มาสิ แนะนำให้ ซื้อบ้านมือสองอย่างไรให้คุ้มค่ามากที่สุด…มาดู 5 เรื่องที่ต้องรู้ก่อนซื้อ บ้านมือสอง

โดย

03/04/2023

ซื้อบ้านมือสองอย่างไรให้คุ้มค่ามากที่สุด...มาดู 5 เรื่องที่ต้องรู้ก่อนซื้อ บ้านมือสอง

สมัครรถแลกเงินโปรโมชั่น แจกฟรี Voucher Lazada

บ้าน ถือได้ว่าเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่หลายคนใฝ่ฝันที่อยากจะมีเป็นของตัวเองสักหลัง หลังจากที่ได้เริ่มทำงาน แต่โดยคำว่าบ้านนั้นไม่เพียงจำกัดแค่เรื่องของที่อยู่อาศัย บ้าน ยังมีความหมายโดยนัยถึงผู้ที่อาศัยภายในบ้านนั้นด้วย แต่ทั้งนี้ การที่ใครจะทำตามความฝันด้วยการมีบ้านสักหลังแต่ด้วยข้อจำกัด และความพร้อมอะไรในหลาย ๆ ด้าน บ้างครั้งบ้านมือหนึ่งหรือการลงหลักปลูกสร้างเองก็ดูที่จะเป็นเรื่องยากเกินไป บ้านมือสอง จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่คนสมัยใหม่นี้ให้ความสนใจมากยิ่งขึ้นไปด้วย ดังนั้น วันนี้ก่อนที่ใครจะตัดสินใจไปซื้อบ้านมือสองสักหลังเรามาดูกันก่อนดีกว่า มีปัจจัย หรือเรื่องใดบ้างที่เราต้องใส่ใจและให้ความระมัดระวัง เพื่อให้ได้ประโยนช์หรือคุ้มค่ามากที่สุด ว่าแล้วก็อย่าได้เสียเวลา ตาม มาสิ ไปดูรายละเอียดกัน

บ้านมือสอง

“ บ้านมือสอง ” แน่นอนว่าคำว่า “มือสอง” นั้นต้องผ่านการใช้งานมาแล้วอย่าง แน่นอน หรือพูดอีกนัย คือ การซื้อบ้านที่ไม่ได้ซื้อมาจากผู้พัฒนาโครงการ แต่ซื้อต่อมาจากคนที่ซื้อมาแล้วก่อนหน้า โดยบ้านมือสอง อีกหนึ่งตัวเลือกของการซื้อบ้านในยุคปัจจุบัน เนื่องจากมีข้อดีหลายด้านไม่ว่าจะเป็นเรื่องของราคา และเรื่องทำเล ลองมาดูข้อควรพิจารณาและตรวจสอบก่อนตัดสินใจเป็นเจ้าของบ้านมือสอง เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาตามมาในภายหลัง

ข้อดีของบ้านมือสอง

1.ความฝันสำเร็จ…ได้บ้านในราคาเอื้อมถึง

ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้คนสมัยใหม่หันมาเลือกซื้อบ้านมือสอง ก็คือ ราคาที่เหมาะสมกับงบประมาณที่มี เมื่อคิดค่าเสื่อมตามการใช้งานแล้วบ้านมือสอง และคอนโดมือสองยังมีราคาที่ค่อนข้างต่ำขณะที่เมื่อเทียบราคาต่อพื้นที่ อีกทั้งยังได้พื้นที่ใช้งานมากขึ้นเมื่อเทียบกับบ้าน-คอนโดมือหนึ่ง

2.ได้เห็นสภาพจริง ไม่ใช่ห้องตัวอย่าง

สำหรับบ้านมือสองผู้ซื้อจะได้เห็นสภาพบ้านที่แท้จริงพร้อมทั้งสภาพแวดล้อมโดยรอบอย่างละเอียด รวมไปถึงเพื่อนบ้านข้างเคียง ไม่ต้องรอลุ้นหลังก่อสร้างแล้วเสร็จเหมือนที่อยู่อาศัยโครงการใหม่ นอกจากนี้ บ้านมือสองหรือคอนโดมือสองมักมีการตกแต่งมาแล้ว หรืออาจมีการแถมเฟอร์นิเจอร์มาให้ ผู้บริโภคสามารถใช้เวลาในการพิจารณารายละเอียดหรือวางแผนต่อเติมใหม่ได้ง่ายขึ้น

3.ได้โครงสร้างที่แข็งแรงคงทนกว่า

ส่วนใหญ่บ้านมือสองที่ก่อสร้างมานานจะเป็นระบบการก่อสร้างแบบเก่า เช่น การสร้างด้วยอิฐมอญฉาบปูน ต่างจากการก่อสร้างโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ในปัจจุบันที่ก่อสร้างด้วยผนังอิฐมวลเบา และผนังคอนกรีตสำเร็จรูป (Precast) ที่มีจุดเด่นต่างกันในด้านความแข็งแกร่งทนทาน รวมทั้ง ผนังอิฐมอญทนกับทุกสภาพอากาศในเมืองไทยเป็นอย่างดี จึงเหมาะกับผู้ที่มีแผนต่อเติมและดัดแปลงที่อยู่อาศัย หรือผู้ที่ชอบตกแต่งรีโนเวทบ้านด้วยตัวเอง

5 เรื่องต้องรู้ก่อนตัดสินใจซื้อบ้านมือสอง

1.เช็กสภาพบ้านให้ละเอียดก่อนตัดสินใจซื้อ

ผู้ซื้อควรสังเกตรายละเอียดโครงสร้างบ้านและสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ประกอบด้วยเช่นกัน เนื่องจากเจ้าของเดิมอาจจงใจไม่แจ้งปัญหาด้านโครงสร้างหรือการใช้งานอื่น ๆ ให้ผู้ซื้อทราบ เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกกดราคาก็เป็นได้ โดยสามารถทำการเช็คเบื้องต้นได้ตามรายการต่อไปนี้

ตรวจสอบภายนอกและภายในบ้าน

วิเคราะห์สภาพบริเวณบ้านว่าดินมีการทรุดตัวหรือไม่
ตรวจเช็คว่าบริเวณข้างเคียงมีการขุดบ่อหรือสระใกล้กับตัวบ้านจนอาจจะทำให้บ้านทรุดได้หรือไม่
ตรวจสอบผนังฝ้าเพดานของบ้านว่ามีการชำรุดหรือเวลาหน้าฝนมีการบวมพองหรือไม่

ตรวจสอบโครงสร้างอาคาร

ตรวจสอบว่าโครงสร้างเสาและคานสามารถรับน้ำหนักได้มากน้อยขนาดไหน ตั้งฉากกับพื้นหรือไม่ไม่แอ่นเอียงไปทางใดทางหนึ่ง
ตรวจเช็ครอยร้าวในคานและเสา หากพบว่าเป็นรอยร้าวที่เกิดจากเนื้อคอนกรีตซึ่งเป็นโครงสร้างข้างในของคานและเสา ไม่ใช่แค่รอยร้าวของปูนฉาบที่ผิวหน้า ควรปรึกษาหรือสอบถามกับผู้เชี่ยวชาญให้เข้ามาตรวจสอบเพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้น เป็นต้น

ตรวจสอบงานระบบ

ตรวจสอบระบบสาธารณูปโภคต่างว่ามีปัญหาหรือไม่ เช่น ระบบน้ำประปา ระบบไฟฟ้า ว่ามีการเสื่อมสภาพหรือระบบมิเตอร์ยังทำงานได้อย่างปกติดีหรือไม่

2.ตรวจสอบกรรมสิทธิ์ของบ้าน/คอนโด

อีกหนึ่งขั้นตอนสำคัญ คือ การตรวจสอบให้ละเอียดว่าโฉนดที่ดินหรือหนังสือกรรมสิทธิ์ที่จะซื้อนั้นถูกต้องหรือไม่ เนื่องจากโฉนดที่ผู้ขายนำมาให้อาจจะเป็นข้อมูลที่ไม่ถูกต้องหรือมีการปลอมแปลง หรือถูกอายัดตามกฎหมาย ผู้ซื้อจึงควรตรวจสอบรายละเอียดว่าใครเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่แท้จริงก่อน เพื่อป้องกันกรณีที่ผู้ประกาศขายไม่ใช่เจ้าของบ้านตัวจริง แล้วแอบอ้างขายบ้านมือสองของผู้อื่น ซึ่งหากได้ตกลงทำการซื้อขายเรียบร้อยแล้ว จะทำให้ผู้ซื้อเกิดปัญหาตามมาในภายหลังได้ และในกรณีที่จำเป็นต้องตกลงซื้อขายกับผู้อื่น เช่น ญาติของเจ้าของเดิม จะต้องให้ผู้ขายนั้นแสดงหลักฐานใบมอบอำนาจพร้อมหลักฐานประกอบอื่น ๆ ที่ชัดเจนก่อนเสมอ

3.ตรวจสอบ ใบปลอดหนี้ (ถ้ามี)

ประเด็นนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้ซื้อควรตรวจสอบให้ดีว่าเจ้าของเดิมค้างจ่ายค่าส่วนกลาง หรือมีหนี้ค้างอื่นกับทางนิติบุคคลหรือไม่ ต้องให้ผู้ขายจัดการเคลียร์หนี้ค้างให้เรียบร้อย ไม่เช่นนั้นผู้ซื้อจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบชำระหนี้เอง

โดยใบปลอดหนี้ คือ เอกสารที่ระบุรายละเอียดเกี่ยวกับการชำระเงินค่าส่วนกลางในการอยู่อาศัยในคอนโด หรือบ้านโครงการ ซึ่งหากขาดเอกสารนี้จะไม่สามารถโอนกรรมสิทธิ์ที่สำนักงานที่ดินได้ ผู้ขายต้องเป็นผู้ดำเนินการขอเอกสารนี้ที่สำนักงานนิติบุคคล เพื่อจัดการค่าใช้จ่ายค้างชำระ (ถ้ามี)

4.ต้องรู้ถึงเหตุผลที่แท้จริงในการขายบ้าน

เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ผู้ซื้ออย่างเราๆ ต้องให้ความสัญเป็นอย่างมาก กล่าวคือ ควรทราบถึงเหตุผลในการประกาศขายของเจ้าของเดิม เพื่อนำมาประกอบการตัดสินใจและใช้ต่อรองราคาได้ เนื่องจากบางสาเหตุอาจส่งผลกระทบในอนาคตได้ เช่น ขายบ้านเนื่องจากมีภาระหนี้สิน หรือถูกเจ้าหนี้บังคับขาย หรือขายเพราะปัญหาเสียงรบกวนจากเพื่อนบ้าน เป็นต้น

5.ศึกษารายละเอียดสัญญา และวันเวลาให้ถูกต้อง

ที่นี้ เมื่อผู้ซื้อเลือกได้บ้านที่ถูกใจแล้ว ผู้ซื้อควรติดต่อผู้ขายเพื่อตกลงทำสัญญาจะซื้อจะขายให้ชัดเจน โดยควรระบุราคาที่ตกลงซื้อขาย รวมถึงค่ามัดจำ และระยะเวลาที่ต้องชำระส่วนที่เหลือให้ชัดเจน ซึ่งเมื่อทำสัญญาจะซื้อจะขายเรียบร้อยแล้ว ผู้ขายจะต้องให้สำเนาโฉนดที่ดิน หรือหนังสือกรรมสิทธิ์ เพื่อใช้เป็นเอกสารในการดำเนินการยื่นกู้กับสถาบันการเงิน

นอกจากนี้ ในสัญญาจะซื้อจะขายต้องระบุรายละเอียดในเรื่องค่าใช้จ่าย วันโอนกรรมสิทธิ์ให้ชัดเจนว่า ฝ่ายผู้ซื้อและผู้ขายจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง โดยทั่วไปแล้วในการซื้อขายจะมีค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ดังนี้

ค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ 2% ของราคาประเมินที่ดินหรือราคาซื้อขาย ส่วนใหญ่แบ่งจ่ายคนละครึ่งกับผู้ขาย (หากราคาที่อยู่อาศัยไม่เกิน 3 ล้านบาท ค่าโอนกรรมสิทธิ์จะเหลือ 1%)
ค่าจดจำนอง 1% ของยอดเงินกู้ทั้งหมด ในกรณีที่ขอยื่นกู้กับสถาบันการเงินเท่านั้น (หากราคาที่อยู่อาศัยไม่เกิน 3 ล้านบาท ค่าจดจำนองจะเหลือ 0.01%)
ค่าอากรแสตมป์ 0.5% ของราคาซื้อขาย แต่ต้องไม่ต่ำกว่าราคาประเมินที่ดิน

ขอขอบคุณ: TookTee และ DDproperty

และนี่เพียงส่วนหนึ่งของความรู้ดี ๆ ที่ มาสิ ได้นำมาฝากกัน ไม่ว่าเราจะเป็นผู้ถือครองที่ดินแบบไหน จะมีโฉนดที่ดินเป็นอย่างไร หากเราทำประโยชน์ในพื้นที่ของเราอย่างถูกต้อง ไม่ขัดกับข้อบังคับ หรือหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ที่กฎหมายกำหนดไว้แล้วนั้น ประโยชน์ต่าง ๆ ก็จะตกแก่ตัวเราเองทั้งนั้น และอย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้น ไม่เพียงแต่ความรู้ดี ๆ ที่ มาสิ ได้นำมาฝากกัน วันนี้ มาสิ ก็ได้หยิบ สินเชื่อบ้านแลกเงิน ตัวหนึ่งที่หน้าสนใจ มาแนะนำให้ผู้ที่สนใจได้นำไปเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งในการพิจารณา นั่นก็คือ สินเชื่อบ้านคือเงิน SCB My Home My Cash

สินเชื่อบ้าน คือ เงิน SCB My Home My Cash

สินเชื่อบ้าน คือ เงิน SCB My Home My Cash เหมาะกับผู้ที่มีบ้านเป็นของตนเอง จะต้องเป็นบ้านที่ปลอดภาระ ไม่ว่าจะเป็นบ้านพร้อมที่ดิน ที่ดินเปล่า หรือแม้แต่ Home-office อาคารพาณิชย์ ก็สามารสมัครได้ นอกจากนี้ยังรวมไปถึงคอนโดที่หมดภาระแล้วด้วย สำหรับเงื่อนไขการผ่อน สินเชื่อบ้าน คือ เงิน SCB My Home My Cash สามารถผ่อนยาวได้นาน 30 ปี วงเงินที่สูงสุดมากถึง 20 ล้านบาท และฟรีค่าประเมินหลักประกัน (สำหรับที่ดินนั้น มีข้อจำกัดว่า ห้ามเป็นที่ดินที่ตาบอด หรือที่ดินที่ไม่มีทางเข้าออก)

เอกสารการสมัคร

สำเนาบัตรประชาชน
สำเนาทะเบียนบ้าน
เอกสารแสดงกรรมสิทธิ์
หนังสือแจ้งข้อมูลหลักประกัน
ภาพถ่ายหลักประกัน
เอกสารยืนยันรายได้ อาทิ สลิปเงินเดือนย้อนหลัง, หนังสือรับรองเงินเดือน และสลิปเงินเดือน

คุณสมบัติผู้สมัคร

สัญชาติไทย
ไม่เคยเป็นลูกหนี้ปรับโครงสร้างหนี้ของสถาบันทางการเงิน
อายุ 20-65 ปี
พนักงานประจำเงินเดือน ขั้นต่ำ 15,000 บาทขึ้นไป
สลิปเงินเดือนย้อนหลัง 6 เดือน/ statement 6 เดือน

เงื่อนไขสำหรับ สินเชื่อบ้านคือเงิน SCB My Home My Cash

ผู้ที่มีบ้านเป็นของตนเอง
บ้านต้องปลอดภาระการผ่อนบ้าน
เป็นที่ดินเปล่า ,บ้านพร้อมที่ดิน ,Home office ,อาคารพาณิชย์
สำหรับที่ดินนั้น มีข้อจำกัดว่า ห้ามเป็นที่ดินที่ตาบอด ไม่มีทางเข้าออก

สนใจสมัคร สินเชื่อบ้านแลกเงิน

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถโทรมาสอบถามรายละเอียดต่างๆ ได้ที่ 02 710 3100 หรือแอดไลน์ @masii ( มี @ ด้วยนะครับ ) เพื่อติดตามข่าวสารและบทความดีๆ ที่ มาสิบล็อก เกี่ยวกับ บัตรเครดิต บัตรเดบิต บัตรกดเงินสด สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อบ้านแลกเงิน สินเชื่อรถแลกเงิน และผลิตภัณฑ์ทางการเงินจากสถาบันการเงินชั้นนำทั่วประเทศ

อ่านบทความที่น่าสนใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับ สินเชื่อบ้านแลกเงิน