เรียกว่าสภาพอากาศทุกวันนี้แปรปรวนได้ทุกวันบางวันอากาศก็แสนจะร้อน บางคนฝนก็กลับตกน้ำท่วมกันเป็นว่าเล่น หรือบางวันก็มีครบทั้ง 3 ฤดูกันไปเลย ทั้งฝน ทั้งร้อน ทั้งหนาว เล่นเอาร่างกายของเราปรับตัวแทบไม่ทัน และอย่างที่เราทราบกันดีว่าตอนนี้ประเทศไทยของเราได้เริ่มที่เข้าสู่ หน้าหนาว กันแล้ว เรียกได้ว่าเป็นที่ใครหลายคนตั้งตารอ และถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งฤดูกาลโปรดของใครหลาย ๆ คน แม้ประเทศไทยของเราจะมีช่วงเวลาแห่งฤดูกาลนี้ค่อนข้างสั้น แต่เพียงแค่ได้ผ่านเข้ามาพียงแค่วันสองวันเราก็ได้สุขใจกันแล้ว แต่รู้หรือไม่ ไม่เพียงแค่บรรยากาศดี ๆ อากาศเย็น ๆ ที่ผ่านเข้ามาให้เราได้สัมผัสมีความสุขกันแต่เพียงเท่านั้น สำหรับเหล่าคนที่เป็นภูมิแพ้ ยิ่งช่วงนี้ที่อากาศเปลี่ยนแปลงแบบนี้สิ่งที่ตามมาก็มักที่จะเป็นอากาศเป็นหวัด คัดจมูก มี น้ำมูก ให้ได้รำคาญใจกัน แต่รู้หรือไม่ สำหรัลบอาการเป็นหวัดคัดจมูกนี้ สี น้ำมูก นี้สามารถที่จะบอกอาการ หรือบอกโรคต่าง ๆ ของเราได้ วันนี้ มาสิ จึงได้เอาสาระความรู้ เรื่องราวดี ๆ มาอัพเดทให้ทุกคนได้อ่านกันแล้ว พร้อมแล้วก็อย่าช้าไปศึกษาพร้อมกันเลย
น้ำมูก เกิดจากอะไร มีประโยชน์อย่างไรบ้าง
น้ำมูกเป็นสารคัดหลั่งที่ออกมาจากจมูก มีหน้าที่ป้องกันอวัยวะภายใต้เยื่อบุจมูกจากสารพิษ สารระคายเคืองต่าง ๆ โดยในน้ำมูกมีแอนติบอดีและเอนไซม์ช่วยดักจับฝุ่นหรือสิ่งแปลกปลอมต่าง ๆ ที่ปนมากับอากาศที่เราสูดหายใจเข้าไป และยังช่วยให้ความชุ่มชื้นกับเยื่อบุจมูกตลอดเวลา เพราะหากเยื่อบุจมูกแห้ง ไร้น้ำมูก ก็อาจเสี่ยงกับภาวะติดเชื้อมากขึ้นได้ ดังนั้นน้ำมูกไม่ได้มีแค่ตอนเป็นหวัดเท่านั้น แต่เมื่อเจอกับปัจจัยเหล่านี้ร่างกายก็ผลิตน้ำมูกออกมาได้เช่นกัน
1.สัมผัสกับสิ่งกระตุ้นหรือสิ่งที่ทำให้ระคายเคือง เช่น ไรฝุ่น ละอองเกสร หรือขนสัตว์ เป็นต้น
2.การติดเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อไวรัสที่กระตุ้นให้จมูกสร้างสารคัดหลั่งขึ้นมา
3.โรค เช่น หวัด ภูมิแพ้ ไซนัสอักเสบ หรือมะเร็งในโพรงจมูก
สีน้ำมูกบอกอะไรได้บ้าง
ส่วนใหญ่เราไม่ค่อยได้ให้ความสนใจกับ น้ำมูก มากนัก จนกระทั่งเรามีปัญหาเรื่องน้ำมูกไหลมาจากจมูกหรือไหลลงคอ ซึ่งเราอาจจะสั่งน้ำมูกออกมา หรือสูดลงคอแล้วขากออกเป็นเสมหะ แล้วบ้วนทิ้ง หรือไม่มีที่ให้บ้วนอาจต้องจำใจกลืนลงไป แล้วเคยสังเกตสีน้ำมูก หรือเสมหะที่บ้วนออกมาหรือไม่ ว่ามีสีอะไร ซึ่งสีของ น้ำมูก หรือเสมหะ อาจบ่งบอกถึงปัญหาเกี่ยวกับจมูกของเราได้
1.สีใส
น้ำมูกหรือเสมหะที่ใส มักประกอบด้วยน้ำ, แอนติบอดีที่ต่อต้านเชื้อโรค, เกลือ และโปรตีน ส่วนใหญ่มักจะไหลลงคอ และเรามักจะกลืนลงไปในกระเพาะ ซึ่งสาเหตุเกิดจาก หวัด (เยื่อบุจมูกอักเสบ) หรือการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ หรืออาจเกิดจากโรคจมูกอักเสบภูมิแพ้ ไวรัสมากระตุ้นทำให้เกิดการอักเสบของเยื่อบุจมูก ทำให้มีน้ำมูกใสๆ ไหลออกมา หรือไหลลงคอได้ สารก่อภูมิแพ้ก็เช่นเดียวกัน สามารถกระตุ้นเยื่อบุจมูกของผู้ป่วยที่เป็นโรคจมูกอักเสบภูมิแพ้ ทำให้มีการหลั่งของฮิสทามีน (histamine) ออกมา ซึ่งฮิสทามีนสามารถกระตุ้นต่อมสร้างน้ำมูกในเยื่อบุจมูกให้ผลิตน้ำมูกใสๆออกมาได้ การให้ยาต้านฮิสทามีน และการล้างจมูกด้วยน้ำเกลือสามารถบรรเทาอาการน้ำมูกที่ไหลออกมา หรือไหลลงคอได้
2.สีขาว
การที่น้ำมูกไหลออกมามีลักษณะหนา เหนียว และขาวขุ่น อาจเนื่องมาจาก การที่น้ำมูกถูกขังอยู่ในโพรงจมูกเป็นระยะเวลานาน จากเยื่อบุจมูกที่บวม นอกจากนั้นการที่เรารับประทานผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับนมมากเกินไป อาจทำให้น้ำมูกที่ออกมา หรือไหลลงคอ มีสีขาวขุ่นได้ เนื่องจากไขมันในผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับนม สามารถทำให้น้ำมูกสูญเสียความชุ่มชื้น ทำให้น้ำมูก หรือเสมหะมีลักษณะหนาและเหนียว และมีสีขาวขุ่นตามมาได้
3.สีเหลือง
ถ้ามีการติดเชื้อแบคทีเรียในโพรงจมูกหรือไซนัส ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายเรา จะส่งเซลล์ที่ต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย เช่น เซลล์เม็ดเลือดขาว ออกมาทำลายเชื้อแบคทีเรีย ทั้งเซลล์เม็ดเลือดขาว และเชื้อแบคทีเรียที่ตายแล้ว รวมทั้งเมือกและหนองต่างๆ จะรวมตัวกัน ทำให้น้ำมูกมีสีเหลืองได้ นอกจากนั้นการที่น้ำมูกค้างอยู่ในโพรงจมูกเป็นระยะเวลานานมากๆ เช่น ทั้งช่วงกลางคืน อาจทำให้น้ำมูกมีสีเหลืองได้ เวลาตื่นมาตอนเช้า โดยที่ไม่มีการติดเชื้อแบคทีเรียก็ได้ แต่ในกรณีนี้ น้ำมูกมักจะมีสีเหลือง เวลาตื่นนอนตอนเช้า แต่ในช่วงเวลาอื่นของวัน น้ำมูกจะมีสีใส
4.สีเทา
น้ำมูกที่มีสีเทา อาจบ่งบอกว่าในจมูกอาจจะมีริดสีดวงจมูก (nasal polyp) ริดสีดวงจมูกเกิดจากเยื่อบุจมูกหรือไซนัสที่บวมออกมาเป็นก้อนในโพรงจมูก หรือไซนัส ซึ่งไม่ใช่เนื้องอกร้ายแต่อย่างใด มักเกิดจากการอักเสบเรื้อรังของเยื่อบุจมูก ซึ่งมีสาเหตุมาจากโรคจมูกอักเสบภูมิแพ้, โรคไซนัสอักเสบเรื้อรัง, โรคหืด หรือภาวะแพ้ยาแอสไพริน โรคไซนัสอักเสบจากเชื้อรา สามารถทำให้น้ำมูกหรือเสมหะมีสีเทาได้ ซึ่งมักเกิดจากสปอร์ของเชื้อรามาเกาะที่ผิวเยื่อบุจมูก และเจริญเติบโตมากขึ้น มักมีสาเหตุมาจากการบาดเจ็บของเยื่อบุจมูกเรื้อรัง หรือภูมิต้านทานของร่างกายลดน้อยลง
5.สีเขียว
แสดงถึงระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย กำลังทำงานต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย เหมือนกับการที่น้ำมูกมีสีเหลือง สีเขียวเกิดจากเอนไซม์ ซึ่งสร้างโดยเม็ดเลือดขาว น้ำมูกที่มีสีเขียว มักเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียภายในโพรงจมูกหรือไซนัส (ไซนัสอักเสบ)
6.สีแดง
มักเกิดจากมีเส้นเลือดในโพรงจมูกแตก แล้วปนมากับน้ำมูก ซึ่งเส้นเลือดที่แตก อาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น การระคายเคือง หรือบาดเจ็บบริเวณจมูก, การอักเสบในโพรงจมูก, เนื้องอก, โรคของหลอดเลือดชนิดต่างๆ หรือแม้แต่การที่เยื่อบุจมูกแห้ง ทำให้เส้นเลือดในเยื่อบุโพรงจมูกอยู่ชิดกับผิวมากขึ้น ทำให้มีการแตกของเส้นเลือดได้ง่าย ซึ่งในกรณีที่น้ำมูกมีสีแดง โดยเฉพาะออกจากจมูกเพียงข้างใดข้างหนึ่ง ควรรีบไปปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัด สาเหตุของจมูกแห้ง ได้แก่ ดื่มน้ำน้อย, อยู่ในห้องแอร์ ซึ่งมักจะทำให้เราต้องสัมผัสกับอากาศที่เย็นและแห้งเป็นประจำ หรือเปิดพัดลมเป่าจ่อที่หน้า หรือจมูกเป็นระยะเวลานาน หรืออยู่ในสิ่งแวดล้อมที่มีอากาศเย็นหรือหนาวจัด อาจต้องพ่นน้ำเกลือเข้าในโพรงจมูกบ่อยๆ หรือใช้เครื่องปรับอากาศให้อุ่นและชื้นขึ้น (humidifier)
7.สีดำ
การที่น้ำมูกมีสีดำ มักพบในผู้ที่สูบบุหรี่หรือสูดยานัตถ์, ใช้ยาเสพติดที่ผิดกฎหมาย หรือผู้ที่อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่มีมลภาวะทางอากาศมาก หรืออาจเกิดจากการติดเชื้อราของโพรงจมูกหรือไซนัส
วิธีลดน้ำมูกให้หายไว
น้ำมูกเป็นสารคัดหลั่งที่ร่างกายผลิตออกมาตามกลไกของระบบภูมิคุ้มกัน ดังนั้น เมื่อมีน้ำมูกบางคนก็หายเองได้ หรือแม้แต่การเป็นหวัด น้ำมูกไหล กรณีนี้ก็ไม่แนะนำให้ซื้อยาปฏิชีวนะรับประทานเอง เพราะการมีน้ำมูกอาจไม่ได้เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย แต่อาจเกิดจากการติดเชื้อไวรัสหรือเกิดจากสาเหตุอื่นที่กินยาปฏิชีวนะเข้าไปก็ไม่ช่วยให้น้ำมูกหายไปได้ ดังนั้นก่อนกินยาลดน้ำมูก ลองมาลดน้ำมูกด้วยวิธีที่ไม่ต้องใช้ยาดูก่อน
วิธีลดหวัด คัดจมูก น้ำมูกไหล ด้วยวิธีธรรมชาติ
- นอนพักผ่อนให้มาก ๆ – เมื่อมีไข้หวัด แปลว่าร่างกายเราอ่อนแอ ควรพักการทำงาน และไม่เครียด แล้วนอนพักผ่อนให้มาก ๆ จะช่วยให้ร่างกายได้รักษาตนเองตอนนอน แต่ระวังอย่านอนเปิดลมจ่อที่ตัว หรืออย่าเปิดแอร์เย็นเกินไป
- ดมน้ำมันยูคาลิปตัส – น้ำมันชนิดนี้มีประโยชน์มากสำหรับสำหรับคนที่มีอาการคัดจมูก และน้ำมูกไหล สามารถลดอาการได้ทันที ด้วย 3 วิธีง่าย ๆ ดังนี้
– หยดน้ำมันยูคาลิปตัสลงบนผ้าเช็ดหน้า สูดดมบ่อย ๆ ในระหว่างวัน
– ก่อนนอนให้หยดที่หมอน กลิ่นของน้ำมันยูคาลิปตัส จะทำให้หายใจสะดวกมากขึ้น
– หยดน้ำมันยูคาลิปตัสที่น้ำร้อน 2 -3 หยด แล้วสูดดมเข้าไป
- สูดดมไอน้ำ – การสูดดมไอน้ำ จะทำให้โพรงจมูกสะอาด และช่วยลดเมือกลงได้ สามารถใช้กับคนทั่วไปได้ แต่ไม่เหมาะสำหรับเด็กเล็ก ผู้มีความผิดปกติทางระบบประสาท คนที่มีความดันไม่ปกติ
– โดยต้มน้ำให้เดือด แล้วมาเทลงที่ถ้วย นำมาดูดดมเข้าไป หรือใช้ผ้าคลุมเพื่อให้ได้รับไอน้ำมากขึ้น ทำวันละ 2 – 3 ครั้ง
– ให้อาบน้ำอุ่น แต่ไม่ควรนานเกินไป สามารถช่วยให้
- ใช้สเปรย์น้ำเกลือพ่นจมูก – สเปรย์น้ำเกลือจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้รูจมูก และช่วยขจัดขี้มูก และน้ำมูกออกไป ก่อนใช้สเปรย์น้ำเกลือ ควรศึกษาวิธีใช้ให้ถูกต้อง อาจสอบถามเภสัช หรือศึกษาจากคลิปการสอนใช้สเปรย์น้ำเกลือเสียก่อน
- สั่งน้ำมูกอย่างถูกต้อง – การสั่งน้ำมูกจะช่วยให้โพรงจมูกโล่ง แต่ควรระวังอย่าสั่งน้ำมูกแรงเกินไป เนื่องจากแรงดันจากการสั่งน้ำมูกแรงเกินไปนั้น สามารถส่งผลกระทบต่อหู ทำให้เกิดอาการปวดหูได้ ดังนั้นจึงควรสั่งน้ำมูกเบา ๆ และเท่าที่จำเป็นเท่านั้น
ข้อแนะนำ : ควรสั่งน้ำมูกโดยนำนิ้วกดที่รูจมูกข้างหนึ่ง และใช้กระดาษทิชชูค่อย ๆ สั่งน้ำมูกออกมาจากรูจมูกอีกข้างหนึ่ง ทำซ้ำอีกข้างหนึ่งเหมือนกัน ควรล้างมือก่อนทุกครั้งที่สั่งน้ำมูก เพื่อหลีกเลี่ยงโอกาสในการติดเชื้อจากแบคทีเรีย และไวรัส
- กลั้วคอด้วยน้ำเกลือ – การกลั้วคอด้วยน้ำเกลือจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับโพรงจมูก ช่วยระบายน้ำมูก และป้องกันเสมหะไหลลงคอ ทั้งยังช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอได้อีกด้วย
ให้เติมเกลือทะเล ½ ช้อนชาลงไปในน้ำอุ่น และคนเรื่อย ๆ จนกระทั่งเกลือละลาย กลั้วคอด้วยน้ำเกลือประมาณ 1-2 นาที แล้วจึงบ้วนทิ้ง
- ใช้น้ำเกลือล้างจมูก – เช่น สเปรย์น้ำเกลือพ่นจมูก สเปรย์น้ำเกลือจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้รูจมูก และช่วยขจัดขี้มูก และน้ำมูกออกไป ช่วยบรรเทาอาการคัดจมูกในผู้ที่มีการอักเสบของเยื่อบุในโพรงจมูก สามารถใช้กับผู้ที่มีอาการแพ้น้ำมูกไหลได้
ข้อแนะนำ : ควรสอบถามวิธีใช้กับเภสัชกรก่อน เพื่อให้แน่ใจว่าเราใช้ได้อย่างถูกวิธี และสเปรย์พ่นจมูกบางประเภทอาจทำให้รู้สึกเจ็บเล็กน้อย หรือก่อให้เกิดการระคายเคืองได้ ควรมองหาสเปรย์ที่ประกอบด้วยโซเดียมคลอไรด์ 0-3 % เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดการระคายเคือง
ก่อนจากกันในวันนี้ก็เหมือนอย่างเคย ไม่เพียงแค่สาระดี ๆ ที่ มาสิ ได้หยิบเอามาฝากให้ทุกคนได้อ่าน และได้นำไปใช้ในการดูแลสุขภาพกัน แต่ มาสิ ยังได้หยิบเอากับอีกหนึ่งตัวช่วยในเสริมสาร้างในการดูแลสุขภาพกับ ประกันสุขภาพ จากเอ็ทน่าประกันภัยที่จะช่วยเสริมสร้างความคุ้มครองที่ดีให้กับความเจ็บป่วยทางกาย จะมีความน่าสนใจ หรือรายละเอียดความคุ้มครองอย่างไรบ้างนั้น ไปติดตามกัน
ประกันสุขภาพ แผนเอ็กซ์ตร้าแคร์ ( Extra Care )
ประกันสุขภาพ แผนบียอนด์ เพอร์ซันนัลแคร์ ( Beyond Personal Care )
สำหรับ ประกันสุขภาพ เอ็ทน่า เอ็กซ์ตร้าแคร์ เหมาะสำหรับผู้ที่มีประกันสุขภาพ ประกันสังคม หรือสวัสดิการจากบริษัทอยู่แล้ว แต่อาจมีวงเงินความคุ้มครองไม่เพียงพอ แผนประกันนี้จึงช่วยเติมเต็มวงเงินความคุ้มครองจากสวัสดิการที่มีอยู่ ช่วยชดเชยค่ารักษาพยาบาลส่วนเกินอีก 80% โดยไม่เกินผลประโยชน์สูงสุดในแต่ละแผนที่กำหนดไว้ต่อการเจ็บป่วยหรือบาดเจ็บในแต่ละครั้ง โดยมีรายละเอียด ดังนี้
- ค่ารักษาพยาบาลกรณีผู้ป่วยใน( ต่อการเข้าพักรักษาตัวครั้งใดครั้งหนึ่ง ) 20,000 บาท
- ความคุ้มครองเพิ่มเติมอีก 80% ของค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลในส่วนที่เกินจากความรับผิดส่วนแรก ครอบคลุมในส่วนค่ารักษาพยาบาลทั่วไป ค่าธรรมเนียมแพทย์ผ่าตัดและวิสัญญีแพทย์ ค่าห้องผ่าตัด ค่าแพทย์เยี่ยมไข้ ค่าธรรมเนียมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญพิเศษสูงสุด 600,000 บาท
- ค่าห้องผู้ป่วยปกติ สูงสุดต่อวัน 4,000 บาท
- ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล( อบ.2* ) กรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะสายตา การรับฟังเสียง การพูดออกเสียง และทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง รายละ 1,000 บาท
- เบี้ยประกันเริ่มต้น 3,172 บาท
* อบ.2 คือ ประเภทความคุ้มครองจากกรมธรรม์ประกันภัยที่มีรายละเอียดความคุ้มครองคือ (1) การเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ/สายตา การทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง, (2) การทุพพลภาพชั่วคราวสิ้นเชิง, (3) การทุพพลภาพชั่วคราวบางส่วน, (4) การรักษาพยาบาล และ (5) การสูญเสียนิ้ว การสูญเสียการรับฟังเสียง/การพูดออกเสียงและการทุพพลภาพถาวรบางส่วน
สนใจสมัคร ประกันสุขภาพแผนเอ็กซ์ตร้าแคร์ ( Extra Care )
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถโทรมาสอบถามรายละเอียดต่างๆ ได้ที่ 02 710 3100 หรือแอดไลน์ @masii ( มี @ ด้วยนะครับ ) เพื่อติดตามข่าวสารและบทความดีๆ ที่ มาสิบล็อก เกี่ยวกับ ประกันวินาศภัย ประกันรถยนต์ ประกันรถมอเตอร์ไซด์ ประกันสุขภาพ ประกันโดรน ประกันการเดินทาง ประกันอุบัติเหตุ ประกันภาคธุรกิจ และพ.ร.บ. รวมทั้ง ผลิตภัณฑ์ทางการเงินจากสถาบันการเงินชั้นนำทั่วประเทศ
อ่านบทความที่น่าสนใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ประกันสุขภาพ
- ผิวแห้งกร้าน หน้าหนาว ไม่ใช่เเค่เรื่องที่สาว ๆ ต้องควรระวัง (ผู้ชายก็ด้วยนะ)
-
มาสิ ชวนส่อง ! The Batman Effect จิตวิทยา ของการสร้างเราอีกคนเพื่อแบ่งเบาความรู้สึก
-
โรคไต มีกี่ระยะ อาการและวิธีรักษาเป็นอย่างไร ประกันโรคร้ายแรง คุ้มครองหรือไม่ masii มีคำตอบ!
_____________________________________________
Please become Masii Fan
Facebook: https://lnkd.in/gFFh8mh
Website: www.masii.co.th
Blog: https://masii.co.th/blog
Line: @masii
Tel: 02 710 3100
Youtube: https://lnkd.in/gbQf9eh
Instagram: https://lnkd.in/ga4j5ri
Twitter: twitter.com/MasiiGroup
#สินเชื่อ #ประกัน
#รถแลกเงิน #บ้านแลกเงิน #สินเชื่อส่วนบุคคล
#บัตรกดเงินสด #เงินด่วนทันใจ #สินเชื่อส่วนบุคคลออนไลน์
#กู้เงิน #เงินสด #เงินก้อน #เงินด่วน #เงินกู้ทันใจ #masii
#มาสิ #ครบง่ายสะดวก #เพื่อความสุขในชีวิตที่ดีกว่า
#ครบง่ายสะดวกเพื่อความสุขในชีวิตที่ดีกว่า #SimplifiedComparison