ถึงแม้การรีไฟแนนซ์จะเกิดทุกๆ 3 ปีหลังจากที่เราซื้อคอนโด หรือซื้อบ้านไปแล้วซึ่งบางคนอาจจะยังไม่ทราบหรือหลงลืมกัน ว่าการรีไฟแนนซ์นั้นมีข้อดีหลายอย่าง เพราะจะช่วยแบ่งเบาภาระต่อเดือนของเราให้ลดน้อยลงจากเดิม เพราะค่างวดและดอกเบี้ยจะถูกนำมาคิดใหม่และแบ่งให้เหลือต่อเดือนในราคาที่น้อยลงเราไปดูกันครับ ว่าข้อดีในการรีไฟแนนซ์ ของการรีไฟแนนซ์บ้าน และรีไฟแนนซ์คอนโดนั้นมีอะไรกันบ้าง
ข้อดีในการรีไฟแนนซ์ ของการรีไฟแนนซ์บ้าน และรีไฟแนนซ์คอนโด
ช่วยให้ค่าใช้จ่ายลดลง
ข้อดีหลักในการรีฟแนนซ์ทั้งการรรีไฟแนนซ์บ้านและรีไฟแนนซ์คอนโดนั่นคือ จะเป็นการทำสัญญาเงินกู้ใหม่ จะมีอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ใหม่ที่ได้ถูกกว่าเดิม ซึ่งนั้นเป็นสาเหตุที่จะทำให้เราจ่ายค่างวดที่ลดลง และสำหรับบางรายก็อาจจะได้วงเงินกู้ที่มากกว่าเดิมอีกด้วย และการลดภาระหนี้นี้เองจะทำให้เราลดภาระค่าใช้จ่ายมีเงินเหลือเก็บเพิ่มมากยิ่งขึ้นครับ
เห็นถึงข้อดีของการรีไฟแนนซ์บ้านและรีไฟแนนซ์คอนโดกันไปแล้วหากใครที่ต้องการรีไฟแนนซ์บ้านและรีไฟแนนซ์คอนโด จะต้องเตรียมเอกสารให้พร้อม เพราะในการรีไฟแนนซ์นั้นจะใช้ระยะเวลาค่อนข้างมาก และหากใคที่ต้องการรีไฟแนนซ์ควรเตรียมเรื่องเอกสารให้พร้อมครับ
เอกสารรีไฟแนนซ์บ้านเบื้องต้น
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน / ทะเบียนบ้านของผู้กู้ และคู่สมรส
- สำเนาเอกสารหลักประกัน (โฉนดที่ดินและบ้าน / อาคารชุด)
- สำเนาสัญญาเงินกู้ และใบเสร็จชำระค่างวดของสถาบันการเงินเดิมเดือนล่าสุด
- พนักงานประจำ
- สลิปเงินเดือนล่าสุดไม่เกิน 2 เดือนหรือหนังสือรับรองเงินเดือน
- สำเนาบัญชีเงินฝากย้อนหลัง 6 เดือน
- เอกสารอื่น (ถ้ามี) เช่น สำเนาเอกสารการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา เป็นต้น
- อาชีพอิสระ
- สำเนาใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ
- เอกสารแสดงการเสียภาษีเงินได้ (50ทวิ) เอกสารการชำระภาษีอื่น ๆ ย้อนหลัง 12 เดือน
- สำเนาเดินบัญชีธนาคารไม่น้อยกว่า 6 เดือนล่าสุด หรือเอกสารอื่นที่แสดงที่มาของรายได้ (ถ้ามี)
และหากสนใจการรีไฟแนนซ์บ้านและคอนโด เรามีรายละเอียดให้ดูประกอบการตัดสินใจครับ
รีไฟแนนซ์ของธนาคารไทยเครดิต
ดอกเบี้ย 3 ปีแรก เฉลี่ย 3.90% ต่อปี
สำหรับการรีไฟแนนซ์บ้านกับธนาคารไทยเครดิตนั้นเราจะได้ดอกเบี้ย 3 ปีแรกอยู่ที่เฉลี่ย 3.90% ต่อปี และในการจ่ายค่างวดแต่ละเดือนๆนั้นจะเป็นการจ่ายค่างวดรีไฟแนนซ์บ้านแบบดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอกอีก นั่นหมายความว่าในระหว่างนั้น เราสามารถโปะค่างวดและดอกเบี้ยก็จะลดอย่างรวดเร็วไปพร้อมกับเงินต้น มีระยะเวลาที่ผ่อนยาวนาน 30 ปี เพราะฉะนั้นหากอยากหมดหนี้อย่างรวดเร็วละก็ถ้าเรารีบโปะค่างวด เราก็จะปิดหนี้ได้อย่างรวดเร็วนั่นเองแถมดอกเบี้ยก็จะหมดไวอีกด้วย
คุณสมบัติผู้กู้ ผู้กู้ร่วม
- อายุไม่ต่ำกว่า 20 ปี บริบูรณ์
- เป็นพนักงานที่มีรายได้ประจำ / อาชีพอิสระ / เจ้าของกิจการ
- เงินเดือน + รายได้อื่นๆ ไม่ต่ำกว่า 50,000 บาท
- มีอายุงาน / ประกอบธุรกิจหรืออาชีพอิสระต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 5 ปี
- ไม่เป็นบุคคลที่ศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์
- ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย
- ไม่เป็นบุคคลที่ถูกห้ามทำธุรกรรมตามกฏหมาย
รีไฟแนนซ์กับธนาคารไทยเครดิต
สินเชื่อบ้านทิสโก้ มอร์เกจเซฟเวอร์ (TISCO Mortgage Saver) สินเชื่อที่โปะบ้านและถอนออกมาใช้ได้
สินเชื่อเพียงหนึ่งเดียวที่จะช่วยลดดอกเบี้ยบ้านของเรา จากการโปะบ้าน แถมเงินโปะไม่ได้หายไปไหน เพราะเราสามารถถอนออกมาใช้ได้ตลอดเวลาครับ ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินแค่ไหน หากเราโปะบ้าน เงินนั้น สามารถถอนออกมาใช้ได้ตลอดเวลา ไม่เหมือนกับสินเชื่อบ้านอื่นๆที่เงินที่นำไปโปะบ้านจะไม่สามารถนำออกมาใช้ได้เลย แถมเงินที่เราโปะไม่ว่าจะถอนออกมามากแค่ไหน ก็จะสามารถนำมาคิดคำนวณดอกเบี้ยบ้าน ดอกเบี้ยคอนโดได้ตลอดเวลาครับ
สินเชื่อบ้านทิสโก้ มอร์เกจเซฟเวอร์ (TISCO Mortgage Saver) เป็นสินเชื่อบ้าน ที่มีความโดดเด่น ในการลดดอกเบี้ยบ้านจากการโปะบ้าน แต่ไม่ลดสภาพคล่องทางการเงิน เพราะสามารถถอนเงินโปะบ้านออกมาใช้ได้ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมให้คุณสามารถบริหารบัญชี สินเชื่อบ้านทิสโก้ มอร์เกจเซฟเวอร์ (TISCO Mortgage Saver) ในบัญชีเดียว จะถอนออกมาใช้เมื่อไหร่ก็ได้ครับ
สมัครสินเชื่อบ้านทิสโก้ มอร์เกจเซฟเวอร์ TISCO Mortgage Saver
หากสนใจรีไฟแนนซ์บ้านหรือคอนโด สามารถ คลิกที่นี่ และหากสนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง Line @ : @masii ครับ
