ไหว้เสริมโชคลาภ อาบพรรับทรัพย์ตลอดปี! กับ เทศกาลไหว้พระจันทร์ … พร้อมรับเงินก้อน ทันใช้กับ สินเชื่อส่วนบุคคล

เทศกาลไหว้พระจันทร์
ไหว้เสริมโชคลาภ อาบพรรับทรัพย์ตลอดปี! กับ เทศกาลไหว้พระจันทร์ ... พร้อมรับเงินก้อน ทันใช้กับ สินเชื่อส่วนบุคคล
สมัครรถแลกเงินโปรโมชั่น แจกฟรี Voucher Lazada

เรื่องของความเชื่อความศรัทธาเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่อยู่กับคนเรามาอย่างช้านานไม่ว่าจะเป็นชนชาติไหน เชื้อสายใดๆ ต่างก็มีเรื่องราวความเชื่อความศรัทธาที่แตกต่างกัน อย่างเช่นอีกหนึ่งเทศกาลที่น่าสนใจที่ มาสิ ได้หยิบยกเอามาฝากกันกับ เทศกาลไหว้พระจันทร์ อีกหนึ่งเทศสำคัญของชนชาติจีนและชาวไทยเขื้อสายจีน ที่จะได้มีการจัดพิธีไหว้สักการะบูชาเทพเจ้าที่สำคํญเพื่อขอพรและรับความเป็นสิริมงคล ซึ่งประวัติความเป็นมา ที่มาความสำคัญ ขั้นตอนในการไหว้ ตลอดจนลำดับพิธีการจะมีอย่างไรบ้างนั้น สำหรับผู้ที่สนใจวันนี้ มาสิ สาระความรู้มาฝากให้ทุกคนได้อ่านกัน โดยจะมีรายละเอียดความน่าสนใจอย่างไรบ้างนั้นต้องไปติดตามดูกัน นอกจากนี้ ไม่เพียงเรื่องราวความน่าสนใจของ เทศกาลไหว้พระจันทร์ ที่ มาสิ ได้เอามาฝากกัน ซึ่งจะเป็นสินเชื่อตัวไหนนั้น ตาม มาสิ ไปดูกัน!

ขอขอบคุณ : Thai PBS,PPTVHD 36 , True ID และ Wongnai

สนใจสมัคร สินเชื่อส่วนบุคคล คลิก!

เทศกาลไหว้พระจันทร์

เทศกาลไหว้พระจันทร์ เป็นหนึ่งในสี่ของประเพณีที่ยิ่งใหญ่ของชาวจีน ได้แก่ ตรุษจีน เช็งเม้ง วันไหว้บ๊ะจ่าง และวันไหว้พระจันทร์ ซึ่งถือเป็นประเพณีที่แพร่หลายอยู่ในหมู่ชาวจีนโพ้นทะเลที่อพยพไปอยู่ในพื้นที่ต่างๆ อาทิ ญี่ปุ่น เกาหลี ฮ่องกง มาเก๊า เวียดนาม สิงคโปร์ และไทย โดยผู้คนในต่างแดนมักเรียกชื่อเทศกาลนี้เป็นภาษาอังกฤษว่า “Mid-Autumn Festival” ที่แปลได้อย่างตรงตัวว่าช่วงกลางของฤดูใบไม้ร่วง

โดยเทศกาลไหว้พระจันทร์ จะตรงกับ วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 ของปฏิทินจีน ซึ่งจะตรงกับปฏิทินไทยในช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคมของทุกปี และในปีนี้จะตรงกับวันศุกร์ที่ 29 กันยายน 2566

 

ประวัติ-ความสำคัญ “เทศกาลไหว้พระจันทร์”

เทศกาลไหว้พระจันทร์ จะตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 ตามปฏิทินจันทรคติของจีน ในทุกๆ ปีทุก ๆ ครัวเรือนจะซื้อขนมไหว้พระจันทร์มาไหว้พระจันทร์ พร้อมกับการชมพระจันทร์จนกลายเป็นประเพณีของจีนที่สืบต่อกันมา สำหรับประเพณีรับประทานขนมไหว้พระจันทร์ในวันไหว้พระจันทร์นั้น เกิดขึ้นเมื่อช่วงสมัยที่ชาวมองโกลเข้ามาปกครองแผ่นดินจีน เมื่อชาวมองโกลกดขี่ข่มเหงและทำร้ายชาวจีนอย่างโหดเหี้ยม และเพื่อควบคุมดูแลชาวจีนอย่างใกล้ชิด ชาวมองโกลจึงส่งทหารของตนไปประจำอยู่ในบ้านของชาวจีนครอบครัวละ 1 คน เป็นอันว่าชาวจีนทุกๆ ครัวเรือนต่างต้องเลี้ยงดูทหารมองโกล 1 คน ทหารมองโกลเหล่านี้ยังก่อกรรมทำชั่วไปหมด

 

ทำให้ชาวจีนขุ่นเคืองใจเป็นอย่างยิ่ง ต่อมาท่านหลิวปั๋วเวิน คิดได้วิธีหนึ่ง คือ ให้นำกระดาษเขียนข้อความ แล้วสอดไส้ไว้ในขนม เรียกร้องให้ชาวจีนทุกคนลงมือสังหารทหารมองโกลที่ประจำอยู่ในบ้านของตน อย่างพร้อมเพรียงกันในวันเพ็ญเดือนแปด ทั้งนี้เพื่อให้ชาวจีนที่ไปซื้อขนมมารับประทานกัน ต่างได้อ่านข้อความดังกล่าวและช่วยกันกระจายข่าวนี้ออกไป เพื่อก่อการปฏิวัติโดยพร้อมเพรียงกัน ณ วันเพ็ญเดือนแปด ทำให้สามารถโค่นล้มอำนาจการปกครองของมองโกลในที่สุด

เพื่อเป็นการฉลอง และรำลึกการกอบกู้แผ่นดินที่ประสบความสำเร็จ ประเพณีรับประทานขนมไหว้พระจันทร์ในวันเทศกาลดังกล่าวจึงมีการสืบทอดกันตลอดมาจนถึงปัจจุบัน ไม่ว่าแห่งหนใดที่มีชาวจีนเดินทางไปถึงก็จะพาประเพณีรับประทานขนมไหว้พระจันทร์ ไปด้วยนั่นเอง

ตำนานเทศกาลไหว้พระจันทร์

  • ตำนานของเทศกาลไหว้พระจันทร์นี้ เกี่ยวกับเทพปกรณัมจีนที่เล่าถึงเทพธิดาแห่งดวงจันทร์ ที่ชื่อ “ฉางเอ๋อ” ซึ่งเป็นหญิงคนรักของ โฮวอี้ นักยิงธนูแห่งสวรรค์ ที่ใช้ธนูยิงดวงอาทิตย์ตกลงไปถึง 9 ดวงจากทั้งหมด 10 ดวง ซึ่งเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนบัญชาสวรรค์ จึงโดนลงทัณฑ์ให้ไปใช้ชีวิตธรรมดาเช่นมนุษย์ทั่วไปบนโลกมนุษย์กับฉางเอ๋อ แต่แล้วโฮวอี้ก็ถูกคนสนิททรยศฆ่าตาย ส่วนฉางเอ๋อนางได้ดื่มน้ำอมฤตเพื่อที่จะมีชีวิตอมตะ แล้วเหาะกลับไปยังดวงจันทร์อีกครั้งตามลำพังด้วยความเศร้า
  • อีกตำนานหนึ่ง เกิดในยุคของฮั่นเหวินตี้ แห่งราชวงศ์ฮั่น ได้ทรงพระสุบินว่า พระองค์ลอยขึ้นไปเที่ยวชมพระราชวังบนดวงจันทร์ และได้พบกับฉางเอ๋อกำลังร่ายรำอยู่อย่างงดงาม ในสุบินนั้น พระองค์ทรงเพลิดเพลินและเกษมสำราญเป็นอย่างยิ่ง กระทั่งเมื่อตื่นพระบรรทมและโปรดให้สุบินนั้นเป็นความจริง จึงมีรับสั่งให้นางสนมแต่งตัวและร่ายรำเลียนแบบเทพธิดาฉางเอ๋อที่พระองค์ได้พบเจอมา จนแพร่หลายไปสู่ราษฎรและเป็นประเพณีมา ซึ่งในอดีต ชาวจีนโดยเฉพาะหญิงสาวจะสวดขอพรจากฉางเอ๋อเพื่อที่ขอให้มีความเยาว์วัยและงดงามตลอดไป
  • อีกตำนานก็คือ ตำนานกระต่ายบนดวงจันทร์ เล่าว่า มีอยู่ปีหนึ่งในเมืองปักกิ่งเกิดโรคอหิวาระบาดหนัก เมื่อเทพธิดาฉางเอ๋อซึ่งอยู่บนดวงจันทร์ได้มองลงมาเห็น ก็รู้สึกทุกข์ใจเป็นอย่างมาก จึงส่งกระต่ายหยกที่ปกติจะมีหน้าที่ตำยาอยู่บนดวงจันทร์ ให้ลงมารักษาโรคชาวบ้าน กระต่ายหยกแปลงกายเป็นหญิงสาวออกรักษาผู้คนหายจากโรค ชาวบ้านรู้สึกซาบซึ้งใจในความช่วยเหลือ จึงได้ตอบแทนด้วยการให้สิ่งของ แต่กระต่ายหยกก็ไม่ยอมรับสิ่งใดเลย เพียงแค่ขอยืมชุดชาวบ้านใส่เท่านั้น ไปถึงไหนก็จะเปลี่ยนชุดไปเรื่อย บ้างทีแต่งเป็นคนขายน้ำมัน บ้างก็เป็นหมอดูดวง เป็นชายบ้างหญิงบ้าง หลังจากกำจัดโรคให้ชาวเมืองจนหมดแล้ว กระต่ายหยกก็กลับขึ้นไปยังดวงจันทร์ นับแต่นั้นมาชาวบ้านจึงได้กราบไหว้บูชาเทพเจ้ากระต่ายในวันไหว้พระจันทร์ด้วย
เทพจันทราหรือนางฉางเอ๋อ
เทพจันทราหรือนางฉางเอ๋อ

วิธี “ไหว้พระจันทร์” ขอพรความรักและขอพรเสริมเฮง

  • ตั้งโต๊ะไหว้บนพื้นที่โล่งที่มองเห็นพระจันทร์ชัดเจน เช่น ลานหน้าบ้าน หรือดาดฟ้า
  • จัดเตรียมโต๊ะเพื่อตั้งของไหว้ ตกแต่งสถานที่ด้วยโคมไฟ
  • โดย “ของไหว้” ได้แก่ ขนมไหว้พระจันทร์ (จำนวนเลขคู่), น้ำสะอาด, ของที่เกี่ยวข้องกับความสวยงาม เช่น น้ำหอม ตลับแป้ง (ควรเป็นของใหม่), ดอกไม้สด, ผลไม้ 3-5 อย่าง, น้ำชา,  ธูป 3-5 ดอก, เทียนแดง 1 คู่ หรืออาจจะมีกระดาษเงินกระดาษทองด้วยก็ได้
  • ต้องตั้งโต๊ะให้เสร็จเรียบร้อยก่อนหัวค่ำ และไหว้พร้อมเก็บของให้เสร็จก่อนพระจันทร์เลยตำแหน่งหัว
  • ให้เริ่มไหว้ตั้งแต่ช่วงหัวค่ำ โดยไหว้หันหน้าไปทางทิศตะวันออก อธิษฐานขอพรเรื่องความรัก ความมีเสน่ห์ การได้รับความเมตตา หน้าที่การงาน และโชคลาภ เมื่อธูปใกล้หมดให้ลาของไหว้มารับประทาน  ส่วนน้ำสะอาดให้นำมาประพรมที่ตัวเพื่อความเป็นสิริมงคล

ฤกษ์ไหว้พระจันทร์ ควรไหว้กี่โมง

ในส่วนของฤกษ์ไหว้พระจันทร์แบ่งออกได้เป็น 3 ช่วงเวลาด้วยกัน นั่นก็คือ

  • ไหว้เทพเจ้าช่วงเช้า (ช่วง 7.00 น. – 9.00 น.) : จัดเตรียมของไหว้เหมือนไหว้เจ้าตามปกติ แต่เพิ่มขนมไหว้พระจันทร์, ขนมโก๋ และขนมเปี๊ยะ
  • ไหว้บรรพบุรุษช่วงสาย (ช่วง 10.00 น. – 12.00 น.) : จัดเตรียมของไหว้เหมือนไหว้บรรพบุรุษตามปกติ แต่เพิ่มขนมไหว้พระจันทร์, ขนมโก๋ และขนมเปี๊ยะ
  • ไหว้เจ้าแม่ช่วงค่ำ (ช่วง 19.00 น. – 23.00 น. เมื่อดวงจันทร์เริ่มขึ้นบนท้องฟ้า) : จัดเตรียมอาหารเจแห้ง 5 อย่าง, ขนมไหว้พระจันทร์ (ไส้อะไรก็ได้ที่ไม่ใช่เนื้อสัตว์และไข่), ขนมโก๋, ผลไม้, น้ำสะอาด, น้ำชา, กระดาษเงิน-ทอง, ธูป 3 ดอกหรือ 5 ดอก หรือธูปมังกรดอกใหญ่ดอกเดียว และเทียนแดงคู่ โดยเริ่มจัดซุ้มและโต๊ะของไหว้ เอาต้นอ้อยมาทำเป็นซุ้ม หันไปทางทิศตะวันออก พร้อมติดโคมไฟแดงประดับ และจัดโต๊ะวางของไหว้ให้ครบถ้วนสวยงาม
    อธิษฐานขอพรเรื่องความรัก ความมีเสน่ห์ การได้รับความเมตตา หน้าที่การงาน รวมทั้งโชคลาภ และหลังเสร็จพิธีเมื่อธูปและเทียนดับลง ให้นำขนมไหว้พระจันทร์มาแบ่งกินกันในครอบครัว โดยต้องนำมาหั่นแบ่งให้เท่ากับจำนวนคนในครอบครัว ห้ามขาดหรือเกิน และแต่ละชิ้นที่แบ่งต้องมีขนาดที่เท่า ๆ กัน เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ทุกคนในครอบครัว

ความหมายเชิงสัญลักษณ์ 12 ของไหว้บนโต๊ะไหว้พระจันทร์

ของไหว้

  • ขนมไหว้พระจันทร์ รูปทรงกลมเหมือนพระจันทร์เต็มดวง เป็นสัญลักษณ์ของการกลับมาพบกันของครอบครัว
  • เป็ด สื่อถึงการปลดแอกจากการต่อสู้กับชาวมองโกล ในสมัยก่อนชาวมองโกลถูกเรียกว่า “ต้าซี” (鞑子 Dázi) ซึ่งฟังดูเหมือน “เป็ด” (鸭子 yāzi) ในภาษาท้องถิ่นทางเหนือ ดังนั้น “กินเป็ด” จึงเป็นวลีรหัสลับที่หมายถึงการกู้ชาติ
  • ปูขน เป็นอาหารอันโอชะตามฤดูกาลพิเศษในเทศกาลไหว้พระจันทร์
  • เผือก ในภาษาท้องถิ่นภาคใต้ เผือกหมายถึง ความโชคดี เชื่อกันว่าจะช่วยขจัดโชคร้ายและนำโชคลาภและความมั่งคั่งมาให้
  • รากบัว เป็นสัญลักษณ์ของความผูกพันในครอบครัวที่เข้มแข็ง
  • ฟักทอง สื่อถึงสุขภาพดี มีตำนานเล่าว่ามีครอบครัวหนึ่งที่พ่อแม่ป่วย ลูกสาวนำฟักทองมาปรุงอาหารให้ จากนั้นพ่อแม่ก็หายดี
  • หอย เชื่อกันว่าจะช่วยขับไล่โชคร้าย และยังให้ประโยชน์ต่อสุขภาพ
  • ชาดอกไม้หอมหมื่นลี้ หมายถึงการกลับมาพบกันของครอบครัวและชีวิตที่มีความสุข
  • ส้มโอ ในภาษาจีน “ส้มโอ” (柚子 youzi) ฟังดูเหมือน 游子 ซึ่งแปลว่า “สมาชิกในครอบครัวที่อยู่ไกลบ้าน” การรับประทานส้มโอสื่อถึงการกลับมารวมตัวกันของสมาชิกในครอบครัว
  • ทับทิม จะช่วยดึงดูดโชคลาภและความอุดมสมบูรณ์ให้กับครอบครัว
  • แตงโม เป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์ และมีรูปร่างทรงกลมซึ่งแสดงถึงการกลับมาพบกันของครอบครัว
  • ลูกแพร์ หรือ สาลี่ เป็นคำพ้องเสียงกับคำว่า “แยก” (离 lí) ปกติถือว่าเป็นอาหารที่ไม่เป็นมงคล คนจีนจะหลีกเลี่ยงในช่วงเทศกาล แต่ยกเว้นในเทศกาลไหว้พระจันทร์ การกินลูกแพร์หมายถึง การกินโดยไม่แยกจากกัน ทำให้กลับมาพบกันใหม่

และทั้งหมดนี้ ก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งของเทศกาลที่น่าสนใจที่ มาสิ ได้หยิบเอามาฝากกัน โดยสำหรับใครที่ชื่นชอบ หรืออยากที่จะลองทำพิธีไหว้พระจันทร์ดูสักครั้ง ก็สามารถทำตามขั้นตอนที่ มาสิ เอามาฝากกันได้เลย ส่วนพรที่เราขอไปนั้น จะสำฤทธิ์ผลหรือไม่ก็ตาม แต่เพื่อความสบาย เราสามารถทำก่อนไว้ก็ไม่ได้เสียหายอะไรเช่นกัน และอย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้น สำหรับผู้ที่ต้องการเงินด่วน เงินก้อน ไว้ใช้จ่ายยามฉุกเฉิน เพียงเเค่เรื่องของการไหว้ขอพรกับพระจันทร์ในบ้างครั้งอาจจะได้เงินไม่ทันการต่อการใช้งาน วันนี้ มาสิ จึงได้เอากับอีกหนึ่งตัวช่วยดีๆ มาอัพเดทให้ทุกคนได้เอาลองไปใช้พิจารณาดูกันกับ สินเชื่อส่วนบุคคล  Kashjoy รายละเอียดจะเป็นอย่างไรบ้างนั้นไปดูกัน

“เรื่องเงิน จบไว ไว้ใจ Kashjoy ”

สินเชื่อส่วนบุคคล kashjoy
สินเชื่อส่วนบุคคล kashjoy

โดยภาพรวมนั้น Kashjoy มีจุดเด่นอยู่หลายจุด จุดแรกที่เห็นได้ชัดคือ การอนุมัติวงเงินกู้ สูงสุด 1,000,000 บาท และเป็นสินเชื่อส่วนบุคคลที่ให้กู้เงินก้อนเดียวผ่อนหมดก็จบ ระยะเวลาผ่อนชำระสูงสุด 60 เดือนกันเลยทีเดียว

 รายละเอียดเกี่ยวกับสินเชื่อที่ควรรู้
  • เงินกู้ ที่ขอกู้จะถูกโอนเข้าบัญชีธนาคาร ยกเว้น ธอส., ธกส. และธนาคารออมสิน
  • ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ หรือบุคคลค้ำประกัน
  • วงเงินอนุมัติสูงสุด 5 เท่าของรายได้ หรือสูงสุด 1,000,000 บาท
  • ดอกเบี้ย 5% ต่อปี แบบลดต้นลดดอก
  • สามารถผ่อนได้นานสูงสุด 5 ปี
คุณสมบัติผู้สมัคร

พนักงานประจำ/รายวัน
– สัญชาติไทย
– อายุ 20-60 ปี บริบูรณ์ ณ วันที่สมัคร
– รายได้สุทธิ 14,000 บาทขึ้นไป
– อายุงาน 4 เดือน ขึ้นไป
– รับเงินเดือนโอนผ่านธนาคาร
– มีเบอร์พื้นฐานที่ทำงาน ที่สามารถติดต่อได้

เจ้าของกิจการ/ฟรีแลนซ์/อาชีพอิสระ
– สัญชาติไทย
– อายุ 20-65 ปี บริบูรณ์ ณ วันที่สมัคร
– รายได้แสดงในสเตทเม้นท์เฉลี่ยสุทธิ 30,000 บาทต่อเดือน
– ดำเนินกิจการมาไม่ต่ำกว่า 6 เดือน
ขั้นตอนการสมัครสินเชื่อส่วนบุคคล Kashjoy
  • กรอกข้อมูลผ่านหน้าเว็บไซต์ masii.co.th
  • รอเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับ
  • มาสิ จะทำหน้าที่ไปรับเอกสารให้ ฟรี!
  • เจ้าหน้าตรวจสอบเอกสาร
  • ดำเนินการด้านสินเชื่อและแจ้งผลการสมัครผ่าน SMS
เอกสารประกอบการสมัคร
  • บัตรประจำตัวประชาชนตัวจริงพร้อมสำเนา
  • เอกสารแสดงรายได้
  • สลิปเงินเดือน / หนังสือรับรองเงินเดือน (ตัวจริงหรือสำเนา) ล่าสุดไม่เกิน 2 เดือน พร้อมกับ Statement หรือรายการเดินบัญชีเงินเดือนย้อนหลัง 3 เดือนล่าสุดติดต่อกัน หรือ
  • Statement หรือรายการเดินบัญชีย้อนหลัง 6 เดือนล่าสุดติดต่อกัน (กรณีไม่มีสลิป หรือหนังสือรับรองเงินเดือน
  • สำเนาหน้าสมุดบัญชีธนาคารเพื่อโอน (บัญชีธนาคาร ภายใน 6 เดือน ต้องมีการเคลื่อนไหวของบัญชี) ยกเว้น ธอส., ธกส. และธนาคารออมสิน
เงื่อนไขการชำระเงินคืน
  • กำหนดชำระทุกวันที่ 1 ของทุกเดือน (ตัดรอบบัญชีวันที่ 10)
  • หักชำระบัญชีเงินฝากอัตโนมัติผ่านธนาคารกรุงเทพเท่านั้น
  • ชำระทางช่องทางที่บริษัทกำหนด
  • ค่าธรรมเนียมอื่นๆ เพิ่มเติม
  • ดอกเบี้ย 5% ต่อปี
  • ค่าอากรแสตมป์ 05% ของ เงินกู้
  • ค่าใช้จ่ายในการชำระเงิน 15-30 บาท
  • ค่าตรวจสอบข้อมูลเครดิต 12 บาท
  • ค่าทวงหนี้กรณีผิดนัด 100 บาท
สนใจสมัคร สินเชื่อส่วนบุคคล Kashjoy

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถโทรมาสอบถามรายละเอียดต่างๆ ได้ที่ 02 710 3100 หรือแอดไลน์ @masii ( มี @ ด้วยนะครับ ) เพื่อติดตามข่าวสารและบทความดีๆ ที่ มาสิบล็อก เกี่ยวกับ บัตรเครดิต บัตรเดบิต บัตรกดเงินสด สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อบ้านแลกเงิน สินเชื่อรถแลกเงิน และผลิตภัณฑ์ทางการเงินจากสถาบันการเงินชั้นนำทั่วประเทศ

อ่านบทความที่น่าสนใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับ สินเชื่อส่วนบุคคล

_____________________________________________

Please become Masii Fan

Facebook: https://lnkd.in/gFFh8mh

Website: www.masii.co.th

Blog: https://masii.co.th/blog

Line: @masii

Tel: 02 710 3100 

Youtube: https://lnkd.in/gbQf9eh

Instagram: https://lnkd.in/ga4j5ri

Twitter: twitter.com/MasiiGroup

#สินเชื่อ #ประกัน

#รถแลกเงิน #บ้านแลกเงิน #สินเชื่อส่วนบุคคล

#บัตรกดเงินสด #เงินด่วนทันใจ #สินเชื่อส่วนบุคคลออนไลน์

#กู้เงิน #เงินสด #เงินก้อน #เงินด่วน #เงินกู้ทันใจ #masii

#มาสิ #ครบง่ายสะดวก #เพื่อความสุขในชีวิตที่ดีกว่า

#ครบง่ายสะดวกเพื่อความสุขในชีวิตที่ดีกว่า #SimplifiedComparison