5 สัญญาณเตือน ที่บอกว่าควร เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง เพื่อการคุ้มครองอย่างครบครัน ควร ซื้อประกันภัยรถยนต์

5 สัญญาณเตือน ที่บอกว่าควร เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง เพื่อการคุ้มครองอย่างครบครัน ควร ซื้อประกันภัยรถยนต์
5 สัญญาณเตือน ที่บอกว่าควร เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง เพื่อการคุ้มครองอย่างครบครัน ควร ซื้อประกันภัยรถยนต์
สมัครรถแลกเงินโปรโมชั่น แจกฟรี Voucher Lazada

น้ำมันเครื่อง เป็นส่วนสำคัญในการทำงานของเครื่องยนต์ เพราะจะช่วยรักษาระดับความร้อนในเครื่องยนต์ให้ปกติ ทั้งยังป้องกันการสึกหรอของเครื่องยนต์อีกด้วย และเพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ควรเลือกใช้น้ำมันเครื่องที่ดีตรงตามรุ่นรถ และควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามกำหนด แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่ารถยนต์ถึงเวลาเปลี่ยนน้ำมันเครื่องแล้ว จะสามารถสังเกตอาการผิดปกติ และมีสัญญาณเตือนอย่างไรบ้าง ตาม masii ไปดูกันเลยค่ะ

5 สัญญาณเตือน ที่บอกว่าควร เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง เพื่อการคุ้มครองอย่างครบครัน ควรซื้อประกันภัยรถยนต์

5 สัญญาณเตือน ที่บอกว่าควร เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง เพื่อการคุ้มครองอย่างครบครัน ควรซื้อประกันภัยรถยนต์

1. เสียงเครื่องยนต์ดังผิดปกติ

สัญญาณเตือนแรกที่สังเกตได้ง่าย นั่นก็คือ เสียงเครื่องยนต์ขณะขับรถ หากรถยนต์มีเสียงที่ดังผิดปกติมาจากห้องเครื่อง ควรจอดรถและเปิดฝากระโปรงเพื่อตรวจเช็คทันที ซึ่งสาเหตุอาจเกิดจากน้ำมันเครื่องที่แห้งหรือน้ำมันเครื่องเสื่อมสภาพได้

2. เร่งเครื่องได้อืดลง

นอกจากเสียงเครื่องยนต์แล้ว หากเวลาเหยียบคันเร่งแล้วรู้สึกว่าเร่งเครื่องได้อืดๆ ไม่ค่อยแรงเหมือนแต่ก่อน ก็อาจมีสาเหตุมาจากน้ำมันเครื่องเสื่อมสภาพ จึงควรหมั่นตรวจเช็คน้ำมันเครื่อง หากพบว่าน้ำมันเครื่องแห้งหรือเสื่อมสภาพ ก็ควรรีบเปลี่ยนน้ำมันเครื่องทันที

5 สัญญาณเตือน ที่บอกว่าควร เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง เพื่อการคุ้มครองอย่างครบครัน ควรซื้อประกันภัยรถยนต์

3. สีน้ำมันเครื่องเปลี่ยนไป

สีน้ำมันเครื่อง ตามปกติจะมีสีเหลืองใส เมื่อเติมลงในเครื่องยนต์และใช้ไปสักระยะ สีจะเปลี่ยนไปเป็นสีเทาหรือดำ ซึ่งมาจากการชำระล้างสิ่งสกปรกภายในเครื่องยนต์ หากปล่อยให้น้ำมันเครื่องเป็นสีดำไปนานๆ และไม่ยอมเปลี่ยนน้ำมันเครื่องสักทีนั้น ก็จะยิ่งทำให้เครื่องยนต์สกปรก และมีประสิทธิภาพการทำงานด้อยลง ดังนั้นหากพบว่าน้ำมันเครื่องดำผิดปกติควรทำการเปลี่ยนทันที

4. รถกินน้ำมันมากขึ้น

หากสังเกตว่ารถยนต์กินน้ำมันมากกว่าเดิม อาจเป็นเพราะน้ำมันเครื่องเริ่มหนืด หรือเสื่อมสภาพจนไม่สามารถปั๊มน้ำมันขึ้นไปหล่อลื่นลูกสูบได้ทัน ส่งผลให้รถกินน้ำมันมากขึ้น และยังทำให้เครื่องยนต์สึกหรอเร็วขึ้นอีกด้วย

5.  รถวิ่งครบระยะ 10,000 กิโลเมตร

โดยปกติแล้ว รถยนต์จะมีระยะเวลาในการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องเมื่อรถวิ่งถึงในระยะประมาณ 10,000 กิโลเมตร (สำหรับน้ำมันเครื่องสังเคราะห์) และเมื่อรถวิ่งถึงระยะทางประมาณ 5,000-7,000 (สำหรับน้ำมันเครื่องกึ่งสังเคราะห์) หรือหากไม่ได้ใช้รถบ่อยๆ และยังวิ่งไม่ถึงระยะทางดังกล่าว ก็ควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่องทุกๆ 6 เดือน ทั้งนี้ก็ควรหมั่นสังเกตว่ารถยนต์วิ่งครบระยะก่อน หรือครบกำหนดเวลาก่อน จะได้เปลี่ยนน้ำมันเครื่องได้ทันท่วงที

5 สัญญาณเตือน ที่บอกว่าควร เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง เพื่อการคุ้มครองอย่างครบครัน ควรซื้อประกันภัยรถยนต์

สนใจซื้อประกันภัยรถยนต์

regis-but
สนใจสมัคร

และนี่ก็คือ 5 สัญญาณเตือน ที่บอกว่าควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง เพื่อเป็นการยืดอายุรถยนต์ และเพื่อการใช้งานรถยนต์อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้หากใครที่ต้องการการคุ้มครองอย่างครบครัน ควรซื้อประกันภัยรถยนต์ เพื่อความอุ่นใจ โดยสามารถ คลิกที่นี่ เพื่อเปรียบเทียบประกันรถยนต์ และ ซื้อประกันรถยนต์ ออนไลน์ ผ่านเว็บไซต์มาสิ หรือโทร. 02 710 3100 และอย่าลืมแอดไลน์ @masii เพื่อติดตามข่าวสาร และบทความความรู้ที่น่าสนใจ เกี่ยวกับ ประกันรถยนต์ ประกันมอเตอร์ไซค์ ประกันภัยโดรน ประกันสุขภาพ ประกันอุบัติเหตุ และผลิตภัณฑ์ประกันภัยจากบริษัทประกันชั้นนำ

Please become Masii Fan
Facebook: www.facebook.com/MasiiThailand
Website: www.masii.co.th
Line : @masii
Tel: 02 710 3100
Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCV-5rpO5ZqAGfgLdKqzKGFw
Instagram: www.instagram.com/masii_thailand/
Twitter: twitter.com/MasiiGroup 
#บัตรเครดิต #สมัครบัตรเครดิตออนไลน์ #ทำบัตรเครดิต #บัตรเครดิตใบแรก
#สินเชื่อส่วนบุคคล #บัตรกดเงินสด
#สินเชื่อส่วนบุคคลออนไลน์ #กู้เงิน
#ประกันภัยโดรน #ประกันโดรน #ลงทะเบียนโดรน #ขึ้นทะเบียนโดรน #Dronethailand
#ประกันรถยนต์ #ประกันรถยนต์ชั้น1 #สมัครประกันรถยนต์ #ประกันรถที่คุ้มที่สุด
#masii #มาสิ #ครบง่ายสะดวก #เพื่อความสุขในชีวิตที่ดีกว่า
#ครบง่ายสะดวกเพื่อความสุขในชีวิตที่ดีกว่า

banner-blog-masii-ci-2020