เที่ยวดอย ขับรถ ขึ้นเขายังไงให้ปลอดภัย

เที่ยวดอย ขับรถ ขึ้นเขายังไงให้ปลอดภัย
เที่ยวดอย ขับรถ ขึ้นเขายังไงให้ปลอดภัย
สมัครรถแลกเงินโปรโมชั่น แจกฟรี Voucher Lazada

ในช่วงนี้อากาศก็เริ่มหนาวและใกล้จะถึงเทศกาลปีใหม่ มาสิจึงมีเทคนิคการ ขับรถ ขึ้นเขามานำเสนอกัน เนื่องจากหลายคนๆ อาจจะมีการวางแผนที่จะไปท่องเที่ยวกันแล้ว ซึ่งช่วงหนาวนี้สถานที่ท่องเที่ยวที่นิยมไปกันก็คงไม่พ้นทางภาคเหนือ เพราะมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจและสวยงามอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็น ดอยแม่สลอง (จังหวัดเชียงราย)  ดอยเสมอดาว(จังหวัดน่าน)  ภูกระดึง(จังหวัดเลย)  และสถานที่อื่นๆ อีกมากมาย  ซึ่งหลายๆ คนก็คงอยากจะขับรถขึ้นเขาไปชมบรรยากาศสวยๆ กัน  เพื่อไม่ให้เสียเวลาเราไปดูเทคนิคการขับกันเลย

เวลาขับรถขึ้นหรือลงเขา

เกียร์กระปุก (เกียร์ธรรมดา)

1.ควรใช้เกียร์ต่ำอย่างเกียร์ 1 หรือ 2 ในการขึ้นเพราะเกียร์สูง(ตั้งแต่เกียร์ 3 ขึ้นไป) เครื่องยนต์จะไม่มีกำลังและแรงฉุดมากพอที่จะขับเคลื่อนขึ้นเขา

2.ควรรีบเปลี่ยนเกียร์เมื่อรถเสียกำลังในการขับเคลื่อน อย่าลากเกียร์ต่อไปเรื่อยๆจนหมดแรงส่ง

3.ในการลงเขาก็เช่นกันควรใช้เกียร์ต่ำอย่างเกียร์ 1 หรือ 2 เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายกรณีมีเหตุฉุกเฉิน เช่น สัตว์วิ่งตัดหน้า เราจะสามารถเบรคได้ทันและด้วยความเร็วที่ไม่มาก รถเราจะไม่เสียการทรงตัว

เกียร์ออโต้ (เกียร์อัตโนมัติ)

1.ควรใช้เกียร์ต่ำ D1-2 (ชื่อเรียกต่างกันในแต่ละรุ่น)ในการขับขึ้น และเปลี่ยนมาใช้เกียร์ D เมื่อขับบนพื้นราบ

2.ควรดูสภาพพื้นที่ก่อนการเหยียบคันเร่ง โดยเหยียบคันเร่งตามจังหวะความชัน ชันมากก็เหยียบมาก

3.ตอนลงเขาก็ให้ใช้เกียร์ต่ำเช่นกัน  หากไม่จำเป็นไม่ควรเหยียบคันเร่ง  ค่อยๆ ปล่อยให้ไหลรถลงมาเองด้วยเกียร์ D หรือ D1-2 และความถ่วงของโลก

เทคนิคทั่วไปที่สามารถใช้ได้ทั้ง 2 เกียร์

1.ความเร็วในการขับขึ้นลงเขา

ควรขับที่ความเร็วที่ใช้ในการขึ้นและลงเขา คือความเร็วประมาณ 50-80 km/h และไม่ควรใช้ความเร็วเกิน 80 km/h ด้วยความเร็วที่ไม่มากทำให้คุณคุมเบรคและทิศทางรถได้ไม่ยาก รวมถึงเพื่อไม่ให้เกิดอันตราย

2.ความเร็วในตอนก่อนเข้าโค้ง

ควรลดความเร็วลงมาอยู่ประมาณ 40-50 Km/h เพื่อไม่ให้เร็วเกินไปจนหลุดโค้งได้

3.ในทางลาดชันหรือทางลาดลง

หากเป็นไปได้ควรรักษาระยะห่างจากรถคันหน้าอย่างน้อย 30-50 เมตร เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการเบรคให้กับรถเรา และหากเกิดเหตุเบรคฉุกเฉินขึ้นมา รถเราจะได้ไม่ชนกับรถด้านหน้า

4.เมื่อมีรถมาจ่อท้าย

หากไม่รีบจริงๆ หรือไม่ชำนาญทาง เมื่อมีรถมาจ่อท้าย เราควรเบี่ยงซ้ายและให้รถที่ตามหลังไปก่อน  ไปถึงช้านิดแต่ปลอดภัยดีกว่า

5.หากต้องการจะเเซงรถที่ขับช้ามากๆ

เราควรเลือกแซงตอนทางราบหรือไม่ชันจึงรีบแซงไป แต่ต้องไม่ลืมเช็คความปลอดภัยก่อนเเซงเสมอนะครับ

6.ห้ามใช้เกียร์ว่าง (เกียร์ N) ในการลงเขาอย่างเด็ดขาด

เพราะจะทำให้รถไหลลงมาด้วยความเร็วสูงยากที่จะควบคุมทิศทางหรือเบรคได้ ซึ่งอาจทำให้เกิดอันตรายได้ง่ายๆ

7.ขณะลงเขา

ควรเหยียบเบรคเป็นระยะๆ ห้ามเหยียบเบรคค้างนานๆ อย่างเด็ดขาด เพราะจะเป็นสาเหตุให้ผ้าเบรคจะไหม้ จนทำให้เราคุมรถไม่อยู่  หรือที่เรียกกันว่า “เบรคแตก” นั้นเอง  

8.หากทัศวินัยวิสัยรอบข้างไม่ดีในขณะขับรถบนเขา

เช่นกรณีมี หมอกลงหนาจนเห็นทางข้างหน้าได้ในระยะใกล้ ทางโค้งมีสันเขาบังสายตา เป็นต้น เราควรปฏิบัติตามคำแนะนำที่มีแจ้งในพื้นที่นั้นๆอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยของเรา

ข้อสำคัญในการขับรถขึ้นและลงเขา คือต้องไม่ลืมที่จะควบคุมความเร็วรถและเกียร์ที่ใช้ ให้สัมพันธ์กับพื้นที่ที่วิ่ง เพื่อที่จะทำให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดนั้นเอง

เทคนิคที่นำมาเสนอในวันนี้หวังว่าจะมีประโยชน์กับหลายๆ คนที่กำลังจะไปเที่ยวภูเขาในช่วงปีใหม่นี้กันนะครับ เดินทางปลอดภัยและขอให้มีความสุขกับเทศกาลปีใหม่ครับ  

สำหรับท่านที่กำลังมองหาประกันภัยรถยนต์ สามารถเปรียบเทียบเบี้ยประกันฟรีที่ masii.com

“เจ้าอื่นถูกกว่า เราคืนส่วนต่าง” เรารับประกันราคาดีที่สุดในตลาด

เปรียบเทียบเลย คลิก https://masii.co.th/thai/car-insurance