รถโดนน้ำท่วม ทำอย่างไรดี เคลมประกันได้ไหม

ปัญหาอุทกภัย หรือ น้ำท่วม เป็นภัยธรรมชาติที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ อีกทั้งยังสร้างความเสียหายให้แก่ผู้ประสบภัยเป็นอย่างมาก ทั้งบ้านเรือน ทรัพย์สิน รวมไปถึง รถยนต์ที่จอดไว้ก็อาจโดนน้ำท่วมเสียหายได้ แล้วถ้าหาก รถโดนน้ำท่วม ควรทำอย่างไร และจะสามารถเคลมประกันที่เคยซื้อประกันภัยรถยนต์ไว้ได้หรือไม่ เราไปหาคำตอบกับ masii กันเลยค่ะ

รถโดนน้ำท่วม ทำอย่างไรดี เคลมประกันได้ไหม

หากรถโดนน้ำท่วม ถ้าท่วมแค่ล้อรถยนต์ คงไม่น่ากังวลมากเท่าไรนัก แต่ถ้าน้ำท่วมรถจนเกือบมิดคัน หรือน้ำท่วมเข้าไปในห้องโดยสารและตัวเครื่องนั้น ควรจะทำอย่างไรดี masii ก็มีคำแนะนำดีๆ มาฝากกันแล้ว โดยแบ่งตามระดับน้ำท่วม ดังนี้

น้ำท่วมสูงถึงพื้นรถยนต์ แต่ไม่ถึงเบาะนั่ง

หากน้ำท่วมสูงถึงพื้นรถยนต์ แต่ยังไม่ถึงเบาะนั่งนั้น อาจเกิดความเสียหายต่อระบบเบรก ผ้าเบรก ห้องเครื่องยนต์ คลัทช์คอมแอร์ สายพานแอร์ ไดสตาร์ท และพรมภายในห้องโดยสาร ควรตรวจเช็กุปกรณ์ต่างๆ ว่าได้รับความเสียหายมากน้อยเพียงไหน หากพรมเปียกชื้น ให้ถอดพรมออกไปซักและตากแดดให้แห้ง และควรล้างรถให้สะอาดโดยเฉพาะใต้ท้องรถและซุ้มล้อ เพื่อล้างคราบดินโคลนที่อาจติดอยู่

 

น้ำท่วมสูงถึงเบาะนั่ง

หากน้ำท่วมสูงถึงเบาะนั่ง ก็อาจเกิดความเสียหายต่อเครื่องยนต์, แบตเตอร์รี่, แอร์, พัดลมระบายความร้อน, น้ำมันเครื่อง, ระบบเกียร์, ขั้วสายไฟต่างๆ รวมถึงไฟหน้า ไฟท้าย เบาะนั่ง ระบบแผงประตู เซ็นทรัลล็อก และห้องสัมภาระท้าย ซึ่งหลังจากที่นำรถขึ้นจากน้ำแล้ว ให้ถอดแบตเตอร์รี่ออกในทันที พร้อมตรวจสอบอุปกรณ์อื่นๆ เช่น พัดลมระบายความร้อน และกล่อง ECU ที่ควบคุมเครื่องยนต์ รวมถึงระบบเกียร์ ระบบของเหลว ระบบหล่อลื่นต่างๆของรถ และควรทำการไล่ความชื้นออกจากตัวรถ

น้ำท่วมสูงเกือบมิดคัน หรือมิดหลังคา

หากระดับน้ำท่วมสูงถึงคอนโซลหน้า หรือมิดหลังคา ถือว่าเป็นระดับที่รุนแรงมากที่สุด ซึ่งมีโอกาสสร้างความเสียหายให้กับอุปกรณ์และชิ้นส่วนของรถยนต์เกือบทั้งคัน เช่น ห้องเครื่องยนต์ ห้องโดยสาร แบตเตอร์รี่ ระบบแอร์ ระบบไฟฟ้า ของเหลวต่างๆ ในรถยนต์ รวมไปถึงตัวถังรถยนต์ ซึ่งหลังจากที่นำรถอกมาจากพื้นที่น้ำท่วมแล้ว อย่าเพิ่งสตาร์ทรถเด็ดขาด เพราะจะทำให้ระบบไฟฟ้าลัดวงจร ควรรีบถอดแบตเตอรรี่ออก และส่งให้ช่างผู้เชี่ยวชาญตรวจเช็กสภาพ แต่โดยมาก รถโดนน้ำท่วมทั้งคัน จะไม่สามารถกลับมาใช้งานได้ตามปกติ

 

ประกันรถยนต์ที่คุ้มครองน้ำท่วม

• ประกันรถยนต์ชั้น 1
• ประกันรถยนต์ชั้น 2+ (บางกรมธรรม์)
• ประกันรถยนต์ชั้น 3+ (บางกรมธรรม์)

ประกันรถยนต์ คุ้มครองรถยนต์ที่โดนน้ำท่วมอย่างไรบ้าง 

1. น้ำท่วมรถ ขณะจอดรถอยู่ที่บ้าน หรือลานจอดรถ

ในกรณีที่จอดรถอยู่ที่บ้านหรือที่ลานจอดรถ แล้วเกิดพายุฝนตกหนักติดต่อกันหลายวันจนเกิดน้ำท่วม หรือน้ำป่าไหลหลาก ไม่สามารถย้ายรถได้ทัน ทำให้น้ำท่วมรถ หรือเข้ารถบางส่วนนั้น สามารถติดต่อขอเคลมประกันรถยนต์ที่คุ้มครองกรณีน้ำท่วมรถได้

2. น้ำท่วมรถ ขณะเดินทางบนท้องถนน

หากขณะขับรถอยู่บนถนน หรือรถติดแล้วเกิดฝนตกหนักนานหลายชั่วโมงจนน้ำท่วมขัง และทำให้รถยนต์เกิดความเสียหาย ก็สามารถติดต่อขอเคลมประกันรถยนต์ได้เช่นกัน

3. หากตั้งใจขับผ่านน้ำท่วม ประกันรถยนต์ไม่คุ้มครอง

แต่ประกันรถยนต์จะไม่คุ้มครองหากผู้ขับขี่รู้อยู่แล้วว่าข้างหน้ามีน้ำท่วม และขับรถลุยน้ำท่วมต่อไปจนรถได้รับความเสียหาย น้ำท่วมห้องโดยสาร น้ำเข้าห้องเครื่อง หรือเครื่องยนต์ดับ อย่างนี้จะไม่สามารถเคลมประกันได้ เนื่องจากมีเจตนาขับรถลุยน้ำท่วม และเกิดจากความประมาทของผู้ขับขี่เอง

4. น้ำท่วมรถนอกอาณาเขต ประกันรถยนต์ไม่คุ้มครอง

หากผู้ขับขี่ขับรถไปต่างประเทศ เช่น ประเทศเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้เคียง แล้วเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมรถ ก็ไม่สามารถขอเคลมประกันรถยนต์ได้ เพราะถือว่ารถยนต์ประสบเหตุนอกอาณาเขตประเทศไทย ซึ่งเป็นอาณาเขตที่ประกันรถยนต์ไม่ให้ความคุ้มครองนั่นเอง

 

ประกันรถยนต์ เจมาร์ทประกันภัย คุ้มครองน้ำท่วม

หากใครต้องการซื้อประกันภัยรถยนต์ ที่ให้ความคุ้มครองน้ำท่วม วันนี้ masii ก็มีประกันรถยนต์ที่น่าสนใจมาฝาก นั่นก็คือ ประกันรถยนต์ชั้น 2+ และ ประกันรถยนต์ชั้น 3+ จาก เจมาร์ทประกันภัย (เจพี ประกันภัยเดิม) คุ้มครองน้ำท่วมรถ แถมยังคุ้มครอง ยาง แบตเตอรี่ และสารเหลวในรถยนต์ รับทั้งรถเก๋งและรถกระบะ 2 ประตู และรถกระบะ 4 ประตู โดยมีรายละเอียดดังนี้

ประเภทความคุ้มครอง	ความเสียหายต่อรถยนต์ กรณีชนกับยานพาหนะทางบก	รถยนต์สูญหาย หรือไฟไหม	คุ้มครองภัยน้ำท่วม
ประกันรถยนต์ชั้น 2+	ไม่เกินจำนวนเงินเอาประกันภัย	ไม่เกินจำนวนเงินเอาประกันภัย	ไม่เกินจำนวนเงินเอาประกันภัย
ประกันรถยนต์ชั้น 3+	ไม่เกินจำนวนเงินเอาประกันภัย	–	ไม่เกินจำนวนเงินเอาประกันภัย

 

เบี้ยประกันภัยรถยนต์ 2+ 3+ คุ้มครองน้ำท่วม

ประเภท 2+ (รับรถอายุสูงสุด 15 ปี)
จำนวนเงินเอาประกันภัย	รถเก๋ง และรถกระบะ 4 ประตู		รถกระบะ 2 ประตู
100,000	6,050		6,800
200,000	6,795		7,300

ประเภท 3+ (รับรถอายุสูงสุด 20 ปี)
จำนวนเงินเอาประกันภัย	รถเก๋ง และรถกระบะ 4 ประตู		รถกระบะ 2 ประตู
100,000	5,120		5,500
200,000	6,237		6,700

ภัยธรรมชาติเป็นสิ่งที่ไม่สามารถคาดเดาได้ โดยเฉพาะภัยน้ำท่วม เพราะอาจสร้างความเสียหายให้เราเป็นอย่างมาก เพื่อความอุ่นใจ มาสิแนะนำว่าควรซื้อประกันภัยรถยนต์ที่คุ้มครองน้ำท่วมไว้ด้วยก็จะดี จะเลือกซื้อประกันรถยนต์ชั้น 1 หรือ ประกันรถยนต๋ชั้น 2+ และ 3+ จากเจมาร์ท ประกันภัย ที่มาสิแนะนำกันไปก็คุ้มค่า

สนใจสมัครประกันรถยนต์

หรือหากมีข้อสงสัยและต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถโทร.มาพูดคุยปรึกษากับทีมงานมาสิได้ที่ 02 710 3100 หรือแอดไลน์มาเป็นเพื่อนกับเราที่ @masii (มี @ ด้วยนะ) เพื่อติดตามข่าวสารและบทความดีๆ เกี่ยวกับ ประกันรถยนต์  ประกันมอเตอร์ไซค์ ประกันบิ๊กไบค์ ประกันภัยโดรน ประกันเดินทาง ประกันสุขภาพ รวมถึง สินเชื่อส่วนบุคคล และบัตรเครดิตจากสถาบันการเงินชั้นนำได้เลยค่ะ