หากจะพูดถึงรถยนต์ภายใต้ยี่ห้อของ เซฟโรเลจ (CHEVROLET) ที่ถือว่าเป็นรถยนต์อีกหนึ่งยี่ห้อที่ได้รับความนิยมสูงมากในประเทศไทยแถมยังมีให้เลือกใช้งานหลายประเภทไม่ว่าจะเป็นรถเก๋งส่วนบุคคล รถปิ๊กอัพ รถกระบะ ก็ล้วนแล้วแต่ได้รับความนิยมจากกลุ่มลูกค้าในเมืองไทยแทบทั้งสิ้น นอกจากนี้หากจะพูดถึงข้อดีหรือสิ่งที่ทำให้เซฟโรเลตกลายเป็นยี่ห้อรถที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในประเทศก็คงหนีไม่พ้นในเรื่องของรูปทรงของรถที่ถูกออกแบบมาให้มีความแข็งแรง คงทน เหมาะกับการใช้งานในระยะยาว และมีสมรรถนะทางด้านการขนเคลื่อนย้ายหรือบรรทุกได้ดี นอกจากนี้ยังเชฟโรเลต ยังมีศูนย์บริการที่ครอบคลุมอยู่ทุกพื้นที่ในประเทศอีกด้วย
ความเป็นมาของเชฟโรเลต
จุดเริ่มต้นของเชฟโรเลตนั้น เกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 1911 โดย โดย Louis Chevrolet และเพื่อนของเขาได้ร่วมกันคิดค้นและพัฒนารถยนต์คันแรกในนามของ เชฟโรเลตขึ้น และสามารถทำยอดขายแซงผู้แข่งขันรายใหญ่ในตลาดตอนนั้นอย่างฟอร์ดได้สำเร็จ จนกระทั่งต่อมาพวกเค้าได้นำเชฟโรเลตเข้าไปอยู่ภายใต้การบริหารงานของ General Motor ซึ่งเป็นผู้นำทางด้านการผลิตและจัดจำหน่ายรถยนต์ในระดับโลกมาจนถึงปัจจุบัน
ไทม์ไลน์ทุกก้าวที่สำคัญของเชฟโรเลต
ตั้งแต่เปิดตัวรถคันแรกมาจนกระทั่งปัจจุบันเชฟโรเลต ก็เป็นรถที่ได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่อง โดยก้าวที่สำคัญของเชฟโรเลตนั้น สามารถสรุปได้ดังต่อไปนี้
ในช่วงยุคแรกตั้งแต่เริ่มเปิดตัวในปีค.ศ.1912 : ทำการเปิดตัวรถยนต์คันแรก ชื่อรุ่น Chevrolet Series C Classic Six ออกแบบโดย Etienne Planche เครื่องยนต์แบบวางหน้า 40 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์ 3 จังหวัด และคลัตช์ลิ่ม (cone clutch) และยังได้มีการพัฒนาเพิ่มขึ้นอย่างไม่หยุดยั้งไม่ว่าจะเป็นทำการเปิดตัวโลโก้บนตัวรถครั้งแรกในรูปแบบของ ‘เชฟวี่ โบว์ไท’ พร้อมกับการเปิดตัวเครื่องยนต์ที่มีวาล์วอยู่ในฝาสูบ (Valve in Head) การเปิดตัวเครื่องยนต์ 6 สูบ พร้อมระบบ Over Head Valve หรือวาล์วที่ติดตั้งอยู่เหนือห้องเผาไหม้ ที่เปิดตัวผ้าเบรก ซึ่งช่วยให้ผู้ขับขี่ทำการเบรกได้ง่าย และนุ่มนวลขึ้น เปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ที่นำเสนอนวัตกรรมอันก้าวล้ำ แบบ ‘ครั้งแรกในโลก’ อาทิ Vacuum Control, ระบบควบคุมอุณหภูมิของไอดี และ ระบบระบายอากาศแบบใหม่ หรือเปิดตัว เปิดตัวช่วงล่างหน้าแบบอิสระ (independent front suspension)
จวบจนในปัจจุบัน เชฟโรเลตยังได้มีการพัฒนาทั้งในเรื่องของรูปลักษณะและสมรรถนะของเครื่องยนต์อย่างต่อเนื่องให้กับรถทุกรูปแบบ รวมถึงยังไม่ลืมที่จะเพิ่มเติมความทันสมัยทางด้านเทคโลยีที่จะช่วยทำให้ทุกการขับขี่บนท้องถนนมีความปลอดภัยและทำให้ในห้องโดยสารไม่ใช่แค่เพียงที่นั่งแต่เป็นพื้นที่ ๆ ใช้ประโยชน์และสันทนาการได้มากกว่าที่เคย เพื่อตอกย้ำถึงความมีคุณภาพในฐานะผลิตภัณฑ์ยานยนต์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลก