มาสิชวนส่อง! มนุษย์เงินเดือน ควรบริหารความเสี่ยงอย่างไรดี

โดย

09/01/2023

สมัครรถแลกเงินโปรโมชั่น แจกฟรี Voucher Lazada

อย่างที่เรารู้กันดี ยุคนี้สมัยนี้ ความไม่แน่นอนทั้งมักเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาในการดำเนินชีวิต ไม่ว่าจะเป็นความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ หรือการใช้ชีวิตความเป็นอยู่ อย่างในช่วงสองสามปีที่ผ่านมาที่ใครจะคาดคิดว่าอยู่มาวันหนึ่งที่ทั่วทั้งโลกได้ประสบกับปัญหาทางด้านสาธารณสุขครั้งยิ่งใหญ่จากการแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ที่ส่งกระทบให้ไม่แม้แต่เรื่องของการใช้ชีวิตที่ต้องมีการเปลี่ยนแปลง แต่ยังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ การดำเนินธุรกิจ และสร้างความเสียหายเป็นวงกว้างอย่างที่ได้เห็นในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งจะเห็นได้ว่าชีวิตของเราต้องดำเนินอยู่บนความเสี่ยงตลอดเวลา ดังนั้นแล้ว การบริหารความเสี่ยงที่ดีจึงเป็นสิ่งที่ผู้คนในยุคนี้สมัยนี้จึงควรให้ความสำคัญ วันนี้ มาสิ จึงอยากเชิญชวนให้ทุกคนได้มาศึกษาแล้วลองหามองหาแนวทางในการบริหารความเสี่ยงให้กับตัวเองกันกับ เหล่ามนุษย์เงินเดือนควรบริหารความเสี่ยงอย่างไร ซึ่งจะมีรายละเอียดอย่างไรกันบ้างไปอ่านกัน

การบริหารความเสี่ยง

ทุกคนคงเคยได้ยินคำว่า การบริหารความเสี่ยง (Risk Management) ในเชิงธุรกิจกันมาบ้าง แต่ในด้านของการดำเนินชีวิต น้อยครั้งที่จะมีคนพูดถึงในประเด็นนี้ ซึ่งความเสี่ยงในชีวิต แม้เป็นสิ่งที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ก็เป็นสิ่งที่เราสามารถจัดการได้ เช่น การผ่อนหนักให้เป็นเบา หรือการลดผลกระทบหรือทำให้เกิดช้าลง โดยในที่นี้ได้แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ

ความเสี่ยงในการดำรงชีวิต (Basic Risk) หมายถึง ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการมีชีวิตอยู่ ไม่ว่าจะเป็น การอดข้าวอดน้ำ ไม่มีที่อยู่อาศัย เครื่องนุ่งห่ม การมีสังคม เป็นต้น ซึ่งความเสี่ยงประเภทนี้ สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนทุกสังคม คนส่วนมากสามารถบริหารและจัดการกับความเสี่ยงประเภทนี้ได้ เพราะ เป็นความเสี่ยงที่คนเราคุ้นเคยมาตั้งแต่เกิด

ความเสี่ยงในการพัฒนาชีวิต (Opportunity Risk) ความเสี่ยงประเภทนี้เป็นความเสี่ยงที่จะทำให้ชีวิตของคนดีขึ้นกว่าความเป็นมนุษย์ตามธรรมชาติ หรืออาจจะเรียกง่ายๆ ว่าเป็นความเสี่ยงแห่งโอกาสในการพัฒนาชีวิตให้ดีขึ้น เช่น การเรียนรู้ก็จะมีความเสี่ยงที่จะมีการเรียนรู้ที่ผิดๆ หน้าที่การงานก็มีความเสี่ยงต่อความไม่ก้าวหน้า หรือก้าวหน้าช้ากว่าผู้อื่น ด้านการเงินก็มีความเสี่ยงที่จะเป็นหนี้และเกิดภาวะขัดสน ด้านเกียรติยศชื่อเสียงก็มีความเสี่ยงต่อการเสื่อมเสีย

มนุษย์เงินเดือน ควรบริหารความเสี่ยงอย่างไรดี

อย่างที่เราทราบกันดี ด้วยความไม่มั่นคงและแน่นอนในยุคนี้สมัยนี้ ย่อมที่จะส่งผลให้มนุษย์ของเรานั้นต้องมีการเตรียมความพร้อมที่จะรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ดังนั้น เพื่อให้ชีวิตเราพร้อมที่จะจัดการกับความเสี่ยงทุกประเภท วันมาสิ จึงขอแนะนำขั้นตอนการบริหารความเสี่ยงในชีวิต ดังนี้

ยอมรับความเสี่ยงว่า “การตกงานเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา”

ด้วยความที่เราอยู่ในยุคที่มีแต่ความไม่มั่นคงทางเศรษฐิกจ และไม่มีงานถาวรมั่นคงแบบในอดีตแล้ว เราคงต้องเริ่มจากการเปลี่ยน Mindset ใหม่สำหรับมนุษย์เงินเดือนยุคนี้แล้วว่า แทบจะไม่มีงานไหน หรือองค์กรไหนที่ทุกคนจะได้ทำงานในองค์กรหลายสิบปี และได้อยู่เพียงอาชีพเดียวจนเกษียณ เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันเราไม่ควรไปโทษ “ปัจจัยภายนอก” อื่น ๆ ว่าเป็นเหตุที่ทำให้เราถึงต้องตกงาน เพราะในความเป็นจริงแล้วการเสี่ยงตกงาน เกิดขึ้นตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นยุคสมัยไหนก็ตาม อย่างวิกฤตเศรษฐกิจช่วงต้มยำกุ้ง ภัยน้ำท่วม การเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ผู้บริหารงานไม่เก่ง หรือเรื่องใกล้ตัวเช่น ประสบอุบัติเหตุจนพิการ หรือป่วยด้วยโรคร้ายรุนแรง ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เราตกงานได้ทั้งสิ้น

วางแผนเกษียณก่อนเกษียณ

สำหรับช่วงอายุที่มักจะให้ออกจากงาน มักเกิดขึ้นกับคนในวัยใกล้เกษียณ เพื่อลดความเสี่ยง เราจึงต้องเริ่มวางแผนเกษียณตั้งแต่แรก ๆ เช่น การหาที่ปรึกษาทางการเงิน เพื่อศึกษาการทำประกัน และการวางแผนการเงินเป็นเรื่องการลงทุนที่ทุกคน “ควรที่จะทำ” และ“ต้องทำ” เพราะนี่อาจจะเป็นทางรอดในอนาคตของเราได้

ฝึกกระจายความเสี่ยงให้เป็น

สำหรับการกระจายความเสี่ยง เป็นหลักการที่รู้กันดีว่าเราไม่ควรใส่ไข่ในตะกร้าใบเดียว เช่น ไม่ควรที่จะลงทุนในเรื่องใดเรื่องหนึ่งจนมากเกินไป หรือสามีภรรยาก็ควรหลีกเลี่ยงที่จะทำงานในที่เดียวกัน เพราะหากเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นมาอาจจะได้รับผลกระทบพร้อมกันได้ ทั้งนี้นี้ก็อย่ายึดติดว่าคนเราจะต้องทำ “อาชีพที่รัก” เพียงอาชีพเดียวเท่านั้น ให้ลองมองหาอาชีพสำรองจากสิ่งที่ชอบหรือถนัดเอาไว้ล่วงหน้า เริ่มเรียนรู้ตั้งแต่วันนี้เป็นดีที่สุด ซึ่งเรียกได้ว่าในยุคนี้ มีคนเป็นจำนวนมากค้นพบว่า งานสำรองสร้างรายได้มากกว่างานประจำ และสิ่งที่ได้เรียนรู้จากกรณีธุรกิจแบรนด์ดังหลาย ๆ แห่งที่ให้พนักงานออกจากงาน แสดงให้เห็นว่ารอบๆ ตัวเรามีความเสี่ยงเสมอ

ขอขอบคุณ : คุณคธาพล รพีฐิติธรรม เจาะใจออนไลน์ และ Posttoday

และอย่างเคย ๆ กัน ไม่เพียงสาระดี ๆ ที่ มาสิ ได้หยิบยกมาฝากกันเท่านั้น ทั้งนี้ แต่ถ้ามีปัญหาเรื่องเงินไม่พอใช้ รายได้ไม่พอกิน หนิ้สินต้องชำระ หรืออยากที่จะได้เงินไปต่อยอดในธุรกิจ บางทีธรรมชาติอาจจะไม่ได้ตอบโจทย์เราเสมอไป วันนี้ มาสิ จึงมาแนะนำให้กับ สินเชื่อส่วนบุคคล สมัครง่าย อนุมัติไว ได้เงินเร็ว ซึ่งรายละเอียดเเละเงื่อนไขการสมัครจะมีอย่างไรบ้างนั้น ตามไปดูกัน

สินเชื่อ SCB Speedy Cash

สำหรับผู้ที่ประกอบอาชีพอิสระแล้ว การยืมเงินโดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์หรือบุคคลค้ำประกันนับว่าช่วยอำนวยความสะดวกได้ไม่น้อยทีเดียว เพราะคุณไม่ต้องขอวิ่งวุ่นหาคนค้ำประกันให้เสียเวลา แต่สามารถยื่นสมัครสินเชื่อได้เลยผ่านแอพ SCB Easy โดยสินเชื่อ Speedy Loan มีวงเงินกู้มากกว่า 5 เท่าของรายได้ประจำ ยกตัวอย่างเช่นหากคุณมีรายได้ต่อเดือนประมาณ 15,000 บาท ก็เท่ากับว่าคุณสามารถกู้ได้มากกว่า 60,000 บาท เลยทีเดียว ยิ่งไปกว่านั้น สินเชื่อดังกล่าวยังมีระยะเวลาผ่อนชำระนานสูงสุด 60 เดือน พร้อมอัตราดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก ช่วยให้คุณสามารถเลือกผ่อนชำระหนี้ได้โดยไม่เป็นภาระมากจนเกินไปนั่นเอง

สมัครสินเชื่อ SCB Speedy Loan

……………………………………………………………………………….

สินเชื่อ Xpress Loan

สินเชื่อเงินด่วนจากธนาคารกสิกรไทยที่ขอเพียงแค่คุณมีรายได้ประจำต่อเดือน 7,500 บาทขึ้นไปก็สามารถสมัครได้ไม่ยาก โดยเงื่อนไขของสินเชื่อ Xpress Loan จะคลับคล้ายกับสินเชื่อ SCB Speedy Loan ไม่ว่าจะเป็นวงเงินกู้มากกว่า 5 เท่าของรายได้ แต่ไม่เกิน 1,000,000 บาท อัตราดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก แต่สินเชื่อ Xpress Loan จะมีระยะเวลาผ่อนชำระหนี้สั้นกว่า Speedy Loan อยู่หน่อยนึงตรงที่สูงสุด 60 เดือน แต่เมื่อเทียบกับฐานเงินเดือนเริ่มต้นที่ 7,500 บาทก็นับว่ามีจุดเด่นที่แข่งกันได้อย่างสูสี ทั้งนี้ ฟรีแลนซ์ทั้งหลายสามารถสมัครกู้เงินกับสินเชื่อ Xpress Loan ผ่านแอพ K-Plus ได้โดยเข้าไปที่เมนูสินเชื่อ > Xpress Loan > ต้องการให้ติดต่อกลับ

สมัครสินเชื่อ Xpress Loan

……………………………………………………………………………….

สินเชื่อ UOB i-Cash

อีกหนึ่งสินเชื่อสำหรับฟรีแลนซ์ที่น่าสนใจจากธนาคาร UOB สำหรับสินเชื่อ UOB i-Cash เป็นสินเชื่อเงินด่วนสมัครง่าย เพียงมีรายได้ประจำต่อเดือนมากกว่า 15,000 บาท ขึ้นไป ก็สามารถสมัครเพื่อรับเงินด่วนโอนเข้าบัญชีในจำนวนมากกว่า 5 เท่าของรายได้ประจำ แต่ไม่เกิน 1,500,000 บาท โดยมีอัตราดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก เลือกระยะเวลาผ่อนชำระหนี้ได้ตั้งแต่ 12 – 60 เดือน ใช้เวลาในการอนุมัติไม่เกิน 3 วันหรือหากจำนวนเงินไม่มากและคุณเตรียมเอกสารครบถ้วน ประวัติการเงินดี ก็อาจได้รับเงินรวดเร็วกว่านั้นได้เช่นกัน ที่สำคัญ สินเชื่อ UB i-Cash มีสิ่งที่พิเศษกว่าสินเชื่อเงินด่วนจากที่อื่น ๆ คือคุณสามารถคืนเงินได้ภายใน 7 วันหลังจากที่ได้รับเงินสินเชื่อมาแล้ว โดยไม่มีการคิดดอกเบี้ยใด ๆ เหมาะสำหรับคนที่ยังไม่แน่ใจว่าต้องใช้เงินหรือเปล่า แต่กู้ออกมาสำรองไว้ เมื่อไม่มีความจำเป็นต้องใช้ก็แค่คืนธนาคารไป ปลอดหนี้ สบายใจหายห่วง

สมัครสินเชื่อ UOB i-Cash

……………………………………………………………………………….

สนใจ เปรียบเทียบสินเชื่อส่วนบุคคล

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถโทรมาสอบถามรายละเอียดต่างๆ ได้ที่ 02 710 3100 หรือแอดไลน์ @masii ( มี @ ด้วยนะครับ ) เพื่อติดตามข่าวสารและบทความดีๆ ที่ มาสิบล็อก เกี่ยวกับ บัตรเครดิต บัตรเดบิต บัตรกดเงินสด สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อบ้านแลกเงิน สินเชื่อรถแลกเงิน และผลิตภัณฑ์ทางการเงินจากสถาบันการเงินชั้นนำทั่วประเทศ