ลดน้ำหนัก อยู่ต้องไม่พลาด…กับวิธีการ “คํานวณ แคลอรี อาหาร” ง่าย ๆ ทำได้ด้วยตัวเอง!

สมัครรถแลกเงินโปรโมชั่น แจกฟรี Voucher Lazada

เรื่องของหุ่นดี ใส่เสื้อผ้าสวย หรือการมีบุคลลิกร่างกายที่ดี เป็นเรื่องที่ใครหลายคนใฝ่ฝัน แต่เมื่อพลาดพลั้งตามใจปากจนนำหนักเกินไป ก็ต้องมีเสียเวลาลดกันใหม่อีกที ซึ่งก็จะมีวิธี และทางเลือกต่าง ๆ มากมายให้ได้เลือกทำตามกัน อย่างเช่น การควบคุมอาหาร การคำนวณ แคลอรี่ เป็นอีกหนึ่งวิธีที่เขาว่ากันว่าได้ผลดี และเป็นที่นิยมกัน แต่ทั้งนี้ มีใครพบปัญหาเหมือนกันหรือไม่ เวลาที่พยายามลดน้ำหนัก แต่ติดปัญหาตรง “คํานวณแคลอรีอาหาร” ไม่เป็น แต่ปัญหาเหล่านั้นจะหมดไป เพราะวันนี้ มาสิ มีวิธีการคำนวนแคลอาหารง่าย ๆ ที่ทุกคนทุกวัยสามารถทำตามได้มาฝากครับ ใครที่กำลังอยู่ในช่วงลดน้ำหนัก หรือควบคุมอาหาร กินยังไงให้ไม่รู้สึกผิด!

แคลอรี่ คืออะไร

แคลอรี่ เป็นหน่วยพลังงาน ไม่ว่าจะเป็นพลังงานที่ใช้ไป พลังงานที่เผาผลาญ หรือจะเป็นพลังงานอาหารที่เรากินเข้าไป ล้วนแต่เป็นแคลอรี่ทั้งหมด ซึ่งในส่วนของอาหาร ขนม ของกินเล่นต่างๆ เราสามารถดูจำนวนแคลอรี่ได้ที่ข้างหลังตัวผลิตภัณฑ์ จะมีบอกว่าของชนิดนี้มีทั้งกี่แคล แบ่งออกเป็นอะไรบ้าง

ร่างกายใช้แคลอรี่ด้วยกันทั้งหมด 2 ส่วนคือ

  • แคลอรี่ พื้นฐาน เป็นแคลอรี่ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน เช่นการหายใจ หรือการทำงาน การขยับอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย
  • แคลอรี่ ในการทำกิจกรรมต่างๆ  ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลัง การเดิน การวิ่ง แม้กระทั่งการนั่งนิ่งๆหรือการนอน ก็นับว่าเป็นกิจกรรมที่ใช้พลังงานแคลอรี่ หรือเป็นการเผาผลาญแคลอรี่

ทั้งนี้ โดยในขั้นแรกก่อนที่เราจะไปถึงขั้นการคำนวณเรามาเริ่มจากการอ่านฉลากกันก่อนดีกว่า

การอ่านฉลากโภชนาการ

ในทุกผลิตภัณฑ์อาหารที่เราซื้อ จะมี “ฉลากข้อมูลทางโภชนาการ” ติดอยู่ ที่จะแสดงข้อมูลทางโภชนาการที่ติดอยู่บนบรรจุภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงสาธารณสุข โดยจะระบุชนิดและปริมาณสารอาหารที่มีอยู่ในอาหารหรือเครื่องดื่มนั้น ๆ ลงในกรอบสี่เหลี่ยมหรือกรอบข้อมูลโภชนาการ โดยมี 2 รูปแบบ คือ แบบเต็ม และแบบย่อ

แล้วการอ่านฉลากโภชนาการแบบเต็ม และแบบย่อ อ่านยังไงล่ะ?
  • หน่วยบริโภค คือสิ่งที่ควรอ่านเป็นอันดับแรก ๆ เมื่อเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ เนื่องจากส่วนนี้จะหมายถึงปริมาณที่ผู้ผลิตแนะนำให้ผู้บริโภครับประทานในแต่ละครั้ง
  • พลังงานต่อหนึ่งหน่วยบริโภค คือ พลังงาน หรือแคลอรีอาหารที่คุณจะได้รับเมื่อรับประทานผลิตภัณฑ์นี้ในปริมาณหนึ่งหน่วยบริโภค
  • ร้อยละของปริมาณที่แนะนำต่อวัน หมายถึง สารอาหารที่ได้รับจากการบริโภคแต่ละครั้งนั้นคิดเป็นสัดส่วนเท่าใดของปริมาณสารอาหารที่แนะนำให้บริโภคต่อวัน (Thai RDI) และแสดงปริมาณสารอาหารในหน่วยกรัมหรือมิลลิกรัมด้วย

Thai Recommended Daily Intakes (Thai RDI) คือ ปริมาณสารอาหารที่แนะนำให้บริโภคต่อวัน สำหรับคนไทยอายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไป คิดจากความต้องการพลังงานวันละ 2,000 กิโลแคลอรีโดยมีเกณฑ์ ดังนี้

  • ไขมันทั้งหมด น้อยกว่า 65 กรัม
  • กรดไขมันอิ่มตัว น้อยกว่า 20 กรัม
  • คอเลสเตอรอล น้อยกว่า 300 มิลลิกรัม
  • คาร์บไฮเดรตทั้งหมด 300 กรัม
  • ใยอาหาร 25 กรัม
  • โซเดียม น้อยกว่า 2,400 มิลลิกรัม “

แล้ววิธีการคํานวณแคลอรีอาหาร ต้องทำยังไง?

วิธีการคํานวณแคลอรีอาหาร หรือคํานวณพลังงานอาหารนั้นมีหลายแบบมากครับ มีตั้งแต่แบบที่มีการใช้สูตรคํานวณแคลอรีอาหารด้วยมือของเราเอง จนไปถึงการคํานวณแคลอาหารแบบมีตัวช่วยง่าย ๆ เพียงใช้หนึ่งนิ้วคลิก จะมีวิธีแบบไหนบ้างนั้น มาดูกันเลยครับ

1.สังเกตแคลอรีอาหารจากฉลากโภชนาการ

เพราะข้อมูลทางโภชนาการอาการที่อยู่ในฉลากนั้น สามารถบอกคุณค่าทางสารอาหารต่าง ๆ ที่อยู่ในอาหารนั้น ๆ ได้ จนไปถึงส่วนผสมต่าง ๆ ที่นำมาผลิตอาหารชนิดนี้อีกด้วย

ฉลากโภชนาการแบบจีดีเอ (GDA : Guideline Daily Amount) อาจเรียกง่าย ๆ ว่า “ฉลากหวาน มัน เค็ม” ที่ติดอยู่บนบรรจุภัณฑ์อาหารสำเร็จรูปพร้อมรับประทาน โดยนำข้อมูลของสารอาหาร 4 ชนิด คือ พลังงาน (กิโลแคลอรี่) น้ำตาล ไขมัน และโซเดียม มาแสดงให้ผู้บริโภคเห็นได้อย่างชัดเจนและอ่านง่าย โดยสิ่งที่ทุกคนควรอ่านบนฉลากจีดีเอ มีดังนี้ครับ

  1. คุณค่าทางโภชนาการต่อหนึ่งหน่วยบรรจุภัณฑ์ เช่น 1 ถ้วย 1 ซอง 1 กล่อง 1 ถุง 1 แท่ง เป็นต้น
  2. ควรแบ่งกิน…ครั้ง แสดงจำนวนครั้งที่แนะนำให้รับประทาน
  3. ค่าพลังงาน (กิโลแคลอรี) น้ำตาล (กรัม) ไขมัน (กรัม) และโซเดียม (มิลลิกรัม) ต่อ 1 บรรจุภัณฑ์ ที่ร่างกายได้รับ หรือค่าพลังงานที่ได้รับจากการกินหมดทั้งซอง กล่อง หรือถุง
  4. ค่าร้อยละของพลังงาน น้ำตาล ไขมัน และโซเดียม เมื่อเทียบกับปริมาณสูงสุดที่สามารถบริโภคได้ต่อวัน ดังนี้
  • ค่าพลังงานคิดเป็นร้อยละของพลังงาน 2,000 กิโลแคลอรี
  • ค่าน้ำตาลคิดเป็นร้อยละของน้ำตาล 65 กรัม
  • ค่าไขมันคิดเป็นร้อยละของไขมัน 65 กรัม
  • ค่าโซเดียมคิดเป็นร้อยละของโซเดียม 2,400 มิลลิกรัม “

2.คํานวณคุณค่าทางโภชนาการอาหาร จากฉลากโภชนาการ

เราจะคํานวณพลังงานอาหารจากสารอาหารหลัก ๆ 3 ชนิดนั่นก็คือโปรตีน, คาร์โบไฮเดรต และไขมัน เป็นสารอาหารที่นำมาซึ่งแคลอรีอาหารที่เราต้องควบคุมนั่นเองค่ะ โดยสารอาหารทั้ง 3 ชนิดนี้จะให้ปริมาณแคลอรีดังนี้

  • คาร์โบไฮเดรต ให้พลังงาน 4 แคลอรีต่อกรัม
  • โปรตีนให้พลังงาน 4 แคลอรีต่อกรัม
  • ไขมันให้พลังงาน 9 แคลอรีต่อกรัม

3.ใช้สูตรคํานวณแคลอรีอาหารต่อ 1 หน่วยบริโภค

จากข้อที่ 2 เราทราบถึงปริมาณแคลอรีของสารอาหารทั้ง 3 ชนิดต่อ 1 กรัม แล้วเราจะลองมาคำนวนแคลอรีอาหารแบบง่าย ๆ กันบ้างดีกว่าค่า โดยอาหารที่เรารับประทานต่อ 1 หน่วยปริโภคนี้ เช่นขนมซอง A มีปริมาณโปรตีน 30 กรัม, คาร์โบไฮเดรต 45 กรัม, และไขมัน 20 กรัม จะสามารถใช้สูตรคํานวณแคลอรีอาหารได้ตามนี้เลย

  • โปรตีน 30 x 4 = 120 แคลอรี
  • คาร์โบไฮเดรต 45 x 4 = 180 แคลอรี
  • ไขมัน 20 x 9 = 180 แคลอรี

เราจะคํานวณแคลอาหารรวมทั้งหมดโดยนำเอาผลลัพท์ของอาหารทั้ง 3 ชนิดมารวมกัน คือ 120 + 180 + 180 = 480 แคลอรี นั่นเอง

4.สูตรคํานวณแคลอรีอาหารทั้งหมดต่อ 1 ผลิตภัณฑ์

จากข้อที่ 3 เราคำนวณได้ว่าต่อ 1 หน่วยบริโภคนั้นมีแคลอรีอาหารอยู่ที่ 480 แคลอรี ซึ่งในผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ จะมีการระบุไว้ว่าอาหารในซองนี้หรือถ้วย กินได้กี่ครั้ง เช่น ขนมซอง A สามารถแบ่งกินได้ 3 หน่วยบริโภค นั่นหมายความว่าการคํานวณแคลอาหารทั้งหมด จะต้องนำแคลอรีอาหารต่อ 1 หน่วยบริโภคที่เราคำนวณไว้ซึ่งในที่นี้คือ 480 มาคูณกับ 3 หน่วยบริโภค จะออกมาเป็น 480 x 3 = 1,440 แคลอรีนั่นเองครับ

5.เปรียบเทียบแคลอรีของสารอาหารที่ผู้ผลิตแนะนำให้บริโภคต่อวัน

โดยปกติแล้วในฉลากโภชนการจะต้องระบุเปอร์เซ็นของคุณค่าทางอาหาร หรือสารอาหารที่ได้รับจากการกินผลิตภัณฑ์นี้ต่อ 1 หน่วยบริโภค ส่วนใหญ่นักโภชนาการด้านอาหารแนะนำว่า 45 – 65% ของแคลอรีที่ต้องบริโภคต่อวันควรมาจากคาร์โบไฮเดรต, จากโปรตีน 10 – 35%, และจากไขมัน20 – 25% เช่น ขนมซอง A ระบุว่ามีโปรตีนต่อ 1 หน่วยบริโภคที่ 30 กรัม มีปริมาณคร่าว ๆ ว่าเป็น 10.5% ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน

6.คํานวณแคลอรีอาหารผ่านเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชัน

วิธีนี้เป็นการคำนวณแคลอาหารได้ง่ายมาก ๆ เพียงป้อนชื่อผลิตภัณฑ์ หรือวัตถุดิบพร้อมปริมาณ ตัวเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชันเหล่านี้ก็คำนวณออกมาให้เราภายในไม่กี่นาทีเอง

มาสิ แนะนำอาหารที่กินแล้วช่วยควบคุมน้ำหนักได้

และยังไม่หมดเพียงเท่านั้น ไหน ๆ ก็พูดเรื่องการควบคุมอาหาร ควบคุมน้ำหนักกันแล้วทั้งที  มาสิ ยังมีอาหารที่กินแล้วช่วยในเรื่องการควบคุมน้ำหนักมาแนะนำด้วย มีดังนี้เลย

  1. 100 กรัมไก่ (อกไก่) เท่ากับ110 แคลลอรี่ แบ่งเป็น โปรตีน 23 กรัม, ไขมัน 1.3 กรัม นอกจากจะเป็นแหล่งโปรตีนชั้นดีแล้วนั้น เนื้อไก่ยังอุดมไปด้วยวิตามิน B3 และ B6
  2. แซลมอน เท่ากับ 197 แคลลอรี่ แบ่งเป็น โปรตีน 20 กรัม, ไขมัน 13 กรัม นอกจากนี้แซลมอนอุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมกา-3, ซีลีเนียม, โพแทสเซียม, วิตามิน D, วิตามิน B3, B5, และ B6 เป็นต้น
  3. เนื้อ (สันใน) เท่ากับ136 แคลลอรี่ แบ่งเป็น โปรตีน 20 กรัม, ไขมัน 6 กรัม นอกจากนี้เนื้อวัวจะอุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมกา-3, สารต้านอนุมูลอิสระ, และกรดคอนจุเกตเตดไลโนเลอิก ซึ่งมีการศึกษาว่ากรดตัวนี้สามารถช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งได้อีกด้วย
  4. หมู (สันใน) เท่ากับ107 แคลลอรี่ แบ่งเป็น โปรตีน 20 กรัม, ไขมัน 38 กรัม นอกจากนี้เนื้อหมูอุดมไปด้วยวิตามิน B1, B2, B3, B6, ฟอสฟอรัส, สังกะสี, และโพแทสเซียม เป็นต้น
  5. กุ้ง เท่ากับ 89 แคลลอรี่ แบ่งเป็น โปรตีน 20 กรัม, ไขมัน 1 กรัม นอกจากนี้กุ้งเป็นแหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระแอสตาแซนธินชั้นดี นอกจากนี้กุ้งยังเต็มไปด้วยไอโอดีน, วิตามิน D, และสังกะสี

และนี่ก็คือสูตรคํานวณแคลอรีอาหาร วิธีการคำนวณคุณค่าโภชนาการต่าง ๆ และอาหารที่แนะนำ ที่ทางมาสิอยากจะแนะนำให้ทุกๆท่านที่กำลังลดน้ำหนัก หรือเริ่มหันมาใส่ใจเรื่องน้ำหนักของตนเอง ได้ลองทำตามได้ การคำนวณแคลอรี่จะช่วยให้ผู้บริโภคสามารถคำนวณแคลอรี่หรือปริมาณพลังงานที่ควรได้รับอย่างเหมาะสมตามความต้องการของแต่ละคน อย่างไรก็ตาม ผู้ที่มีน้ำหนักตัวเกินมาตรฐานหรือประสบภาวะอ้วน ควรรับประทานอาหารที่ไขมันหรือปรุงแต่งด้วยน้ำตาลหรือแอลกอฮอล์ให้น้อยลง เนื่องจากอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีสารอาหารเหล่านี้ในปริมาณสูงจะให้พลังงานมากเกินความต้องการของร่างกาย ส่วนเด็กควรรับประทานอาหาร เพื่อให้ได้รับพลังงานที่เพียงพอกับความต้องการของร่างกายในแต่ละวัน โดยเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ในปริมาณที่เหมาะสมแบบง่ายๆ เพราะสุขภาพที่ดีมาจากการกินของมีประโยชน์ครบ 5 หมู่ และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอนะครับ

ขอขอบคุณ : Wongnai , Thai Rath , Pobpad และ Pobpad

และนี่ก็เป็นเพียงอีกหนึ่งสาระดี ๆ ที่วันนี้ มาสิ ได้หยิบยกมาฝากกัน อย่างไรก็ตาม การเลือกรับประทานอาหารให้พอดี ถูกหลักอนามัย และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพียงเท่านี้สุขภาพร่างกายก็จะแข็งแรงสมวัยได้ และไม่เพียงสาระดีๆ ที่เอามาฝากกัน มาสิ ยังได้ขนเอากับอีกหนึ่งตัวช่วย ๆ ที่จะช่วยเสริมสร้างความคุ้มครองให้กับการดูแลสุขภาพของเราให้ดียิ่งขึ้นด้วย ประกันสุขภาพ แผนบียอนด์ เพอร์ซันนัลแคร์ ( Beyond Personal Care ) ที่สามารถเลือกแผนความคุ้มครองได้ตั้งแต่ 1,000,000 และ 5,000,000 บาท โดยไม่จำกัดจำนวนครั้งการรักษาต่อปี จะเป็นความคุ้มครองในเรื่องใดบ้างนั้น ตาม มาสิ ไปดูกัน

ประกันสุขภาพ แผนบียอนด์ เพอร์ซันนัลแคร์ ( Beyond Personal Care )

เอ็ทน่า ประกันภัย
ประกันสุขภาพ แผนบียอนด์ เพอร์ซันนัลแคร์ ( Beyond Personal Care )
  • ค่ารักษาพยาบาลกรณีผู้ป่วยใน ( ค่าห้อง ค่าอาหาร และค่าบริการพยาบาลค่าบริการทั่วไปสำหรับการรักษาพยาบาลค่าธรรมเนียมแพทย์ผ่าตัดและค่าแพทย์เยี่ยมไข้ ) และการรักษาพยาบาลที่มีค่าใช้จ่ายสูง ( Major Medical ) สามารถเลือกแผนความคุ้มครองได้ตั้งแต่ 1,000,000 และ 5,000,000 บาท โดยไม่จำกัดจำนวนครั้งการรักษาต่อปี
  • ค่าห้อง ค่าอาหาร และพยาบาล สูงสุดต่อวัน 12,000 บาท
  • ค่าห้องไอซียูสูงสุด 24,000 บาท ( สูงสุด 15 วันต่อปี )
  • ค่ารักษาพยาบาลทั่วไป สูงสุดถึงครั้งละ 200,000 บาท ต่อการเข้าพักรักษาตัวครั้งใดครั้งหนึ่ง
  • ค่ารักษาพยาบาลฉุกเฉินกรณีผู้ป่วยนอก สูงสุด 25,000 บาท
  • ค่าธรรมเนียมแพทย์ผ่าตัด รวมถึงค่าปรึกษาแพทย์ก่อนการผ่าตัด ( ตามตารางผ่าตัด ) สูงสุด 250,000 บาท
  • ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล( อบ.2* ) กรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะสายตา การรับฟังเสียง การพูดออกเสียง และทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง รายละ 100,000 บาท
  • เบี้ยประกันเริ่มต้น 2,279 บาท

ประกันสุขภาพ แผนบียอนด์ เพอร์ซันนัลแคร์ ( Beyond Personal Care )

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถโทรมาสอบถามรายละเอียดต่างๆ ได้ที่ 02 710 3100 หรือแอดไลน์ @masii ( มี @ ด้วยนะ ) เพื่อติดตามข่าวสารและบทความดีๆ ที่ มาสิบล็อก เกี่ยวกับ ประกันวินาศภัย ประกันรถยนต์ ประกันรถมอเตอร์ไซด์ ประกันสุขภาพ ประกันโดรน ประกันการเดินทาง ประกันอุบัติเหตุ ประกันภาคธุรกิจ และพ.ร.บ. รวมทั้ง ผลิตภัณฑ์ทางการเงินจากสถาบันการเงินชั้นนำทั่วประเทศ

อ่านบทความที่น่าสนใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ประกันสุขภาพ

_____________________________________________
Please become Masii Fan !!

Facebook: www.facebook.com/MasiiThailand
Website: www.masii.co.th
Blog: https://blog.masii.co.th/
Line : @masii
Tel: 02 710 3100
Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCV-5rpO5ZqAGfgLdKqzKGFw
Instagram: www.instagram.com/masii_thailand/
Twitter: twitter.com/MasiiGroup
#ประกันสุขภาพ #ประกันโควิด #ประกันไข้เลือดออก #ประกันการเดินทาง
#สินเชื่อส่วนบุคคล #บัตรกดเงินสด #สินเชื่อส่วนบุคคลออนไลน์ #กู้เงิน
#เงินสด #เงินก้อน #เงินกู้ทันใจ #เงินด่วน #เงินด่วนทันใจ
#ประกันภัยโดรน #ประกันโดรน #ลงทะเบียนโดรน #ขึ้นทะเบียนโดรน #Dronethailand
#ประกันรถยนต์ #ประกันรถยนต์ชั้น1 #สมัครประกันรถยนต์ #ประกันรถที่คุ้มที่สุด
#masii #มาสิ #ครบง่ายสะดวก #เพื่อความสุขในชีวิตที่ดีกว่า
#ครบง่ายสะดวกเพื่อความสุขในชีวิตที่ดีกว่า #SimplifiedComparison