และเป็นระเบียบมากยิ่งขึ้นนั่นเอง

และนี่ก็เป็นเพียง 5 เทคนิคเล็ก ๆ ดีๆ ที่สามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยตัวเองที่ มาสิ เอามาฝากกัน ต้องบอกได้เลยว่าแม้จะเป็นเรื่องยากในการตัดใจทิ้งสิ่งของที่มีคุณค่าทางความทรงจำ แต่บ้างครั้งถ้าหากของที่มีคุณค่าทางทรงจำเหล่านั้นมีมากเกินความจำเป็นหรือไม่เคยได้ใช้งานเลย การกำจัดออกไป หรือจัดเก็บในรูปแบบใหม่ก็จะทำให้บ้านของเราสะอาด และเป็นระเบียบได้มากยิ่งขึ้นนั่นเอง

ขอขอบคุณ : ยังแฮปปี้ และ บ้านลลิสา

ทั้งนี้ นอกจากสาระดี ๆ ที่ มาสิ ได้นำมาอัพเดทให้ทุกคนได้ทราบกัน แต่ยังไม่หมดแต่เพียงเท่านั้น อย่างที่ได้กล่าวไปเมื่อข้างต้น เกี่ยวกับ ประกันภัยบ้าน ที่ให้ความคุ้มครบ ทั้งน้ำท่วม ไฟไหม้ จะเป็นประกันภัยแผนไหน น่าสนใจอย่างไรไปดูกัน

แผนประกันภัยบ้าน Happy Home เริ่มต้น 1,150 บาทต่อปี

jaymart insurance

ทรัพย์สินที่เอาประกันภัย : สิ่งปลูกสร้าง(ไม่รวมรากฐาน) รวมส่วนต่อเติมปรับปรุงอาคาร เฟอร์นิเจอร์ เครื่องตกแต่งติดตั้ง และทรัพย์สินภายในสิ่งปลูกสร้าง

ความคุ้มครอง :

ไฟไหม้,ฟ้าผ่า,ระเบิด
ภัยจากการเฉี่ยวชน ของยานพาหนะ
ภัยจากอากาศยาน หรือวัตถุที่ตกลงมาจากอากาศยาน
ภัยเนื่องจากน้ำ
ภัยธรรมชาติ ภัยจากลมพายุ ภัยจากน้ำท่วม ภัยจากแผ่นดินไหว ภัยจากลูกเห็บ

ขยายความคุ้มครอง

ความเสียหายต่อเครื่องใช้ไฟฟ้าวงเงิน 5% ของทุนประกันภัย สูงสุดไม่เกิน 1 แสนบาทต่อครั้ง/ ตลอดระยะเวลาเอาประกันภัย
ความเสียหายเนื่องจากควันไฟ วงเงิน 500,000 บาท
ความเสียหายต่อโบราณวัตถุ ศิลปะวัตถุ วงเงิน 10,000 บาท
ความคุ้มครองค่าเช่า 1,000 บาทต่อวัน สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท

ระยะเวลาในการคุ้มครอง

5ปี

เงื่อนไขในการรับประกัน

เฉพาะสิ่งปลูกสร้างที่มีโครงสร้างหลักเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก และใช้เพื่อการอยู่อาศัยเท่านั้น
จำนวนเงินเอาประกันภัยเท่ากับมูลค่าจริงของทรัพย์สิน หรือไม่ต่ำกว่า 70% ของมูลค่าเพิ่ม
บริษัทขอสงวนสิทธิ์ไม่รับประกันภัยสิ่งปลูกสร้างที่ไม่มีผู้อยู่อาศัย

สนใจสมัคแผนประกันภัยบ้าน Happy Home