เปิด 3 โรคฮิตชาวแรงงาน พร้อมเสริมแนะวิธีแก้ด้วยแพทย์แผนไทย…พร้อมเสริมการดูแลสุขภาพวัยทำงานด้วย ประกันสุขภาพ ที่ไม่จำกัดจำนวนครั้งการรักษาต่อปี

พนักงานออฟฟิศ
เปิด 3 โรคฮิตชาวแรงงาน พร้อมเสริมแนะวิธีแก้ด้วยแพทย์แผนไทย...พร้อมเสริมการดูแลสุขภาพวัยทำงานด้วย ประกันสุขภาพ ที่ไม่จำกัดจำนวนครั้งการรักษาต่อปี
สมัครรถแลกเงินโปรโมชั่น แจกฟรี Voucher Lazada

วัยทำงาน ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งวัยทำงานที่ช่วยในการขับเคลื่อนความเป็นไปของธุรกิจ ด้วยความที่อายุยังน้อยประกับร่างกายที่มีสภาพแข็งแรงสมบูรณ์ ดังนั้น จึงถือได้ว่าเป็นเสาหลักสำคัญในการทำงาน แต่ทั้งนี้ ด้วยความที่สภาพการแข่งขันที่สูง ประกอบกับสภาพเศรษฐกิจที่ก็ไม่ได้ราบรื่นเท่าไร ดังนั้น ย่อมที่จะส่งผลให้วัยทำงานหลายคนจึงอาจจะทุ่มเทในการทำงานมากยิ่งขึ้นไปอีก และด้วยความที่จริงจังและทุ่มเทในการทำงานที่มากเกิดไปนั้น ย่อมที่จะส่งผลต่อสภาพร่างกายต่อวัยทำงานได้ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกใดที่ในปัจจุบันนี้จึงเกิดโรคในวัยทำงานมากยิ่งขึ้น ว่าแล้ววันนี้ตาม มาสิ มาดูกันกับ 3 โรคฮิตที่มักที่จะเกิดขึ้นกับชาวแรงงาน ซึ่งจะมีโรคใดที่น่าจับตาดูกันบ้างไปดูกัน…พร้อมกันนี้ มาเสริมสร้างการดูแลรักษาสุขภาพร่างกายของวัยทำงานให้ดียิ่งขึ้นด้วย ประกันสุขภาพ ที่ไม่จำกัดจำนวนครั้งการรักษาต่อปี ซึ่งจะมีรายละเอียดอย่างไรบ้างนั้น ตาม มาสิ ไปดูกัน

เปิด 3 โรคฮิตชาวแรงงาน พร้อมเสริมแนะวิธีแก้ด้วยแพทย์แผนไทย…พร้อมเสริมการดูแลสุขภาพวัยทำงานด้วย ประกันสุขภาพ ที่ไม่จำกัดจำนวนครั้งการรักษาต่อปี

กรมการแพทย์แผนไทยฯ เปิด 3 โรคฮิตที่พบได้ในวัยทำงาน

1.โรคออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome)

ออฟฟิศซินโดรม
โรคออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome)

ออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome) จัดอยู่ในกลุ่มอาการปวดกล้ามเนื้อและเยื่อพังผืด (Myofascial Pain Syndrome) ซึ่งมักเกิดจากการที่ต้องใช้กล้ามเนื้อมัดเดิมซ้ำไปมา เป็นระยะเวลานานและต่อเนื่อง โดยผลของมันจะทำให้กล้ามเนื้อเกิดการอักเสบ ตลอดจนปวดเมื่อยตามอวัยวะส่วนอื่น ๆ ไล่ลงมาตั้งแต่คอ หลัง บ่า ไหล่ แขน หรือแม้กระทั่งบริเวณข้อมือก็ไม่เว้น ซึ่งหากผู้ที่พบว่ามีอาการของโรคออฟฟิศซินโดรม แต่ไม่ทำการรักษาตัวในทันทีที่พบ อาการอาจทรุดหนักลงและลุกลามจนผู้ป่วยมีอาการปวดชนิดเรื้อรังก็เป็นได้

อาการของผู้ป่วยเป็นโรคออฟฟิศซินโดรม

  • เกิดการปวดกล้ามเนื้อเฉพาะส่วน โดยไม่สามารถระบุตำแหน่งได้อย่างชัดเจน ตรงบริเวณคอ บ่า ไหล่ และสะบัก
  • มีอาการปวดวิงเวียนศีรษะเรื้อรัง หรือในบางคนอาจมีอาการปวดหัวไมเกรนร่วมด้วย ซึ่งสาเหตุเกิดจากความเครียดและการใช้สายตาจดจ่อบนหน้าจอคอมพิวเตอร์มากเกินไปเป็นระยะเวลานาน
  • ปวดหลัง เนื่องจากต้องนั่งทำงานอยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์ติดต่อกันนานหลายชั่วโมง อีกทั้งวิธีท่านั่งก็ไม่ถูกสรีระ โดยผู้มีอาการมักนั่งหลังค่อม ซึ่งส่งผลให้กล้ามเนื้อต้นคอเมื่อยล้าและยึดเกร็งอยู่ตลอดเวลา นอกจากนี้ยังรวมไปถึงผู้หญิงที่ใส่ส้นสูงยืนทำงานในออฟฟิศเป็นเวลานาน ก็อาจทำให้มีอาการปวดหลังจากโรคออฟฟิศซินโดรมได้เช่นเดียวกัน
  • มีอาการปวดหรือเกิดเหน็บชาบริเวณขาลงมา ซึ่งสาเหตุมาจากการนั่งในท่าเดิม ๆ เป็นเวลานาน จนทำให้เส้นเลือดดำถูกกดทับและการไหลเวียนของเลือดมีความผิดปกติ
  • ตาล้าพร่ามัว เนื่องจากการที่ต้องใช้สายตาจ้องมองหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน
  • มีอาการมือชา นิ้วล็อค และปวดข้อมือ โดยสาเหตุมาจากการจับเมาส์ในท่าเดิม ๆ เป็นเวลานาน ส่งผลให้กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น หรือปลอกหุ้มเส้นเอ็นบริเวณมือหรือนิ้วมือ (De Quervain’s disease) อักเสบได้ นอกจากนี้ยังสามารถทำให้เกิดอาการมือชา จากภาวะพังผืดกดทับเส้นประสาทมีเดียนได้อีกด้วย (CTS / Carpal Tunnel Syndrome)

2.โรคเครียด (Acute Stress Disorder)

โรคเครียด
โรคเครียด

โรคเครียด คือ ภาวะที่ต้องเผชิญแรงกดดันจากเหตุการณ์ร้ายแรง ซึ่งภาวะดังกล่าวเกี่ยวข้องกับการตอบสนองของร่างกายและจิตใจ ผู้ที่ผ่านเหตุการณ์ซึ่งก่อให้เกิดความเครียด จะเกิดอาการเครียดประมาณหนึ่งเดือน หากเกิดอาการนานกว่านั้นจะกลายเป็นโรคเครียดหลังเกิดเหตุสะเทือนขวัญ (Posttraumatic Stress Disorder: PTSD)

โดยทั่วไปแล้ว เมื่อต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์อันตราย ร่างกายจะหลั่งสารสื่อประสาทที่ทำให้ร่างกายตอบสนองด้วยการสู้หรือหนี (Fight-or-Flight) ส่งผลให้หัวใจเต้นเร็ว หายใจถี่ขึ้น กล้ามเนื้อหดตัว และความดันโลหิตสูงขึ้น ผู้ที่ป่วยเป็นโรคเครียดจะรู้สึกกลัว หวาดระแวง หรือตื่นตระหนกหลังเผชิญสถานการณ์อันตราย ทั้งนี้ อาจรู้สึกวิตกกังวล ว้าวุ่น และฟุ้งซ่าน หรือฝันร้ายเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลายครั้ง อย่างไรก็ตาม มนุษย์เราจะประสบภาวะเครียดจากสถานการณ์ที่แตกต่างกันไป กล่าวคือ สถานการณ์บางอย่างอาจทำให้คนหนึ่งเกิดความเครียดได้ ในขณะที่อีกคนอาจรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าวได้ และไม่รู้สึกเครียดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

อาการของผู้ป่วยเป็นโรคเครียด

โดยทั่วไป มนุษย์เรามักเกิดความเครียดจากการใช้ชีวิตประจำวัน ซึ่งความรู้สึกดังกลาวอาจส่งผลกระทบต่อการทำงานของร่างกายและอารมณ์บ้าง ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงทั้งด้านร่างกาย อารมณ์ความรู้สึก และพฤติกรรม ดังนี้

ความเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย

  • กล้ามเนื้อหดตัว ส่งผลให้ปวดหลัง เจ็บขากรรไกร รวมทั้งมีปัญหาเกี่ยวกับเอ็นตามกล้ามเนื้อ
  • ร่างกายตื่นตัวมาก ส่งผลให้ความดันโลหิตสูง หัวใจเต้นเร็ว ใจสั่น เหงื่อออกที่ฝ่ามือ มือเท้าเย็น เวียนศีรษะ ปวดไมเกรน หายใจไม่สุด และเจ็บหน้าอก
  • อ่อนเพลีย
  • แรงขับทางเพศลดลง
  • ปวดท้อง หรือรู้สึกไม่สบายท้อง ซึ่งเกิดจากปัญหาสุขภาพเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร เช่น กรดไหลย้อน กรดในกระเพาะอาหาร ท้องอืด ท้องร่วง หรือท้องผูก
  • มีปัญหาเกี่ยวกับการนอนหลับ

ความเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ความรู้สึก

  • วิตกกังวลและฟุ้งซ่าน
  • รู้สึกกดดันอยู่เสมอ รวมทั้งตื่นตัวได้ง่ายกว่าปกติ
  • ไม่มีสมาธิ หรือหมดแรงจูงใจในการทำสิ่งต่าง ๆ
  • ซึมเศร้า
  • อารมณ์แปรปรวนง่าย

ความเปลี่ยนแปลงทางพฤติกรรม

  • รับประทานอาหารมากขึ้นหรือน้อยลงกว่าปกติ
  • มักโกรธและอาละวาดได้ง่าย
  • สูบบุหรี่ หรือใช้สารเสพติดอื่น ๆ
  • ไม่เข้าสังคม ไม่พบปะผู้คน รวมทั้งไม่สนใจสิ่งรอบตัว
  • ทำกิจกรรมต่าง ๆ หรือออกกำลังกายเคลื่อนไหวร่างกายน้อยลง

3.โรคอ้วน (Obesity)

โรคอ้วน (Obesity)
โรคอ้วน (Obesity)

โรคอ้วน เกิดขึ้นเมื่อมีปริมาณไขมันในร่างกายที่มากเกินไป ซึ่งอาจก่อให้เกิดโรคและปัญหาสุขภาพอื่น ๆ เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง และมะเร็ง โรคที่ซับซ้อนนี้อาจเป็นผลมาจากปัจจัยที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม สิ่งแวดล้อม อาหาร ปัจจัยส่วนบุคคล ตลอดจนการเลือกออกกำลังกาย การลดน้ำหนักสามารถช่วยรักษาและป้องกันปัญหาสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นตามมาได้ โดยอาจปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่าง รวมถึงการเปลี่ยนวิธีการรับประทานอาหาร และออกกำลังกายเพิ่มขึ้น ทั้งนี้แพทย์อาจให้ความช่วยเหลือทางการแพทย์แก่คนไข้ เช่น การให้ยา หรือขั้นตอนทางการแพทย์อื่น ๆ เพื่อส่งเสริมการลดน้ำหนัก

อาการของผู้ป่วยเป็นโรคอ้วน

โดยทั่วไปคนไข้จะได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคอ้วนหากดัชนีมวลกายหรือ BMI สูงถึง 30 หรือมากกว่า ค่าดัชนีมวลกายสามารถประมาณไขมันในร่างกายได้ แต่ไม่สามารถวัดไขมันในร่างกายได้อย่างแม่นยำ ค่าดัชนีมวลกายอาจสูงในคนที่มีกล้ามเนื้อมาก ซึ่งอาจไม่มีไขมันส่วนเกินในร่างกายได้เช่นกัน

กรมการแพทย์แผนไทยฯ แนะนำ ศาสตร์การแพทย์แผนไทย รักษาอาการ 3 โรคยอดฮิต คนวัยทำงาน

1.โรคออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome)

  • การนวดรักษาและประคบสมุนไพร ซึ่งจะช่วยให้เลือดลมไหลเวียนได้สะดวก ช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัว
  • น้ำมันไพล หรือ ยาหม่องไพล ใช้ถูนวดเพื่อคลายกล้มเนื้อ บรรเทาอาการปวด อาการอักเสบ
  • ยาเถาวัลย์เปรียง เป็นยาสมุนไพรในบัญชียาหลักแห่งชาติ ที่มีฤทธิืบรรเทาอาการปวด ลดการอักเสบของกล้ามเนื้อ

2.โรคเครียด (Acute Stress Disorder)

  • สุคนธบำบัด(กลิ่น)ในการบรรเทาความตึงเครียดใช้สมุนไพรที่มีรสหอมเย็น เช่น มะลิ จำปี จำปา กระดังงา วางไว้ที่หัวเตียงเวลานอน กลิ่นของมสมุนไพรจะช่วยให้ผ่อนคลาย ปรับอารมณ์ให้เป็นปกติ และช่วยให้หลับสบายคลายจากความเครียดได้
  • การอบสมุนไพร ช่วยกระตุ้นระบบทางเดินหายใจ เพิ่มการไหลเวียนโลหิต ผ่อนคลายความตึงเครียดช่วยให้นอนหลับสบาย ลดอาการปวดศรีษะ บำรุงผิวพรรณ ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
  • ยาหอมแเทพจิตร บำรุงหัวใจ แก้อาการหน้ามืด ตาลาย อาการวิงเวียนศรีษะ ช่วยให้นอนหลับสบาย

3.โรคอ้วน (Obesity)

  • รับประทานสมุนไพรรสร้อน รับประทานอาหารที่เหมาะสม รับประทานสมุนไพรรสร้อน เพื่อช่วยการเผาผลาญและช่วยลดอาการท้องอืดท้องเฟ้อ เช่น ข่า กะเพรา ขิง ตะไคร้ เป็นต้น
  • ออกกำลังกายเป็นประจำ ด้วยท่าฤาษีดัดตน

ขอขอบคุณ : PPTVHD36 ,Medpark Hospital, POBPAD และ โรงพยาบาลไทยนครินทร์

นอกจากสารระดี ๆ ที่วันนี้ มาสิได้เอามาฝากกัน แต่ไม่หมดเพียงเท่านี้ มาสิ ขอแนะนำ การดูแลสุขภาพของเราให้ดียิ่งขึ้นด้วย ประกันสุขภาพ แผนบียอนด์ เพอร์ซันนัลแคร์ ( Beyond Personal Care ) ที่สามารถเลือกแผนความคุ้มครองได้ตั้งแต่ 1,000,000 และ 5,000,000 บาท โดยไม่จำกัดจำนวนครั้งการรักษาต่อปี ซึ่งรายละเอียดจะมีอย่างไรบ้างไปดูกัน

ประกันสุขภาพ แผนบียอนด์ เพอร์ซันนัลแคร์ ( Beyond Personal Care )

เอ็ทน่า ประกันภัย
ประกันสุขภาพ แผนบียอนด์ เพอร์ซันนัลแคร์ ( Beyond Personal Care )
  • ค่ารักษาพยาบาลกรณีผู้ป่วยใน ( ค่าห้อง ค่าอาหาร และค่าบริการพยาบาลค่าบริการทั่วไปสำหรับการรักษาพยาบาลค่าธรรมเนียมแพทย์ผ่าตัดและค่าแพทย์เยี่ยมไข้ ) และการรักษาพยาบาลที่มีค่าใช้จ่ายสูง ( Major Medical ) สามารถเลือกแผนความคุ้มครองได้ตั้งแต่ 1,000,000 และ 5,000,000 บาท โดยไม่จำกัดจำนวนครั้งการรักษาต่อปี
  • ค่าห้อง ค่าอาหาร และพยาบาล สูงสุดต่อวัน 12,000 บาท
  • ค่าห้องไอซียูสูงสุด 24,000 บาท ( สูงสุด 15 วันต่อปี )
  • ค่ารักษาพยาบาลทั่วไป สูงสุดถึงครั้งละ 200,000 บาท ต่อการเข้าพักรักษาตัวครั้งใดครั้งหนึ่ง
  • ค่ารักษาพยาบาลฉุกเฉินกรณีผู้ป่วยนอก สูงสุด 25,000 บาท
  • ค่าธรรมเนียมแพทย์ผ่าตัด รวมถึงค่าปรึกษาแพทย์ก่อนการผ่าตัด ( ตามตารางผ่าตัด ) สูงสุด 250,000 บาท
  • ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล( อบ.2* ) กรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะสายตา การรับฟังเสียง การพูดออกเสียง และทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง รายละ 100,000 บาท
  • เบี้ยประกันเริ่มต้น 2,279 บาท

ประกันสุขภาพ แผนบียอนด์ เพอร์ซันนัลแคร์ ( Beyond Personal Care )

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถโทรมาสอบถามรายละเอียดต่างๆ ได้ที่ 02 710 3100 หรือแอดไลน์ @masii ( มี @ ด้วยนะครับ ) เพื่อติดตามข่าวสารและบทความดีๆ ที่ มาสิบล็อก เกี่ยวกับ ประกันวินาศภัย ประกันรถยนต์ ประกันรถมอเตอร์ไซด์ ประกันสุขภาพ ประกันโดรน ประกันการเดินทาง ประกันอุบัติเหตุ ประกันภาคธุรกิจ และพ.ร.บ. รวมทั้ง ผลิตภัณฑ์ทางการเงินจากสถาบันการเงินชั้นนำทั่วประเทศ

อ่านบทความที่น่าสนใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ประกันสุขภาพ

____________________________________________

Please become Masii Fan

Facebook: https://lnkd.in/gFFh8mh

Website: www.masii.co.th

Blog: https://masii.co.th/blog

Line: @masii

Tel: 02 710 3100 

Youtube: https://lnkd.in/gbQf9eh

Instagram: https://lnkd.in/ga4j5ri

Twitter: twitter.com/MasiiGroup

#สินเชื่อ #ประกัน

#รถแลกเงิน #บ้านแลกเงิน #สินเชื่อส่วนบุคคล

#บัตรกดเงินสด #เงินด่วนทันใจ #สินเชื่อส่วนบุคคลออนไลน์

#กู้เงิน #เงินสด #เงินก้อน #เงินด่วน #เงินกู้ทันใจ #masii

#มาสิ #ครบง่ายสะดวก #เพื่อความสุขในชีวิตที่ดีกว่า

#ครบง่ายสะดวกเพื่อความสุขในชีวิตที่ดีกว่า #SimplifiedComparison