อย่างที่เราทราบกันดีว่าตอนนี้ประเทศไทยของเราได้เริ่มที่เข้าสู่ หน้าหนาว กันแล้ว เรียกได้ว่าเป็นที่ใครหลายคนตั้งตารอ และถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งฤดูกาลโปรดของใครหลาย ๆ คน แม้ประเทศไทยของเราจะมีช่วงเวลาแห่งฤดูกาลนี้ค่อนข้างสั้น แต่เพียงแค่ได้ผ่านเข้ามาพียงแค่วันสองวันเราก็ได้สุขใจกันแล้ว แต่รู้หรือไม่ ไม่เพียงแค่บรรยากาศดี ๆ อากาศเย็น ๆ ที่ผ่านเข้ามาให้เราได้สัมผัสมีความสุขกันแต่เพียงเท่านั้น สิ่งหนึ่งที่ควรระวังและหลีกเลี่ยงมากที่สุดนั่นก็คือ ปัญหาผิวแห้งกร้าน ที่ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องที่สาว ๆ เท่านั้นที่ควรใส่ใจ แต่ผู้ชายอย่างเรา ๆ นี้ก็ด้วยที่ควรระวัง แล้วปัญหาผิวแห้งกร้านนี้มีที่มาหรือสาเหตุจากอะไร เมื่อเรามีผิวแห้งกร้านเราต้องทำอย่างไร และทำอย่างไรเพื่อไม่ให้เรามีปัญหาผิวแห้งกร้าน วันนี้ มาสิ ได้เอาเรื่องราวมาอัพเดทให้ทุกคนได้อ่านกันแล้ว พร้อมแล้วไปอ่านกัน
หน้าหนาว มาผิวแห้งตาม ปัญหาที่คนผิวแห้งต้องเจอ
เมื่อเข้าสู่ช่วง หน้าหนาว อากาศเย็นเมื่อไหร่ปัญหาผิวหนังที่มักพบได้บ่อย ก็คือ ปัญหาผิวแห้ง แตก คัน และไม่เปล่งปลั่งสดใส ซึ่งปัญหาเหล่านี้มักเกิดจากความชื้นที่อยู่ในอากาศมีน้อยลง ทำให้ผิวหนังเสียน้ำและความชื้นในผิวได้ง่าย บางรายอาจถึงขั้นผิวแห้งจนอักเสบ หรือแสบคันจนมีเลือดออกกันเลยทีเดียว จนทำให้หลาย ๆ ต่างกังวลว่าจะดูแลผิวพรรณตัวเองอย่างไร เพื่อให้ผิวกลับมาแข็งแรง และไม่ลอกเป็นขุย วันนี้ มาสิ จะมาแชร์เทคนิคดี ๆ ในการดูแลผิวพรรณ เพราะการดูแลผิวพรรณไม่ใช่แค่การทาครีมเพียงอย่างเดียว แต่จะดีกว่าไหมถ้าหากเราสามารถบำรุงและดูแลผิวแข็งแรงได้จากภายในไม่ว่าจะผ่านมากี่ฤดูก็ตาม
ทำความรู้จักผิวกันเถอะ
ผิวของคนเรามีน้ำเป็นส่วนประกอบที่สำคัญที่ผิวชั้นบน Horny layer จะมีน้ำเป็นส่วนประกอบประมาณ 10 – 20% และถัดจากชั้นบนลงไปจนถึงผิวชั้นใน Inner skin จะประกอบไปด้วยน้ำ 60-70% เลยทีเดียว ส่วนที่เป็นน้ำมันใต้ชั้นเซลล์ผิวเช่น Ceramide และมอยเจอร์ไรเซอร์ธรรมชาติจากผิว เช่น NMF (Natural moisturizing factor) และ Sebum สารที่หลั่งจากต่อมใต้ผิวหนังเหล่านี้จึงถูกเรียกว่า ครีมจากธรรมชาติ ซึ่งมีหน้าที่ปกป้องผิวให้มีความชุ่มชื้นอยู่เสมอ ดังนั้น Ceramide และ NMF จึงเป็นส่วนสำคัญที่ขาดไม่ได้เลย หากปริมาณน้ำใต้ผิวมีน้อยกว่า 10% ผิวหน้าจะเกิดความแห้งกร้านและไม่เรียบเนียน ส่งผลให้เกิดปัญหากวนใจได้
ผิวแห้งคืออะไร?
ผิวแห้ง (Dry skin) คือ ภาวะที่ผิวมีน้ำมันเคลือบผิวลดลงจนเกิดการสูญเสียน้ำในผิวหนัง และทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้นหรือเกิดภาวะผิวขาดน้ำนั้นเอง โดยหนึ่งในเหตุผลที่มักจะถูกกล่าวขึ้นมา ก็คือ สารเคลือบผิวไม่เพียงพอ สารเคลือบผิว (Sebum membrane) ซึ่งทำหน้าที่กักเก็บน้ำเอาไว้ในผิว และป้องกันการระเหยของน้ำที่อยู่ในผิวชั้นบน สารเคลือบผิวที่ว่านี้ เกิดจากการที่ร่างกายของเราหลั่งออกมาทางผิวหนัง เป็นครีมธรรมชาติที่มีส่วนประกอบของมอยเจอร์ไรเซอร์ที่เหมาะกับผิวของเรามากที่สุด แต่ในช่วงฤดูหนาวเมื่ออุณหภูมิและความชื้นลดต่ำลง ร่างกายก็จะหลั่งสารเหล่านี้ลดลงตามไปด้วย ส่งผลให้น้ำในชั้นผิวระเหยออกไปจนปริมานน้ำใต้ผิวมีน้อยกว่า 10% จนทำให้ผิวเกิดความแห้งกร้านตามไปด้วย
ปัจจัยที่ทำให้ผิวแห้ง
1.อายุ
อายุเป็นปัจจัยภายในที่หลีกเลี่ยงไม่ได้และทำให้เกิดปัญหาผิวแห้ง โดยเฉพาะผู้หญิงในวัยหมดประจำเดือน ที่ฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลง หากลองสังเกตดูว่าผู้สูงอายุมักจะมีผิวที่แห้ง เพราะเมื่ออายุมากขึ้นรูขุมขนที่ทำหน้าที่ผลิตน้ำมัน จะผลิตได้น้อยลงโดยธรรมชาติ จนทำให้มีผิวที่แห้งลงไปอีก
2.สภาพอากาศ
โดยส่วนใหญ่ผิวแห้งจะเกิดในช่วงหน้าหนาวหรือช่วงที่อากาศแห้งเป็นเรื่องปกติ เมื่ออุณหภูมิและความชื้นเปลี่ยนแปลงลดลงอย่างรวดเร็ว ทำให้น้ำใต้ผิวหนังระเหยออกไปจนทำให้ผิวแห้ง
3.พฤติกรรมการที่ทำในแต่ละวัน
ในบางพฤติกรรมที่ทำให้แต่ละวันอาจเป็นการทำร้ายผิวแบบไม่รู้ตัว เช่น อาบน้ำร้อนจัด ดื่มน้ำน้อย สครับผิวบ่อยเกินไป หรืออยู่ในห้องแอร์ทั้งวัน พฤติกรรมเหล่านี้เป็นการทำร้ายผิวทั้งสิ้น โดยการทำให้ผิวสูญเสียน้ำและความชุ่มชื้นในผิวไป
วิธีแก้ปัญหาและการดูแลเมื่อผิวแห้ง
1.หลีกเลี่ยงการอาบน้ำอุ่น
เมื่ออากาศหนาวหลายคนคงต้องการอาบน้ำอุ่น เพราะทำให้รู้สึกสบายตัวในเวลาอาบน้ำ แต่การอาบน้ำอุ่นนั้นทำให้ความชุ่มชื้นในผิวลดลงและส่งผลให้ผิวแห้งจนเป็นขุยได้ เพื่อให้ผิวคงความนุ่มชุ่มชื้นควรอาบน้ำในอุณหภูมิปกติ และไม่ควรอาบน้ำเกิน 10 นาที เพราะอาจทำให้ผิวสูญเสียความชุ่มชื้น แต่อย่างไรก็ตามการเลือกใช้สบู่ก็สำคัญต่อการอาบน้ำในหน้าหนาวด้วยเช่นกัน ควรลดหรืองดการฟอกสบู่ หากต้องการถูสบู่ควรเลือกเป็นสบู่เหลวให้เหมาะสมกับสภาพผิว ชนิดอ่อนโยนต่อผิวเพื่อรักษาความชุ่มชื้นของผิวเอาไว้
2.ทาครีมบำรุงหลังอาบน้ำเสมอ
หลังจากอาบน้ำเสร็จ ควรทาครีมบำรุงผิวภายใน 3-5 นาที เพราะเมื่อผิวหลังจากอาบน้ำเสร็จยังมีความชุ่มชื้นอยู่ เพราะฉะนั้นหลังเช็ดตัวหมาดๆ จึงควรทาครีมบำรุงทั้งในหน้าและลำตัวโดยทันที และควรเลือกครีมบำรุงให้เหมาะสมกับสภาพผิว
3.สวมเสื้อผ้าที่ไม่ทำให้ระคายเคือง
ควรสวมใส่เสื้อผ้าให้มิดชิดในหน้าหนาวและเลือกเนื้อผ้าที่ใส่สบาย ไม่บาดหรือระคายเคืองผิว เช่น สวมกางเกงขายาว เสื้อแขนยาว สวมถุงเท้า หมวก จะช่วยลดปัญหาผิวและยังช่วยป้องกันผิวหนังจากแสงแดดจ้าในหน้าหนาวอีกด้วย
4.ดื่มน้ำให้เพียงพอ
เพราะน้ำคือส่วนประกอบที่สำคัญช่วยให้ผิวคงความชุ่มชื้นเอาไว้ได้ ใน 1 วันจึงควรดื่มน้ำวันละ 8-10 แก้ว นอกจากนี้การรับประทานผักและผลไม้ที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบก็สามารถช่วยให้ผิวชุ่มชื้นได้เช่นกัน อย่าง แตงกวา มะเขือเทศ แตงโม และผลไม้ตระกูลเบอร์รี่
และทั้งหมดนี้ ก็เป็นเพียงสาระความรู้ และการดูแลตัวเองกันง่าย ๆ ในช่วงของการเปลี่ยนผ่านฤดูอย่างนี้ บิกได้เลยว่าเรื่องของสุภาพร่ายกาย สุขภาพผิว ไม่ใช่เรื่องที่ผู้หญิงอย่างเดียวที่ควรใส่ใจ คุณผู้ชายเองก็ไม่ควรมองข้างทุกการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย แม้จะเป็นเพียงเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็อาจจะนำมาปัญหาใหญ่ตามาได้ ทั้งนี้ เรื่องของการบำรุงร่างกาย ต้องทำการบำรุงทั้งภายในและภายนอกควรทำควบคู่กันไป เพื่อผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุด และหากเราใส่ใจดูแลผิวพรรณในช่วงหน้าหนาวได้ดี จะมีอีกกี่หนาวก็ไม่ต้องกังวลว่าจะมีผิวลอกหรือผิวแตกให้คุณรู้สึกรำคาญอีกต่อไป
ขอขอบคุณ :: megawecare
ก่อนจากกันในวันนี้ก็เหมือนอย่างเคย ไม่เพียงแค่สาระดี ๆ ที่ มาสิ ได้หยิบเอามาฝากให้ทุกคนได้อ่าน และได้นำไปใช้ในการดูแลสุขภาพกัน แต่ มาสิ ยังได้หยิบเอากับอีกหนึ่งตัวช่วยในเสริมสาร้างในการดูแลสุขภาพกับ ประกันสุขภาพ จากเอ็ทน่าประกันภัยที่จะช่วยเสริมสร้างความคุ้มครองที่ดีให้กับความเจ็บป่วยทางกาย จะมีความน่าสนใจ หรือรายละเอียดความคุ้มครองอย่างไรบ้างนั้น ไปติดตามกัน
ประกันสุขภาพ แผนเอ็กซ์ตร้าแคร์ ( Extra Care )
ประกันสุขภาพ แผนบียอนด์ เพอร์ซันนัลแคร์ ( Beyond Personal Care )
สำหรับ ประกันสุขภาพ เอ็ทน่า เอ็กซ์ตร้าแคร์ เหมาะสำหรับผู้ที่มีประกันสุขภาพ ประกันสังคม หรือสวัสดิการจากบริษัทอยู่แล้ว แต่อาจมีวงเงินความคุ้มครองไม่เพียงพอ แผนประกันนี้จึงช่วยเติมเต็มวงเงินความคุ้มครองจากสวัสดิการที่มีอยู่ ช่วยชดเชยค่ารักษาพยาบาลส่วนเกินอีก 80% โดยไม่เกินผลประโยชน์สูงสุดในแต่ละแผนที่กำหนดไว้ต่อการเจ็บป่วยหรือบาดเจ็บในแต่ละครั้ง โดยมีรายละเอียด ดังนี้
- ค่ารักษาพยาบาลกรณีผู้ป่วยใน( ต่อการเข้าพักรักษาตัวครั้งใดครั้งหนึ่ง ) 20,000 บาท
- ความคุ้มครองเพิ่มเติมอีก 80% ของค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลในส่วนที่เกินจากความรับผิดส่วนแรก ครอบคลุมในส่วนค่ารักษาพยาบาลทั่วไป ค่าธรรมเนียมแพทย์ผ่าตัดและวิสัญญีแพทย์ ค่าห้องผ่าตัด ค่าแพทย์เยี่ยมไข้ ค่าธรรมเนียมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญพิเศษสูงสุด 600,000 บาท
- ค่าห้องผู้ป่วยปกติ สูงสุดต่อวัน 4,000 บาท
- ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล( อบ.2* ) กรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะสายตา การรับฟังเสียง การพูดออกเสียง และทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง รายละ 1,000 บาท
- เบี้ยประกันเริ่มต้น 3,172 บาท
* อบ.2 คือ ประเภทความคุ้มครองจากกรมธรรม์ประกันภัยที่มีรายละเอียดความคุ้มครองคือ (1) การเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ/สายตา การทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง, (2) การทุพพลภาพชั่วคราวสิ้นเชิง, (3) การทุพพลภาพชั่วคราวบางส่วน, (4) การรักษาพยาบาล และ (5) การสูญเสียนิ้ว การสูญเสียการรับฟังเสียง/การพูดออกเสียงและการทุพพลภาพถาวรบางส่วน
สนใจสมัคร ประกันสุขภาพแผนเอ็กซ์ตร้าแคร์ ( Extra Care )
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถโทรมาสอบถามรายละเอียดต่างๆ ได้ที่ 02 710 3100 หรือแอดไลน์ @masii ( มี @ ด้วยนะครับ ) เพื่อติดตามข่าวสารและบทความดีๆ ที่ มาสิบล็อก เกี่ยวกับ ประกันวินาศภัย ประกันรถยนต์ ประกันรถมอเตอร์ไซด์ ประกันสุขภาพ ประกันโดรน ประกันการเดินทาง ประกันอุบัติเหตุ ประกันภาคธุรกิจ และพ.ร.บ. รวมทั้ง ผลิตภัณฑ์ทางการเงินจากสถาบันการเงินชั้นนำทั่วประเทศ
อ่านบทความที่น่าสนใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ประกันสุขภาพ
_____________________________________________
Please become Masii Fan
Facebook: https://lnkd.in/gFFh8mh
Website: www.masii.co.th
Blog: https://masii.co.th/blog
Line: @masii
Tel: 02 710 3100
Youtube: https://lnkd.in/gbQf9eh
Instagram: https://lnkd.in/ga4j5ri
Twitter: twitter.com/MasiiGroup
#สินเชื่อ #ประกัน
#รถแลกเงิน #บ้านแลกเงิน #สินเชื่อส่วนบุคคล
#บัตรกดเงินสด #เงินด่วนทันใจ #สินเชื่อส่วนบุคคลออนไลน์
#กู้เงิน #เงินสด #เงินก้อน #เงินด่วน #เงินกู้ทันใจ #masii
#มาสิ #ครบง่ายสะดวก #เพื่อความสุขในชีวิตที่ดีกว่า
#ครบง่ายสะดวกเพื่อความสุขในชีวิตที่ดีกว่า #SimplifiedComparison