รู้หรือไม่?! PM 2.5 ร้าย อันตรายถึงสัตว์เลี้ยง

ฝุ่น PM 2.5
สมัครรถแลกเงินโปรโมชั่น แจกฟรี Voucher Lazada

ทุกวันนี้ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ไม่มีใครที่ไม่รู้จักกับอีกหนึ่งปัญหามลพิษทางอากาศตัวร้ายอย่าง PM 2.5 ฝุ่นละอองขนาดเล็กที่เมื่อสูดดม หรือหายใจเอาอากาศที่มี PM 2.5 เจือปนอยู่เข้าไป จะส่งผลเสียต่อร่างกายทั้งทางเดินหาย และระบบการทำงานต่าง ๆ แต่ทั้งนี้ ด้วยความร้ายของ ฝุ่น PM 2.5 นี้ก็ไม่ได้หยุดอยู่เพียงแค่ผลกระทบต่อร่างกายของคนเราเท่านั้น เพราะสัตว์เลี้ยงแสนรักของเราก็ได้รับผลกระทบต่อร่างกายจากเจ้าฝุ่นร้าย PM 2.5 นี้ด้วย ซึ่งแล้วปัญหาหรือผลกระทบที่สัตว์เลี้ยงจะได้เจอจากฝุ่น PM 2.5 จะมีอย่างไรบ้าง แล้วจะมีวิธีรักษา หรือแนวทางป้องกันอย่างไรบ้างนั้น วันนี้ มาสิ เอามาฝากกันแล้ว พร้อมแล้วก็ไปอ่านกัน

ว่าด้วยเรื่อง ฝุ่น PM 2.5

ฝุ่น PM 2.5 คือ ฝุ่นละอองในอากาศที่มีขนาดอนุภาคเล็กมากๆ ขนาดเล็กกว่า2.5ไมครอน หรือไมโครเมตร ซึ่ง PM ย่อมาจาก Particulate Matters ด้วยขนาดที่เล็กมากๆ เราจึงมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า แต่ถ้าฝุ่นนี้มีปริมาณสูงมากๆ ในอากาศ จะดูคล้ายกับมีหมอกหรือควัน สาเหตุส่วนใหญ่มาจากการเผาไหม้จากท่อไอเสียของเครื่องยนต์ ควันบุหรี่ การเผาขยะ เผาหญ้า เผาเชื้อเพลิงที่ใช้ในโรงงาน เป็นต้น

ฝุ่น PM 2.5นี้ยังสามารถรวมตัวกับสารมลพิษ เช่น สารไฮโดรคาร์บอน และโลหะหนักได้ และด้วยขนาดที่เล็กมากจึงสามารถลอดผ่านการกรองของขนจมูก ไปยังหลอดลม และลงลึกจนถึงถุงลมปอดและซึมเข้าสู่กระแสเลือด และทำให้เกิดผลเสียต่อร่างกาย

PM 2.5
PM 2.5

ฝุ่น PM 2.5 มีผลเสียต่อร่างกายอย่างไรบ้าง?

ในวันที่อากาศไม่ดี มีค่าฝุ่นมลพิษสูง หลายคนคงรู้สึกแสบตา แสบจมูก เจ็บคอ ซึ่งระบบที่มีผลกระทบมากที่สุด คือ ระบบทางเดินหายใจ เมื่อหายใจเอาฝุ่น PM2.5เข้าไป จะรู้สึกแสบจมูก ไม่สบาย ไอและมีเสมหะได้ ในคนไข้ที่มีโรคประจำตัว เช่นโรคภูมิแพ้,โรคปอด (เช่น หอบหืด, ถุงลมโป่งพอง) ต้องระวังสุขภาพเป็นพิเศษ เนื่องจากฝุ่นนี้จะทำให้โรคกำเริบได้ง่ายอีกทั้ง ในระยะยาวมีผลทำให้เกิดโรคมะเร็งปอดและ โรคระบบหัวใจและหลอดเลือดได้ นอกจากนี้ฝุ่น PM 2.5 ยังทำลายผิวของเราได้ด้วย เนื่องด้วยผิวหนังเป็นอวัยวะที่ห่อหุ้มร่างกาย จึงหลีกเลี่ยงที่จะเผชิญฝุ่นมลพิษได้ยาก

PM 2.5 ก็อันตรายต่อสัตว์เลี้ยง

อย่างที่ทราบว่า ในเด็กเล็กและผู้สูงอายุ จะมีความเสี่ยงด้านสุขภาพจากปัญหาฝุ่น PM 2.5 ได้มากกว่าคนในวัยหนุ่มสาว ทั้งนี้ในสัตว์เลี้ยงก็เช่นกัน สุนัข หรือแมวที่มีอายุน้อย จะมีอัตราการหายใจที่เร็ว และถี่กว่าสัตว์ที่โตแล้ว ซึ่งเมื่อเจอกับมลพิษทางอากาศ จึงมีโอกาสได้รับฝุ่นควันเข้าสู่ร่างกายได้มากกว่า และในสัตว์ที่มีอายุมาก รวมถึงมีโรคประจำตัว ก็จะมีภาวะเสี่ยงสูงที่อาจทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนและเสี่ยงเสียชีวิตได้ง่ายขึ้น

ซึ่งผลกระทบต่อร่างกายของสัตว์เลี้ยงจาก PM 2.5 นั้นก็จะคล้าย ๆ กับที่เกิดขึ้นกับคนเรา โดยเมื่อสัตว์หายใจนำเอาอนุภาคฝุ่นเข้าไป ฝุ่นจะสามารถผ่านลงไปได้ถึงเนื้อเยื่อปอด และอาจทะลุเข้าสู่กระแสเลือด ส่งผลให้เกิดการอักเสบในระบบทางเดินหายใจ และตามมาด้วยโรคแทรกซ้อนต่าง ๆ ได้

แต่นอกจากฝุ่น PM 2.5 แล้ว เจ้าของอาจนึกไม่ถึงว่าตัวเองกำลังมีพฤติกรรมที่มีส่วนในการก่อมลพิษโดยไม่รู้ตัวอยู่ เช่น การสูบบุหรี่ในบ้าน การเร่งเครื่องยนต์ หรือกระทั่งประกอบอาหารปิ้งย่าง อย่าลืมว่ายิ่งสัตว์ที่ถูกเลี้ยงด้วยระบบปิด จะไม่มีทางหลีกหนีได้เลย

ฝุ่น PM 2.5
PM 2.5 ก็อันตรายต่อสัตว์เลี้ยง

แล้วเราจะมีวิธีป้องกันสัตว์เลี้ยงให้ปลอดภัยจากฝุ่นละออง PM 2.5 ได้อย่างไรบ้าง?

ทั้งนี้ มีปัญหาฝุ่น PM 2.5 จะมีผลกระทบต่อร่างกายของสัตว์เลี้ยง แต่กระบวนการทำลายนี้จำเป็นต้องใช้เวลาสะสมนานพอสมควร ที่จะทำให้เกิดขึ้นได้ ดังนั้น เหล่าทาสทั้งหลายก็อย่าพึ่งกังวลใจเกินไป ยังพอมีวิธีแก้ไข เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว สิ่งที่ควรทำ คือ สร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีภายในบ้าน ประกอบกับการเปลี่ยนแปลงกิจกรรมและสัตว์เกตุพฤติกรรมที่สัตว์เลี้ยงที่ผิดปกติด้วย ซึ่งวิธีป้องกันสัตว์เลี้ยงให้ปลอดภัยจากฝุ่นละออง PM 2.5 สามารถทำได้ ดังนี้

1.หลีกเลี่ยงการออกไปเดินเล่นนอกบ้าน

โดยเฉพาะสัตว์เลี้ยงที่เป็นพันธุ์หน้าสั้น เช่น สุนัขพันธุ์ปั๊กกับบูลด็อก แมวพันธุ์เปอร์เซียและสก็อตติช โฟลด์ เพราะมีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคระบบทางเดินหายใจได้ง่ายกว่าพันธุ์อื่นๆ รวมถึงสัตว์เลี้ยงที่อายุน้อยมากๆ และแก่มากๆ ก็มีความเสี่ยงเกิดโรคระบบทางเดินหายใจได้สูงเช่นกัน

2.ทำความสะอาดตัวให้เจ้าตัวน้อย

เมื่อถูกจำกัดพื้นที่เป็นเวลานานก็อาจจะทำให้สัตว์เลี้ยงเกิดความเครียดขึ้นได้ ซึ่งก็อาจจำเป็นต้องมีการพาสัตว์เลี้ยงของเราออกไปยืดเล้นยืดสายบ้าง แต่หากปริมาณค่าฝุ่น PM 2.5 นี้ยังสูงอยู่ก็ควรไปในระยะเวลาสั้น ๆ และพอกลับบ้านก็ควรใช้ผ้าชุบน้ำ หรือทิชชูเปียก เช็ดเอาฝุ่นออกจากตัวและเท้าให้น้องด้วย

3.ทำความสะอาดบ้านสม่ำเสมอ

ไม่เพียงทำความสะอาดแค่สัตว์เลี้ยงเท่านั้นจะเพียงพอ บ้านของเราหรือของสัตว์เลี้ยงนั้น ก็ต้องทำความสะอาดอยู่สม่ำเสมอด้วย โดยเฉพาะการดูดฝุ่น และควรล้างเครื่องปรับอากาศ เครื่องฟอกอากาศ หรือพัดลม ให้อากาศถ่ายเทด้วย

สัตว์เลี้ยง
วิธีป้องกันสัตว์เลี้ยงให้ปลอดภัยจากฝุ่นละออง PM 2.5

4.สังเกตอาการของสัตว์เลี้ยง

ถ้าหากสัตว์เลี้ยงเกิดมีอาการผิดปกติ มีผื่นขึ้น ตาอักเสบ มีขี้ตาเยอะผิดปกติ ไอ จาม หายใจถี่ หายใจดัง มีน้ำมูก หรือเสมหะมากผิดปกติ รวมถึงการกินอาหารน้อยลง ถ้าหากมีอาการผิดปกติแบบนี้ติดต่อกันเป็นเวลานาน ควรพาไปหาสัตวแพทย์ทันที

5.ให้กินน้ำเย็น เติมความสดชื่น

ในสภาวะอากาศแบบนี้ สัตว์เลี้ยงก็จะกระหายน้ำมากกว่าปกติด้วยเช่นกัน ยิ่งถ้าน้ำเย็นๆ บ้างก็จะเพิ่มความสดชื่นได้ นอกจากนี้ การกินน้ำเยอะๆ ยังสามารถช่วยป้องกันโรคเยื่อเมือกแห้งหรืออาการขาดน้ำได้ ที่สำคัญอย่าลืมเปลี่ยนน้ำบ่อยๆ เพื่อความสะอาดด้วย

ขอขอบคุณ : Environman,ไทยรัฐ ออนไลน์ และ โรงพยาบาลเวิร์ลเมดิคอล

เรียกได้ว่าความร้ายแรงของฝุ่น PM 2.5 นี้ช่างรุนแรงเหลือเกิน เพราะไม่เพียงแค่ส่งผลเสียต่อร่างกายของเราเพียงเท่านั้น ยังลามไปถึงเหล่าเจ้าตัวน้อย สัตว์เลี้ยงแสนรักของเราด้วย ต้องบอกเลยว่าด้วยที่เหล่าสัตว์เลี้ยงไม่สามาถที่จะสื่อสารออกมาเป็นคำพูดให้เรารับรู้ถึงความผิดปกติได้ ดังนั้นแล้ว เราเจ้าของและเหล่าทาสทั้งหลายต้องดูแลและใส่ใจกับเหล่าสัตว์เลี้ยงแสนรักนี้เป็นพิเศษในช่วงที่ฝุ่น PM 2.5 กำลังรุนแรง

เพื่อเป็นการดูแลสัตว์เลี้ยงแสนรักต่าง ๆ ของเราได้เต็มที่ มาเสริมความคุ้มครองกันด้วย ประกันสัตว์เลี้ยง  ที่แม้ว่ากรณีที่สัตว์เลี้ยงแสนรักหายออกจากบ้านไป แล้วได้ใช้วิธีติดประกาศตามหา ไม่ว่าจะเป็นการติดแผ่นป้ายโปสเตอร์ โบร์ชัวร์ หรือซื้อโฆษณาในช่องทางออนไลน์ ทาง ประกันสัตว์เลี้ยง ก็ให้ความคุ้มครองในส่วนของค่าใช้จ่ายในการโฆษณา การประกาศเพื่อติดตามสัตว์เลี้ยงที่สูญหายด้วย ซึ่งรายละเอียดจะเป็นอย่างไรบ้างนั้นมาดูกัน

เมืองไทย Cats & Dogs Plus

เมืองไทยประกันภัย

คุ้มครองสัตว์เลี้ยงแสนรักเมื่อเจ็บป่วย หรือเกิดอุบัติเหตุ พร้อมคุ้มครองความรับผิด หากสัตว์เลี้ยงของคุณทำให้ผู้อื่นบาดเจ็บ หรือทรัพย์สินเสียหาย

ความคุ้มครอง ( Insurance Coverage ) : แผนสำหรับสัตว์เลี้ยงที่ไม่ได้ฝังไมโครชิป
แผนที่ 1 แผนที่ 2 แผนที่ 3 แผนที่ 4
1. เสียชีวิตเนื่องจากการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ หรือการเจ็บป่วย 5,000 5,000 5,000
2. ค่ารักษาพยาบาลจากการบาดเจ็บ จากอุบัติเหตุแต่ละครั้ง 30,000 20,000 10,000 5,000
3. ค่ารักษาพยาบาลจากการเจ็บป่วย
– ต่อการรักษาแต่ละครั้ง 3,000 2,000 1,000 1,000
– สูงสุดต่อปี 15,000 10,000 5,000 5,000
4. ค่ารักษาพยาบาลของสัตว์เลี้ยงที่สืบเนื่องมาจากพยาธิ เห็บ หมัด ไร เล็น โรคเรื้อน หรือโรคผิวหนังทุกชนิด
– ต่อการรักษาแต่ละครั้ง 3,000 2,000 1,000 1,000
– สูงสุดต่อปี 15,000 10,000 5,000 5,000
5. ความรับผิดต่อบุคคลภายนอกอันเนื่องมาจากสัตว์เลี้ยง ความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย หรือทรัพย์สิน ของบุคคลภายนอก (ต่อครั้ง ต่อปี) 20,000 15,000 10,000 10,000
6. ค่าใช้จ่ายในการโฆษณา การประกาศเพื่อติดตามสัตว์เลี้ยงที่สูญหาย (ต่อครั้ง ต่อปี) 5,000 3,000 2,000
7. การฉีดวัคซีน ตามประเภทโรคและกำหนดเวลาตามมาตรฐาน (สูงสุดต่อปี) 500
8. ค่าใช้จ่ายในการจัดงานศพ 5,000 3,000 2,000 2,000
9. การฝังไมโครชิป (50% ของค่าใช้จ่ายจริง สูงสุดไม่เกิน 250 บาท) (เฉพาะแผนที่ฝังไมโครชิป)
เบี้ยประกันภัยรายปี รวมอากรแสตมป์และภาษีมูลค่าเพิ่ม : 13,200 8,900 5,600 3,200
อายุ 3 เดือน – 7 ปี

 

เงื่อนไขและข้อยกเว้น :

  1. สัตว์เลี้ยงต้องมีอายุระหว่าง 3 เดือน ถึง 7 ปี และอยู่ในประเทศไทยเท่านั้น
  2. สัตว์เลี้ยงต้องมีสุขภาพสมบูรณ์ ไม่มีอาการบาดเจ็บ พิการ หรือเจ็บป่วย (ดูจากใบรับรองตรวจสุขภาพสัตว์เลี้ยง)
  3. สัตว์เลี้ยงต้องได้รับการฉีดวัคซีนครบตามประเภทโรคและกำหนดเวลาตามมาตรฐาน
  4. ต้องมีไมโครชิป (กรณีทำประกันภัยแบบฝังไมโครชิป) และ ค่าฝังไมโครชิปให้ความคุ้มครองเฉพาะเมื่อกรมธรรม์มีผลบังคับเป็นครั้งแรก
  5. บริษัทฯ จะจ่ายค่าชดเชยในกรณีที่ผู้เอาประกันภัยนำสัตว์เลี้ยงที่เอาประกันภัยไปรับการฝังไมโครชิป ภายในระยะเวลา 30 ก่อนวันที่กรมธรรม์ประกันภัยมีผลบังคับเป็นครั้งแรก โดยบริษัทฯ จะชดเชยเป็นจำนวนเงินร้อยละ 50 ของค่าฝังไมโครชิปที่เกิดขึ้นจริง และไม่เกินตามที่ระบุไว้ในตารางกรมธรรม์ประกันภัย

ไม่คุ้มครอง : 

  1. การเสียชีวิต การบาดเจ็บ และการเจ็บป่วยที่เป็นสภาพที่เป็นมาก่อนการเอาประกันภัย
  2. การเสียชีวิต หรือการรักษาพยาบาลเนื่องจากการเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นในระหว่างระยะเวลาที่ไม่คุ้มครอง (Waiting Period) ที่เกิดขึ้นภายในระยะเวลา 60 วัน หลังจากที่กรมธรรม์ประกันภัยมีผลบังคับเป็นครั้งแรก

และนี่ก็เป็นทั้งสาระความรู้ และอีกหนึ่งตัวช่วยดี ๆ ในการดูแลสัตว์เลี้ยงอย่าง ประกันสัตว์เลี้ยง ที่ มาสิ ได้เอามาฝากกันและหากใครที่พบน้องหมา น้องแมวแล้ว ไม่ว่าน้องจะกลับบ้านมาเอง หรือมีคนพบเห็น เมื่อพบแล้วก็ควรป้องกันไม่ให้น้องหายไปอีก ด้วยการหาปลอกคอมาใส่ให้น้องหมา-น้องแมว โดยอาจเป็น ปลอกคอระบุชื่อน้อง พร้อมเบอร์เจ้าของ หากใครพบเจอจะได้โทรหาให้เจ้าของกลับไปรับได้ หรือติด GPS ห้อยไว้ที่ปลอกคอ เพื่อตามพิกัดว่าน้องอยู่ที่ไหนรวมถึงควรทำรั้วรอบขอบชิด และคอยดูแลน้องหมา-น้องแมว ให้อยู่ในสายตาเสมอ

สนใจสมัคร ประกันสัตว์เลี้ยง 

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถโทรมาสอบถามรายละเอียดต่างๆ ได้ที่ 02 710 3100 หรือแอดไลน์ @masii ( มี @ ด้วยนะครับ ) เพื่อติดตามข่าวสารและบทความดีๆ ที่ มาสิบล็อก เกี่ยวกับ ประกันวินาศภัย ประกันรถยนต์ ประกันรถมอเตอร์ไซด์ ประกันสุขภาพ ประกันโดรน ประกันการเดินทาง ประกันอุบัติเหตุ ประกันภาคธุรกิจ และพ.ร.บ. รวมทั้ง ผลิตภัณฑ์ทางการเงินจากสถาบันการเงินชั้นนำทั่วประเทศ

อ่านบทความที่น่าสนใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ประกันสัตว์เลี้ยง

_____________________________________________

Please become Masii Fan

Facebook: https://lnkd.in/gFFh8mh

Website: www.masii.co.th

Blog: https://masii.co.th/blog

Line: @masii

Tel: 02 710 3100 

Youtube: https://lnkd.in/gbQf9eh

Instagram: https://lnkd.in/ga4j5ri

Twitter: twitter.com/MasiiGroup

#สินเชื่อ #ประกัน

#ประกันบ้าน #ประกันภัยบ้าน

#รถแลกเงิน #บ้านแลกเงิน #สินเชื่อส่วนบุคคล

#บัตรกดเงินสด #เงินด่วนทันใจ #สินเชื่อส่วนบุคคลออนไลน์

#กู้เงิน #เงินสด #เงินก้อน #เงินด่วน #เงินกู้ทันใจ #masii

#มาสิ #ครบง่ายสะดวก #เพื่อความสุขในชีวิตที่ดีกว่า

#ครบง่ายสะดวกเพื่อความสุขในชีวิตที่ดีกว่า #SimplifiedComparison