ปัจจุบันนี้ เรามักจะได้ยินเรื่องของการลงทุน และเรื่องของ Passive Income เรื่อย ๆ เพื่อเอาไว้ใช้ในตอนเกษียณ แต่ถึงกระนั้น การศึกษาเรื่องของการลงทุนต่าง ๆ ก็ช่างเข้าใจยากเหลือเกิน ยังไม่นับกับเรื่องความเสี่ยงอีก เพราะไม่รู้ว่าลงทุนไปแล้วจะคุ้มหรือเปล่า บางคนจึงยึดติดกับการลงทุนในกองทุนรวม เพราะเชื่อว่าจะได้ผลตอบแทนกลับมาในความเสี่ยงที่รับได้ โดยที่ไม่ต้องรับผิดชอบเรื่องอะไรเลย นอกเหนือไปจากเงินที่ลงทุนเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ถึงเวลาก็รอรับเงินปันผลเท่านั้น
ซื้อกองทุนอะไรดี
แต่รู้หรือไม่ว่า ไม่มีกองทุนไหนที่ให้ปันผลได้ดีที่สุด บางคนจึงหันไปสร้างวิธีปันผลให้กับตัวเองด้วยการขายเอง ไม่เสียภาษีและได้กำไรแน่นอน แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีคนที่ไม่อยากพลาดในส่วนนี้อยู่ เพราะฉะนั้นมาดูกันว่าควรซ้ือกองทุนอะไรดีที่ให้ปันผลเยอะๆ
- กองทุนหุ้น
เป็นกองทุนที่ได้รับความนิยมจากนักลงทุนมากที่สุด เพราะมีการจ่ายเงินปันผลหลายครั้งต่อปี และปันผลที่จ่ายก็เป็นเงินที่สูงอยู่พอสมควร แต่กองทุนหุ้นก็มีความเสี่ยงมากที่สุด โดยขึ้นอยู่กับสภาวการณ์ทางตลาด และปัจจัยต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจ เพราะฉะนั้นจึงเหมาะสมกับคนที่สามารถแบกรับความเสี่ยงได้ค่อนข้างสูง
- กองทุนตราสารหนี้
หลาย ๆ คนอาจจะไม่รู้มาก่อนว่ากองทุนตราสารหนี้ก็สามารถปันผลได้เช่นเดียวกับกองทุนหุ้น แต่เหตุที่คนไม่ค่อยสนใจก็เพราะว่ามีผลตอบแทนเฉลี่ยแค่ 2-4% และยังต้องเสียภาษี ณ ที่จ่ายอีก 10% ดู ๆ ไปก็เหมือนไม่ค่อยคุ้ม แต่ข้อดีก็ยังมีถ้าหากเอามารวมกับกองทุนหุ้นแบบปันผล ก็จะช่วยเฉลี่ยกับกองทุนหุ้นที่ไม่จ่ายปันผลไปด้วย แต่รวม ๆ แล้วก็ยังไม่ค่อยง่ายสักเท่าไรอยู่ดี
- กองทุน Income
ถ้าหากไม่มีความมั่นใจกับกองทุนหุ้น หรือกองทุนตราสารหนี้แบบปันผล เพราะผลตอบแทนได้ไม่สม่ำเสมอและมีความเสี่ยงสูง ก็อยากให้ลองเลือกกองทุน Income ดู เพราะเป็นการเอากองทุนหุ้นกับกองทุนตราสารหนี้ผสมกัน รวมถึงมีกองทุนอื่น ๆ อีก จึงมีความเสี่ยงและความผันผวนที่ไม่สูงมากนัก ข้อดีคือการจ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ และไม่ต้องเสียภาษี
- กองทุนอสังหาริมทรัพย์
กองทุนลำดับสุดท้าย ที่ให้ผลตอบแทนน้อยกว่ากองทุนหุ้น แต่ให้ผลตอบแทนมากกว่ากองทุนตราสารหนี้ ข้อดีคือได้ผลตอบแทนที่ค่อนข้างสม่ำเสมอ เพราะเกิดจากการเก็บค่าเช่า ไม่ได้เกิดจากการเก็งกำไรเหมือนกองทุนอื่น ๆ เพราะฉะนั้นความเสี่ยงจึงอยู่ที่มี หรือไม่มีคนเช่านั่นเอง
ไม่ว่ากองทุนไหนก็ล้วนมีความเสี่ยงและข้อดีด้วยกันทั้งนั้น ซึ่งจะเลือกซื้อกองทุนอะไรดี ก็คงต้องขึ้นอยู่กับความชอบหรือความถนัดของแต่ละบุคคลกันเลย
