เงินร้อน VS เงินเย็น คืออะไร ควร ลงทุน แบบไหน ไปดูกัน

ลงทุน
สมัครรถแลกเงินโปรโมชั่น แจกฟรี Voucher Lazada

เมื่อเริ่มต้นวัยทำงาน หลายคนคงฝันอยากมีเงินเก็บสำหรับลงทุนทำอะไรสักอย่าง ไม่ว่าจะเป็นกิจการร้านค้า ทำธุรกิจ เล่นหุ้น หรือเก็บเป็นค่าใช้จ่ายในอนาคต ซึ่งในการที่จะเลือกลงทุนนั้นหลายคน ๆ คงเคยได้ยินคำศัพท์ทางการเงินเกี่ยวเรื่องนี้กันมาบ้าง กับคำว่า ‘เงินร้อน’ และ ‘เงินเย็น’ ซึ่งต้องบอกเลยว่ามีคนจำนวนมากที่ไม่เข้าใจในความหมายของมันจริง ๆ แล้วความหมายจริง ๆ แล้ว ของ “เงินร้อน” และ “เงินเย็น” คืออะไร  แล้วเงินส่วนไหนนะที่ควรค่าแก่การไปลงทุน ดังนั้น วันนี้ มาสิ จะมาทุกคนไปไขความกระจ่าง ให้ทุกคนได้ทำความเข้าใจไปพร้อม ๆ กัน ว่าแล้วก็อย่าเสียเวลากันดีกว่า เราศึกษาไปพร้อมกัน

masii เปิดข้อมูล ... สินเชื่อรถแลกเงิน เหมือน หรือ แตกต่าง จาก สินเชื่อส่วนบุคคล อย่างไร

เงินร้อน VS เงินเย็น ลงทุน แบบไหนปัง

เงินร้อน คืออะไร

เงินร้อน คือ เงินที่เราได้มาแล้วเราก็ต้องจ่ายไปในเวลาอันรวดเร็ว ยกตัวอย่างให้เห็นง่าย ๆ เช่น เงินที่ต้องนำมาชำระหนี้สินต่างๆ เป็นต้น ซึ่งถือได้ว่าเป็นเงินที่ต้องใช้จ่ายหมุนเวียนโดยมันอยู่กับเราได้ไม่นานเดี๋ยวก็ไป

 เงินเย็น คืออะไร

สำหรับ เงินเย็น คือ เงินเก็บที่เราเอาวางไว้เฉย ๆ ไม่มีเหตุจำเป็น หรือไม่มีแผนให้ต้องหยิบมาใช้ เช่น เงินเก็บของเรานั่นเอง ซึ่งเงินเย็นนั้นจะแตกต่างกับเงินเก็บยามฉุกเฉิน เพราะเงินเก็บยามฉุกเฉิน คือ เงินที่เราสำรองไว้ใช้ในยามจำเป็นจริงๆ ซึ่งเท่ากับว่าเรามีแผนที่จะใช้มันอยู่ดี แต่เงินเย็นคือ เงินที่ไม่ต้องใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้นนั่นเอง

ลงทุน

เงินแบบไหนควรค่าแก่การนำมา ลงทุน มากกว่ากัน?

สำหรับการลงทุนเพื่อไปต่อยอดเงินนั้น ควรใช้เงินเย็นมาลงทุนมากกว่า ห้ามใช้เงินร้อนเด็ดขาด เพราะเงินเย็นนั้นจะได้เปรียบในเรื่องของระยะยาว เนื่องจากเราไม่มีแผนว่าจะใช้เงินส่วนนี้ในการทำอะไรทั้งสิ้น ทำให้เราสามารถลงทุนได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นในอนาคต

การลงทุนในหลาย ๆ ครั้ง เราไม่สามารถกำหนดระยะเวลาที่แน่นอนได้ว่าเราจะได้ทุน หรือกำไรตอบแทนกลับมาเมื่อไหร่ ซึ่งถ้านำเงินร้อนมาใช้ แล้วปรากฏว่าต้องจ่ายหนี้ที่ค้างไว้ แต่เงินลงทุนยังไม่ได้คืนกลับมา เท่ากับว่าเราขาดสภาพคล่องไปในทันที ต้องกู้หนี้ยืมสินคนอื่นเพิ่มเติม

5 รูปแบบวิธี ลงทุน ฉบับคนมีเงินเย็น มีอะไรบ้าง?

แบบที่ 1 ออมเงินด้วยบัญชีออมเงินดิจิทัล

เป็นการออมเงินที่ไม่มีสมุดบัญชี ซึ่งการออมเงินในรูปแบบนี้จะสามารถออมผ่านแอปพลิเคชันของธนาคารนั่นเอง โดยการออมเงินด้วยบัญชีออมเงินดิจิทัลจะทำให้เราได้รับดอกเบี้ยตั้งแต่ 0.5-1.5% เลยทีเดียว ซึ่งการออมเงินในรูปแบบนี้ นอกจากเราจะได้รับดอกเบี้ยที่สูงกว่าปกติแล้ว ยังสามารถทำให้เราฝาก-ถอนได้อย่างสะดวก หากเกิดเปลี่ยนใจนำเงินเย็นตรงนี้ไปลงทุนอย่างอื่นก็ย่อมได้ อย่างไรก็ตามการออมเงินดิจิทัลเองเหมาะสำหรับคนที่ไม่ได้ต้องการความเสี่ยงใด ๆ เพียงแค่ได้รับดอกเบี้ยเท่านั้นก็พอใจ

แบบที่ 2 ลงทุนกับกองทุนรวม

หากเรามีเงินเย็นอยู่แล้วการลงทุนในกองทุนก็เป็นอีกหนึ่งในทางเลือกที่เราจะนำเงินเย็นเหล่านี้ไปลงทุน โดยกองทุนเราสามารถเลือกความเสี่ยงได้ตามระดับความต้องการของเรา หากเราต้องการความเสี่ยงน้อย ๆ เราอาจจะเลือกนำเงินส่วนนี้ไปลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ และเราอาจจะเลือกลงทุนในกองทุนเหล่านี้เพียง 2-3 ปีเพื่อให้ได้ผลกำไรที่เพิ่มขึ้น แต่ถ้าหากว่าใครที่ชอบในความเสี่ยงสูง เราอาจจะนำเงินเหล่านี้ไปลงทุนในกองทุนรวมสินทรัพย์ทางเลือก ซึ่งกองทุนเหล่านี้จะสามารถตอบแทนผลประโยชน์ให้กับเราได้มากถึง 10-50% ต่อปีเลยทีเดียว และเพื่อกระจายความเสี่ยงเราอาจจำเป็นจะต้องลงทุนราว ๆ 5 ปีขึ้นไป เพื่อกระจายความเสี่ยงของตลาด และเพื่อผลตอบแทนที่เราหวังด้วยนั่นเอง อย่างไรก็ตามกองทุนเป็นหนึ่งในการลงทุนที่มีความเสี่ยงผู้ลงทุนควรตัดสินใจก่อนเลือกลงทุนด้วยตัวเอง

แบบที่ 3 ลงทุนหุ้นไทยแบบ DCA

อย่างที่เรารู้ ๆ กันการลงทุนแบบ DCA (dollar-cost averaging) คือ การลงทุนเฉลี่ยเท่า ๆ กันทุกเดือน เพราะฉะนั้นแล้วการลงทุนแบบนี้อาจจะเหมาะกับใครที่เมื่อสรุปรายรับรายจ่ายแล้วมีเงินเย็นเหลือทุก ๆ เดือน และนำเงินเย็นตรงนี้ออมหุ้นไปเรื่อย ๆ เพื่อเป็นการลงทุน โดยเราสามารถเปิดโบรกเกอร์การลงทุนแบบ DCA กับธนาคารไหนก็ได้ที่เราเลือก ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเราอาจจะเลือกหุ้นที่ถูกใจ และมั่นคงผ่าน SET 50 หรือ SET 100 ไว้ในพอร์ตการลงทุนของเรานั่นเอง

แบบที่ 4 ซื้อหุ้นกู้

หากเรามีเงินเย็น และนำเงินเหล่านี้ไปซื้อหุ้นกู้ในบริษัทเอกชนที่มีความมั่นคงสูง เงินปันผลที่เราจะได้อยู่ที่ประมาณ 4-5% ต่อ 6 เดือน ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วสัญญาของหุ้นกู้จะเป็นรายปีขึ้นไปจะเท่ากับว่าหากเราต้องการนำเงินเย็นไปลงทุนในหุ้นกู้ ก็จำเป็นจะต้องลงทุนยาว ๆ หลาย ๆ ปี เพื่อรับเงินปันผลที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้นหุ้นกู้จึงเหมาะกับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงต่ำ แต่ต้องการรับผลตอบแทนประจำนั่นเอง

แบบที่ 5 ออมทอง

แน่นอนว่า ทอง คือ หนึ่งในสินทรัพย์แห่งความปลอดภัย ใครหลาย ๆ คนคงเคยคิดแน่นอนว่าหากมีเงินเก็บก็จะนำไปซื้อทองมาเก็บไว้ เราจะเห็นได้จากมูลค่าของทองคำที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทุกปี จึงทำให้การออมทองก็เป็นอีกหนึ่งในตัวเลือกที่เหมาะแก่การลงทุนเงินเย็นเช่นกัน เพราะทองคำนั้นสภาพคล่องสูง ซื้อขายสะดวก สามารถซื้อไว้เกร็งกำไรได้ จึงทำให้ทองคำเหมาะกับคนที่มีเงินเย็น และต้องการลงทุนกับรูปแบบที่มีสภาพคล่องที่ดี

และนี่ก็เป็น 5 รูปแบบการลงทุนที่เหมาะสำหรับคนมี “เงินเย็น” ท้ายที่สุดแล้วเราเชื่อว่าไม่ว่าคุณจะหาเงินได้มากเท่าไหร่ไม่สำคัญมากนัก แต่ที่สำคัญคุณเก็บได้มากเท่าไหร่ และสร้างผลตอบแทนจากการวางแผนการลงทุนให้คุณเท่าไหร่ต่างหาก

ขอขอบคุณ : ธนาคารกรุงศรี และ afterklass

กู้เงินที่ไหนดี เปรียบเทียบดอกเบี้ย รถแลกเงิน ได้เลย!

ทั้งนี้ อย่างที่คุ้นเคยกันไม่เพียงแค่สาระดี ๆ ที่ มาสิ ได้นำมาฝากกัน ก็อย่างว่า เรื่องของเงินทองนั้นเป็นสิ่งที่สำคัญ สำหรับใครก็ตามที่กำลังมองหา เงินด่วน เงินก้อนทันใจ ต้องสมัครสินเชื่อเงินด่วน Kashjoy -เรื่องเงิน จบไว ไว้ใจ Kashjoy ที่สมัครง่าย อนุมัติไว ไม่ต้องค้ำประกัน พร้อมรับดอกเบี้ยสุดพิเศษ ซึ่งรายละเอียดและเงื่อนไขการให้บริการจะมีอย่างไรบ้างนั้น ไปดูกัน

“เรื่องเงิน จบไว ไว้ใจ Kashjoy ”

สินเชื่อส่วนบุคคล kashjoy
สินเชื่อส่วนบุคคล kashjoy

โดยภาพรวมนั้น Kashjoy มีจุดเด่นอยู่หลายจุด จุดแรกที่เห็นได้ชัดคือ การอนุมัติวงเงินกู้ สูงสุด 1,000,000 บาท และเป็น สินเชื่อส่วนบุคคล ที่ให้ กู้ เงิน ก้อนเดียว ผ่อนหมด ก็จบ อีกทั้งยังสามารถจ่ายได้ที่ขั้นต่ำ 2.5% ของยอดหนี้ในปัจจุบัน แต่ในกรณีที่ 2.5% น้อยกว่า 200 ก็ต้องจ่ายที่ 200 บาท

 รายละเอียดเกี่ยวกับสินเชื่อที่ควรรู้
  • เงินกู้ ที่ขอกู้จะถูกโอนเข้าบัญชีธนาคาร ยกเว้น ธอส., ธกส. และธนาคารออมสิน
  • ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ หรือบุคคลค้ำประกัน
  • วงเงินอนุมัติสูงสุด 5 เท่าของรายได้ หรือสูงสุด 1,000,000 บาท
  • ดอกเบี้ย 5% ต่อปี แบบลดต้นลดดอก
  • สามารถผ่อนได้นานสูงสุด 5 ปี
  • ฟรี!!! ดอกเบี้ย 90 วัน หรือ 3 รอบบิลแรก
ขั้นตอนการสมัครสินเชื่อส่วนบุคคล Kashjoy
  • กรอกข้อมูลผ่านหน้าเว็บไซต์ masii.co.th
  • รอเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ
  • มาสิ จะทำหน้าที่ไปรับเอกสารให้ ฟรี!
  • เจ้าหน้าตรวจสอบเอกสาร
  • ดำเนินการด้านสินเชื่อและแจ้งผลการสมัครผ่าน SMS
เอกสารประกอบการสมัคร
  • บัตรประจำตัวประชาชนตัวจริงพร้อมสำเนา
  • เอกสารแสดงรายได้
  • สลิปเงินเดือน / หนังสือรับรองเงินเดือน (ตัวจริงหรือสำเนา) ล่าสุดไม่เกิน 2 เดือน พร้อมกับ Statement หรือรายการเดินบัญชีเงินเดือนย้อนหลัง 3 เดือนล่าสุดติดต่อกัน หรือ
  • Statement หรือรายการเดินบัญชีย้อนหลัง 6 เดือนล่าสุดติดต่อกัน (กรณีไม่มีสลิป หรือหนังสือรับรองเงินเดือน
  • สำเนาหน้าสมุดบัญชีธนาคารเพื่อโอน (บัญชีธนาคาร ภายใน 6 เดือน ต้องมีการเคลื่อนไหวของบัญชี) ยกเว้น ธอส., ธกส. และธนาคารออมสิน
เงื่อนไขการชำระเงินคืน
  • กำหนดชำระทุกวันที่ 1 ของทุกเดือน (ตัดรอบบัญชีวันที่ 10)
  • หักชำระบัญชีเงินฝากอัตโนมัติผ่านธนาคารกรุงเทพเท่านั้น
  • ชำระทางช่องทางที่บริษัทกำหนด
  • ค่าธรรมเนียมอื่นๆ เพิ่มเติม
  • ดอกเบี้ย 5% ต่อปี
  • ค่าอากรแสตมป์ 05% ของ เงินกู้
  • ค่าใช้จ่ายในการชำระเงิน 15-30 บาท
  • ค่าตรวจสอบข้อมูลเครดิต 12 บาท
  • ค่าทวงหนี้กรณีผิดนัด 100 บาท
สนใจสมัคร สินเชื่อส่วนบุคคล Kashjoy

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถโทรมาสอบถามรายละเอียดต่างๆ ได้ที่ 02 710 3100 หรือแอดไลน์ @masii ( มี @ ด้วยนะครับ ) เพื่อติดตามข่าวสารและบทความดีๆ ที่ มาสิบล็อก เกี่ยวกับ บัตรเครดิต บัตรเดบิต บัตรกดเงินสด สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อบ้านแลกเงิน สินเชื่อรถแลกเงิน และผลิตภัณฑ์ทางการเงินจากสถาบันการเงินชั้นนำทั่วประเทศ

อ่านบทความที่น่าสนใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับ สินเชื่อส่วนบุคคล

_____________________________________________

Please become Masii Fan 

Facebook: https://lnkd.in/gFFh8mh

Website: www.masii.co.th

Blog: https://masii.co.th/blog

Line: @masii

Tel: 02 710 3100

Youtube: https://lnkd.in/gbQf9eh

Instagram: https://lnkd.in/ga4j5ri

Twitter: twitter.com/MasiiGroup

#สินเชื่อ #สินเชื่อส่วนบุคคล

#ประกัน #สินเชื่อประกันการเดินทาง

#รถแลกเงิน #บ้านแลกเงิน #สินเชื่อส่วนบุคคล

#บัตรกดเงินสด #เงินด่วนทันใจ #สินเชื่อส่วนบุคคลออนไลน์

#กู้เงิน #เงินสด #เงินก้อน #เงินด่วน #เงินกู้ทันใจ #masii

#มาสิ #ครบง่ายสะดวก #เพื่อความสุขในชีวิตที่ดีกว่า

#ครบง่ายสะดวกเพื่อความสุขในชีวิตที่ดีกว่า #SimplifiedComparison