หลาย ๆ คนที่ขับรถน่าจะพอทราบกันอยู่แล้วว่าประกันรถยนต์มีไว้เพื่ออะไร และมีกี่ประเภท แต่ก็มีหลาย ๆ คนที่อาจจะยังไม่รู้ว่า แต่ละประเภทมีการทำงานต่างกันยังไง วันนี้เรามาดูกันดีกว่าว่าเจ้าประกันภัยแต่ละประเภททำหน้าที่ยังไงกันบ้าง เรามาเริ่มจากการรู้จักประเภทของประกันภัยกันก่อน
มาทำความรู้จักกับประกันรถยนต์แต่ละประเภทกันเถอะ!
ประเภทของประกันภัยรถยนต์ มีอยู่ 2 ประเภทด้วยกัน คือ
1. ประกันภัยภาคบังคับ :
เราอาจจะไม่คุ้นเคยกับชื่อนี้กันเท่าไหร่ อีกชื่อที่เราเรียกกันติดปากว่า “พ.ร.บ.” นั่นเอง ประกันแบบนี้เป็นประกันที่กฎหมายบังคับให้รถทุกคัน ไม่ว่าจะเป็นประเภทไหน ต้องทำประกัน
2. ประกันภัยภาคสมัครใจ :
ประกันภัยรถยนต์ประเภทนี้ ก็ตามชื่อเลย ใครสมัครใจทำก็สามารถทำได้ตามบริษัทประกันภัยทั่วไป โดยที่เราสามารถเลือกความคุ้มครองต่าง ๆ ตามที่เราอยากได้ หรืออาจจะตามกำลังทรัพย์ที่เรามีได้เลย
ตอนนี้เราก็รู้กันแล้วว่าประกันแบบภาคบังคับ และภาคสมัครใจเป็นอย่างไร
ต้องยอมรับว่าปัจจุบันนี้ความเสี่ยงในการใช้รถใช้ถนนเพิ่มมากขึ้น ทางบริษัทประกันภัยต่าง ๆ ก็ได้ออกประเภทของประกันรถยนต์เพิ่มขึ้นมา เพื่อคุ้มครองคนขับรถ คู่กรณี รวมไปถึงผู้ที่ใช้ถนนทั่วไป ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับชั้นประกันภัยที่เราเลือก เรามาทำความรู้จักกันเลยดีกว่าว่าความคุ้มครองประกันของแต่ละชั้นมีอะไรกันบ้าง เริ่มจาก
ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1
- คุ้มครองชีวิต และร่างกายของบุคคลที่อยู่ในรถ
- คุ้มครองชีวิต และร่างกายของคู่กรณี
- คุ้มครองทุกกรณี เช่น หินดีดกระจก ถอยรถชนเสาไฟ ยางแตก
- คุ้มครองรถยนต์ที่ได้ทำประกันภัย ไม่ว่าจะเป็นไฟไหม้ รถยนต์สูญหาย รถชน
- คุ้มครองความเสียหายของคู่กรณี
ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2
- คุ้มครองความเสียหายร่ายกาย และทรัพย์สินของคู่กรณี
- ไม่คุ้มครองรถของผู้ที่ทำประกัน
- คุ้มครองชีวิต และร่างกายของคู่กรณี
- คุ้มครองรถยนต์ที่ได้ทำประกันภัย ไม่ว่าจะเป็นไฟไหม้ รถยนต์สูญหาย
ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2+
- คุ้มครองชีวิต และร่างกายของบุคคลที่อยู่ในรถ
- จะไม่คุ้มครองการเกิดอุบัติเหตุที่ไม่มีคู่กรณี
- คุ้มครองรถยนต์ที่ได้ทำประกันภัย ไม่ว่าจะเป็นไฟไหม้ รถยนต์สูญหาย รถชน
- คุ้มครองความเสียหายทรัพย์สินของคู่กรณี
ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3
- คุ้มครองความเสียหายร่ายกาย และทรัพย์สินของคู่กรณี
- ไม่คุ้มครองรถของผู้ที่ทำประกัน
- จะไม่คุ้มครองกรณีรถหาย ไฟไหม้
ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3+
- คุ้มครองความเสียหายร่างกาย ทรัพย์สินของคู่กรณี
- คุ้มครองทั้งรถเรา และรถของคู่กรณี
- จะไม่คุ้มครองกรณีรถหาย ไฟไหม้
- จะไม่คุ้มครองการเกิดอุบัติเหตุที่ไม่มีคู่กรณี
เราก็รู้กันแล้วประกันภัยรถยนต์ชั้นต่าง ๆ มีความคุ้มครองอย่างไร ซึ่งก็มีความสำคัญกับการใช้ชีวิตประจำวันของผู้ที่ใช้รถยนต์ เพราะทุกวันนี้ความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุค่อนข้างสูงมากกว่าแต่ก่อนเยอะ ซึ่งประกันภัยที่เรากล่าวมาข้างต้นนั้น เราสามารถเลือกความคุ้มครองได้ตามความสมัครใจ หรืออาจจะตามกำลังทรัพย์ที่เรามีก็ได้เหมือนกัน ทาง masii เลยจัดความสะดวกสบายมาไว้ให้ตรงหน้าเลย สามารถกดเข้าไปเช็คเบี้ยประกันรถยนต์ง่าย ๆ ได้เลยที่นี่