สถานการณ์โควิด-19 เริ่มกลับมาคลี่คลายลงบ้างแล้ว คนส่วนใหญ่ทยอยได้รับการฉีดวัคซีนเข็มสอง ทำให้หลายคนกล้าที่จะออกไปเดินทางท่องเที่ยวกันมากขึ้น ซึ่งใครที่ชอบเที่ยวเตรียมเฮ! เพราะโครงการเราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3 เขาเปิดให้ลงทะเบียนแล้ว สำหรับประชาชนที่ไม่เคยลงทะเบียนรับสิทธิ ตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน 2564 ระหว่างเวลา 06.00-21.00 น. จำนวน 2,000,000 สิทธิ เช็กรายละเอียดเพิ่มเติมกับ masii กันเลยค่ะ
เปิดขั้นตอน ลงทะเบียน “เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3” จำนวน 2 ล้านสิทธิ เช็กที่นี่
เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2564 กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดให้ประชาชนลงทะเบียน “เราเที่ยวด้วยกัน เฟส 3” ซึ่งเป็นโครงการที่รัฐบาลจัดขึ้นเพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายภาคประชาชน ผ่านการท่องเที่ยวภายในประเทศ ช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้ผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง สนับสนุนการสร้างงานและฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศในองค์รวม ทั้งยังช่วยผู้ประกอบการที่ประสบปัญหาการเงิน ให้ได้ลืมตาอ้าปาก ไม่ต้องเดือดร้อนกู้เงิน หรือหาที่กู้เงินอีกต่อไป
โดยจะเปิดให้ประชาชนผู้ที่ไม่เคยลงทะเบียนรับสิทธิ สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 3 ได้ตั้งแต่วันที่ 24 กันยายน 2564 ระหว่างเวลา 06.00-21.00 น. จำนวน 2,000,000 สิทธิ
เงื่อนไขการลงทะเบียนสำหรับประชาชน
– มีบัตรประจำตัวประชาชนและเป็นบุคคลสัญชาติไทย
– อายุตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ลงทะเบียน
– ประชาชนจะได้รับสิทธิเมื่อลงทะเบียนสำเร็จ และใช้จ่ายในโรงแรม ร้านอาหาร หรือสถานที่ท่องเที่ยว ได้ทุกจังหวัดทั่วประเทศ ยกเว้น จังหวัดตามทะเบียนบ้านของผู้ใช้สิทธิ
ประชาชนที่เคย ลงทะเบียนโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 1 และ 2 แล้ว ไม่ต้องลงทะเบียนรับสิทธิใหม่ สามารถใช้สิทธิที่คงเหลือต่อได้
ไทม์ไลน์ “เราเที่ยวด้วยกัน” เฟส 3
– 24 ก.ย.64 เปิดลงทะเบียนประชาชน (สำหรับผู้ไม่เคย ไม่ได้รับสิทธิในเฟส 1 และ 2) และ เปิดลงทะเบียนผู้ประกอบการใหม่ (ผู้ที่ได้ลงทะเบียน E-Form สำเร็จ ในช่วงวันที่ 21 เม.ย.-18 มิ.ย.64 ไม่ต้องลงทะเบียน)
– 8 ต.ค.64 เปิดให้ประชาชนจองโรงแรม/ที่พัก
– 15 ต.ค.64 เริ่มเข้าพัก (Check in)
– 23 ม.ค.65 เปิดจองโรงแรม/ที่พัก วันสุดท้าย
– 31 ม.ค.65 สิ้นสุดระยะเวลาเดินทาง และ Check out วันสุดท้ายในโครงการ
วิธีลงทะเบียนสำหรับประชาชน
- ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการผ่าน www.เราเที่ยวด้วยกัน.com
หมายเหตุ เบอร์ลงทะเบียนที่ใช้รับสิทธิ ต้องเป็นเบอร์เดียวกับที่ลงทะเบียนแอปฯ เป๋าตัง - ได้รับ sms แจ้งผลการลงทะเบียนสำเร็จ
- ดาวน์โหลด + ติดตั้ง และยืนยันตัวตนบน App เป๋าตัง ซึ่งเป็น App หลักในการใช้จ่าย
- จองห้องพักกับโรงแรม พร้อมชำระเงินส่วนประชาชน (ร้อยละ 60) ผ่านเว็บไซต์ของโรงแรมหรือโทรสำรองห้องพักกับเจ้าหน้าที่โรงแรม
- ได้รับ voucher สำหรับ check-in โรงแรม
- จองตั๋วเครื่องบินตามช่องทางปกติ และชำระเงินเต็มจำนวน (กรณีเดินทางโดยเครื่องบิน)
- Check-in เข้าพักตามวันที่กำหนด (ในระหว่างการเข้าพักจะได้รับคูปองอาหาร/ท่องเที่ยวเป็นรายวันสำหรับใช้จ่ายในร้านอาหาร/สถานที่ท่องเที่ยวที่ร่วมโครงการ)
- Check-out
- เข้าเว็บไซต์ www.เราเที่ยวด้วยกัน.com เพื่อกรอกข้อมูลสำหรับใช้สิทธิค่าตั๋วเครื่องบิน (กรณีเดินทางโดยเครื่องบิน)
- ได้รับเงินคืนค่าตั๋วเครื่องบินตามเงื่อนไข (กรณีเดินทางโดยเครื่องบิน ลงทะเบียนใช้สิทธิ และปฏิบัติตามเงื่อนไขของโครงการ)
รายละเอียดโครงการ
สนับสนุนส่วนลดค่าโรงแรมที่พัก
– รัฐบาลสนับสนุนค่าโรงแรม 40% ของราคาที่พักต่อห้องต่อคืน ทั้งนี้ไม่เกิน 3,000 บาท ต่อห้องต่อคืน
– จำกัดสิทธิคนละไม่เกิน 15 ห้อง หรือ 15 คืน (เริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 16 ธ.ค. 2563 เป็นต้นไป)
– เมื่อจองที่พักแล้ว ไม่สามารถยกเลิกได้แต่สามารถเลื่อนวันเข้าพักได้ การเลื่อนเข้าพักต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่โครงการกำหนด
สนับสนุนส่วนลดค่าอาหารและค่าเข้าสถานที่ท่องเที่ยว
– รัฐบาลจะสนับสนุนคูปองอาหาร/ท่องเที่ยวมูลค่า 600 บาทต่อห้องต่อคืน ให้กับประชาชน เมื่อ check-in โรงแรมสำเร็จ
– จะได้รับคูปองอาหาร/ท่องเที่ยว วันละ 1 ครั้ง หลังเวลา 17:00 น. ของวัน check-in โดยคูปองจะหมดอายุเวลา 23:59 น. ของวัน check-out
– คูปองอาหาร/ท่องเที่ยวสามารถใช้ได้ที่ร้านอาหารและสถานที่ท่องเที่ยวที่ร่วมโครงการ โดยประชาชนชำระ 60% และรัฐบาลสนับสนุนอีก 40% ผ่านการตัดเงินจากคูปอง
สนับสนุนค่าเดินทางโดยเครื่องบิน
– ประชาชนที่เข้ามากรอกข้อมูลเพื่อรับเงินสนับสนุนค่าตั๋วเครื่องบินจะต้องเป็นผู้ที่จองโรงแรมผ่านโครงการเราเที่ยวด้วยกันเท่านั้น โดยมีสิทธิในการได้รับเงินสนับสนุนค่าตั๋วเครื่องบิน 2 สิทธิผู้โดยสาร ต่อ 1 ห้องโรงแรมที่จอง ทั้งนี้เงินสนับสนุนค่าตั๋วเครื่องบินเท่ากับ 40% ของราคาค่าตั๋วเครื่องบิน แต่ไม่เกิน 2,000 บาท ต่อผู้โดยสาร (เริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. 2563 เป็นต้นไป)
– สิทธิเพิ่มเติมรับเงินสนับสนุนค่าตั๋วเครื่องบินเท่ากับ 40% ของราคาตั๋วเครื่องบิน แต่ไม่เกิน 3,000 บาท ต่อผู้โดยสาร เมื่อเดินทางท่องเที่ยวไปยัง ภูเก็ต พังงา กระบี่ สุราษฎร์ธานี สงขลา เชียงใหม่ และเชียงราย สำหรับผู้ที่ออกตั๋วเดินทาง และเดินทางตั้งแต่วันที่ 8 ธันวาคม 2563 เป็นต้นไป
– ประชาชนต้องจ่ายเงินค่าตั๋วเต็มจำนวนไปก่อน ณ ตอนจองตั๋วเครื่องบิน และต้องมีการเดินทางในเที่ยวบินนั้นจริง รวมถึง check-in และ check-out ที่โรงแรมที่จองไว้กับโครงการจริง
– ตั๋วเครื่องบินเป็นประเภทไปหรือกลับ หรือทั้งไปและกลับจากจังหวัดที่อยู่ภาคเดียวกันจังหวัดที่จองโรงแรม (กรณีขึ้นลงคนละจังหวัดก็สามารถทำได้ กับเป็นจังหวัดที่อยู่ในภาคเดียวกันกับจังหวัดที่จองโรงแรม)
– วันที่เดินทางไปหรือกลับ ต้องไม่ห่างจากวัน check-in หรือ check-out โรงแรมที่จองผ่านโครงการไม่เกิน 5 วัน และการเดินทางกลับจากการท่องเที่ยวจะต้องอยู่ภายใน 31 มกราคม 2565
สนใจสมัครประกันเดินทาง
ใครที่ลงทะเบียนเราเที่ยวด้วยกันไว้แล้ว หากจะเดินทางไปไหนมาไหน เพื่อความอุ่นใจขณะเดินทางท่องเที่ยว นอกจากจะซื้อประกันภัยรถยนต์สำหรับการขับขี่โดยสารแล้ว ก็อย่าลืม ซื้อประกันเดินทาง ไม่ว่าจะเกิดเหตุฉุกเฉิน อุบัติเหตุ ไฟลท์ดีเลย์ กระเป๋าเดินทางหายก็ได้รับความคุ้มครอง คลิกที่นี่ เพื่อซื้อประกันเดินทางหรือโทร. 02 710 3100