เคยเป็นกันบ้างมั้ย… ที่อยู่ ๆ ก็รู้สึก เครียด หดหู่ ขาดแรงจูงใจในการทำงาน ไม่มีสมาธิ รู้สึกล้มเหลว เบื่อ ร่างการอ่อนแรง ไปจนถึงหงุดหงิด โกรธง่าย อะไร ๆ ก็ไม่ถูกใจซักอย่าง จนเกิดสงสัยว่า “นี่เรากำลังเป็นโรคซึมเศร้ารึเปล่า?” เพราะอาการที่ว่ามานี้ เป็นอาการใกล้เคียงกับโรคซึมเศร้ามาก แต่อย่าเพิ่งด่วนสรุป เพราะคุณอาจกำลังตกอยู่ในภาวะหมดไฟในการทำงาน ( Burnout Syndrome ) ภาวะสุดฮิตที่คน วัยทำงาน หลาย ๆ คนก็เป็นกัน ลองมาดู 5 วิธีแก้อาการ Burnout Syndrome ที่ masii ได้รวบรวมและหยิบยกมาเล่าต่อกันในวันนี้ครับ
Burnout Syndrome คืออะไร
ภาวะหมดไฟในการทำงาน หรือ Burnout-Syndrome คือคำเรียกของผู้ที่เผชิญ ความเครียดสะสม หรือรู้สึกว่าตนเองควบคุมสถานการณ์ต่างๆ ในแต่ละวันไม่ได้ต่อเนื่องกันเป็นเวลานาน จนรู้สึกสิ้นหวัง ไม่มีแรง ไม่มีสมาธิ และประสิทธิภาพในการทำงาน หรือการใช้ชีวิตลดลง ส่วนใหญ่แล้วภาวะหมดไฟในการทำงานมักเกิดจากงานหรืออาชีพที่ทำเป็นหลัก แต่ก็อาจเกิดจากครอบครัว ความสัมพันธ์กับคู่รัก และเพื่อนฝูงได้เช่นกัน แม้ภาวะหมดไฟในการทำงานจะไม่ได้ถูกวินิจฉัยเป็นโรคทางการแพทย์ แต่ก็สามารถส่งผลกระทบต่ออารมณ์ จิตใจ และร่างกายได้หากไม่ได้รับการแก้ไขอย่างถูกวิธี ผู้ที่มีอาการผิดปกติหลายคนจึงเลือกปรึกษาแพทย์หรือนักจิตวิทยาเพื่อหาสาเหตุของอาการทางกายที่อธิบายไม่ได้
Burnout Syndrome เกิดจากอะไร
ภาวะหมดไฟในการทำงานเกิดได้จากหลายปัจจัย ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ที่แต่ละคนเผชิญ โดยอาจเกิดจากปัจจัยหลักๆ เพียงอย่างเดียว หรือหลายปัจจัยผสมกันก็ได้ ดังนี้
1.ปริมาณงานที่มากเกินไปจนไม่สามารถจัดการได้
2.ไม่มีเส้นแบ่งที่ชัดเจนระหว่างเวลาทำงานและชีวิตส่วนตัว (Work-Life Balance)
3.การเชื่อมต่อสื่อสารที่มากจนเกินไปผ่านการใช้เทคโนโลยี เช่น สมาร์ทโฟน แลปท็อป
4.ความไม่ยุติธรรมในสถานที่ทำงาน เช่น ความลำเอียงของหัวหน้างาน
5.หน้าที่ความรับผิดชอบเยอะเกินไปจนสับสน เช่น การรับผิดชอบงานหลายตำแหน่ง
6.ขาดการสนับสนุนและการสื่อสารจากหัวหน้า
7.แรงกดดันจากกำหนดส่งงานที่ไม่เหมาะสม
8.แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วของอุตสาหกรรมต่างๆ
9.การแข่งขันที่สูงขึ้น
10.การถูกขอให้ทำงานที่ขัดความกับรู้สึกบ่อยครัง
โดยปัจจัยต่างๆ ที่กล่าวมาจะไม่ได้ทำให้เกิดภาวะหมดไฟในการทำงานแบบปุบปับทันที แต่เกิดจากการสะสมอย่างต่อเนื่องจนทำให้หมดไฟ
ภาวะ Burnout Syndrome
จึงถือว่าเป็นหนึ่งในปัญหาใหญ่ของวัยทำงาน ที่มักจะพบได้ในชีวิตประจำวันทั่วไป ซึ่ง Burnout Syndrome ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโรคใหม่จากองค์การอนามัยโลก (WHO) โดยเป็นโรคที่เป็นผลจากการความเครียดเรื้อรังในสถานที่ทำงาน ทำให้หลาย ๆ องค์กรหันมาสนใจในเรื่องนี้มากขึ้น วิธีสังเกตว่าคุณกำลังอยู่ในภาวะ Burnout อยู่รึเปล่า สามารถทำได้ด้วยการประเมินอาการผิดปกติ ดังนี้
อาการทางกาย
รู้สึกเหนื่อย หมดแรง ร่างการอ่อนเพลีย นอนไม่หลับ ไปจนถึงอาการป่วยง่าย เพราะภูมิคุ้มกันต่ำ ปวดหัว ปวดกล้ามเนื้อบ่อย ไม่อยากอาหารหรือทานอาหารมากเกินไป ปวดท้อง คลื่นไส้ มีความสามารถในการจำและการทำงานลดลงอย่างเห็นได้ชัด
อาการทางใจ
รู้สึกล้มเหลว หดหู่ เบื่อ ขาดแรงจูงใจ ไม่มีความสุขในการทำงาน มองโลกในแง่ร้าย โกรธและหงุดหงิดง่าย เจ้าอารมณ์ พร้อมจะขัดแย้งกับคนรอบข้างได้ง่าย สงสัยในตัวเองและคนอื่นตลอดเวลา รู้สึกโดดเดี่ยว สิ้นหวัง ไม่มีใครเข้าใจ ไม่พอใจในตัวเอง และรู้สึกไม่ประสบความสำเร็จ
อาการทางด้านพฤติกรรม
พูดคุยกับคนรอบตัวน้อยลง ชอบแยกตัวไม่สุงสิงกับใคร ไม่อยากตื่นมาทำงาน มาทำงานสายแต่กลับบ้านเร็ว เริ่มขี้เกียจมากขึ้น ไม่กระตือรือร้น ผัดวันประกันพรุ่ง ทำงานไปตามหน้าที่ ไม่มีความคิดอยากพัฒนาที่ทำอยู่ ไปจนถึงเริ่มใช้สิ่งเสพติด เช่น เหล้า บุหรี่ ในบางคน
ถ้าหากว่าคุณเริ่มมีอาหารเหล่านี้แล้ว แสดงว่าคุณเข้าข่ายจะอยู่ในภาวะ Burnout Syndrome เข้าแล้ว ควรรีบจัดการปรับสมดุลในการใช้ชีวิตส่วนตัวกับการทำงานอย่างเร่งด่วน ลองมาดู 5 วิธีจัดการภาวะ Burnout Syndrome กัน
5 วิธีจัดการภาวะ Burnout Syndrome
1. พักผ่อน กลับมาดูแลร่างกายให้ดี
เริ่มจากการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ทานอาหารที่มีประโยชน์ พยายามเลี่ยงสิ่งเสพติด ไม่ว่าจะเป็น เหล้า บุหรี่ หรือว่ากาแฟ อาจจะลองลาพักผ่อนเป็นช่วยสั้น ๆ เพื่อให้ร่างกาย จิตใจ และอารมณ์ของคุณได้รีเฟรชและคืนความสมดุลกลับมา ไม่แน่ คุณอาจจะได้แรงบันดาลใจใหม่ ๆ กลับมาก็ได้
2. จัดระเบียบชีวิตให้มีคุณภาพ
ลองจัดลำดับความสำคัญของงานและเวลาในการใช้ชีวิตและทำงานของคุณใหม่ เลือกโฟกัสงานตามความสำคัญ จัดตารางเวลาในชีวิตประจำวันให้ชัดเจน เช่น ตื่นเวลาเดิมทุกวัน กำหนดเวลาในการทำงานให้ชัดเจน ไม่ทำงานตอนที่เลยเวลางานแล้ว
3. ลดการใช้มือถือ แท็ปเลต และหาทางผ่อนคลายด้วยวิธีอื่น
ลดการเล่นมือถือและใช้โซเชียลมีเดีย อย่าง เฟซบุ๊ค หรือ อินสตาแกรม ออนไลน์ให้น้อยลง และลองหาวิธีผ่อนคลายทางอื่น เช่น อ่านหนังสือ ดูหนัง ฟังเพลง ออกกำลังกาย ปลูกต้นไม้ หรือเที่ยวในสถานที่ใหม่ ๆ อะไรก็ได้ทำคุณชอบ และพอได้ทำแล้วก็รู้สึกมีความสุข หรือจะลองนั่งสมาธิ ก็เป็นการผ่อนคลายที่ดีและยังช่วยฝึกจิตใจให้สงบสุขอีกด้วย
4. ปรับทัศนคติในการทำงาน เรียนรู้ความสามารถของตัวเอง
สังเกตและกลับมาทบทวนว่าคุณมีความสามารถในการทำงานอย่างไร ทำอะไรได้ดี อะไรที่ต้องพัฒนา งานแบบไหนที่เราชอบหรือไม่ชอบ ลองกลับมาทำความเข้าใจตัวเองอีกครั้ง และพยายามมองทุกสิ่งอย่างที่มันเป็น รวมถึงความเครียด ซึ่งเป็นตัวการสำคัญของภาวะหมดไฟ ลองมองความเครียดในแง่ใหม่ มองว่าเป็นธรรมชาติของการทำงาน เป็นสิ่งที่สามารถมีได้ เพราะการมีความเครียดในระดับที่พอดี จะทำให้คุณมีความใส่ใจในการทำงาน ทำให้ผลงานออกมาเป็นที่น่าพอใจ
5. ปรึกษาคนรอบข้าง
ถ้าคุณยังอยู่ในระยะเริ่มต้นของภาวะ Burnout อาจจะลองคุยกับเพื่อนหรือคนรอบข้างดูก่อนก็ได้ ลองเลือกคนที่มองโลกในแง่ดี มีทัศนะคติที่ดีในการใช้ชีวิต มองเห็นคุณค่าในตัวผู้อื่น และคุณพร้อมจะเปิดใจคุยกับเค้า หรือถ้ายังรู้สึกไม่อยากคุยกับคนรอบตัวอยู่ อาจจะลองไปปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ อย่างจิตแพทย์ หรือนักจิตวิทยาดูก็ได้ เพราะบุคคลเหล่านี้มักจะเจอคนที่มีปัญหาคล้าย ๆ คุณเข้ามาปรึกษาอยู่เสมอ ที่สำคัญเค้าสามารถให้คำแนะนำ จนคุณกลับมาเป็นคนที่มีแรงบันดาลใจ มีไฟในการทำงานอย่างเต็มเปี่ยมอีกครั้ง
……………………………………………………..
แน่นอนว่าที่ masii.co.th ให้คุณได้ สมัครบัตรเครดิต ออนไลน์ เปรียบเทียบบัตรเครดิตทุกธนาคาร ที่ตรงใจ เข้ากับไลฟ์สไตล์ พร้อมโปรโมชั่น และข้อเสนอพิเศษสุดฟิน สามารถสมัคร หรือเปรียบเทียบความคุ้มค่า สมัครได้ที่ “ เว็บไซต์มาสิ ” นะครับ เพราะเปรียบเทียบง่ายถูกใจชัวร์! แล้วไปดูกันเลยครับ ว่าบัตรเครดิตไหนจะถูกใจสายกินกันบ้าง …
บัตรเครดิต Citibank Rewards
“ คะแนนx 5 หมวดร้านอาหาร ”
ปกติแล้วบัตร Citibank Rewards นั้น ทุกๆ ท่านจะได้รับคะแนนสะสม 1 คะแนน ทุกการใช้จ่าย 25 บาท แต่สำหรับ หมวดร้านอาหารนั้น โดยสามารถเก็บแต้มสะสมได้ง่ายกว่ามาก เพราะทุกการใช้จ่าย 5 บาท ก็ได้แล้ว 1 แต้มครับ ซึ่งคะแนนสะสมนี้ สามารถแลกเป็นเงินคืนเข้าบัญชีได้ โดย 11,000 คะแนน สามารถแลกเงินคืนเข้าบัญชี มูลค่า 1,000 บาท และ 10,500 คะแนน สามารถแลกบัตรกำนัลคืนได้ถึง 1,000 บาท และที่พิเศษสุดๆ ไปเลยก็คือ แต้มคะแนนสะสมของ บัตรเครดิต นี้ ไม่มีวันหมดอายุ ด้วยนะครับ เก็บแต้มกันไปได้ยาวๆ กันเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีโปรโมชั่นพิเศษสำหรับคนที่ชอบทานบุฟเฟต์โรงแรม จาก Windsor Suites Hotel ด้วยนะครับ
โปรโมชั่นร้านอาหารบัตรเครดิต Citibank Rewards
- Mo Mo Paradise: รับส่วนลด 15% วันจันทร์ – วันศุกร์ + รับส่วนลดเพิ่ม 15% เมื่อใช้คะแนนสะสมซิตี้ รีวอร์ด เท่ากับยอดสุทธิ ทุกเวลา ทุกวัน
- Windsor Suites Hotel Sukhumvit 20
- The Cafe International restaurant มา 4 จ่าย 3 สำหรับบุฟเฟ่ต์อาหารกลางวัน มา 4 จ่าย 3 สำหรับบุฟเฟ่ต์ซีฟู้ดมื้อค่ำ (ศุกร์ – อาทิตย์ )
- The Golden Place Chinese restaurant มา 4 จ่าย 3 สำหรับบุฟเฟ่ต์ติ่มซำมื้อกลางวันและมื้อค่ำ
- Pizza Connection Italian restaurant ส่วนลด 20% สำหรับ a la carte ( เฉพาะค่าอาหาร )
- The Cafe International restaurant ส่วนลด 20% สำหรับ a lar carte ( เฉพาะค่าอาหาร )
สนใจ สมัครบัตรเครดิต ออนไลน์
……………………………………………………………..
บัตรเครดิต UOB Yolo Platinum
“ เงินคืน 10% เมื่อทาน Burger King และ Uber eat ”
UOB Yolo Platinum เป็น บัตรเครดิต ที่เน้นในเรื่องของได้รับเงินคืนครับ สามารถสมัครบัตรใบนี้ได้เมื่อรายได้ขั้นต่ำ 15,000 บาท / เดือน ขึ้นไป ตามปกติแล้ว เราจะได้รับเงินคืน 1% เมื่อใช้จ่ายในหมวดอื่นๆ แต่สำหรับสายบุฟเฟต์แล้ว คุณจะได้รับเงินคืน 10% เมื่อใช้จ่ายในหมวดร้านอาหาร หมวดช้อปปิ้ง และหมวดการเดินทางครับ
โปรโมชั่นร้านอาหาร บัตรเครดิต UOB Yolo Platinum
- Bottoms Up : ทุกวันศุกร์ รับเครดิตเงินคืน 50%
- AINU : ทุกวันศุกร์ รับเครดิตเงินคืน 50%
- Wine I Love You : ทุกวันศุกร์ รับเครดิตเงินคืน 50%
- Burger King : รับเครดิตเงินคืน 10%
- Uber eat : รับเครดิตเงินคืน 10%
สนใจ สมัครบัตรเครดิต ออนไลน์
……………………………………………………………..
บัตรเครดิตUOB Preferred Platinum
“ ซื้อ 1 ฟรี 1 ที่ True Coffee ”
อีกหนึ่งบัตรเครดิตจากธนาคาร UOB ที่เหมาะสำหรับสายกินครับ เพราะให้คุณรับ 1 คะแนนสะสมได้ง่ายๆ จากทุกการใช้จ่าย 10 บาท ในหมวดร้านอาหาร ช้อปปิ้ง และซูเปอร์มาร์เก็ต นอกจากนี้สำหรับคนที่ชอบดื่มกาแฟ ยังมีโปรโมชั่นพิเศษรับสิทธิ์ 1 ฟรี 1 จาก True Coffee ด้วย
โปรโมชั่นร้านอาหาร บัตรเครดิต UOB Preferred Platinum
- True Coffee : รับฟรีเพิ่มอีก 1 แก้ว เมื่อซื้อเครื่องดื่ม และชำระผ่านบัตรที่ True Coffee
- Texas Chicken : รับฟรีไก่ทอด Signature 1 ชิ้น หรือ ice-cream sundae 1 ถ้วย เมื่อซื้ออาหารตั้งแต่ 100 บาทขึ้นไป
สมัครบัตรเครดิต ออนไลน์
……………………………………………………………..
บัตรเครดิต TMB So Fast
“ ทุก 10 บาทได้ 1 แต้ม ”
บัตรเครดิต TMB So Fast นี้ มีจุดเด่นอยู่ที่เรตสะสมคะแนน “ ทุกการใช้จ่าย 10 บาท ได้ 1 คะแนน TMB Rewards Plus ” ครับ โดยคะแนนสะสมนั้น สามารถเก็บไว้ได้ถึง 4 ปีก่อนหมดอายุ และเมื่อกำหนดว่าทุกการใช้จ่าย 10 บาทได้ 1 แต้มนี้เอง ทำให้ทุกๆ ท่าน สามารถสะสมคะแนนได้ไวขึ้น และนำคะแนนนี้มาแลกเป็นเงินคืนเข้าบัญชี หรือแลกบัตรกำนัลได้ โดย 7,500 คะแนน สามารถแลกเป็นเงินคืน หรือมูลค่าบัตรกำนัลได้ถึง 500 บาทครับ
โปรโมชั่นร้านอาหาร บัตรเครดิต TMB So Fast
- เดอะเซาท์ ( The South ) : รับส่วนลด 10% สำหรับค่าอาหาร เมื่อทานครบ 600 บาทขึ้นไป / เซลล์สลิป
- ตำตำ แซ่บคาเฟ่ : รับส่วนลด 10% สำหรับค่าอาหาร เมื่อทานครบ 600 บาทขึ้นไป / เซลล์สลิป
สมัครบัตรเครดิต ออนไลน์
……………………………………………………………..
บัตรเครดิตTMB So Chill
“ กดเงินไม่เสีย 3% ”
บัตรนี้อาจจะแหวกแนวสักหน่อย ด้วยจุดเด่นคือ เป็น บัตรเครดิต สำหรับคนที่ชื่นชอบการกดเงินสด และไม่ชอบจ่ายชำระตามรอบบิลครบเต็มจำนวน เพราะบางครั้งเราก็ไม่สามารถหาเงินสดได้ทันเวลา เมื่อเราไปทานอาหารกับเพื่อนก็อาจจะมีบางร้านที่ไม่รับบัตรเครดิต แต่ยังมีตู้เอทีเอ็มอยู่ใกล้ๆ ซึ่งบัตรใบนี้ดีตรงที่ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียม 3% จากยอดเงินสดที่เรากดผ่านบัตรเครดิตออกมา นอกจากนี้แล้ว หากเลือกจ่ายชำระขั้นต่ำ หรือ บางส่วน ภายในวันที่ธนาคารกำหนดชำระเงินตั้งแต่รอบบัญชีที่ 4 เป็นต้นไป ทุกๆ ท่าน ยังได้รับ เงินคืน 5% จากดอกเบี้ยที่เรียกเก็บ และไม่ต้องคอยกังวลเรื่องยอดการใช้จ่ายต่อเดือน เพราะบัตรใบนี้ ฟรี! ค่าธรรมเนียมแรกเข้าและรายปีตลอดชีพไปเลยครับ
โปรโมชั่นร้านอาหาร บัตรเครดิต TMB So Chill
- เดอะเซาท์ ( The South ) : รับส่วนลด 10% สำหรับค่าอาหาร เมื่อทานครบ 600 บาทขึ้นไป / เซลล์สลิป
- ตำตำ แซ่บคาเฟ่ : รับส่วนลด 10% สำหรับค่าอาหาร เมื่อทานครบ 600 บาทขึ้นไป / เซลล์สลิป
สมัครบัตรเครดิต ออนไลน์
มาสิ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ทุกๆ ท่านคงถูกอกถูกใจกันนะครับ อย่าลืมนะครับ สำหรับใครที่เป็น สายกิน หรืออยากใช้เวลาร่วมกับเพื่อน ครอบครัว หรือคนพิเศษ กับมื้ออาหารที่ได้รับความคุ้มค่า กับโปรโมชั่น บัตรเครดิต ร้านอาหารต่างๆ ที่ มาสิ นำมาฝากกันในวันนี้ โดยเฉพาะ ใน วันหยุด ด้วยแล้ว อย่ารอช้า รีบสมัครกันได้เลยครับ หรือหากต้องการ เปรียบเทียบบัตรเครดิต ทุกธนาคาร ไม่ว่าจะด้วยโปรโมชั่นหรือสิทธิพิเศษต่างๆ รวมทั้งหาข้อมูลเกี่ยวกับการ สมัครบัตรเครดิต ออนไลน์ สามารถเลือก เปรียบเทียบบัตรเครดิต ได้ที่ เว็บไซต์มาสิได้เลยนะครับ หรือโทรสอบถาม 02 710 3100 หรือแอดไลน์เพื่อสอบถามได้ที่ @masii ครับ
เปรียบเทียบบัตรเครดิต
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการ สมัครบัตรเครดิต ออนไลน์
เพื่อติดตามข่าวสารเกี่ยวกับ บัตรเครดิต การสมัคร สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อรถแลกเงิน สินเชื่อเงินสด และผลิตภัณฑ์ทางการเงินอื่นๆ จากสถาบันการเงินชั้นนำ
อ่านบทความเพิ่มเติมเพื่อช่วยคุณหาตัวเลือกที่ดีที่สุด กับ บัตรเครดิตที่น่าสนใจ
- บัตรเครดิต KTC ท่องเที่ยวก่อน ผ่อนจ่ายทีหลัง
- หยุดยาว บัตรเครดิต แบบไหน ตอบโจทย์สายท่องเที่ยว
- ส่วนลดจุใจสายท่องเที่ยวกับบัตรเครดิต KTC
- สายเดินทางกับสายท่องเที่ยว บัตรเครดิตใบไหนที่พลาดไม่ได้
_____________________________________________
Please become Masii Fan
Facebook: https://lnkd.in/gFFh8mh
Website: www.masii.co.th
Blog: https://masii.co.th/blog
Line: @masii
Tel: 02 710 3100
Youtube: https://lnkd.in/gbQf9eh
Instagram: https://lnkd.in/ga4j5ri
Twitter: twitter.com/MasiiGroup
#บัตรเครดิต #สมัครบัตรเครดิตออนไลน์
#ทำบัตรเครดิต #บัตรเครดิตใบแรก
#สินเชื่อส่วนบุคคล #บัตรกดเงินสด #เงินด่วนทันใจ
#สินเชื่อส่วนบุคคลออนไลน์ #กู้เงิน #เงินสด #เงินก้อน
#เงินด่วน #เงินกู้ทันใจ #masii #มาสิ #ครบง่ายสะดวก
#เพื่อความสุขในชีวิตที่ดีกว่า #ครบง่ายสะดวกเพื่อความสุขในชีวิตที่ดีกว่า
#SimplifiedComparison