ตาม มาสิ ไปดู ปล่อยเช่าพื้นที่ มีภาษีอะไรที่เกี่ยวข้องบ้าง…พร้อมแนะนำ เสริมความมั่นคงทางการเงินเมื่อมีบ้านด้วย สินเชื่อบ้านแลกเงิน รับเงินก้อนใหญ่ อนุมัติทันใจ พร้อมรับทุกค่าใช้จ่าย

ตาม มาสิ ไปดู ปล่อยเช่าพื้นที่ มีภาษีอะไรที่เกี่ยวข้องบ้าง...พร้อมแนะนำ เสริมความมั่นคงทางการเงินด้วย สินเชื่อบ้านแลกเงิน รับเงินก้อนใหญ่
สมัครรถแลกเงินโปรโมชั่น แจกฟรี Voucher Lazada

การปล่อยเช่าอสังหาริมทรัพย์ เป็นหนึ่งในวิธีการลงทุนที่นักลงทุนนิยมกันมาก เนื่องจากให้ผลตอบแทนในระยะยาว แต่จะปล่อยเช่าได้ไหมนั้นย่อมขึ้นอยู่กับหลาย ๆ ปัจจัย โดยเฉพาะในช่วงนี้ที่สภาพเศรษฐกิจชะลอตัว และมีปัจจัยอย่างเข้ามาเกี่ยวข้อง เช่น เงินเฟ้อ หรือหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง ดังนั้น ก่อนปล่อยเช่าบ้าน หรืออสังหาริมทรัพย์ใด ๆ จึงควรศึกษษข้อมอย่างรอบคอบก่อนเสมอ อย่างเช่น อีกหนึ่งเรื่องราวที่ในวันนี้ที่ มาสิ ได้นำมาฝากกันกับเรื่องราวของ ภาษี ที่มีความเกี่ยวข้องกับการปล่อยให้เช่าพื้นที่จะรายละเอียดอย่างไรบ้างนั้น ตาม มาสิ ไปดูกัน นอกจากนี้สำหรับที่กำลังมองหาหรือต้องการทุนทรัพย์เพิ่มนำมาต่อยอดหรือดูแลในธุรกิจ มาสิ แนะนำมาเสริมสร้างความมั่นคงทางการเงินด้วย สินเชื่อบ้านแลกเงิน ที่เมื่ออนุมัติ รับเงินก้อนใหญ่ รายละเอียดจะเป็นอย่างไรตาม มาสิ ไปอ่านกัน

ตาม มาสิ ไปดู ปล่อยเช่าพื้นที่ มีภาษีอะไรที่เกี่ยวข้องบ้าง…พร้อมแนะนำ เสริมความมั่นคงทางการเงินเมื่อมีบ้านด้วย สินเชื่อบ้านแลกเงิน รับเงินก้อนใหญ่ อนุมัติทันใจ พร้อมรับทุกค่าใช้จ่าย

ว่าด้วยเรื่องการให้เช่าพื้น

การเช่า คือ การซื้อสิทธิ์ในการเป็นเจ้าของสิ่งใดสิ่งหนึ่งเป็นการชั่วคราว สิทธิ์ที่ว่านี้หมายถึงการได้ใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่จากสิ่งของที่เช่านั้น การเช่าสามารถทำได้กับข้าวของหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นของเล็กๆ เช่นเช่าหนังสือ เช่าชุด ไปจนถึงของขนาดใหญ่อย่างการเช่าบ้าน ซึ่งของชิ้นเล็กๆ ขั้นตอนการเช่าไม่ซับซ้อนเท่าของชิ้นใหญ่ โดยเฉพาะบ้านหรือที่อยู่อาศัยที่ต้องมีความรอบคอบทั้งการเช่าและการให้เช่า

โดยหลักการให้เช่าบ้านหรืออสังหาริมทรัพย์ที่สำคัญที่สุด คือ ต้องมีหลักฐานการเช่าเป็นหนังสือซึ่งลงชื่อผู้จะรับผิดทั้งสองฝ่ายไว้เป็นลายลักษณ์อักษร หรือก็คือ ต้องมีหนังสือสัญญาที่ลงลายมือชื่อทั้ง 2 ฝ่าย ทั้งผู้เช่าและผู้ให้เช่าไว้อย่างชัดเจน แยกกันเก็บไว้คนละชุด

ระยะเวลาในการเช่า ในสัญญาเช่าต้องระบุวันเวลาที่ให้เช่าอย่างชัดเจน เพื่อเป็นการกำหนดขอบเขตเวลาในการฟ้องร้อง โดยส่วนมากสัญญาเช่าจะระบุไว้ไม่เกิน 3 ปี หากเกินกว่านี้ต้องไปจดทะเบียนกับกรมที่ดิน และหากไม่ได้จดทะเบียนแต่มีข้อพิพาทเกิดขึ้น ผู้ให้เช่าจะไม่สามารถฟ้องร้องได้ หากครบกำหนดตามสัญญาเช่าแต่ไม่มีการเซ็นสัญญาใหม่ โดยผู้ให้เช่าและผู้เช่าไม่ได้แสดงที่ท่าว่าต้องการยกเลิกสัญญา เท่ากับเป็นการต่อสัญญาแบบอัตโนมัติ แต่การเช่าสิ่งใดก็ตาม ไม่สามารถเช่าได้เกิน 30 ปี หากเกินกว่านี้และต้องการเช่าต่อต้องทำสัญญาใหม่

3 สิ่งที่ควรรู้ก่อนปล่อยเช่าพื้นที่

1. ตั้งราคาค่าเช่าให้เหมาะสม

วิธีง่าย ๆ ที่นิยมนำมาเป็นตัวกำหนดราคาค่าเช่า มีอยู่ 2 วิธี คือ
– การกำหนดค่าเช่าเบื้องต้นโดยคิดเป็นตารางเมตร จากการเปรียบเทียบอสังหาริมทรัพย์รูปแบบเดียวกัน บนทำเลเดียวกัน ซึ่งสามารถหาข้อมูลการเปรียบเทียบได้โดยการสอบถามด้วยตัวเอง หรือดูราคาค่าเช่าจากเว็บไซต์อสังหาริมทรัพย์ต่าง ๆ ที่ได้ทำการเก็บรวบรวมไว้
– การกำหนดค่าเช่าเบื้องต้นจากการเปรียบเทียบอัตราผลตอบแทน (Rental Yield) โดยแต่ละพื้นที่จะมีอัตราผลตอบแทนแตกต่างกัน วิธีนี้จำเป็นต้องมีการสำรวจพื้นที่รอบ และราคาปล่อยเช่าในแต่ละจุด เพื่อนำมาคำนวณหาค่าเฉลี่ยผลตอบแทนและอัตราค่าเช่าที่เหมาะสม

2.นำเสนอดี มีจุดเด่น

ไม่ว่าจะปล่อยเช่าบ้านหรือปล่อยเช่าคอนโด นอกจากทำเล ราคา และการตกแต่ง “ภาพถ่าย” ก็มีส่วนสำคัญมากที่จะทำให้ปล่อยเช่าได้เร็วขึ้น หรืออย่างน้อยก็ชวนเตะตาให้มีคนสนใจคลิกเข้ามาดู
– เลือกถ่ายภาพช่วงที่มีแสงธรรมชาติ
– ภาพถ่ายต้องเห็นครบทุกองค์ประกอบ บอกเล่าความน่าอยู่ของบ้านหรือคอนโด
– ถ่ายภาพให้ครบทุกมุม ห้องนั่งเล่น ห้องน้ำ ห้องนอน ห้องครัว ระเบียง
– ถ่ายของตกแต่งเพิ่มความน่าสนใจ ดูแล้วมีชีวิตชีวา น่าอยู่อาศัยมากกว่าห้องโล่ง ๆ
– เสริมด้วยภาพพื้นที่ส่วนกลาง สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ในโครงการ
– เลือกภาพที่เป็นจุดเด่นของห้อง/บ้าน มาเป็นรูปนำ

3.ทำสัญญาเช่าให้ชัดเจน

การลงทุนปล่อยเช่าบ้านหรือคอนโดมิเนียมไม่ได้เริ่มและจบที่การหาคนมาเช่าได้เท่านั้น ต้องคำนึงถึงการเป็นผู้ให้เช่าที่ดีด้วยสัญญาเช่าที่ทำให้ผู้เช่าอยากตกลงเช่าและดูแลผู้เช่าในช่วงที่พักอาศัยอยู่ด้วย เจ้าของบ้านต้องทำสัญญาเช่าบ้าน โดยมีรายละเอียดครบถ้วน นอกจากนั้นยังต้องปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถดึงดูดใจผู้เช่าได้อย่างดี

ทั้งนี้ นอกจากนี้เมื่อเจ้าของหรือผู้ครอบครองพื้นที่ภายในสถานที่ต่างๆ รวมถึงอสังหาริมทรัพย์ เมื่อมีรายได้จากการปล่อยเช่าแล้ว ก็จะมีความเกี่ยวข้องกับภาษีค่าเช่าพ่วงมาด้วยเสมอ แล้วภาษีค่าเช่ามีรายละเอียดอย่างไรบ้าง ลองมาติดตามดูกันเลย

แล้วภาษีค่าเช่า คืออะไร?

ภาษีค่าเช่า คือ เงินที่ต้องจ่ายให้กับเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ที่ตนเองเช่าอยู่ การจ่ายภาษีค่าเช่าสำหรับที่อยู่อาศัยจะเป็นไปตามอัตราภาษีที่ผู้ให้เช่าได้กำหนดไว้ ซึ่งการจ่ายภาษีค่าเช่าสำหรับที่พักอาศัยจะถูกนำเข้าในหมวดรายได้เมื่อยื่นภาษีเงินได้ นอกจากนี้การจ่ายภาษีค่าเช่าจะต้องชำระในระยะเวลาที่กำหนดไว้ในสัญญาเช่า ซึ่งอาจจะเป็นการชำระเป็นรายเดือนหรือรายปีตามข้อตกลงระหว่างผู้ให้เช่าและผู้เช่า

ภาษีค่าเช่า สำหรับธุรกิจให้เช่าพื้นที่มีอะไรบ้าง?

เจ้าของหรือผู้ครอบครองพื้นที่ให้เช่าจะมีภาระภาษีที่เกี่ยวข้องหลายชนิด แต่ละชนิดมีรายละเอียดในการจัดเก็บจากหน่วยงานของรัฐที่จัดเก็บและอาศัยหลักกฎหมายที่แตกต่างกัน เช่น ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีโรงเรือนและที่ดิน ภาษีมูลค่าเพิ่ม เป็นต้น ผู้เสียภาษีจึงต้องดำเนินการให้ถูกต้องและทันตามกำหนดเวลา เพื่อป้องกันการเกิดเบี้ยปรับที่เกิดจากการคำนวณภาษีที่ต้องนำส่งไม่ถูกต้อง ซึ่งภาษีค่าเช่าสำหรับธุรกิจปล่อยเช่าอาคารสถานที่มีรายละเอียด ดังนี้

1.ภาษีเงินได้ กรณีผู้ให้เช่าเป็นบุคคลธรรมดา เงินได้จากการให้เช่าอาคารสถานที่ถือเป็นเงินได้ตามมาตรา 40(5) คือ เงินที่ให้เช่าทรัพย์สิน เงินค่าเช่าที่ได้รับดังกล่าวจะต้องนำมาคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาด้วย หากผู้ให้เช่าเป็นนิติบุคคล เงินที่ได้รับจากการให้เช่าจะต้องนำมาคำนวณในกำไรขาดทุนสุทธิ เพื่อเสียภาษีเงินได้ด้วย ตามมาตรา 65 ทวิ และ 65 ตรี แห่งประมวลรัษฎากร

2.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง เงินที่ได้จากการให้เช่าอาคาร ตึก โรงเรือน ฯลฯ ถือเป็นค่าเช่ารายปีจากทรัพย์สินในปีหนึ่งๆ ผู้ให้เช่ามีหน้าที่ต้องเสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่กรมที่ดินท้องถิ่นทุกปีด้วย ซึ่งภาษีที่ต้องเสียจะคำนวณจากราคาประเมินทุนทรัพย์ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างจากกรมธนารักษ์

3.ภาษีมูลค่าเพิ่ม การให้บริการเช่าอสังหาริมทรัพย์ อาคาร ตึก โรงเรือน ฯลฯ โดยได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม แต่ในการปฏิบัติผู้ประกอบธุรกิจมักจะให้บริการอื่นๆ รวมไปถึงการให้บริการสาธารณูปโภค เช่น ไฟฟ้า น้ำประปา โทรศัพท์ และการให้บริการรักษาความปลอดภัย รวมทั้งการให้เช่าเฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น ซึ่งบริการเหล่านี้ไม่ใช่การให้บริการในธุรกิจให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม ดังนั้น การให้บริการในส่วนนี้จึงต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราร้อยละ 7

4.อากรแสตมป์ ภาษีค่าเช่าที่เกี่ยวข้องกับอากรแสตมป์ จะใช้ในกรณีที่มีการทำสัญญาเช่า กล่าวคือเมื่อเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ให้เช่า ได้มีการทำสัญญาให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ตามหลักการตลอดอายุแล้ว ผู้ให้เช่ามีหน้าที่ต้องติดอากรแสตมป์ ในอัตรา 1 บาท ต่อมูลค่าสัญญาเช่าทุก 1,000 บาท หรือเศษของ 1,000 บาท และผู้เช่าเป็นผู้ขีดฆ่าแสตมป์ ตลอดอายุสัญญา

5.ภาษีหัก ณ ที่จ่าย เป็นภาษีค่าเช่าที่เกี่ยวข้องกับผู้เช่าที่จดทะเบียนนิติบุคคลเท่านั้น ที่สามารถหักภาษี ณ ที่จ่ายได้ โดยหลักการของภาษีหัก ณ ที่จ่ายค่าเช่าคือ
– ค่าเช่าอสังหาริมทรัพย์ จะต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย 5% หากเป็นการส่งมอบทรัพย์สินที่เช่าให้กับผู้เช่า โดยผู้เช่าต้องดูแลทรัพย์สินที่เช่าเสมือนเป็นทรัพย์สินของตนเอง ทั้งบำรุงรักษาและการซ่อมแซม รวมถึงผู้เช่าเป็นคนถือกุญแจ จะนับเป็นค่าเช่าอสังหาริมทรัพย์
– จ้างรับเหมาหรือบริการ หักภาษี ณ ที่จ่าย 3% ถ้ายืมสถานที่ไม่มีสิทธิ์ในการถือกุญแจ เช่น เช่าสถานที่เพื่อจัดงานต่างๆ ชั่วคราว จะถือว่าอยู่ในกลุ่มของจ้างรับเหมาหรือบริการ

ขอขอบคุณ : Post Today, DDproperty และ ไทยโฮมทาวน์

และนี่เพียงส่วนหนึ่งของความรู้ดี ๆ ที่ มาสิ ได้นำมาฝากกัน สำหรับใครที่กำลังจะซื้อบ้าน หรือกำลังมองหาบ้านเป็นของตัวเองสักหลังก็อย่าลืมที่จะเอากับทริคดี ๆ ที่ มาสิ ได้เอามาฝากไปใช้กัน และอย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้น ไม่เพียงแต่ความรู้ดี ๆ ที่ มาสิ ได้นำมาฝากกัน วันนี้ มาสิ ก็ได้หยิบ สินเชื่อบ้านแลกเงิน ตัวหนึ่งที่หน้าสนใจ มาแนะนำให้ผู้ที่สนใจได้นำไปเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งในการพิจารณา นั่นก็คือ สินเชื่อบ้านคือเงิน SCB My Home My Cash

สินเชื่อบ้าน คือ เงิน SCB My Home My Cash

สินเชื่อบ้านแลกเงิน
สินเชื่อบ้าน คือ เงิน SCB My Home My Cash

สินเชื่อบ้าน คือ เงิน SCB My Home My Cash เหมาะกับผู้ที่มีบ้านเป็นของตนเอง จะต้องเป็นบ้านที่ปลอดภาระ ไม่ว่าจะเป็นบ้านพร้อมที่ดิน ที่ดินเปล่า หรือแม้แต่ Home-office อาคารพาณิชย์  ก็สามารสมัครได้ นอกจากนี้ยังรวมไปถึงคอนโดที่หมดภาระแล้วด้วย สำหรับเงื่อนไขการผ่อน สินเชื่อบ้าน คือ เงิน SCB My Home My Cash สามารถผ่อนยาวได้นาน 30 ปี วงเงินที่สูงสุดมากถึง 20 ล้านบาท และฟรีค่าประเมินหลักประกัน (สำหรับที่ดินนั้น มีข้อจำกัดว่า ห้ามเป็นที่ดินที่ตาบอด หรือที่ดินที่ไม่มีทางเข้าออก)

เอกสารการสมัคร

  • สำเนาบัตรประชาชน
  • สำเนาทะเบียนบ้าน
  • เอกสารแสดงกรรมสิทธิ์
  • หนังสือแจ้งข้อมูลหลักประกัน
  • ภาพถ่ายหลักประกัน
  • เอกสารยืนยันรายได้ อาทิ สลิปเงินเดือนย้อนหลัง, หนังสือรับรองเงินเดือน และสลิปเงินเดือน

คุณสมบัติผู้สมัคร

  • สัญชาติไทย
  • ไม่เคยเป็นลูกหนี้ปรับโครงสร้างหนี้ของสถาบันทางการเงิน
  • อายุ 20-65 ปี
  • พนักงานประจำเงินเดือน ขั้นต่ำ 15,000 บาทขึ้นไป
  • สลิปเงินเดือนย้อนหลัง 6 เดือน/ statement 6 เดือน

เงื่อนไขสำหรับ สินเชื่อบ้านคือเงิน SCB My Home My Cash

  • ผู้ที่มีบ้านเป็นของตนเอง
  • บ้านต้องปลอดภาระการผ่อนบ้าน
  • เป็นที่ดินเปล่า ,บ้านพร้อมที่ดิน ,Home office ,อาคารพาณิชย์
  • สำหรับที่ดินนั้น มีข้อจำกัดว่า ห้ามเป็นที่ดินที่ตาบอด ไม่มีทางเข้าออก

สนใจสมัคร สินเชื่อบ้านแลกเงิน

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถโทรมาสอบถามรายละเอียดต่างๆ ได้ที่ 02 710 3100 หรือแอดไลน์ @masii ( มี @ ด้วยนะครับ ) เพื่อติดตามข่าวสารและบทความดีๆ ที่ มาสิบล็อก เกี่ยวกับ บัตรเครดิต บัตรเดบิต บัตรกดเงินสด สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อบ้านแลกเงิน สินเชื่อรถแลกเงิน และผลิตภัณฑ์ทางการเงินจากสถาบันการเงินชั้นนำทั่วประเทศ

อ่านบทความที่น่าสนใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับ สินเชื่อบ้านแลกเงิน

_____________________________________________

Please become Masii Fan

Facebook: https://lnkd.in/gFFh8mh

Website: www.masii.co.th

Blog: https://masii.co.th/blog

Line: @masii

Tel: 02 710 3100 

Youtube: https://lnkd.in/gbQf9eh

Instagram: https://lnkd.in/ga4j5ri

Twitter: twitter.com/MasiiGroup

#สินเชื่อ #ประกัน

#รถแลกเงิน #บ้านแลกเงิน #สินเชื่อส่วนบุคคล

#บัตรกดเงินสด #เงินด่วนทันใจ #สินเชื่อส่วนบุคคลออนไลน์

#กู้เงิน #เงินสด #เงินก้อน #เงินด่วน #เงินกู้ทันใจ #masii

#มาสิ #ครบง่ายสะดวก #เพื่อความสุขในชีวิตที่ดีกว่า

#ครบง่ายสะดวกเพื่อความสุขในชีวิตที่ดีกว่า #SimplifiedComparison