สำหรับคนที่ทำประกันรถยนต์ คงเคยได้ยินคำว่า ค่าขาดประโยชน์ กันมาบ้างใช่ไหมละคะ แต่อาจยังไม่ค่อยเข้าใจนักว่าค่าขาดประโยชน์คืออะไร แล้วมีขั้นตอนการขออย่างไร หรือต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง วันนี้ masii ก็มีคำตอบดีๆ มาฝากกันแล้วเกี่ยวกับ ค่าขาดประโยชน์ ของเมืองไทยประกันภัย มาฝากกัน ไปดูกันเลยว่ามีอะไรบ้าง
ค่าขาดประโยชน์ เมืองไทยประกันภัย เรียกยังไง
ค่าขาดประโยชน์ เป็นส่วนหนึ่งของค่าสินไหมทดแทน ที่บริษัทประกันภัยเป็นผู้รับผิดชอบแทนผู้ขับขี่ กรณีที่รถคันเอาประกันภัยเป็นฝ่ายผิด หรือพูดง่ายๆ ก็คือ ฝ่ายถูกจะสามารถเบิกค่าขาดประโยชน์จากบริษัทประกันรถของคู่กรณีได้ ก็ต่อเมื่อเป็นผู้ถูกกระทำในอุบัติเหตุและพิสูจน์มาแล้วว่าตนเป็นฝ่ายถูก โดยสามารถเรียกร้องค่าขาดประโยชน์ ระหว่างที่ไม่มีรถใช้งานเพราะนำรถเข้าซ่อม โดยเรียกเป็นค่าแท็กซี่ ค่าเช่ารถ หรือค่าเดินทางอื่นๆ ที่ต้องใช้ระหว่างรอซ่อมรถ ซึ่งเบิกจากค่าใช้จ่ายตามจริง พร้อมมีเอกสารแนบให้ครบถ้วน โดยการเบิกค่าขาดประโยชน์ เมืองไทยประกันภัย ต้องใช้เอกสารดังนี้
เอกสารที่ใช้เรียกร้องค่าขาดประโยชน์
- สำเนาทะเบียนรถ (หากรถติดไฟแนนซ์อยู่ ให้นำสำเนาสัญญาไฟแนนซ์มาด้วย)
- สำเนาบัตรประชาชนของเจ้าของรถ
- สำเนาใบขับขี่รถยนต์
- ใบรับรถหรือ ใบนำรถยนต์เข้าซ่อมจากอู่ซ่อมรถ ที่ระบุวันรับรถและวันซ่อมรถเสร็จชัดเจน
- ใบเคลม หรือ ใบรับรองความเสียหายที่เจ้าหน้าที่เคลมประกันได้ออกให้พร้อมระบุว่ารถมีความเสียหายตรงไหนบ้าง
- เอกสารประกอบการใช้รถยนต์แต่ละวัน หรือ ใบเสร็จค่าใช้จ่ายในการเดินทางระหว่างที่ไม่มีรถใช้ เช่น ค่าเช่ารถ ค่าแท็กซี่ เป็นต้น
- สำเนาตารางกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ พร้อมเซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง
- หนังสือชี้แจ้งรายละเอียดการเรียกร้องหรือ แบบฟอร์มเรียกค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถระหว่างซ่อม
- สำเนาเลขที่บัญชีสำหรับรับเงินค่าขาดประโยชน์
- ใบมอบอำนาจ (หากไม่สามารถดำเนินเรื่องเองได้)
หลักเกณฑ์การพิจารณาค่าขาดประโยชน์
เกณฑ์การพิจารณาจะขึ้นอยู่กับประเภทรถ และลักษณะการใช้รถ โดยทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ได้กำหนดวงเงินหรืออัตราขั้นต่ำของ “ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ” สำหรับให้บริษัทประกันจ่ายให้แก่ผู้เสียหายที่เป็นคู่กรณี ซึ่งได้มีการกำหนดอัตราค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้
- รถยนต์ส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ที่นั่ง (รวมผู้ขับขี่) กำหนดค่าขาดประโยชน์ไม่น้อยกว่าวันละ 500 บาท
- รถยนต์รับจ้างสาธารณะ ขนาดไม่เกิน 7 ที่นั่ง (รวมผู้ขับขี่) กำหนดค่าขาดประโยชน์ไม่น้อยกว่าวันละ 700 บาท
- รถยนต์ขนาดเกินกว่าเกิน 7 ที่นั่ง (รวมผู้ขับขี่) กำหนดค่าขาดประโยชน์ไม่น้อยกว่าวันละ 1,000 บาท
เมื่อได้ทราบกันไปแล้วว่า ค่าขาดประโยชน์ เมืองไทยประกันภัย เรียกยังไง ต้องใช้เอกสารอะไร และมีหลักเกณฑ์การพิจารณาอย่างไรบ้าง ก็คงทำให้ใครหลายคนเข้าใจรายละเอียดเกี่ยวกับ ค่าขาดประโยชน์ กันไปบ้างนะคะ และหากใครสนใจอยากทำประกันรถยนต์ ก็สามารถ คลิกที่นี่ เพื่อเปรียบเทียบประกันรถยนต์กับเว็บไซต์มาสิได้ง่ายๆ มีให้เลือกทั้ง ประกันรถยนต์ชั้น 1 ประกันรถยนต์ชั้น 2+ ประกันรถยนต์ชั้น 3+ ประกันรถยนต์ชั้น 2 และประกันรถยนต์ชั้น 3
สนใจสมัครประกันรถยนต์
หรือหากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถโทร.มาสอบถามรายละเอียดได้ที่ 02 710 3100 หรือแอดไลน์มาเป็นเพื่อนกับเราที่ @masii (มี @ ด้วยนะ) เพื่อติดตามข่าวสาร และบทความดีๆ เกี่ยวกับ ประกันรถยนต์ ประกันมอเตอร์ไซค์ ประกันภัยโดรน ประกันเดินทาง ประกันสุขภาพ รวมไปถึง สินเชื่อส่วนบุคคล และบัตรเครดิตจากสถาบันการเงินชั้นนำเลยค่ะ