การขับขี่รถยนต์บนท้องถนนนั้น ไม่เพียงแต่ผู้ขับขี่จะต้องมีใบขับขี่เพื่อใช้แสดงตนต่อเจ้าหน้าที่แล้ว ยังต้องมีเอกสารประจำตัวรถยนต์ที่ควรมีติดรถไว้ตลอดเวลา นั่นก็คือ ”พ.ร.บ.รถยนต์” และ “ภาษีรถยนต์” นั่นเอง แล้วทั้งสองสิ่งนี้ มีความสำคัญและจำเป็นต่อรถยนต์ทุกคันอย่างไรบ้าง เราไปหาคำตอบพร้อมกับ masii กันเลยค่ะ
พ.ร.บ.รถยนต์ และ ป้ายภาษี สิ่งจำเป็นที่รถทุกคันต้องมี
เพื่อนๆ รู้ไหมว่า ในแต่ละปี รถยนต์แต่ละคันจะต้องทำการ ต่ออายุ พ.ร.บ รถยนต์ และ ชำระภาษีรถยนต์ประจำปี ซึ่งทั้งสองสิ่งนี้มีความแตกต่างกัน ดังนี้
พ.ร.บ.รถยนต์ คืออะไร
พ.ร.บ.รถยนต์ หรือ พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ เป็นกฎหมายข้อบังคับที่รถยนต์ทุกคันต้องมี ซึ่งถือเป็นการทำประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ ที่จะให้ความคุ้มครองแก่ผู้ประสบภัยจากรถ (ผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร และบุคคลภายนอก) ที่ได้รับบาดเจ็บต่อชีวิตและร่างกายจากอุบัติเหตุทางรถยนต์
โดย พ.ร.บ.รถยนต์ จะมีลักษณะเป็นแผ่นกระดาษ A4 ที่ออกให้โดยบริษัทประกันภัย พร้อมระบุรายละเอียดของผู้เอาประกันภัย รายละเอียดข้อมูลรถยนต์ เช่น เลขทะเบียน เลขตัวถัง ฯลฯ และรายละเอียดความคุ้มครองผู้ประสบภัย ซึ่งความคุ้มครองของ พ.ร.บ.รถยนต์ มีดังนี้
ความคุ้มครองของ พ.ร.บ.รถยนต์
ค่าเสียหายเบื้องต้น (ได้ทุกฝ่ายโดยยังไม่ต้องพิสูจน์ความผิด ไม่ว่าเป็นฝ่ายถูก–ฝ่ายผิด)
- ค่ารักษาพยาบาลตามจริง คนละไม่เกิน 30,000 บาท
- กรณีสูญเสียอวัยวะ หรือทุพพลภาพถาวร ได้รับเงินชดเชยคนละ 35,000 บาท
- กรณีเสียชีวิต ได้รับเงินค่าปลงศพรายละ 35,000 บาท
- หากเกิดความเสียหายหลายกรณีรวมกัน จะได้รับค่าเสียหายเบื้องต้นรวมกันไม่เกิน 65,000 บาท
ค่าสินไหมทดแทนเพิ่มเติม (ได้เฉพาะฝ่ายถูก)
- ค่ารักษาพยาบาลตามจริง เพิ่มได้คนละไม่เกิน 80,000 บาท
- กรณีเสียชีวิต หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง ได้เงินชดเชยคนละ 500,000 บาท
- กรณีสูญเสียอวัยวะ 2 ส่วนขึ้นไป ได้รับเงินชดเชย 500,000 บาท
- กรณีสูญเสียอวัยวะ 1 ส่วน ได้รับเงินชดเชย 250,000 บาท
- กรณีสูญเสียนิ้ว ตั้งแต่นิ้วเดียวขึ้นไป ได้รับเงินชดเชย 200,000 บาท
- ทุพพลภาพถาวร (ไม่สามารถประกอบอาชีพประจำได้) ได้รับเงินชดเชย 300,000 บาท
- กรณีนอนพักรักษาตัวเป็นผู้ป่วยใน ได้รับเงินชดเชย 200 บาทต่อวัน (ไม่เกิน 20 วัน)
ถ้าไม่มี พ.ร.บ.รถยนต์ ถูกปรับไม่เกิน 10,000 บาท
เนื่องจาก พ.ร.บ.รถยนต์ เป็นประกันภัยภาคบังคับ ที่รถยนต์ทุกคันต้องจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบก หากไม่มี พ.ร.บ.รถยนต์ จะถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย และมีค่าปรับเป็นเงินไม่เกิน 10,000 บาท ทั้งผู้ขับขี่รถยนต์ที่ไม่มี พ.ร.บ. และเจ้าของรถยนต์ที่ไม่ทำการซื้อ พ.ร.บ.รถยนต์ นอกจากนี้ รถยนต์ที่ไม่มี พ.ร.บ. จะไม่สามารถต่อภาษีรถยนต์ประจำปีได้อีกด้วย เนื่องจากต้องใช้ เอกสารส่วนท้ายของพ.ร.บ. ในการยื่นเสียภาษีรถยนต์
ป้ายภาษี คืออะไร
หลายคนมักเข้าใจผิด คิดว่า ป้ายภาษี หรือป้ายสี่เหลี่ยมที่ติดอยู่หน้ากระจกรถยนต์นั้นคือ พ.ร.บ. ซึ่งความเป็นจริงแล้ว ป้ายสี่เหลี่ยมขนาดฝ่ามือ ที่ระบุปี พ.ศ. ที่ติดอยู่หน้ารถนั้น คือ “ป้ายภาษี” ที่แสดงให้เจ้าหน้าที่ได้รู้ว่า รถยนต์คันนี้ได้เสียภาษีรถยนต์ประจำปีอย่างถูกต้องตามกฎหมาย รวมถึงยังบอกได้ว่า รถยนต์คันนี้ ต่อ พ.ร.บรถยนต์ มาแล้วเรียบร้อย เพราะในการต่อภาษีรถยนต์ ต้องใช้ส่วนท้ายของ พ.ร.บ.รถยนต์ รวมถึงหากเป็นรถยนต์ที่มีอายุเกิน 7 ปี ต้องใช้ใบตรวจสภาพรถด้วยนะ
ถ้าไม่ได้ต่อภาษีรถยนต์จะถูกปรับเดือนละ 1%
หากรถยนต์คันไหนที่ไม่ได้ต่อภาษีรถยนต์ จะถูกเรียกค่าปรับ 1% ต่อเดือนของค่าภาษี และหากไม่ได้ต่อภาษีรถยนต์นานเกิน 3 ปี จะทำให้ป้ายทะเบียนรถยนต์ถูกระงับ ต้องทำเรื่องขอจดทะเบียนรถยนต์ใหม่
เมื่อเพื่อนๆ ได้ทราบกันแล้วว่าทั้ง พ.ร.บ.รถยนต์ และ ป้ายภาษีรถยนต์ นั้นก็ต่างมีความจำเป็นกับรถยนต์ทุกคัน หากใครที่รู้ตัวว่า พ.ร.บ.รถยนต์ หรือ ภาษีรถยนต์ ใกล้หมดอายุละก็ อย่าลืมไปต่ออายุกันด้วยนะ โดยสามารถต่ออายุล่วงหน้าได้ไม่เกิน 3 เดือน
สนใจสมัครประกันรถยนต์
และหากใครที่ต้องการซื้อประกันรถยนต์เพื่อความคุ้มครองที่มากขึ้นละก็ สามารถ คลิกที่นี่ เพื่อเปรียบเทียบประกันรถยนต์กับเว็บไซต์มาสิได้ง่ายๆ หรือโทร.มาสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ 02 710 3100 หรือแอดไลน์ @masii (มี @ ด้วยนะ) เพื่อติดตาม ข่าวสารและบทความดีๆ เกี่ยวกับ พ.ร.บ. รถยนต์ ประกันรถยนต์ ประกันมอเตอร์ไซค์ ประกันภัยโดรน ประกันเดินทาง ประกันสุขภาพ รวมถึง สินเชื่อส่วนบุคคล และบัตรเครดิต จากสถาบันการเงินชั้นนำได้เลยค่ะ