การ ฝึกสุนัข เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเลี้ยงสุนัข เพราะถ้าเราทราบวิธีฝึกสุนัขอย่างถูกต้องจะทำให้สุนัขรู้จักการมีวินัย เชื่อฟัง และไม่สร้างพฤติกรรมที่เป็นปัญหา เช่น กัดแทะทำลายสิ่งของ หรือขับถ่ายไม่เป็นที่ ทำให้เรากับสุนัขสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข
แต่การฝึกสุนัขนั้นนอกจากเรื่องระเบียบวินัยและการฝึกนิสัยแล้ว เรายังสามารถมีวิธีฝึกสุนัขให้ฉลาดเชื่อฟังไปพร้อม ๆ กับการทำให้ร่างกายสุนัขแข็งแรงและรูปร่างดีได้อีกด้วย เรียกได้ว่าได้ประโยชน์สองต่อกันไปเลย หลายคนคิดว่าเราไม่สามารถใช้วิธีฝึกสุนัขไปพร้อม ๆ กับการออกกำลังกายได้ แต่จริง ๆ แล้วอาจไม่ได้เป็นอย่างนั้น เพราะเราสามารถปรับการออกกำลังกายไปพร้อม ๆ กับการฝึกนิสัยและลับสมองของสุนัขได้พร้อม ๆ กัน รวมไปถึงการออกกำลังกายยังช่วยเผาผลาญพลังงานส่วนเกิน ช่วยระบบย่อยอาหาร และช่วยให้ร่างกายทำงานได้เป็นปกติอีกด้วย ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำให้สุนัขของคุณนอกจากจะมีความฉลาดแสนรู้แล้วยังทำให้สุนัขแข็งแรง และมีรูปร่างดีสมวัย เหล่าคนรักน้องหมา ไปดูความน่าสนใจนี้พร้อมๆ กัน กับ masii ได้เลยครับ
วิธีฝึกสุนัขให้ฉลาดเชื่อฟัง และแข็งแรงรูปร่างดีไปพร้อม ๆ กัน
1. จูงเดินออกกำลังกาย
การออกกำลังกายด้วยการจูงเดินถือเป็นวิธีฝึกสุนัขและการออกกำลังกายพื้นฐานที่ดีที่สุดวิธีหนึ่ง เพราะเป็นการฝึกที่ทำได้ง่ายและทำได้แทบทุกวัน การจูงเดินเป็นการออกกำลังกายเบาๆ ที่สุนัขทุกตัวสามารถทำได้และเป็นการฝึกขั้นต้นก่อนที่จะให้สุนัขไปออกกำลังกายชนิดอื่นด้วย โดยเคล็ดลับของการจูงสุนัขเดินออกกำลังกายอย่างแรกคือให้สุนัขใส่สายจูงและเราควรจูงเดินนำหน้าเสมอ เพื่อที่เขาจะได้เข้าใจว่าเราเป็นจ่าฝูง สุนัขจะยอมรับและเชื่อฟังเรามากขึ้น พยายามไม่ให้เราถูกสุนัขลากหรือให้สุนัขวิ่งนำไปที่ต่าง ๆ ตามใจชอบ
อีกทั้งการจูงเดินออกกำลังกายนอกบ้านยังเป็นการฝึกทักษะการเรียนรู้สังคม ทำให้จิตใจเข้มแข็ง ไม่กลัวคนแปลกหน้า เสียงรถ และสุนัขตัวอื่น ๆ เพราะมีการพบว่าสุนัขที่คุ้นเคยกับผู้คนและสิ่งแวดล้อมนอกบ้านจะมีระดับความก้าวร้าวลดลง โดยในช่วงแรกหากสุนัขกลัวอาจจะต้องให้เวลาเขาในการเรียนรู้และทำความคุ้นเคยกับผู้คนและสิ่งแวดล้อมแปลกใหม่ซักระยะ เช่น ให้เขาได้ลองดม หรือเดินสำรวจ โดยอาจจะเริ่มจากไม่เข้าใกล้มาก ก่อนที่จะค่อยๆ ขยับเข้าไปใกล้และใช้เวลามากขึ้นเรื่อย ๆ
2. ว่ายน้ำ
การว่ายน้ำถือเป็นการออกกำลังกายที่ดีชนิดหนึ่งสำหรับสุนัข เพราะเมื่อสุนัขอยู่ในน้ำจะสามารถลอยตัวและทำให้ข้อต่อไม่ต้องทำงานหนักเหมือนกับการวิ่งหรือเดินบนพื้น ดังนั้นการว่ายน้ำจึงเป็นอีกหนึ่งวิธีในการลดความอ้วนในสุนัขที่มีน้ำหนักมากที่มีปัญหาเรื่องข้อต่อ อีกทั้งในขณะที่ว่ายน้ำร่างกายทุกส่วนของสุนัขจะต้องออกแรงมากขึ้นเพื่อต่อสู้กับแรงหน่วงของน้ำ ทำให้เป็นการสร้างกล้ามเนื้อสุนัขได้เป็นอย่างดี และเป็นเหตุผลเดียวกันว่าทำไมนักกีฬาว่ายน้ำถึงได้รูปร่างดีนั่นเอง ดังนั้นถ้าอยากให้สุนัขรูปร่างดี เจ้าของก็ควรพาไปว่ายน้ำเป็นประจำ
ในระหว่างการว่ายน้ำ เราอาจสอดแทรกวิธีฝึกสุนัขไปด้วย โดยเราอาจใช้ลูกบอลโยนให้สุนัขว่ายน้ำไปคาบกลับมา วิธีนี้จะทำให้สุนัขรู้สึกสนุกและฝึกการตอบรับคำสั่งจากเราได้ด้วย ส่วนสิ่งที่ควรระวังสำหรับการว่ายน้ำคือควรใส่ชูชีพก่อนลงสระโดยเฉพาะเมื่อสุนัขไม่เคยว่ายน้ำมาก่อนเลยเพื่อป้องกันการจมน้ำ และควรให้ยากำจัดเห็บหมัดและฉีดวัคซีนครบเพื่อสุขอนามัยที่ดีต่อสุนัขตัวอื่นด้วย
3. ฝึกความปราดเปรียว
การฝึกความปราดเปรียวนั้นทำได้โดยเลือกสถานที่เหมาะสม ซึ่งควรเป็นที่โล่งกว้าง เช่น สนามหญ้า แล้วให้สุนัขวิ่งจากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่ง โดยอาจตั้งกรวยยางให้สุนัขได้วิ่งหลบซิกแซก หากมีอุปกรณ์มากพออาจจะให้วิ่งขึ้นทางลาด หรือกระโดดข้ามรั้วสิ่งกีดขวาง การฝึกความปราดเปรียวเป็นสิ่งที่สุนัขจะรู้สึกสนุกมาก ทำให้กล้ามเนื้อสุนัขแข็งแรง และยังช่วยให้พวกเขากระฉับกระเฉงและชอบการออกกำลังกาย เราจะพบว่าสุนัขของเราตื่นตัวและตอบรับต่อคำสั่งมากขึ้น ไม่ซึมหรือดูง่วงนอนตลอดเวลา อีกทั้งการฝึกความปราดเปรียวยังช่วยลับสมองและการโต้ตอบฉับพลันอีกด้วย ส่งผลให้พวกเขาเรียนรู้ได้ไวขึ้น
สิ่งเดียวที่ต้องระวังคือเรื่องของอุณหภูมิและระยะเวลาของการฝึก โดยเฉพาะในประเทศไทยที่อากาศค่อนข้างร้อนตลอดทั้งปี การฝึกที่นานเกินไปอาจจะทำให้สุนัขขาดน้ำหรือเป็นลมแดดได้ หลีกเลี่ยงการฝึกความปราดเปรียวในช่วงเวลาอากาศร้อนจัด เช่น ช่วงเที่ยงหรือบ่าย และดูสภาพร่างกายของสุนัขอยู่เสมอ
4. ออกกำลังกายด้วยเวลาที่เหมาะสม
หลายคนอาจคิดว่าเราควรให้สุนัขออกกำลังกายมาก ๆ และนานที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่การออกกำลังกายที่มากเกินไปนอกจากจะไม่สร้างผลดีต่อตัวสุนัขแล้ว ยังอาจทำให้เกิดผลเสียอีกด้วย การให้สุนัขออกกำลังกายที่มากเกินจะทำให้ร่างกายสุนัขทำงานหนัก จนอาจทำให้เกิดภาวะลมแดดหรือช็อกได้ นอกจากนี้การออกกำลังกายที่มากเกินไปจะทำให้มวลกล้ามเนื้อสุนัขถูกสลายเพื่อนำมาใช้เป็นพลังงาน ทำให้แทนที่สุนัขจะมีรูปร่างดีกลับทำให้ร่างกายทรุดโทรมแทน อีกทั้งยังเป็นปัจจัยเสี่ยงโน้มนำทำให้เกิดปัญหากระดูกและไขข้ออักเสบอีกด้วย
ดังนั้นเราจึงควรปรับเวลาฝึกให้เหมาะสมกับสุนัขของเรา ในเบื้องต้นสุนัขโตพันธุ์เล็กวัยควรออกกำลังกายประมาณวันละ 15-30 นาที แล้วแต่สภาพร่างกายและอากาศ สุนัขโตเต็มวัยพันธุ์กลางอยู่ที่ประมาณ 30-45 นาที ส่วนสุนัขโตพันธุ์ใหญ่อยู่ที่ประมาณ 45-60 นาที การฝึกออกกำลังกายแต่พอดีจะทำให้สุนัขแข็งแรงและสนุก ในทางกลับกันถ้าเราฝืนให้สุนัขออกกำลังกายมากไปจะทำให้สุนัขเกิดอาการต่อต้านไม่อยากออกกำลังกายและกลายเป็นนิสัยที่ไม่เชื่อฟังเราขึ้นมาได้
5. ควบคุมอาหาร
สุขภาพที่แข็งแรงและรูปร่างที่ดีเริ่มต้นได้ที่เรื่องอาหาร ต้องบอกว่าคำกล่าวนี้ถูกต้องมาก ๆ เลยทีเดียว แต่การควบคุมอาหารนั้นยังช่วยฝึกให้สุนัขมีระเบียบได้อีกด้วย มีสุนัขจำนวนมากถูกเจ้าของตามใจเรื่องอาหารจนเสียนิสัย ถ้าสุนัขเริ่มเรียนรู้ว่าอ้อนเจ้าของหรือเห่าเรียกร้องความสนใจแล้วจะได้อาหารที่เขาต้องการ สุนัขจะทำพฤติกรรมนั้นเรื่อย ๆ และอาจพัฒนาไปเป็นการขโมยอาหารบนโต๊ะได้
ในแง่ของสุขภาพการให้สุนัขกินตามใจหรือการแบ่งอาหารคนให้สุนัขกินนั้นทำให้ร่างกายสุนัขได้รับอาหารที่ไม่ครบถ้วนและสมดุล สามารถส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาวได้ ดังนั้นจึงควรให้อาหารสุนัข 2 มื้อต่อวันและกำหนดเวลาในการกินในแต่ละมื้อ ถ้าสุนัขไม่ยอมกินเมื่อครบเวลาแล้วให้ยกชามอาหารออก สุนัขจะเรียนรู้ได้ว่าต้องกินอาหารตามเวลา ไม่เช่นนั้นแล้วจะไม่ได้กิน และไม่ควรใจอ่อนให้อาหารเมื่อสุนัขร้องขอโดยไม่มีเหตุผล
โภชนาการที่เหมาะสม ให้ฉลาดเชื่อฟัง มีรูปร่างดี กล้ามเนื้อแข็งแรง
1. ให้ปริมาณโปรตีนที่มีคุณภาพสูงในปริมาณที่สมดุล
โปรตีนเป็นหนึ่งในแหล่งพลังงานสำคัญในสุนัข แต่การให้อาหารที่มีโปรตีนสูงเกินไปหรือโปรตีนต่ำเกินไปล้วนสร้างผลเสียต่อร่างกายสุนัขด้วยกันทั้งสิ้น โปรตีนที่สุนัขควรได้รับควรเป็นโปรตีนคุณภาพสูงที่ย่อยง่าย มีปริมาณกรดอะมิโนที่ครบถ้วนและเพียงพอ ปริมาณโปรตีนในอาหารที่สุนัขต้องการนั้นแตกต่างกันออกไปในแต่ละสายพันธุ์และกิจกรรมที่ทำ แต่พื้นฐานแล้วทางองค์กร Association of American Feed Control Officials (AFFCO) ได้กำหนดให้อาหารแบบแห้งสำหรับสุนัขโตมีโปรตีนรวมขั้นต่ำ 18 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้นอาหารที่เราให้สุนัขที่ชอบออกกำลังหรือทำกิจกรรมกลางแจ้งบ่อย ๆ ควรมีปริมาณมากกว่านี้ การให้สุนัขได้ทานอาหารที่มีโปรตีนคุณภาพสูงและสมดุลนั้นจะช่วยให้สุนัขตื่นตัว กระปรี้กระเปร่า ช่วยให้สามารถฝึกและเรียนรู้ได้ง่ายมากขึ้น อีกทั้งโปรตีนยังเป็นส่วนประกอบสำคัญของกล้ามเนื้อสุนัข ทำให้สุนัขมีรูปร่างดีและแข็งแรง
ถ้าสุนัขได้รับอาหารที่มีปริมาณโปรตีนต่ำเกินไป จะทำให้ร่างกายทรุดโทรม ผอมแกร็น ประสาทเฉื่อยชา ทำให้ฝึกได้ยากยิ่งขึ้น ในทางกลับกันหากสุนัขได้รับอาหารที่มีโปรตีนสูงเกินไปซึ่งมักมีแคลอรี่สูง จะส่งผลทำให้สุนัขมีแนวโน้มอ้วนได้ง่าย และอุจจาระมีกลิ่นเหม็นกว่าปกติ
2. ลดปริมาณคาร์โบไฮเดรต
แม้ว่าสุนัขจะเป็นสัตว์ที่สามารถกินและย่อยคาร์โบไฮเดรตเพื่อให้เป็นพลังงานได้ แต่หากอาหารแต่ละมื้อของสุนัขมีปริมาณคาร์โบไฮเดรตมากไปจะเป็นการกระตุ้นฮอร์โมนอินซูลินออกมาเพื่อลดระดับน้ำตาลในกระแสเลือดและส่งผลทำให้สุนัขเกิดอาการง่วงนอนหรือไม่กระฉับกระเฉงขึ้นมาได้ เช่นเดียวกับในมนุษย์ที่มักง่วงนอนหลังอาหารมื้อเที่ยงและมื้อเย็นนั่นเอง ดังนั้นเพื่อให้สุนัขมีความกระฉับกระเฉง ควรปรับปริมาณคาร์โบไฮเดรตในอาหารแต่ละมื้อให้ต่ำลง หรือเลือกอาหารสุนัขคุณภาพสูงที่มีปริมาณคาร์โบไฮเดรตที่เหมาะสมแทน อีกทั้งคาร์โบไฮเดรตเมื่อสุนัขทานเข้าไปแล้วใช้ไม่หมดจะเปลี่ยนเป็นไขมัน ส่งผลทำให้อ้วนได้ง่ายอีกด้วย
3. DHA (Docosahexaenoic acid) เสริมสร้างสมองที่ฉับไว
DHA หรือ Docosahexaenoic acid เป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัวชนิดหนึ่ง ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของระบบประสาทและสมอง มีหน้าที่ช่วยในการทำงานของสมอง ส่งผลให้สมองสามารถรับ-ส่งกระแสประสาทได้ดีขึ้น มีการทดลองโดย Hoffman และคณะ ในปี ค.ศ. 2005 พบว่าการเพิ่มปริมาณ DHA ในอาหารของลูกสุนัขบีเกิ้ล จะช่วยให้ลูกสุนัขเรียนรู้ได้ดีมากกว่าและทำคะแนนในการทดสอบต่าง ๆ ในการทดลองได้ดีมากกว่าลูกสุนัขที่ได้รับ DHA ปริมาณต่ำ2, 3
DHA นั้นเป็นกลุ่มกรดไขมันไม่อิ่มตัวชนิดหนึ่งของกรดไขมันโอเมก้า-3 ดังนั้นถ้าอยากเพิ่มปริมาณ DHA ให้กับสุนัขของคุณอาจทำได้โดยเพิ่มปริมาณกรดไขมันโอเมก้า-3 ในอาหารแต่ละมื้อหรือเลือกอาหารที่มีส่วนผสมของกรดไขมันโอเมก้า-3
4. Tryptophan : สารเสริมเพื่อช่วยในการเรียนรู้ของสุนัข
Tryptophan เป็นกรดอะมิโนชนิดหนึ่งที่เป็นสารตั้งต้นของฮอร์โมน Serotonin ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับความสุขและลดความเครียด การที่อาหารมีปริมาณ Tryptophan สูงจะมีส่วนช่วยให้สุนัขลดอาการก้าวร้าวดุร้ายและไม่เครียดง่ายได้ดีมากขึ้น2,4 ซึ่งส่งผลดีต่อการฝึกและการเรียนรู้ของสุนัข โดย Tryptophan นั้นถือเป็นกรดอะมิโนจำเป็นของสุนัข โดยสุนัขไม่สามารถสังเคราะห์กรดอะมิโนชนิดนี้ขึ้นมาได้เอง จำเป็นต้องได้รับจากอาหารเท่านั้น ดังนั้นจึงควรเลือกอาหารสุนัขที่มีส่วนผสมของ Tryptophan ในปริมาณที่เหมาะสมจะช่วยให้สุนัขแข็งแรงสุขภาพดีและเพิ่มศักยภาพในการฝึกและเรียนรู้ได้ดีมากขึ้น
5. Glucosamine และ Chondroitin Sulfate : คู่หูเพิ่มความแข็งแรงของกระดูกและข้อต่อ
Glucosamine (กลูโคซามีน) และ Chondroitin Sulfate เป็นสองสารเสริมที่ช่วยในการบำรุงข้อต่อและกระดูกสุนัข โดย Glucosamine มีหน้าที่ช่วยในการสร้างกระดูกอ่อนและคอลลาเจนของข้อต่อ และมีส่วนช่วยในการลดการอักเสบได้ ส่วน Chondroitin Sulfate มีหน้าที่คอยยับยั้งเอนไซม์ที่ทำหน้าที่ย่อยสลายกระดูกอ่อนและน้ำในไขข้อ จะเห็นว่าสารทั้งสองตัวนี้คอยทำหน้าที่ช่วยเสริมซึ่งกันและกัน และทั้งสองยังมีหน้าที่ช่วยในการสร้าง Glycoaminoglycan และ Proteoglycan ซึ่งเป็นสารตั้งต้นของกระดูกอ่อนอีกด้วย ดังนั้นทั้ง Glucosamine และ Chondroitin Sulfate จึงมีหน้าที่สำคัญในการสร้างและบำรุงข้อต่อสุนัขให้สมบูรณ์แข็งแรง
สำหรับสุนัขที่ชอบออกกำลังกายและต้องการให้แข็งแรงกระฉับกระเฉงควรเลือกอาหารที่มีทั้ง Glucosamine และ Chondroitin Sulfate ในสัดส่วนและปริมาณที่เหมาะสมเพื่อให้สุนัขแข็งแรงปราดเปรียว กระโดดหรือวิ่งได้อย่างไม่มีปัญหา นอกจากนี้ในท้องตลาดยังมีผลิตภัณฑ์เสริมของสารสองตัวนี้ให้ใช้เพิ่มอีกด้วย ถ้าเจ้าของสุนัขสนใจอาจจะลองปรึกษาสัตวแพทย์ว่าจำเป็นหรือสามารถให้เพิ่มได้หรือไม่ รวมไปถึงแคลเซียมสุนัข ซึ่งโดยปกติหากเลือกอาหารสุนัขที่มีคุณภาพมักจะมีปริมาณแคลเซียมในอาหารเพียงพออยู่แล้ว อย่างไรก็ดีก่อนเสริมแคลเซียมสุนัขควรปรึกษาสัตวแพทย์อย่างละเอียดอีกครั้ง ไม่ควรเสริมแคลเซียมให้สุนัขเอง เพราะสุนัขอาจจะได้รับแคลเซียมมากเกินไปจนเกิดการเจริญกระดูกและข้อต่อผิดปกติตามมาได้
การฝึกสุนัขให้ฉลาดเชื่อฟังและแข็งแรงรูปร่างดีนั้น หัวใจอยู่ที่การฝึกออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องและเหมาะสมรวมทั้งความเข้าใจถึงสารอาหารที่สุนัขต้องการ สุนัขจำเป็นต้องได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนและสมดุล การได้รับสารอาหารตัวใดตัวหนึ่งมากหรือน้อยเกินไปส่งผลทำให้สุนัขมีสุขภาพที่แย่ลง ทั้งร่างกายและจิตใจ ทำให้ฝึกได้ยาก เรียนรู้ช้า และร่างกายไม่กระฉับกระเฉงอย่างที่เคย
……………………………………………..
สำหรับคนรักสัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะน้องหมาน้องแมวแล้วนั้น การ ซื้อประกันสัตว์เลี้ยง ก็คล้ายๆ กับ การซื้อประกันภัยรถยนต์ คือ มีไว้ก็อุ่นใจ ต่างกันที่การซื้อประกันภัยรถยนต์ให้ความคุ้มครองรถยนต์ แต่ประกันสัตว์เลี้ยงให้ความคุ้มครองสัตว์เลี้ยงของเรา โดยได้รับเป็นเงินค่ารักษาพยาบาล เงินชดเชยกรณีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ รวมไปถึงยังรับผิดชอบบุคคลภายนอกกรณีที่สัตว์เลี้ยงไปสร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่นอีกด้วย ซึ่งประกันสัตว์เลี้ยงที่มาสิแนะนำวันนี้ มีด้วยกันทั้ง 2 บริษัทประกัน ได้แก่ ทิพยประกันภัย เมืองไทยประกันภัย โดยมีแพ็กเกจประกันดังนี้
แพ็กเกจแผนประกันสัตว์เลี้ยง
ความคุ้มครองหลัก | ทิพยประกันภัย | เมืองไทยประกันภัย | ||||||
อายุสัตว์เลี้ยงที่รับทำประกัน | อายุ 3 เดือน – 9 ปี | อายุ 3 เดือน – 7 ปี | ||||||
แผนประกัน | แผน S | แผน M | แผน L | แผน XL | แผน 1 | แผน 2 | แผน 3 | แผน 4 |
ค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุ | 3,000 | 5,000 | 10,000 | 20,000 | 30,000 | 20,000 | 10,000 | 5,000 |
ค่ารักษาพยาบาลจากการเจ็บป่วย | 1,500 | 3,000 | 5,000 | 10,000 | 3,000 | 2,000 | 1,000 | 1,000 |
ความเสียหายต่อชีวิตและร่างกายของบุคคลภายนอก | 10,000 | 10,000 | 10,000 | 30,000 | 20,000 | 15,000 | 10,000 | 10,000 |
ความเสียหายต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก | 1,000 | 1,000 | 1,000 | 3,000 | ||||
ค่าใช้จ่ายในการจัดงานศพ | 2,000 | 3,000 | 5,000 | 10,000 | 5,000 | 3,000 | 2,000 | 2,000 |
เสียชีวิตจากอุบัติเหตุหรือเจ็บป่วย | 10,000* (ซื้อเพิ่ม) |
10,000* (ซื้อเพิ่ม) |
10,000* (ซื้อเพิ่ม) |
20,000* (ซื้อเพิ่ม) |
5,000 | 5,000 | 5,000 | – |
ค่าใช้จ่ายในการโฆษณา ประกาศเพื่อติดตามสัตว์เลี้ยงที่สูญหาย | 2,000* (ซื้อเพิ่ม) |
3,000* (ซื้อเพิ่ม) |
5,000* (ซื้อเพิ่ม) |
10,000* (ซื้อเพิ่ม) |
5,000 | 3,000 | 2,000 | – |
ค่าฉีดวัคซีนป้องกันโรคในสัตว์เลี้ยง | 500* (ซื้อเพิ่ม) |
500* (ซื้อเพิ่ม) |
500* (ซื้อเพิ่ม) |
1,500* (ซื้อเพิ่ม) |
500 | – | – | – |
ค่ารับฝากเลี้ยง กรณีเจ้าของไปต่างประเทศ | 500* (ซื้อเพิ่ม) |
500* (ซื้อเพิ่ม) |
500* (ซื้อเพิ่ม) |
2,000* (ซื้อเพิ่ม) |
– | – | – | – |
เฉพาะเบี้ยประกันเพิ่มเติม* | 720 | 810 | 930 | 2,040 | – | – | – | – |
เบี้ยประกันรายปี | 1,100 | 2,000 | 3,350 | 6,700 | 13,200 | 8,900 | 5,600 | 3,200 |
*หมายเหตุ*: เบี้ยประกันตามความคุ้มครองดังกล่าวสามารถซื้อแพ็กเกจเพิ่มเติมได้ โดยจับคู่แผนเดียวกัน
และนี่ก็คือ ประกันสัตว์เลี้ยง ที่มาสินำมาให้ทุกๆ ท่านได้เปรียบเทียบกัน หากใครสนใจแพ็กเกจไหน สามารถติดต่อกับมาสิได้เลยที่ 02 710 3100 หรือแอดไลน์มาที่ @masii (มี @ ด้วยนะ)
สนใจสมัครประกันสุขภาพ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
ไม่เพียงแต่มาสิจะมีประกันสัตว์เลี้ยงแล้ว หากใครที่ต้องการซื้อประกันอื่นๆ อาทิ ซื้อประกันภัยรถยนต์ ประกันมอเตอร์ไซค์ ประกันภัยโดรน ประกันสุขภาพ ประกันโควิด-19 และประกันอื่นๆ รวมถึงยังมีบริการอื่นๆ อาทิ เปรียบเทียบบัตรเครดิต สมัครสินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อรถแลกเงิน และผลิตภัณฑ์ทางการเงินต่างๆ เพียงคลิก www.masii.co.th
อ่านบทความที่น่าสนใจเพิ่มเติม เกี่ยวกับ “ ประกันสัตว์เลี้ยง ”
- ร้อนนี้ต้องระวัง อย่าลืมทำประกันสัตว์เผื่อน้องหมาน้องแมวของเราเกิดอาการฮีทสโตรก
- 3 เหตุผล ที่เราควรซื้อประกันสัตว์เลี้ยง
- ประกันสัตว์เลี้ยงประกันเพื่อนซี้สี่ขา ที่เราควรทำให้สัตว์เลี้ยงแสนรัก
- ทำประกันสัตว์เลี้ยงเพื่อน้องหมาน้องแมว คุ้มครองตลอดปี
_____________________________________________
Please become Masii Fan
Facebook: www.facebook.com/MasiiThailand
Website: www.masii.co.th
Line : @masii
Tel: 02 710 3100
Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCV-5rpO5ZqAGfgLdKqzKGFw
Instagram: www.instagram.com/masii_thailand/
Twitter: twitter.com/MasiiGroup
#บัตรเครดิต #สมัครบัตรเครดิตออนไลน์ #ทำบัตรเครดิต #บัตรเครดิตใบแรก
#สินเชื่อส่วนบุคคล #บัตรกดเงินสด
#สินเชื่อส่วนบุคคลออนไลน์ #กู้เงิน
#ประกันภัยโดรน #ประกันโดรน #ลงทะเบียนโดรน #ขึ้นทะเบียนโดรน #Dronethailand
#ประกันรถยนต์ #ประกันรถยนต์ชั้น1 #สมัครประกันรถยนต์ #ประกันรถที่คุ้มที่สุด
#masii #มาสิ #ครบง่ายสะดวก #เพื่อความสุขในชีวิตที่ดีกว่า
#ครบง่ายสะดวกเพื่อความสุขในชีวิตที่ดีกว่า