ในช่วงวิกฤตโควิด-19 แบบนี้ หลายคนมักจะปล่อยให้รถยนต์ของเราจอดทิ้งไว้อยู่บนลานจอดรถเป็นระยะเวลานานพอสมควร แต่เนื่องจากปัจจุบันนั้นสถานการณ์ช่วงนี้ดีขึ้น ทำให้ใครหลายคนตัดสินใจนำรถยนต์ออกมาขับขี่ตามท้องถนนแล้วแต่พบว่ากลับเจอปัญหารถยนต์ควันดำ แบบนี้จะทำอย่างไรได้บ้างนะ
วิธีแก้ปัญหารถยนต์ควันดำ ก่อนรถพังไม่รู้ตัว!
ปัญหาที่พบเจอคือกลับพบว่ารถยนต์ของเราดันมีปัญหาควันดำ ส่งผลสร้างความวุ่นวายให้แก่เพื่อนๆ บนท้องถนนเป็นอย่างยิ่ง รวมไปถึงการสร้างมลพิษทางอากาศอีกด้วย วันนี้ Frank เลยมาวิธีการเช็กสภาพรถยนต์ควันดำมาฝากกัน
ตรวจสภาพหัวฉีดและปั๊มฉีดน้ำมัน
หากรถยนต์เกิดควันดำพุ่งสูงผิดปกติ ให้เราลองสังเกตตรงบริเวณหัวฉีดและปั๊มจ่ายน้ำมันก่อน เพราะอาจจะมีชิ้นส่วนชำรุด ซึ่งเราสามารถทำการเช็กปั๊มฉีดน้ำมันโดยนำรถเข้าศูนย์บริการ เพื่อปรับแต่งปั๊มจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง หรือซ่อมแซมส่วนที่เสียหายให้กลับมาใช้งานได้ตามปกติ
เปลี่ยนน้ำมันเครื่องตามระยะทาง
นอกจากนี้เราจะต้องหมั่นเปลี่ยนน้ำมันเครื่องตามระยะทางที่กำหนดไว้ หมายความว่า รถยนต์ที่ใช้งานบ่อยๆ ส่วนใหญ่จะต้องเปลี่ยนน้ำมันทุก 5,000 กม. หรือครบทุก 3 เดือน และรถที่ใช้งานทั่วไปจะต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่องเมื่อรถวิ่งถึงระยะ 8,000-10,000 หรือครบทุก 6 เดือนตามกำหนด ดังนั้น อย่าปล่อยใช้งานรถจนน้ำมันเครื่องเปลี่ยนเป็นสีดำข้นเด็ดขาด เพื่อช่วยแก้ปัญหารถควันดำ และใช้งานรถได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ตรวจสอบไส้กรองอากาศ
อย่างที่รู้กันว่า ไส้กรองอากาศจะช่วยดักจับฝุ่น ละออง หรือเศษผงต่างๆ ไม่ให้เข้าสู่น้ำมันเครื่องรถยนต์ของเรา หากเราใช้ไส้กรองอากาศเป็นเวลานานๆ ก็จะเกิดการสะสมสิ่งสกปรกมากมายจนอุดตัน และส่งผลต่อระบบสั่งจ่ายน้ำมันอีกด้วย รวมถึงเกิดการเผาไหม้ภายในห้องเครื่องออกมาเป็นไอเสีย ทางที่ดีเราควรเปลี่ยนไส้กรองอากาศทุกๆ 6 เดือน หรือทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ถ่ายเทดีขึ้น พร้อมใช้งานตลอดเวลา
ทำการล้างท่อไอเสียโดยใช้น้ำ
อันนี้เราสามารถเองง่ายๆ ด้วยการทำความสะอาดตัวท่อไอเสียกับน้ำเปล่า เพียงใช้น้ำฉีดเข้าไปล้างท่อไอเสียหรือฉีดลมชะล้างเขม่า ฝุ่นละอองต่างๆ แล้วรอสักพักค่อยปิดน้ำ หลังจากนั้นลองสตาร์ทรถใหม่อีกครั้งพร้อมกับเร่งเครื่อง เพื่อกำจัดสิ่งสกปรกหรือล้างเขม่าควันดำภายในท่อไอเสียออกมา
เมื่อรถเกิดควันดำให้รีบส่งซ่อมทันที
เอาเป็นว่า เพื่อความสบายใจมากขึ้น ทางที่ดีเราควรนำรถไปตรวจเช็กสภาพที่ศูนย์ซ่อมรถ หรืออู่ซ่อมรถดีกว่า จะได้ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเครื่องยนต์มีชิ้นส่วนใดชำรุดหรือไม่ อย่างเช่น แหวนลูกสูบหรือคว้านกระบอกสูบตัวใหม่ หรือหัวฉีดน้ำมันที่มีปัญหาจะได้ตรวจสอบ และรีบแก้ไขทันที
หากเราสังเกตเห็นรถยนต์เกิดควันดำโขมงตลอดเวลา อย่าปล่อยทิ้งไว้เด็ดขาด! เพราะนอกจากจะส่งผลเสียต่อรถยนต์ของคุณแล้ว ยังทำลายมลพิษทางอากาศ อีกทั้งสร้างความรำคาญใจให้แก่ผู้ใช้รถใช้ถนนร่วมกันด้วย พอหลังเช็กสภาพรถยนต์กันเสร็จแล้ว เพื่อนๆ ก็อย่าลืมต่อประกันรถยนต์ให้อุ่นใจกันด้วยนะ เพื่อความปลอดภัยในทุกเส้นทาง หรือรถเกิดปัญหาก็สามารถติดต่อกับเจ้าหน้าที่ประกันให้คอยช่วยเหลือได้ มีไว้ย่อมอุ่นใจกว่านั่นเอง
สนใจสมัครประกันรถยนต์
ขอบคุณข้อมูลจาก:
frank.co.th ประกันที่รวดเร็ว เรียบง่าย และจริงใจกับคุณ