รู้หรือไม่!? ดื่ม น้ำ น้อยเกินไปพาเสี่ยงโรคได้…เลือดแห้ง สมองเสื่อม น่ากลัวไปไหม

สมัครรถแลกเงินโปรโมชั่น แจกฟรี Voucher Lazada

อย่างที่เรารู้กันว่า “น้ำ” เป็นหนึ่งในส่วนประกอบที่สำคัญของร่างกายถึง 70% และเมื่อหากเราขาดน้ำติดต่อกันถึง 3 วัน อาจทำให้เราถึงเสียชีวิตได้ นั่นแสดงให้เห็นว่า น้ำมีความสำคัญกับการดำรงชีวิตของมนุษย์เป็นอย่างมาก ทั้งช่วยดับกระหายคลายร้อน หรือแม้กระทั่งช่วยรักษาโรค แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ในการดื่มน้ำ หากที่มีมากเกินไปหรือว่าน้อนเกินไปก็อาจจะส่งผลเสีย หรือเป็นพิษต่อร่างกายของเราได้ซึ่งเราต้องดื่มในปริมาณที่พอเหมาะ  เพื่อรักษาสมดุลในร่างกายให้อยู่ในสภาพปกติ และในวันนี้ มาสิ ก็ไม่พลาดที่จะน่ารู้มาฝากกันกับเรื่องของการดื่มน้ำ ซึ่งสาระในวันนี้ที่ มาสิ เลือกเอามาฝากนั่นก็คือ ผลเสียที่ตามมาจากการดื่มน้ำน้อยเกินไป ซึ่งจะเป็นอย่างไรบ้างนั้น ตามไปอ่านพร้อมกันเลย

รู้จักธรรมชาติของ น้ำ

องค์ประกอบทางเคมีของน้ำประกอบด้วยธาตุไฮโดรเจน (H) 2 อะตอม และออกซิเจน (O) 1 อะตอม รวมกันเป็นน้ำ (H2O) 1 โมเลกุล น้ำสารประกอบเพียงชนิดเดียวที่พบเห็นในธรรมชาติได้ทั้ง 3 สถานะ คือ ทั้งของแข็ง ของเหลว และก๊าซ ซึ่งในแต่ละสถานะน้ำก็จะมีคุณสมบัติแตกต่างกันไป คุณสมบัติที่เด่นชัดของน้ำในสถานะของเหลว คือ สามารถเปลี่ยนรูปร่างได้ตามรูปร่างของภาชนะที่บรรจุ นอกจากนี้ น้ำ ถือได้ว่าเป็นตัวทำละลายที่ยอดเยี่ยมมาก ไม่ว่าจะเป็นน้ำทะเล แหล่งน้ำธรรมชาติทั่วไป น้ำใต้ดิน หรือน้ำฝน ก็มีแร่ธาตุหรือสารอื่นๆ ปะปนอยู่ในปริมาณมากน้อยต่างกันไป เช่น โซเดียมคลอไรด์ และคาร์บอนไดออกไซด์ ดังนั้น น้ำบริสุทธิ์จริง ๆ ที่ปราศจากสารเจือปนจึงหาได้ยาก

ทำไมเราต้องดื่มน้ำ

นพ.ชัชวาลย์ ศรีสวัสดิ์ ภาควิชาชีวเคมี คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล บอกว่า ร่างกายของมนุษย์มีน้ำอยู่ประมาณ 60-70% ในแต่ละวันร่างกายต้องสูญเสียน้ำประมาณวันละ 2 ลิตร ทั้งที่ขับออกมาทางปัสสาวะ เหงื่อ หรือลมหายใจ ปริมาณมากน้อยขึ้นอยู่กับกิจกรรมที่ทำ วัย และน้ำหนักของแต่ละบุคคล ดังนั้น เราจึงต้องดื่มน้ำเข้าไปชดเชยน้ำที่สูญเสียไปทุกวัน วันละประมาณ 2 ลิตร เช่นกัน

ดื่มน้ำน้อยเกินไปพาเสี่ยงโรคได้

ไม่ว่าจะดื่มน้ำมากเกินไปหรือน้อยเกินไป ก็ส่งผลต่อร่างกายได้เช่นกัน เมื่อร่างกายได้รับน้ำมากเกินความต้องการ จะเกิดภาวะน้ำเป็นพิษ เกิดการเสียสมดุลระหว่างน้ำในเซลล์และนอกเซลล์ ทำให้มีน้ำในเลือดสูง ความเข้มข้นของเลือดลดลง ร่างกายต้องขับแร่ธาตุบางชนิดออกจากเซลล์เพื่อปรับสมดุลของน้ำ ผลที่ตามมาอีก คือ ขาดความสมดุลของแร่ธาตุชนิดนั้นแทน และเกิดความผิดปกติขึ้นในกระบวนการทำงานของเซลล์ ซึ่งอาจรุนแรงถึงขั้นทำให้เสียชีวิตได้

ในทางกลับกัน เมื่อร่างกายขาดน้ำ การทำงานของระบบอวัยวะต่างๆ จะติดขัด ตัวอย่างเช่น เมื่อร่างกายขาดน้ำอาจมีส่วนทำให้เป็นโรคข้ออักเสบได้ เนื่องจากขาดน้ำที่จะไปช่วยกำจัดกรดยูริกออกมาทางปัสสาวะ และเมื่อมีกรดยูริกสะสมอยู่ในเลือดมากผิดปกติก็จะเป็นสาเหตุทำให้ข้ออักเสบ หรือเป็นโรคเก๊าต์ หรือหากร่างกายขาดน้ำติดต่อกัน 3 วัน ก็อาจทำให้เราเสียชีวิตได้ทันที ทั้งนี้ การดื่มน้ำน้อย ส่งผลกระทบโดยตรงกับการไหลเวียนเลือด ถ้าร่างกายได้รับน้ำที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการก็จะทำให้เลือดหนืด ข้น เลือดไปเลี้ยงอวัยวะและระบบต่างๆ ของร่างกายได้ไม่เพียงพอ ก็ส่งผลเสียต่ออวัยวะต่างๆ ได้ นอกจากนี้การดื่มน้ำน้อยที่ส่งผลเสียต่อร่างกายเหล่านี้ ยังส่งผลให้เกิดโรคเรื้อรังต่างๆ ด้วย เช่น

ริดสีดวงทวาร

อย่างที่บอกไปแล้วว่าหนึ่งในนั้นข้อเสียคือ ทำให้ระบบขับถ่ายมีปัญหา และจะลามไปจนถึงเป็นริดสีดวงเลยล่ะค่ะ เพราะว่าของเสียที่จะถูกขับถ่ายนั้นแข็ง แห้งเกินไป ซึ่งเป็นต้นตอให้เกิดริดสีดวง

ปวดข้อ และหมอนรองกระดูก

เพราะระหว่างข้อเหล่านี้ และหมอนรองกระดูก มีน้ำอยู่ถึง 80% เมื่อกินน้ำน้อยก็ทำให้ข้อต่อ และหมอนรองกระดูกแห้ง จะทำให้เกิดการบาดเจ็บ หรือปวดตามข้อต่อได้

ประจำเดือนมาไม่ปกติ

สำหรับสาวๆ เองก็ได้รับผลกระทบเช่นกันหากดื่มน้ำน้อย เพราะทำให้ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ เป็นลิ่มเลือด รวมถึงทำให้ปวดท้องประจำเดือนมาก เป็นต้น

ออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome)

ควรดื่มน้ำวันละกี่ลิตร จึงเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย

ในแต่ละวันความต้องการน้ำในแต่ละคนนั้นย่อมไม่เท่ากัน เนื่องจากปริมาณน้ำที่ควรได้รับต่อวันขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายและกิจกรรมที่ทำในแต่ละวันของแต่ละคน โดยปริมาณน้ำที่แนะนำให้บริโภคควรได้รับ คือ 100 – 150 มิลลิลิตร ต่อ 100 กิโลแคลอรี่ของพลังงานที่ได้รับต่อวัน โดยผู้ใหญ่จะต้องการน้ำมากกว่าเด็กและจะลดลงเมื่อมีอายุมากขึ้น และ เพศชายจะมีความต้องการน้ำมากกว่าเพศหญิง

นอกจากนี้ สำหรับวัยทำงานยังสามารถใช้วิธีการคำนวณง่าย ๆ ว่า ควรที่จะดื่มน้ำเท่าไรต่อวัน ใช้เพียงแค่น้ำหนักตัวของเราเท่านั้นเอง สูตรคือ น้ำหนัก (กิโลกรัม) คูณด้วย 2.2 คูณด้วย 30 หารด้วย 2 จะได้เป็นปริมาณน้ำเป็นมิลลิลิตรที่เราควรดื่มใน 1 วัน

ยกตัวอย่างเช่น น้ำหนักตัว 70 กิโลกรัม × 2.2 × 30 / 2 จะเท่ากับ 2,310 มิลลิลิตร แต่สำหรับใครที่ไม่ต้องการที่จะคำนวณให้ยุ่งยากแล้วก็ควรที่จะดื่มน้ำในแต่ละวันให้เพียงพอประมาณ 8-10 แก้ว หรือเทียบเท่ากับการดื่มน้ำจากขวดขนาด 600 มิลลิลิตร ประมาณ 3-4 ขวดนั่นเอง

นอกจากนี้สำหรับคนที่ออกกำลังกายเป็นประจำ ขณะออกกำลังกายจะมีการสูญเสียน้ำมากขึ้น ดังนั้นจึงควรที่จะดื่มน้ำเปล่าที่ใสสะอาด ไม่มีสี ไม่มีกลิ่นให้เพียงพอ เพื่อรักษาสมดุลน้ำและแร่ธาตุในร่างกายและชดเชยน้ำที่สูญเสียไป โดยมีเทคนิคการดื่มน้ำง่าย ๆ สำหรับคนออกกำลังกาย

ขอขอบคุณ : filtervision,nestle และ goodlife update

และนี่ก็เป็นเพียงอีกหนึ่งสาระดี ๆ ที่วันนี้ มาสิ ได้หยิบยกมาฝากกัน อย่างไรก็ตาม การเลือกรับประทานอาหารให้พอดี ถูกหลักอนามัย และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพียงเท่านี้สุขภาพร่างกายก็จะแข็งแรงสมวัยได้ และไม่เพียงสาระดีๆ ที่เอามาฝากกัน มาสิ ยังได้ขนเอากับอีกหนึ่งตัวช่วย ๆ ที่จะช่วยเสริมสร้างความคุ้มครองให้กับการดูแลสุขภาพของเราให้ดียิ่งขึ้นด้วย ประกันสุขภาพ แผนบียอนด์ เพอร์ซันนัลแคร์ ( Beyond Personal Care ) ที่สามารถเลือกแผนความคุ้มครองได้ตั้งแต่ 1,000,000 และ 5,000,000 บาท โดยไม่จำกัดจำนวนครั้งการรักษาต่อปี จะเป็นความคุ้มครองในเรื่องใดบ้างนั้น ตาม มาสิ ไปดูกัน

ประกันสุขภาพ แผนบียอนด์ เพอร์ซันนัลแคร์ ( Beyond Personal Care )

เอ็ทน่า ประกันภัย
ประกันสุขภาพ แผนบียอนด์ เพอร์ซันนัลแคร์ ( Beyond Personal Care )
  • ค่ารักษาพยาบาลกรณีผู้ป่วยใน ( ค่าห้อง ค่าอาหาร และค่าบริการพยาบาลค่าบริการทั่วไปสำหรับการรักษาพยาบาลค่าธรรมเนียมแพทย์ผ่าตัดและค่าแพทย์เยี่ยมไข้ ) และการรักษาพยาบาลที่มีค่าใช้จ่ายสูง ( Major Medical ) สามารถเลือกแผนความคุ้มครองได้ตั้งแต่ 1,000,000 และ 5,000,000 บาท โดยไม่จำกัดจำนวนครั้งการรักษาต่อปี
  • ค่าห้อง ค่าอาหาร และพยาบาล สูงสุดต่อวัน 12,000 บาท
  • ค่าห้องไอซียูสูงสุด 24,000 บาท ( สูงสุด 15 วันต่อปี )
  • ค่ารักษาพยาบาลทั่วไป สูงสุดถึงครั้งละ 200,000 บาท ต่อการเข้าพักรักษาตัวครั้งใดครั้งหนึ่ง
  • ค่ารักษาพยาบาลฉุกเฉินกรณีผู้ป่วยนอก สูงสุด 25,000 บาท
  • ค่าธรรมเนียมแพทย์ผ่าตัด รวมถึงค่าปรึกษาแพทย์ก่อนการผ่าตัด ( ตามตารางผ่าตัด ) สูงสุด 250,000 บาท
  • ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล( อบ.2* ) กรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะสายตา การรับฟังเสียง การพูดออกเสียง และทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง รายละ 100,000 บาท
  • เบี้ยประกันเริ่มต้น 2,279 บาท

ประกันสุขภาพ แผนบียอนด์ เพอร์ซันนัลแคร์ ( Beyond Personal Care )

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถโทรมาสอบถามรายละเอียดต่างๆ ได้ที่ 02 710 3100 หรือแอดไลน์ @masii ( มี @ ด้วยนะ ) เพื่อติดตามข่าวสารและบทความดีๆ ที่ มาสิบล็อก เกี่ยวกับ ประกันวินาศภัย ประกันรถยนต์ ประกันรถมอเตอร์ไซด์ ประกันสุขภาพ ประกันโดรน ประกันการเดินทาง ประกันอุบัติเหตุ ประกันภาคธุรกิจ และพ.ร.บ. รวมทั้ง ผลิตภัณฑ์ทางการเงินจากสถาบันการเงินชั้นนำทั่วประเทศ

อ่านบทความที่น่าสนใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ประกันสุขภาพ

__________________________________________
Please become Masii Fan !!

Facebook: www.facebook.com/MasiiThailand
Website: www.masii.co.th
Blog: https://blog.masii.co.th/
Line : @masii
Tel: 02 710 3100
Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCV-5rpO5ZqAGfgLdKqzKGFw
Instagram: www.instagram.com/masii_thailand/
Twitter: twitter.com/MasiiGroup
#ประกันสุขภาพ #ประกันโควิด #ประกันไข้เลือดออก #ประกันการเดินทาง
#สินเชื่อส่วนบุคคล #บัตรกดเงินสด #สินเชื่อส่วนบุคคลออนไลน์ #กู้เงิน
#เงินสด #เงินก้อน #เงินกู้ทันใจ #เงินด่วน #เงินด่วนทันใจ
#ประกันภัยโดรน #ประกันโดรน #ลงทะเบียนโดรน #ขึ้นทะเบียนโดรน #Dronethailand
#ประกันรถยนต์ #ประกันรถยนต์ชั้น1 #สมัครประกันรถยนต์ #ประกันรถที่คุ้มที่สุด
#masii #มาสิ #ครบง่ายสะดวก #เพื่อความสุขในชีวิตที่ดีกว่า
#ครบง่ายสะดวกเพื่อความสุขในชีวิตที่ดีกว่า #SimplifiedComparison