รวมบทสวดมนตร์ เสริมมงคลชีวิต เสริมบารมี พิชิตความทุกข์ยาก อายุยืน เจริญด้วยโภคทรัพย์ทั้งปวง

บทสวดมนตร์
รวมบทสวดมนตร์ เสริมมงคลชีวิต เสริมบารมี พิชิตความทุกข์ยาก อายุยืน เจริญด้วยโภคทรัพย์ทั้งปวง
สมัครรถแลกเงินโปรโมชั่น แจกฟรี Voucher Lazada

บทสวดมนตร์ : การสวดมนต์ไหว้พระ อยู่เป็นประจำในทุก ๆ วันนั้นช่วยสร้างสมาธิและเสริมสิริมงคลให้กับตัวผู้สวด การ สวดมนตร์ ทำให้จิตใจผ่องแผ้ว ผ่องใส อารมณ์ไม่ขุ่นมัว ช่วยให้อายุยืนยาว มีเทวดาคอยปักปักษ์รักษาคุ้มครอง และเกิดอานิสงส์จากการโปรดดวงวิญญาณที่รอส่วนบุญ และถ้าหากเข้าใจความหมายของบทสวดมนต์ จะเกิดปัญญาอีกด้วย

รวม บทสวดมนตร์ เสริมมงคลชีวิต เสริมบารมี พิชิตความทุกข์ยาก อายุยืน เจริญด้วยโภคทรัพย์ทั้งปวง

พระรัตนตรัย

คำบูชาพระรัตนตรั

โย โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ อิเมหิ สักกาเรหิ , ตัง ภะคะวันตัง อะภิปูชะยามิ
โย โส สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม อิเมหิ สักกาเรหิ , ตัง ธัมมัง อะภิปูชะยามิ
โย โส สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อิเมหิ สักกาเรหิ , ตัง สังฆัง อะภิปูชะยามิ

………………………………………….

คำนมัสการพระรัตนตรัย

อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ ภะคะวา พุทธัง ภะคะวันตัง อะภิวาเทมิ (กราบ)
สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม ธัมมัง นะมัสสามิ (กราบ)
สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สังฆัง นะมามิ (กราบ )

………………………………………….

คำนมัสการพระพุทธเจ้า

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ

………………………………………….

บทสวดบูชาพระ

พุทธัง ชีวิตัง เม ปูเชมิ
ธัมมัง ชีวิตัง เม ปูเชมิ
สังฆัง ชีวิตัง เม ปูเชมิ

………………………………………….

คำนมัสการไตรสรณคมน์

พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

ทุติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

ตะติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

…………………………………………

บทขอขมาพระรัตนตรัย

โยโทโส โมหะจิตเตนะ พุทธัสมิง
ปาปะกะโต มะยา ขะมะถะ เม กะตัง
โทสัง สัพพะปาปัง วินัสสันตุ

โยโทโส โมหะจิตเตนะ ธัมมัสมิง
ปาปะกะโต มะยา ขะมะถะ เม กะตัง
โทสัง สัพพะปาปัง วินัสสันตุ

โยโทโส โมหะจิตเตนะ สังฆัสมิง
ปาปะกะโต มะยา ขะมะถะ เม กะตัง
โทสัง สัพพะปาปัง วินัสสันตุ

………………………………………….

บทนมัสการพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ

อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง สัมมาสัมพุทโธ วิชชาจะระณะสัมปันโน สุคะโต โลกะวิทู อะนุตตะโร ปุริสะทัมมะสามระถิ สัตถา เทวะมะนุสสานัง พุทโธ ภะคะวาติ ฯ (กราบ)

สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม สันทิฏฐิโก อะกาลิโก เอหิปัสสิโก โอปะนะยิโก ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหีติ ฯ (กราบ)

สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อุชุปะฎิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ญายะปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ สามีจิปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ ยะทิทัง จัตตาริ ปุริสะยุคานิ อัฏฐะ ปุริสะปุคคะลา เอสะ ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ อาหุเนยโย ปาหุเนยโย ทักขิเณยโย อัญชะลี กะระณีโย อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติ ฯ (กราบ)

………………………………………….

คำกล่าวอาราธนาศีล 5

มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะนัตถายะ
ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะทุติยัมปิ มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะนัตถายะ
ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะตะติยัมปิ มะยัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะนัตถายะ
ติสะระเณนะ สะหะ ปัญจะ สีลานิ ยาจามะ
ข้าแต่พระสงฆ์ผู้เจริญ ข้าพเจ้าทั้งหลายขอศีล 5 ข้อพร้อมทั้งพระรัตนตรัยเพื่อประโยชน์แก่การจะรักษาต่างๆกัน
………………………………………….

สมาทานศีลห้า

  • ปาณาติปาตา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการฆ่าสัตว์ และเบียดเบียนสัตว์

  • อะทินนาทานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการลักทรัพย์

  • กาเมสุมิจฉาจารา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการประพฤติผิดในกาม

  • มุสาวาทา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการพูดเท็จ พูดยุยงให้เขาแตกกัน พูดคำหยาบ และพูดเพ้อเจ้อ

  • สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ

ข้าพเจ้าของดเว้น จากการดื่มสุรา และของมึนเมาต่างๆ

………………………………………….

อาราธนาธรรม

พรหมา จะ โลกาธิปะติ สะหัมปะติ กัตอัญชะลี อันธิวะรัง อะยาจะถะ สันธีตะ สัตตาป ปะรักชักขะ ชาติกา เทเสตุ ธัมมัง อะนุกัมปิมัง ปะชัง

ท้าวสหัมบดีแห่งโลก ได้ประคองอัญชลีทูลวิงวอนพระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐว่า สัตว์ผู้มีธุลีในดวงตาน้อย มีอยู่ในโลกนี้ ขอพระคุณเจ้าโปรดแสดงธรรม อนุเคราะห์ด้วยเถิด

………………………………………….

อาราธนาพระปริตร

วิปัตติปะฏิพาหายะ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา สัพพะทุกขะวินาสายะ ปะริตตัง พรูถะ มังคะลัง

วิปัตติปะฏิพาหายะ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา สัพพะภะยะวินาสายะ ปะริตตัง พรูถะ มังคะลัง

วิปัตติปะฏิพาหายะ สัพพะสัมปัตติสิทธิยา สัพพะโรคะวินาสายะ ปะริตตัง พรูถะ มังคะลัง

ขอท่านทั้งหลาย จงสวดพระปริตรอันเป็นมงคลเพื่อป้องกันความวิบัติ เพื่อความสำเร็จแห่งสมบัติทั้งปวง เพื่อให้ทุกข์ทั้งหมดพินาศไป เพื่อให้ภัยทั้งหมดพินาศไป เพื่อให้โรคทั้งหมดพินาศไป

………………………………………….

บทสวดพาหุง หรือ บทสวดพาหุงมหากา

บทสวดพาหุง หรือ บทสวดพาหุงมหากา หรือมีอีกชื่อว่า “บทชัยมงคลคาถา” เป็นบทสวดสรรเสริญชัยชนะของพระพุทธเจ้าที่มีเหนืออริพาลชนถึง 8 ครั้ง ได้แก่ ชนะพญามาร ชนะยักษ์ที่เหี้ยมหาญ ชนะช้างตกมัน ชนะองคุลิมาล ชนะหญิงที่ใส่ร้ายป้ายสี ชนะนักโต้วาทีฝีปากกล้า ชนะนาคอันธพาล และชนะพรหมที่มีความเห็นผิด

บทสวดพาหุงมหากามีด้วยกัน 2 บท บทแรกเป็นบทสรรเสริญชัยชนะของพระพุทธเจ้า ส่วนบทที่สองเป็นบทฉลองชัยชนะของพระพุทธเจ้า

บทสวดพาหุงมหากานิยมสวดกันในช่วงเช้าและก่อนนอน หรือสวดได้ทุกเวลาที่ต้องการ เชื่อกันว่าการสวดบทพาหุงมหากาเป็นประจำ จะมีอานิสงส์ให้ชีวิตมีชัยชนะเหนืออุปสรรคทั้งปวง จิตใจเข้มแข็ง มีสติและสมาธิ ชีวิตราบรื่น ประสบความสำเร็จ

ก่อนเริ่มสวด บทสวดพาหุงมหากา ให้เริ่มทำสมาธิท่องนะโม 3 จบ และตามด้วยบทสวดไตรสรณคมน์  และบทสวดอิติปิโส ตามลำดับ

เริ่ม บทสวดพาหุง

พาหุงสะหัส สะมะภินิมมิตะสาวุธันตัง
ครีเมขะลัง อุทิตะโฆ ระสะเสนะมารัง
ทานาทิธัมมะวิธินา ชิตะวา มุนินโท
ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ

มาราติเร กะมะภิยุชฌิตะสัพพะรัตติง
โฆรัมปะนาฬะวะกะมักขะมะถัทธะยักขัง
ขันตีสุทันตะวิธินา ชิตะวา มุนินโท
ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ

นาฬาคิริง คะชะวะรัง อะติมัตตะภูตัง
ทาวัคคิจักกะมะสะนีวะ สุทารุณันตัง
เมตตัมพุเสกะวิธินา ชิตะวา มุนินโท
ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ

อุกขิตตะขัคคะมะติหัตถะสุทารุณันตัง
ธาวันติโยชะนะปะถังคุลิมาละวันตัง
อิทธีภิสังขะตะมะโน ชิตะวา มุนินโท
ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ

กัตตะวานะ กัฏฐะมุทะรัง อิวะ คัพภินียา
จิญจายะ ทุฏฐะวะจะนัง ชะยะกายะมัชเฌ
สันเตนะ โสมะวิธินา ชิตะวา มุนินโท
ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ

สัจจัง วิหายะ มะติสัจจะกาวาทะเกตุง
วาทาภิโรปิตะมะนัง อะติอันธะภูตัง
ปัญญาปะทีปะชะลิโต ชิตะวา มุนินโท
ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ

นันโทปะนันทะภุชะคัง วิพุธัง มะหิทธิง
ปุตเตนะ เถระภุชะเคนะ ทะมาปะยันโต
อิทธูปะเทสะวิธินา ชิตะวา มุนินโท
ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ

ทุคคาหะทิฏฐิภุชะเคนะ สุทัฏฐะหัตถัง
พรัหมัง วิสุทธิชุติมิทธิพะกาภิธานัง
ญาณาคะเทนะ วิธินา ชิตะวา มุนินโท
ตันเตชะสา ภะวะตุ เต ชะยะมังคะลานิ

เอตาปิ พุทธะชะยะมังคะละอัฉฐะคาถา โย
วาจะโน ทินะทิเน สะระเต มะตันที
หิตวานะเนกะวิวิธานิ จุปัททะวานิ
โมกขัง สุขัง อะธิคะเมยยะ นะโร สะปัญโญ

………………………………………….

บทสวดมหาการุณิโก

มะหาการุณิโก นาโถ หิตายะ สัพพะปาณินัง ปูเรตวา ปาระมี สัพพา ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โหตุ เต ชะยะมังคะลังฯ

ชะยันโต โพธิยา มูเล สักยานัง นันทิวัฑฒะโน เอวัง ตวัง วิชะโย โหหิ ชะยัสสุ ชะยะมังคะเล อะปะราชิตะปัลลังเก สีเส ปะฐะวิโปกขะเร อะภิเสเก สัพพะ พุทธานัง อัคคัปปัตโต ปะโมทะติฯ สุนักขัตตัง สุมังคะลัง สุปะภาตัง สุหุฏฐิตัง สุขะโณ สุมุหุตโต จะ สุยิฏฐัง พรัมหมะจาริสุ ปะทักขิณัง กายะกัมมัง วาจากัมมัง ปะทักขิณัง ปะทักขิณัง มะโนกัมมัง ปะณิธีเต ปะทักขิณา ปะทักขิณานิ กัตวานะ ละภันตัตเถ ปะทักขิเณฯ

ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะเทวะตา สัพพะพุทธานุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เตฯ
ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะเทวะตา สัพพะธัมมานุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เตฯ
ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะเทวะตา สัพพะสังฆานุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต

ถ้าสวดให้คนอื่นใช้คำว่า เต สวดให้ตัวเองใช้คำว่า เม (เต แปลว่าท่าน – เม แปลว่าข้าพเจ้า)

………………………………………….

คาถาสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี)

พุทธมังคลคาถา

สัมพุทโธ ทิปะทัง เสฏโฐ นิสินโน เจวะ มัชฌิเม
โกณฑัญโญ ปุพพะภาเค จะ อาคเณยเย จะ กัสสะโป
สารีปุตโต จะ ทักขิเณ หะระติเย อุปาลิ จะ
ปัจฉิมเมปิ จะ อานันโท พายัพเพ จะ คะวัมปะติ
โมคคัลลาโน จะ อุตตะเร อีสาเนปิ จะ ราหุโล
อิเม โข มังคะลา พุทธา สัพเพ อิธะ ปะติฏฐิตา
วันทิตา เต จะ อัมเหหิ สักกาเรหิ จะ ปูชิตา
เอเตสัง อานุภาเวนะ สัพพะโสตถี ภะวันตุ โน
อิจเจวะมัจจันตะนะมัสสะเนยยัง
นะมัสสะมาโน ระตะนัตตะยัง ยัง
ปุญญาภิสันทัง วิปุลัง อะลัตถัง
ตัสสานุภาเวนะ หะตันตะราโยฯ

………………………………………….

คาถาบูชาพระสมเด็จ

ปุตตะกาโม ละเภ ปุตตัง
ธะนะกาโม ละเภ ธะนัง
อัตถิ กาเย กายะญายะ
เทวานัง ปิยะตัง สุตะวา

………………………………………….

คาถาอารธนาพระสมเด็จ

โตเสนโต วะระธัมเมนะ
โตสัฏฐาเน สิเว วะเร
โตสัง อะกาสิ ชันตูนัง
โตสะจิตตัง นะมามิหัง

………………………………………….

คาถาสืบสร้างทางสวรรค์และนิพพาน

พุทธะ พุทธา พุทเธ พุทโธ พุทธัง อะระหัง พุทโธ อิติปิโส ภะคะวา นะโมพุทธายะ

………………………………………….

พระคาถาชินบัญชร

พระคาถานี้เป็นคาถาศักดิ์สิทธิ์ตกทอดมาจากลังกา ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯค้นพบในคัมภีร์โบราณและได้ดัดแปลงแต่งเติมให้ดีขึ้นเป็นเอกลักษณ์พิเศษ ผู้ใดสวดภาวนาพระคาถานี้เป็นประจำสม่ำเสมอจะทำให้เกิดความสิริมงคลแก่ตนเอง ศัตรูไม่กล้ากล้ำกราย มีเมตตามหานิยม ขจัดภัยตลอดจนคุณไสยต่างๆ เพื่อให้เกิดอานุภาพยิ่งขึ้น

คำภาวนาก่อนสวด

ตั้งนะโม 3 จบ  

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุท ธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุท ธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุท ธัสสะ

พระคาถาชินบัญชร ฉบับย่อ

ชิ นะ ปัญ ชะ ระ ปะ ริ ตัง มัง รัก ขะ ตุ สัพ พะ ทา (ภาวนา 10 จบ)

พระคาถาชินบัญชร ฉบับเต็ม

ก่อนสวดให้นึกถึง หลวงปู่โต พรหมรังสี แล้วตั้งจิตอธิษฐาน ว่า

ปุตตะกาโม ละเภปุตตัง   ธะนะกาโม ละเภธะนัง
อัตถิกาเย กายะ ญายะ   เทวานัง ปิยะตัง สุตตะวา
อิติปิโสภะคะวา ยะมะราชาโน ท้าวเวสสุวัณโณ
มรณังสุขัง อะระหังสุคะโต นะโมพุทธายะ

เริ่มสวดบทพระคาถาชินบัญชร 15 บท

  1. ชะยาสะนากะตา พุทธา     เชตวา มารัง สะวาหะนัง
    จะตุสัจจาสะภัง ระสัง        เย ปิวิงสุ นะราสะภา.
  2. ตัณหังกะราทะโย พุทธา    อัฏฐะวีสะติ นายะกา
    สัพเพ ปะติฏฐิตา มัยหัง     มัตถะเกเต มุนิสสะรา.
  3. สีเส ปะติฏฐิโต มัยหัง        พุทโธ ธัมโม ทะวิโลจะเน
    สังโฆ ปะติฏฐิโต มัยหัง      อุเร สัพพะคุณากะโร.
  4. หะทะเย เม อะนุรุทโธ        สารีปุตโต จะทักขิเณ
    โกณฑัญโญ ปิฏฐิภาคัสมิง  โมคคัลลาโน จะ วามะเก.
  5. ทักขิเณ สะวะเน มัยหัง       อาสุง อานันทะ ราหุโล
    กัสสะโป จะ มะหานาโม      อุภาสุง วามะโสตะเก.
  6. เกสะโต ปิฏฐิภาคัสมิง        สุริโย วะ ปะภังกะโร
    นิสินโน สิริสัมปันโน          โสภิโต มุนิปุงคะโว
  7. กุมาระกัสสโป เถโร           มะเหสี จิตตะ วาทะโก
    โส มัยหัง วะทะเน นิจจัง     ปะติฏฐาสิคุณากะโร.
  8. ปุณโณ อังคุลิมาโร จะ        อุปาลี นันทะ สีวะลี
    เถรา ปัญจะ อิเม ชาตา       นะลาเต ติละกา มะมะ.
  9. เสสาสีติ มะหาเถรา            วิชิตา ชินะสาวะกา
    เอเตสีติ มะหาเถรา             ชิตะวันโต ชิโนระสา
    ชะลันตา สีละเตเชนะ          อังคะมังเคสุ สัณฐิตา.
  10. ระตะนัง ปุระโต อาสิ           ทักขิเณ เมตตะ สุตตะกัง
    ธะชัคคัง ปัจฉะโต อาสิ        วาเม อังคุลิมาละกัง
  11. ขันธะโมระปะริตตัญจะ         อาฏานาฏิยะ สุตตะกัง
    อากาเส ฉะทะนัง อาสิ         เสสา ปาการะสัณฐิตา
  12. ชินา นานาวะระสังยุตตา       สัตตัปปาการะ ลังกะตา
    วาตะปิตตาทะสัญชาตา        พาหิรัช ฌัตตุปัททะวา.
  13. อะเสสา วินะยัง ยันตุ            อะนันตะชินะ เตชะสา
    วะสะโต เม สะกิจเจนะ          สะทา สัมพุทธะปัญชะเร.
  14. ชินะปัญชะระมัชฌัมหิ           วิหะรันตัง มะฮี ตะเล
    สะทา ปาเลนตุ มัง สัพเพ       เต มะหาปุริสาสะภา.
  15. อิจเจวะมันโต                     สุคุตโต สุรักโข
    ชินานุภาเวนะ                     ชิตุปัททะโว
    ธัมมานุภาเวนะ                   ชิตาริสังโฆ
    สังฆานุภาเวนะ                   ชิตันตะราโย
    สัทธัมมานุภาวะปาลิโต         จะรามิ ชินะ ปัญชะเรติ.

………………………………………….

คาถา ” ยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎก ” ต้นฉบับ

ยอดพระกัณฑ์ฉบับนี้ ได้มาจากต้นฉบับเดิมที่จารไว้บนใบลานเป็น อักษรขอม ซึ่ง เปิดกรุครั้งแรกที่เมืองสวรรคโลก มีบันทึกเอาไว้ว่าผู้ใดสวดมนต์เป็นประจำทุกเช้าเย็น จะป้องกันภัยอันตรายต่างๆได้รอบด้าน ภาวนาพระคาถาอื่นสัก ๑๐๐ปีก็ไม่เท่ากับอานิสงส์ของการสวดยอด พระกัณฑ์พระไตรปิฎก นี้เพียงครั้งเดียว ผู้ใดที่สวดครบ ๗ วัน หรือครบอายุปัจจุบันของตัวเอง จะมีโชคลาภ ทำมาค้าขายรุ่งเรือง ปราศจากภัยพิบัติทั้งปวง

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ

ยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎก ต้นฉบับเดิม

๑.
อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง วะตะ โส ภะคะวา.
อิติปิ โส ภะคะวา สัมมาสัมพุทโธ วะตะ โส ภะคะวา.
อิติปิ โส ภะคะวา วิชชาจะระณะ สัมปันโน วะตะ โส ภะคะวา.
อิติปิ โส ภะคะวา สุคะโต วะตะ โส ภะคะวา.
อิติปิ โส ภะคะวา โลกะวิทู วะตะ โส ภะคะวา .
อะระหันตัง สะระณัง คัจฉามิ.
อะระหันตัง สิระสา นะมามิ.
สัมมาสัมพุทธัง สะระณัง คัจฉามิ.
สัมมาสัมพุทธัง สิระสา นะมามิ.
วิชชาจะระณะสัมปันนัง สะระณัง คัจฉามิ.
วิชชาจะระณะสัมปันนัง สิระสา นะมามิ.
สุคะตัง สะระณัง คัจฉามิ.
สุคะตัง สิระสา นะมามิ.
โลกะวิทัง สะระณัง คัจฉามิ.
โลกะวิทัง สิระสา นะมามิ.

๒.
อิติปิ โส ภะคะวา อะนุตตะโร วะตะ โส ภะคะวา.
อิติปิ โส ภะคะวา ปุริสะทัมมะสาระถิ วะตะ โส ภะคะวา.
อิติปิ โส ภะคะวา สัตถา เทวะมะนุสสานัง วะตะ โส ภะคะวา.
อิติปิ โส ภะคะวา พุทโธ วะตะ โส ภะคะวา.
อะนุตตะรัง สะระณัง คัจฉามิ.
อะนุตตะรัง สิระสา นะมามิ.
ปุริสะทัมมะสาระถิ สะระณัง คัจฉามิ.
ปุริสะทัมมะสาระถิ สิระสา นะมามิ.
สัตถา เทวะมะนุสสานัง สะระณัง คัจฉามิ.
สัตถา เทวะมะนุสสานัง สิระสา นะมามิ.
พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ.
พุทธัง สิระสา นะมามิ. อิติปิ โส ภะคะวา ฯ

๓.
อิติปิ โส ภะคะวา รูปะขันโธ อะนิจจะลักขะณะปาระมิ จะ สัมปันโน.
อิติปิ โส ภะคะวา เวทะนาขันโธ อะนิจจะลักขะณะปาระมิ จะ สัมปันโน.
อิติปิ โส ภะคะวา สัญญาขันโธ อะนิจจะลักขะณะ ปาระมิ จะ สัมปันโน.
อิติปิ โส ภะคะวา สังขาระขันโธ อะนิจจะลักขะณะปารมิ จะ สัมปันโน.
อิติปิ โส ภะคะวา วิญญาณะขันโธ อะนิจจะลักขะณะปาระมิ จะสัมปันโน.

๔.
อิติปิ โส ภะคะวา ปะฐะวีธาตุสะมาธิญาณะสัมปันโน.
อิติปิ โส ภะคะวา อาโปธาตุสะมาธิญาณะสัมปันโน.
อิติปิ โส ภะคะวา เตโชธาตุสะมาธิญาณะสัมปันโน.

อิติปิ โส ภะคะวา วาโยธาตุสะมาธิญาณะสัมปันโน.
อิติปิ โส ภะคะวา อากาสะธาตุสะมาธิญาณะสัมปันโน.
อิติปิโส ภะคะวา วิญญาณะธาตุสะมาธิญาณะสัมปันโน.
อิติปิ โส ภะคะวา จักกะวาฬะธาตุสะมาธิญาณะสัมปันโน.

๕.
อิติปิ โส ภะคะวา จาตุมมะหาราชิกา ธาตุสะมาธิญาณะสัมปันโน.
อิติปิ โส ภะคะวา ตาวะติงสาธาตุสะมาธิญาณะสัมปันโน.
อิติปิ โส ภะคะวา ยามาธาตุสะมาธิญาณะสัมปันโน.
อิติปิ โส ภะคะวา ตุสิตาธาตุสะมาธิญาณะสัมปันโน.
อิติปิ โส ภะคะวา นิมมานะระตีธาตุสะมาธิญาณะสัมปันโน.
อิติปิ โส ภะคะวา ปะระนิมมิตะวะสะวัตตีธาตุสะมาธิญาณะสัมปันโน.
อิติปิ โส ภะคะวา กามาวะจะระธาตุสะมาธิญาณะสัมปันโน.
อิติปิ โส ภะคะวา รูปาวะจะระธาตุสะมาธิญาณะสัมปันโน.
อิติปิ โส ภะคะวา อะรูปาวะจะระธาตุสะมาธิญาณะสัมปันโน.
อิติปิ โส ภะคะวา โลกุตตะระธาตุสะมาธิญาณะสัมปันโน.

๖.
อิติปิ โส ภะคะวา ปะฐะมะฌานะธาตุสะมาธิ-ญาณะสัมปันโน.
อิติปิ โส ภะคะวา ทุติยะฌานะธาตุสะมาธิญาณะสัมปันโน.
อิติปิ โส ภะคะวา ตะติยะฌานะธาตุสะมาธิญาณะสัมปันโน.
อิติปิ โส ภะคะวา จะตุตถะฌานะธาตุสะมาธิญาณะสัมปันโน.
อิติปิ โส ภะคะวา ปัญจะมะฌานะธาตุสะมาธิญาณะสัมปันโน.

๗.
อิติปิ โส ภะคะวา อากาสานัญจายะตะนะธาตุสะมาธิญาณะสัมปันโน.
อิติปิ โส ภะคะวา วิญญานัญจายะตะนะธาตุสะมาธิญาณะสัมปันโน.
อิติปิ โส ภะคะวา อากิญจัญญายะตะนะธาตุสะมาธิญาณะสัมปันโน.
อิติปิ โส ภะคะวา เนวะสัญญานาสัญญายะตะนะธาตุสะมาธิญาณะสัมปันโน.

๘.
อิติปิ โส ภะคะวา โสตาปัตติมัคคะธาตุสะมาธิญาณะสัมปันโน.
อิติปิ โส ภะคะวา สะกิทาคามิมัคคะธาตุสะมาธิญาณะสัมปันโน.
อิติปิ โส ภะคะวา อะนาคามิมัคคะธาตุสะมาธิญาณะสัมปันโน.
อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัตตะมัคคะธาตุสะมาธิญาณะสัมปันโน.
อิติปิ โส ภะคะวา โสตาปัตติผะละธาตุสะมาธิญาณะสัมปันโน.
อิติปิ โส ภะคะวา สะกิทาคามิผะละธาตุสะมาธิญาณะสัมปันโน.
อิติปิ โส ภะคะวา อะนาคามิผะละธาตุสะมาธิญาณะสัมปันโน.
อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัตตะผะละธาตุสะมาธิญาณะสัมปันโน.

๙.
กุสะลา ธัมมา อิติปิ โส ภะคะวา อะอา ยาวะชีวัง พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
ชัมพู ทีปัญจะ อิสสะโร กุสะลา ธัมมา นะโม พุทธายะนะโม ธัมมายะ นะโม สังฆายะ
ปัญจะ พุทธา นะมามิหัง อา ปา มะ จุ ปะ, ที มะ สัง อัง ขุ, สัง วิ ธา ปุ กะ ยะ ปะ, อุปะสะชะสะเห
ปาสายะโส ฯ
โส โส สะ สะ อะ อะ อะ อะ นิ เต ชะ สุ เน มะ ภู จะ นา วิ เว อะ สัง วิ สุ โล
ปุ สะ พุ ภะ อิสวาสุ สุสวาอิ กุสะลา ธัมมา จิตติวิอัตถิ.
อิติปิ โส ภะคะวา อะระหัง อะอา ยาวะชีวัง พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ สาโพธิปัญ จะ อิสสะโร ธัมมา.
กุสะลา ธัมมา นันทะวิวังโก อิติ สัมมาสัมพุทโธ สุคะลาโน ยาวะชีวัง พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ.

๑๐.
จาตุมมะหาราชิกา อิสสะโร กุสะลา ธัมมา อิติ วิชชาจะระณะสัมปันโน อุอุ ยาวะชีวัง พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ.
ตาวะติงสา อิสสะโร กุสะลา ธัมมา นันทะ ปัญจะ สุคะโต โลกะวิทู มะหาเอโอ ยาวะชีวัง พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ.
ยามา อิสสะโร กุสะลา ธัมมา พรหมาสัททะ ปัญจะสัตตะ สัตตาปาระมี อะนุตตะโร ยะมะกะขะ ยาวะชีวัง พุทธัง
สะระณัง คัจฉามิ.
ตุสิตา อิสสะโร กุสะลา ธัมมา ปุยะปะกะ ปุริสะทัมมะสาระถิ ยาวะชีวัง พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ.
นิมมานะระตี อิสสะโร กุสะลา ธัมมา เหตุโปวะ สัตถา เทวะมะนุสสานัง ตะถา ยาวะชีวัง พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ.
ปะระนิมมิตะวะสะวัตตี อิสสะโร กุสะลา ธัมมา สังขาระขันโธ ทุกขัง ภะคะวะตา ยาวะ นิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ ฯ
พรหมา อิสสะโร กุสะลา ธัมมา นัตถิปัจจะยา วินะปัญจะ ภะคะวะตา ยาวะ นิพพานัง สะระณัง คัจฉามิ.

๑๑.
นะโม พุทธัสสะ นะโม ธัมมัสสะ นะโม สังฆัสสะ พุทธิลาโภกะลา กะระกะนา เอเตนะ สัจเจนะ
สุวัตถิ โหนตุ หุลู หุลู หุลู สะวาหายะ.
นะโม พุทธัสสะ นะโม ธัมมัสสะ นะโม สังฆัสสะ วิตติ วิตติ วิตติ มิตติ มิตติ มิตติ จิตติ จิตติ วัตติ วัตติ มะยะสุ สุวัตถิ โหนตุ หุลู หุลู หุลู สะวาหายะ.

อินทะสาวัง มะหาอินทะสาวัง พรหมะสาวัง มะหาพรหมะสาวัง จักกะวัตติสาวัง มะหาจักกะวัตติ-สาวัง เทวาสาวัง มะหาเทวาสาวัง อิสีสาวัง มะหาอิสีสาวัง มุนีสาวัง มหามุนีสาวัง สัปปุริสะสาวัง มหาสัปปุริสะสาวัง พุทธะสาวัง ปัจเจกะพุทธะสาวัง อะระหัตตะสาวัง สัพพะสิทธิวิชชาธะรานังสาวัง สัพพะโลกาอิริยานังสาวัง เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหนตุ.

สาวัง คุณัง วะชะ พะลัง เตชัง วิริยัง สิทธิกัมมัง ธัมมัง สัจจัง นิพพานัง โมกขัง คุยหะกัง ทานัง สีลัง ปัญญา นิกขัง ปุญญัง ภาคะยัง ยะสัง ตัปปัง สุขัง สิริ รูปัง จะตุวีสะติเทสะนัง เอเตนะ สัจเจนะ สุวัตถิ โหนตุ หุลู หุลู หุลู สะวาหายะ ฯ

๑๒.
นะโม พุทธัสสะ ทุกขัง อะนิจจัง อะนัตตา รูปะขันโธ เวทะนาขันโธ สัญญาขันโธ สังขาระขันโธ วิญญาณะขันโธ นะโม อิติปิโส ภะคะวา.
นะโม ธัมมัสสะ ทุกขัง อะนิจจัง อะนัตตา รูปะขันโธ เวทะนาขันโธ สัญญาขันโธ สังขาระขันโธ วิญญาณะขันโธ นะโม สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม.
นะโม สังฆัสสะ ทุกขัง อะนิจจัง อะนัตตา รูปะขันโธ เวทะนาขันโธ สัญญาขันโธ สังขาระขันโธ วิญญาณะขันโธ นะโม สุปะฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ วาหะปะริตตัง.
นะโม พุทธายะ มะอะอุ ทุกขัง อะนิจจัง อะนัตตา ยาวะ ตัสสะ หาโย นะโม อุอะมะ ทุกขัง อะนิจจัง อะนัตตา อุ อะมะ อาวันทา นะโม พุทธายะ นะ อะ กะ ติ นิ สะ ระ นะ อา ระ ปะ ขุ ธัง มะ อะ อุ ทุกขัง อะนิจจัง อะนัตตา ฯ
(กราบ ๓ ครั้ง)

คำกรวดน้ำ ของยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎก

อิมินา ปุญญะกัมเมนะ ด้วยเดชะผลบุญของข้าพเจ้า ได้สวดยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎกนี้ ขอให้ค้ำชู อุดหนุน คุณบิดามารดา พระมหากษัตริย์ ผู้มีพระคุณ ญาติกา ครู อุปัชฌาย์ อาจารย์ เทวดารักษาตัว เจ้ากรรมนายเวร มิตรรักสนิท เพื่อนสรรพสัตว์น้อยใหญ่ พระภูมิเจ้าที่ เจ้ากรุงพาลี แม่พระธรณี แม่พระคงคา แม่พระโพสพ พญายมราช นายนิริยบาล ท้าวจะตุโลกะบาลทั้งสี่ ศิริคุตอำมาตย์ ชั้นจาตุมมะหาราชิกาเบื้องบน สูงสุดจนถึงภวัคคะพรหม ทวยเทพทั้ง ๑๖ ชั้นฟ้า ๑๕ ชั้นดิน ๒๔ ชั้นบาดาล และเบื้องล่างต่ำสุด ตั้งแต่โลกันตมหานรกและอเวจีขึ้นมา จนถึงโลกมนุษย์ สุดรอบขอบจักรวาล อนันตจักรวาล คุณพระศรีรัตนตรัย และเทพยดาทั้งหลาย ตลอดทั้งอินทร์ พรหม ยมยักษ์ คนธรรพ์ นาคา นาคี พญาครุฑ พระเพลิง พระพาย พระพิรุณ ท่านทั้งหลายที่ต้องทุกข์ขอให้พ้นจากทุกข์ ท่านทั้งหลายที่ได้สุขขอให้ได้สุขยิ่ง ๆ ขึ้นไป

ด้วยเดชะผลบุญแห่งข้าพเจ้าอุทิศให้ไปนี้ จงเป็นอุปนิสัยปัจจัยให้ถึงพระนิพพานในปัจจุบัน และอนาคตกาลเบื้องหน้าโน้นเทอญ ฯ

พุทธัง อะนันตัง ธัมมัง จักกะวาลัง สังฆัง นิพพานะปัจจะโย โหนตุ.

………………………………………….

สวดบูชาคาถาหลวงพ่อโสธร

คาถาหลวงพ่อโสธรบทนี้ ใช้สวดเป็นประจำทุกวันเพื่อให้แคล้วคลาดปลอดภัย อยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข และปลอดภัยจากภยันตรายทั้งปวง ก่อนสวดให้ท่องนะโม 3 จบ แล้วตามด้วยคำบูชาแบบฉบับเต็ม ดังนี้

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ

กาเยนะ วาจายะ เจตสา วา โสธะรัง นามะ อิทธิปะฏิหาริกะรัง พุทธะรูปัง อะหัง วันทามิสัพพะโสฯ
นะ ทรงฟ้า โม ทรงดิน พุทธ ทรงสินธุ์ ธา ทรงสมุทร ยะ ทรงอากาศ
พุทธังแคล้วคลาด ธัมมังแคล้วคลาด สังฆังแคล้วคลาด ศัตรูพาลวินาศสันติ
นะกาโร กุกกุสันโธ สิโรมัชเฌ โมกาโร โกนาคะมะโน นานาจิตเต พุทธกาโร กัสสะโป พุทโธ จะ ทะเวเนเต ธา กาโร ศรีศากกะยะมุนี โคตะโม ยะกันเน ยะกาโร อะริยะ เมตตรัยโย ชิวหาทีเต ปัญจะพุทธา นะมามิหัง
พุทธะบูชา มะหาเตชะวันโต ธัมมะบูชา มะหาปัญโญ สังฆะบูชา มะหาโภคะวะโห
อะระหังพุทโธ อิติปิโสภะคะวา นะมามิหัง

คาถาหลวงพ่อโสธรฉบับย่อ

สามารถท่องคาถาบูชาฉบับเต็มด้านบนได้ หรือจะท่องคาถาบูชาหลวงพ่อโสธร ฉบับย่อก็ได้ เริ่มจากท่องนะโน 3 จบก่อนเช่นกัน แล้วตามด้วยคำบูชา

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ

อิติ อิติ อิติ โสธโร นะโมพุทธายะ ยะธาพุทธโมนะ

………………………………………….

บทน้อมระลึกถึงหลวงปู่ทวดและหลวงปู่ดู่

นะโม โพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภะคะวา
นะโม โพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภะคะวา
นะโม โพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภะคะวา

นะโม โพธิสัตโต พรหมะปัญโญ
นะโม โพธิสัตโต พรหมะปัญโญ
นะโม โพธิสัตโต พรหมะปัญโญ

………………………………………….

บทพระคาถามหาจักรพรรดิ

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ

นโม พุทธายะ พระพุทธะไตรรัตนญาณ
มณีนพรัตน์ สีสะหัสสะ สุธรรมา
พุทโธ ธัมโม สังโฆ
ยะ-ธา-พุท-โม-นะ
พุทธะบูชา ธัมมะบูชา สังฆะบูชา
อัคคีทานัง วะรังคันธัง
สีวะลี จะ มะหาเถรัง
อะหัง วันทามิ ทูระโต
อะหัง วันทามิ ธาตุโย
อะหัง วันทามิ สัพพะโส
พุทธะ ธัมมะ สังฆะ ปูเชมิ

………………………………………….

บทสวดแผ่กุศลปรับภพภูมิ

สัพเพ พุทธา
สัพเพ ธัมมา
สัพเพ สังฆา
พะลัปปัตตา ปัจเจกานัญจะ
ยัง พะลัง

อะระหันตานัญจะ เตเชนะ รักขัง พันธามิ สัพพะโส
อะระหันตานัญจะ เตเชนะ รักขัง พันธามิ สัพพะโส
อะระหันตานัญจะ เตเชนะ รักขัง พันธามิ สัพพะโส
อะระหันตานัญจะ เตเชนะ รักขัง พันธามิ สัพพะโส
อะระหันตานัญจะ เตเชนะ รักขัง พันธามิ สัพพะโส

………………………………………….

บทสวดแผ่กุศลปรับภพภูมิให้เจ้ากรรมนายเวร

พุทธัง อธิฏฐามิ
ธัมมัง อธิฏฐามิ
สังฆัง อธิฏฐามิ

………………………………………….

คาถาพระพุทธเจ้าชนะมาร

คาถาพระพุทธเจ้าชนะมารใช้ภาวนาป้องกันภัยอันตรายทั้งหลายทั้งปวง
คาถาพระพุทธเจ้าชนะมารศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก ใครคิดร้ายขอจงพินาศ
ตั้งนะโม3จบ แล้วภาวนา พระคาถาพระพุทธเจ้าชนะมาร ดังนี้
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
“ปัญจะ มาเร ชิโน นาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง
จะตุสัจจัง ปะกาเสติ ธัมมะจักกัง ปะวัตตะยิ
เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ โหตุ เม ชะยะมังคะลัง”
………………………………………….

พระคาถาของสมเด็จพระพุทธกัสสป คาถารักษาโรคภัย (โดยหลวงพ่อฤาษีลิงดำ)

พุทธัง มัดจิต ธัมมัง มัดใจ ศัตรูทั้งหลาย วินาศสันติ
พุทธัง มัดจิต ธัมมัง มัดใจ ศัตรูทั้งหลาย วินาศสันติ
พุทธัง มัดจิต ธัมมัง มัดใจ ศัตรูทั้งหลาย วินาศสันติ

“ฆะเตสิ ฆะเตสิ กิงกะระณัง ฆะเตสิ อะหังปิตัง ชานามิ ชานามิ”
………………………………………….

คาถาอาวุธพระพุทธเจ้า

อายันตุ โภณโต อิธะ ทานะ สีละ เนกขัมมะ ปัญญา สะหะ วิริยะ ขันตี สัจจาธิษฐานะ สะเมตตุเปกขา ยุทธายะโว คัณหะ อาวุธาตีติ สัพพะศัตรู ปะลายันติ

“ด้วยบารมีทั้ง ๑๐ ประการของพระพุทธเจ้า อันได้แก่ ทาน ศีล เนกขัมมะ ปัญญา วิริยะ ขันติ สัจจะ อธิษฐาน เมตตา และ อุเบกขา
จงกลายมาเป็นอาวุธวิเศษคอยปกป้องคุ้มครองข้าพเจ้าให้ชนะ ศัตรูทั้งหลาย ณ กาลบัดนี้ เทอญ ฯ”
………………………………………….

คาถาบูชา พระแก้วมรกต เสริมมงคลชีวิต

เมื่อตั้งหิ้งพระหรือโต๊ะหมู่บูชาในบ้านเรียบร้อยแล้ว จะต้องมีการเปลี่ยนน้ำ เปลี่ยนดอกไม้บูชา และสวดมนต์ไหว้พระอย่างสม่ำเสมอเพื่อเสริมมงคลให้ชีวิต สำหรับบทบูชา พระแก้วมรกต เวลาสวดมนต์มีดังนี้

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ

พุทธะ มะหามะณีระตะนะ ปะฏิมากะรัง ปูเชมิ
ทุติยัมปิ พุทธะมะหามะณีระตะนะ ปะฏิมากะรัง ปูเชมิ
ตะติยัมปิ พุทธะมะหามะณีระตะนะ ปะฏิมากะรัง ปูเชมิ
เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ มะหาเตโช เจวะ มะหาปัญโญจะ มะหาโภโค จะ มะหายะโส จะ ภะวันตุ เมนิพพานัสสะ ปัจจะโย โหตุ

วาละลุกัง สังวาตังวา
วาละลุกัง สังวาตังวา
วาละลุกัง สังวาตังวา

………………………………………….

พระคาถามงกุฎพระพุทธเจ้า

สุดยอดพระคาถาที่หลวงปู่เอี่ยมถวายแด่สมเด็จพระพุทธเจ้าหลวง ก่อนเสด็จประพาสยุโรป พุทธศักราช ๒๔๔๐พระคาถาบทนี้ คุณวิเศษยิ่งนัก มีพุทธคุณดีครบถ้วนทุกด้าน สามารถนำไปใช้ในทางกุศลได้ทุกๆ เรื่อง เรียกได้ว่าเป็นพระคาถาที่มีความศักดิ์สิทธิ์ครอบจักรวาล

อิติปิโส วิเสเสอิอิเสเส พุทธะนาเมอิอิเมนา พุทธะตังโสอิอิโสตัง พุทธะปิติอิ
อิติปิโส วิเสเสอิอิเสเส พุทธะนาเมอิอิเมนา พุทธะตังโสอิอิโสตัง พุทธะปิติอิ
อิติปิโส วิเสเสอิอิเสเส พุทธะนาเมอิอิเมนา พุทธะตังโสอิอิโสตัง พุทธะปิติอิ
อิติปิโส วิเสเสอิอิเสเส พุทธะนาเมอิอิเมนา พุทธะตังโสอิอิโสตัง พุทธะปิติอิ
อิติปิโส วิเสเสอิอิเสเส พุทธะนาเมอิอิเมนา พุทธะตังโสอิอิโสตัง พุทธะปิติอิ

อิติปิโส วิเสเสอิอิเสเส พุทธะนาเมอิอิเมนา พุทธะตังโสอิอิโสตัง พุทธะปิติอิ
อิติปิโส วิเสเสอิอิเสเส พุทธะนาเมอิอิเมนา พุทธะตังโสอิอิโสตัง พุทธะปิติอิ
อิติปิโส วิเสเสอิอิเสเส พุทธะนาเมอิอิเมนา พุทธะตังโสอิอิโสตัง พุทธะปิติอิ
อิติปิโส วิเสเสอิอิเสเส พุทธะนาเมอิอิเมนา พุทธะตังโสอิอิโสตัง พุทธะปิติอิ
อิติปิโส วิเสเสอิอิเสเส พุทธะนาเมอิอิเมนา พุทธะตังโสอิอิโสตัง พุทธะปิติอิ

“ขอบูชาในองค์หลวงปู่เอี่ยม และสมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงรัชกาลที่ 5 ขอคุณวิเศษครอบรอบจักรวาล พระพุทธคุณ พระธรรมคุณพระสังฆคุณ โปรดดลบันดาลให้ข้าพเจ้าเจรจาสิ่งใดกิจใดก็สำเร็จ สมหวังทั้งโภคทรัพย์ วาสนา บารมี และเมตตา แคล้วคลาดปลอดภัย ปราศจากเภทภัย ราชภัย โจรภัย อุบัติภัย ภยันอันตราย และอุบัติเหตุทั้งปวง เรื่องร้ายสิ่งร้าย ขอให้กลายเป็นเรื่องดีสิ่งดี เรื่องที่ดีสิ่งที่ดีอยู่แล้วก็ขอให้ดียิ่งยิ่งขึ้นไป ขอให้ช่วยป้องกันสิ่งไม่ดี สิ่งชั่วร้าย และขับไล่เสนียดจัญไร อาถรรพ์ต่าง ๆ ออกไปจากชีวิตของข้าพเจ้าและครอบครัว เสริมดวงชะตาให้ข้าพเจ้ามีความเป็นเลิศทางด้านเมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ เป็นที่รักแก่มนุษย์และเหล่าเทพเทวดาทั้งหลาย

ขอให้การติดต่อเจรจากิจการงานไม่ว่าเวลาใดก็ราบรื่น การงานคล่องตัว ไร้ซึ่งอุปสรรค เรียกทรัพย์เงินทองไหลมาเทมา ร่ำรวยเงินทอง เจริญด้วยโภคทรัพย์ทั้งปวง ชีวิตเจริญรุ่งเรือง ส่งเสริมเพิ่มพูนหนุนดวงสืบชะตา มีอำนาจวาสนาบารมี และขอให้ข้าพเจ้ามีจิตอันเป็นสมาธิ สงบนิ่ง อยู่ในศีลธรรม ชีวิตพบเจอแต่หนทางสว่างสวดด้วยเทอญ”

………………………………………….

บทสวดบูชาพระพุทธชินราช

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ

อิเมหิ นานา สักกาเรหิ อภิปูชิเตหิ ทีกายุโก โหมิอะโรโค สุขิโต สิทธิกัจจัง สิทธิกัมมัง ปิยัง มะมะประสิทธิลาโภ ชะโย โหตุ สัพพัททา พุทธชินะราชาอภิปะเลตุ มัง นะโมพุทธายะ
กาเยนะ วาจายะ วะ เจตะสาวา ชินะราชาพุทธะรูปัง สิริธัมมะติปิตะกะราเชนะ กะตัง นะมามีหัง
พุทธังอาราธนานัง ธัมมังอาราธนานัง สังฆังอาราธนานัง ชินะราชาพุทธะรูปังอาราธนานัง
พุทธธังลาภะมานะชาลีติ ธัมมังลาภะมานะชาลีติ สังฆังลาภะมานะชาลีติ
อุอะมะนะโมพุทธธายะ พามานะอุกะ สะนะถุประสิทธิเม.

………………………………………….

คาถาครอบจักรวาล (ป้องกันภัย-เสริมสิริมงคลชีวิต)

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ

นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ
นะมะนะอะ นอ ออ นอ อะ
นะอะกะอัง อุมิอะมิ มาหิสุตัง
สุนะพุทธัง อะสุนะอะ นะมะพะทะ
จะภะกะสะ นอ กอ นอ กะ เอหิจิตตัง
มะนุสสานัง ปิยัง มะมะ

………………………………………….

คาถาครอบจักรวาล 8 ทิศ (ป้องกันภัยได้ทั้งแปดทิศ)

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ

อิมัสมิง มงคลจักรวาลทั้งแปดทิศ ประสิทธิจงมาเป็นกำแพงแก้วทั้งเจ็ดชั้น มาป้องกันห้อมล้อมรอบครอบทั่ว
อะนัตตา ราชะ เสมานา เขตเต สะมันตา สะตะโยชะนะสะตะสะหัสสานิ พุทธะชาละปะริกเขตเต รักขันตุ สุรักขันตุ

อิมัสมิง มงคลจักรวาลทั้งแปดทิศ ประสิทธิจงมาเป็นกำแพงแก้วทั้งเจ็ดชั้น มาป้องกันห้อมล้อมรอบครอบทั่ว
อะนัตตา ราชะ เสมานา เขตเต สะมันตา สะตะโยชะนะสะตะสะหัสสานิ ธัมมะชาละปะริกเขตเต รักขันตุ สุรักขันตุ

อิมัสมิง มงคลจักรวาลทั้งแปดทิศ ประสิทธิจงมาเป็นกำแพงแก้วทั้งเจ็ดชั้น มาป้องกันห้อมล้อมรอบครอบทั่ว
อะนัตตา ราชะ เสมานา เขตเต สะมันตา สะตะโยชะนะสะตะสะหัสสานิ ปัจเจกะพุทธะชาละปะริกเขตเต รักขันตุ สุรักขันตุ

อิมัสมิง มงคลจักรวาลทั้งแปดทิศ ประสิทธิจงมาเป็นกำแพงแก้วทั้งเจ็ดชั้น มาป้องกันห้อมล้อมรอบครอบทั่ว
อะนัตตา ราชะ เสมานา เขตเต สะมันตา สะตะโยชะนะสะตะสะหัสสานิ สังฆะชาละปะริกเขตเต รักขันตุ สุรักขันตุ

………………………………………….

พระคาถาบูชาหลวงปู่พระอุปุคต

คาถาศักดิ์สิทธ์บูชาองค์หลวงปู่พระอุปคุต ได้มาจากพระกรรมฐานองค์สำคัญในสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ซึ่งนำมาเปิดเผยเป็นครั้งแรก

“พระอุปคุตตัง มหาเถรัง

มหิทธิกัง มหานุภาวัง

วิธังเสติ อะเสสะโต

ยะถาวายะ ปะฐิตาโข

มัตถาเน อิติ อาหะ ภะคะวา”

หมั่นสวดไว้จักช่วยป้องกันภัยได้ทั่วสารทิศดีนักแล

………………………………………….

พระคาถาพระเจ้า ๑๖ พระองค์

นะมะนะอะ นอกอนะกะ กอออนออะ นะอะกะอัง

อุมิอะมิ มะหิสุตัง สุนะพุทธัง สุอะนะอะ

พระอาจารย์เจ้าทั้งปวงให้เป็นทานแก่สมณชีพราหมณ์ กุลบุตรทั้งปวงพระคาถานี้ท่านเรียกว่า ธรรมราชา
จัดเป็นใหญ่กว่าคาถาทั้งปวง ผู้ใดภาวนาได้อานิสงส์มากปราศจากภัยพิบัติทั้งปวง เสกใส่ข้าวอาหารป้อนเด็ก ปัญญาดี เลี้ยงง่าย สุขภาพดีฯ

………………………………………….

คาถาเมื่อจุดเทียนชัย

พุทโธ สัพพัญญุตะญาโณ       ธัมโม โลกุตตะโร วะโร
สังโฆ มัคคะผะลัฏโฐ จะ        อิจเจตัง ระตะนัตตะยัง
อะระหัง พุทโธ อิติปิโส ภะคะวา นะมามิหัง

พุทโธ สัพพัญญุตะญาโณ       ธัมโม โลกุตตะโร วะโร
สังโฆ มัคคะผะลัฏโฐ จะ        อิจเจตัง ระตะนัตตะยัง
เอตัสสะ อานุภาเวนะ        สัพพะทุกขา อุปัททะวา
อันตะรายา จะ นัสสันตุ        สัพพะโสตถี ภะวันตุ เต.

คำแปล

พระพุทธเจ้ามีพระสัพพัญญุตญาณ ; พระธรรมประเสริฐเป็นโลกุตตระ ; พระสงฆ์เป็นผู้ตั้งอยู่ในมรรคและผล ; รวมรัตนะเป็นสามดังนี้ ; ด้วยอานุภาพแห่งรัตนตรัยนี้ ; ทุกข์ทั้งปวงอุปัทวะทั้งหลายและอันตรายทั้งหลายจงเสื่อมสูญไป ; ขอความสวัสดีทั้งปวงจงมีแก่ท่าน.

………………………………………….

กรณียเมตตสูตร คาถาเทวดาคุ้มครอง 

  • กะระณียะมัตถะกุสะเลนะ ยันตัง สันตัง ปะทัง อะภิสะเมจจะ
    สักโก อุชู จะ สุหุชู จะ สุวะโจ จัสสะ มุทุ อะนะติมานี
    สันตุสสะโก จะ สุภะโร จะ อัปปะกิจโจ จะ สัลละหุกะวุตติ
    สันตินทริโย จะ นิปะโก จะ อัปปะคัพโภ กุเลสุ อะนะนุคิทโธ
    นะ จะ ขุททัง สะมาจะเร กิญจิ เยนะ วิญญู ปะเร อุปะวะเทยยุง
    สุขิโน วา เขมิโน โหตุ สัพเพ สัตตา ภะวันตุ สุขิตัตตา
    เย เกจิ ปาณะภูตัตถิ ตะสา วา ถาวะรา วา อะนะวะเสสา
    ทีฆา วา เย มะหันตา วา มัชฌิยา รัสสะกา อะณุกะถูลา
    ทิฏฐา วา เย จะ อะทิฏฐา เย จะ ทูเร วะสันติ อะวิทูเร
    ภูตา วา สัมภะเวสี วา สัพเพ สัตตา ภะวันตุ สุขิตัตตา
    นะ ปะโร ปะรัง นิกุพเพถะ นาติมัญเญถะ กัตถะจิ นัง กิญจิ
    พยาโรสะนา ปะฏีฆะสัญญา นาญญะมัญญัสสะ ทุกขะมิจเฉยยะ
    มาตา ยะถา นิยัง ปุตตัง อายุสา เอกะปุตตะมะนุรักเข
    เอวัมปิ สัพพะภุเตสุ มานะสัมภาวะเย อะปะริมาณัง
  • เมตตัญจะ สัพพะโลกัสมิง มานะสัมภาวะเย อะปะริมาณัง
    อุทธัง อะโธ จะ ติริยัญจะ อะสัมพาธัง อะเวรัง อะสะปัตตัง
    ติฏฐัญจะรัง นิสินโน วา สะยาโน วา ยาวะตัสสะ วิคะตะมิทโธ
    เอตัง สะติง อะธิฏเฐยยะ พรัหมะเมตัง วิหารัง อิธะมาหุ
    ทิฏฐิญจะ อะนุปะคัมมะ สีละวา ทัสสะเนนะ สัมปันโน
    กาเมสุ วิเนยยะ เคธัง นะ หิ ชาตุ คัพภะเสยยัง ปุนะเรตีติ

………………………………………….

บทสวดธัมมะจักร

  • ภุมมานัง เทวานัง สัททัง สุตวา
    จาตุมมะหาราชิกา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง จาตุมมะหาราชิกานัง เทวานัง สัททัง สุตวา
    ตาวะติงสา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง ตาวะติงสานัง เทวานัง สัททัง สุตวา
    ยามา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง ยามานัง เทวานัง สัททัง สุตวา
    ตุสิตา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง ตุสิตานัง เทวานัง สัททัง สุตวา
    นิมมานะระตี เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง นิมมานะระตีนัง เทวานัง สัททัง สุตวา
    ปะระนิมมิตะวะสะวัตตี เทวา สัททะ มะนุสสาเวสุง ปะระนิมมิตะวะสะวัตตีนัง เทวานัง สัททัง สุตวา
    พรหมะกายิกา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง พรหมะกายิกานัง เทวานัง สัททัง สุตวา
    พรหมะปาริสัชชา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง พรหมะปาริสัชชานัง เทวานัง สัททัง สุตวา
    พรหมะปุโรหิตา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง พรหมะปุโร หิตานัง เทวานัง สัททัง สุตวา
    มะหาพรหมา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง มะหาพรหมานัง เทวานัง สัททัง สุตวา
  • ปะริตตาภา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง ปะริตตาภานัง เทวานัง สัททัง สุตวา
    อัปปะมาณาภา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง อัปปะมาณาภานัง เทวานัง สัททัง สุตวา
    อาภัสสะระ เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง อาภัสสะรานัง เทวานัง สัททัง สุตวา
    ปะริตตะสุภา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง ปะริตตะสุภานัง เทวานัง สัททัง สุตวา
    อัปปะมาณะสุภา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง อัปปะมาณะสุภานัง เทวานัง สัททัง สุตวา
    สุภะกิณหะกา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง สุภะกิณหะกานัง เทวานัง สัททัง สุตวา
    อสัญญะสัตตา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง อสัญญะสัตตานัง เทวานัง สัททัง สุตวา
    เวหัปผะลา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง เวหัปผะลานัง เทวานัง สัททัง สุตวา
    อะวิหา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง อะวิหานัง เทวานัง สัททัง สุตวา
    อะตัปปา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง อะตัปปานัง เทวานัง สัททัง สุตวา
    สุทัสสา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง สุทัสสานัง เทวานัง สัททัง สุตวา
    สุทัสสี เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง สุทัสสีนัง เทวานัง สัททัง สุตวา
    อะกะนิฏฐะกา เทวา สัททะมะนุสสาเวสุง เอตัมภะคะวะตา พาราณะสิยัง อิสิปะตะเน มิคะทาเย อะนุตตะรัง ธัมมะจักกัง ปะวัตติตัง อัปปะฏิวัตติยัง สะมะเณนะ วา พราหมะเณนะ วา เทเวนะ วา มาเรนะ วา พรหมุนา วา เกนะจิ วา โลกัสสะมินติ
    อัปปะฏิวัตติยัง สะมะเณนะ วา พราหมะเณนะ วา เทเวนะ วา มาเรนะ วา พรหมุนา วา เกนะจิ วา โลกัสสะมินติ.

 

ธัมมะจักรนี้ถ้าท่านใดได้สวดจะทำให้ชีวิตเจริญรุ่งเรือง ไม่ว่าจะเป็นกิจการงาน แขนงไหนที่ทำอยู่จะมีความเจริญก้าวหน้า เพราะว่าธัมมะจักรเป็นพระธรรมเทศนากัณฑ์แรกที่พระพุทธเจ้าได้ทรงแสดงโปรดนักบวชปัญจวคีย์ และยังเป็นวงล้อที่หมุนเป็นครั้งแรกของพระพุทธศาสนา จึงนับว่าเป็นการลำบากที่ผู้คนทั้งหลายจะได้สวด และยังจะเป็นการเปลื้องทุกข์ภัยต่างๆ นานาได้อีกด้วย สิ่งร้ายจะกลายเป็นดีและยังทำให้มีอายุยืน มีความสุขกาย สุขใจ ปราศจากทุกข์โศกโรคภัย

………………………………………….

บทสวดมงคลจักรวาลใหญ่

  • สิริธิติมะติเตโชชะยะสิทธิ มะหิทธิมะหาคุณาปะริมิตะปุญญาธิการัสสะ
    สัพพันตะรายะนิวาระณะสะมัตถัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
    ทวัตติงสะมะหาปุริสะลักขะณานุภาเวนะ
    อะสีตยานุพยัญชะนานุภาเวนะ
    อัฏฐุตตะระสะตะมังคะลานุภาเวนะ
    ฉัพพัณณะรังสิยานุภาเวนะ
    เกตุมาลานุภาเวนะ
    ทะสะปาระมิตานุภาเวนะ
    ทะสะอุปะปาระมิตานุภาเวนะ
    ทะสะปะระมัตถะปาระมิตานุภาะเวนะ
    สีละสะมาธิปัญญานุภาเวนะ
    พุทธานุภาเวนะ ธัมมานุภาเวนะ สังฆานุภาเวนะ
    เตชานุภาเวนะ อิทธานุภาเวนะ พะลานุภาเวนะ
    เญยยะธัมมานุภาเวนะ
    จะตุราสีติสะหัสสะ
    ธัมมักขันธานุภาเวนะ
    นะวะโลกุตตะระธัมมานุภาเวนะ
    อัฏฐังคิกะมัคคานุภาเวนะ
    อัฏฐะสะมาปัตติยานุภาเวนะ
    ฉะฬะภิญญานุภาเวนะ
    จะตุสัจจะญาณานุภาเวนะ
    ทะสะพะละญาณานุภาเวนะ
    สัพพัญญุตะญาณานุภาเวนะ
    เมตตากะรุณามุทิตาอุเปกขานุภาเวนะ
    สัพพะปะริตตานุภาเวนะ
    ระตะนัตตะยะสะระณานุภาเวนะ
  • ตุยหัง สัพพะโรคะโสกุปัททะวะทุกขะโทมะนัสสุปายาสา วินัสสันตุ
    สัพพะอันตะรายาปิ วินัสสันตุ สัพพะสังกัปปา ตุยหัง สะมิชฌันตุ
    ทีฆายุตา ตุยหัง โหตุ สะตะวัสสะชีเวนะ สะมังคิโก โหตุ สัพพะทา ฯ
    อากาสะปัพพะตะวะนะภูมิคังคามะหาสะมุททา อารักขะกา เทวะตา สะทา ตุมเห อะนุรักขันตุ ฯ
  • ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะเทวะตา
    สัพพะพุทธานุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต
    ภะวะตุ สัพพะมังคะลัง รักขันตุ สัพพะเทวะตา
    สัพพะธัมมานุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต
    ภะวะตุ สัพพะ มังคะลัง รักขันตุ สัพพะ เทวะตา
    สัพพะสังฆานุภาเวนะ สะทา โสตถี ภะวันตุ เต ฯ
  • นักขัตตะยักขะภูตานัง ปาปัคคะหะนิวาระณา
    ปะริตตัสสานุภาเวนะ หันตวา เตสัง อุปัททะเว
    นักขัตตะยักขะภูตานัง ปาปัคคะหะนิวาระณา
    ปะริตตัสสานุภาเวนะ หันตวา เตสัง อุปัททะเว
    นักขัตตะยักขะภูตานัง ปาปัคคะหะนิวาระณา
    ปะริตตัสสานุภาเวนะ หันตวา เตสัง อุปัททะเว ฯ

………………………………………….

คาถาโมรปริตร

คาถาสวดตอนเช้า

โมระปะริตตัง อุเทตะยัญจักขุมา เอกะราชา หะริสสะวัณโณ ปะฐะวิปปะภาโส ตัง ตัง นะมัสสามิ หะริสสะ วัณณัง ปะฐะวิปปะภาสัง ตะยัชชะ คุตตา วิหะ เรมุ ทิวะสัง เยพราหมะณา เวทะคุ สัพพะธัมเม เต เม นะโม เตจะมัง ปาละยันตุ นะมัตถุ พุทธานัง นะมัตถุ โพธิยา นะโม วิมุตตานัง นะโมวิมุตติยา อิมัง โส ปะริตตัง กัตวา โมโร จะระติ เอสะนา โมระปะริตตัง

คาถาสวดตอนเย็น

อะเปตะยัญจักขุมา เอกะราชา หะริสสะวัณโณ ปะฐะวิปปะภาโส ตัง ตัง นะมัสสามิ หะริสสะวัณณัง ปะฐะวิปปะภาสัง ตะยัชชะ คุตตา วิหะเรมุ รัตติง เยพราหมะณา เวทะคุ สัพพะธัมเม เต เม นะโม เต จะมัง ปาละยันตุ นะมัตถุ พุทธานัง นะมัตถุ โพธิยา นะโม วิมุตตานัง นะโมวิมุตติยา อิมัง โส ปะริตตัง กัตวา โมโร วาสะมะกัปปะยิติ

 

อย่างไรก็ตาม อานิสงส์ของการที่เราท่องคาถาบทสวดโมรปริตรเช้าเย็นนั้น หลายคนเชื่อว่าจะแคล้วคลาดปลอดภัยอันตรายทั้งปวง.

………………………………………….

คาถามหาเศรษฐี

จัตตาโร สติปัฏฐานา จัตตาโร อิทธิปาทา สัมมาอาชีโว
จัตตาโร สติปัฏฐานา จัตตาโร อิทธิปาทา สัมมาอาชีโว
จัตตาโร สติปัฏฐานา จัตตาโร อิทธิปาทา สัมมาอาชีโว
มะณีจินดา ปิยังปัญจะธานัง ยะสังทาสา ทาสี โกมัง ปะสันติ เสน่หัง มาตาปุตตังวะโอระสัง สัพเพชะนา พะหูชะนา สัพเพปุริสา พะหูปริสา สัพเพอิตถี พะหูอิตถี สารังเจนัง ภะวันตุเม
มะณีจินดา ปิยังปัญจะธานัง ยะสังทาสา ทาสี โกมัง ปะสันติ เสน่หัง มาตาปุตตังวะโอระสัง สัพเพชะนา พะหูชะนา สัพเพปุริสา พะหูปริสา สัพเพอิตถี พะหูอิตถี สารังเจนัง ภะวันตุเม
มะณีจินดา ปิยังปัญจะธานัง ยะสังทาสา ทาสี โกมัง ปะสันติ เสน่หัง มาตาปุตตังวะโอระสัง สัพเพชะนา พะหูชะนา สัพเพปุริสา พะหูปริสา สัพเพอิตถี พะหูอิตถี สารังเจนัง ภะวันตุเม

เวทาสากุ กุสาทาเว ทายะสาตะ ตะสายะทา สาสาทิกุ กุทิสาสา กุตะกุภู ภูกุตะกุ
เวทาสากุ กุสาทาเว ทายะสาตะ ตะสายะทา สาสาทิกุ กุทิสาสา กุตะกุภู ภูกุตะกุ
เวทาสากุ กุสาทาเว ทายะสาตะ ตะสายะทา สาสาทิกุ กุทิสาสา กุตะกุภู ภูกุตะกุ

ใช้สวดบูชาประจำ ทุกเช้าค่ำ จะเป็นทำให้ร่ำรวย เจริญรุ่งเรือง จะเกิดลาภผลดีนักแล

………………………………………….

คาถาเมตตามหานิยม

– ใช้สำหรับท่องให้คนที่พบเห็นรักและคนเมตตา สวดก่อนออกจากบ้านไปติดต่อเจรจา

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ

นะ เมตตา โม กรุณา พุทธ ปราณี ธา ยินดี ยะ เอ็นดูสารพัดศัตรู วินาสสันตุ อิติปิโส ภะคะวา เห็นหน้า วาจา เอ็นดูด้วย นะโม พุทธายะ

นะเมตตา โมกรุณา พุทธปราณี ธายินดี ยะเอ็นดู นะโมพุทธายะ นะมะอะอุ

………………………………………….

คาถาสาริกาลิ้นทอง

ใช้สำหรับท่องเสริมเสน่ห์ วาจาน่ารัก คนฟังรักใคร่ เมื่อท่องถึงคำว่า “มิ” ให้ใช้มือแตะลิ้น

พุทธา อะเนนา มะลิยา สุสังคะเยมิ
พุทธา อิริมะลิยา สุสังคะเยมิ
พุทธา อิรปะโย เคมะคุณนะ ปักเขสะเมมะมิ
อุนาโลมา ปันนะ วิชายะเต

………………………………………….

คาถามหาเสน่ห์เจอรักแท้

ใช้สำหรับท่องได้พบเจอความรัก คนโสดได้เจอเนื้อคู่

โอมนะโมพุทธายะ พุทธัง สระติ ธัมมัง สะระติ สังฆัง
สะระติ
จิตตัง สะมาเรมะมะเอทิเอหิชัยยะ
เอหิสัพเพชะนา พะหูชะนา เอหิ

………………………………………….

บทสวดกรวดน้ำ (อิมินา)

(บทนำ) หันทะ มะยัง อุททิสะนาธิฏฐานะ คาถาโย ภะณามะ เส ฯ

อิมินา ปุญญะกัมเมนะ อุปัชฌายา คุณุตตะรา
อาจะริยูปะการา จะ มาตาปิตา จะ ญาตะกา
สุริโย จันทิมา ราชา คุณะวันตา นะราปิ จะ
พ์รัห์มะมารา จะ อินทา จะตุ- โลกะปาลา จะ เทวะตา
ยะโม มิตตา มะนุสสา จะ มัชฌัตตา เวริกาปิ จะ
สัพเพ สัตตา สุขี โหนตุ ปุญญานิ ปะกะตานิ เม
สุขัญจะ ติวิธัง เทนตุ ขิปปัง ปาเปถะ โว มะตัง

อิมินา ปุญญะกัมเมนะ อิมินา อุททิเสนะ จะ
ขิปปาหัง สุละเภ เจวะ ตัณหุปาทานะเฉทะนัง
เย สันตาเน หินา ธัมมา ยาวะ นิพพานะโต มะมัง
นัสสันตุ สัพพะทาเยวะ ยัตถะ ชาโต ภะเว ภะเว
อุชุจิตตัง สะติปัญญา สัลเลโข วิริยัมหินา
มารา ละภันตุ โนกาสัง กาตุญจะ วิริเยสุ เม
พุทธาทิปะวะโร นาโถ ธัมโม นาโถ วะรุตตะโม
นาโถ ปัจเจกะพุทโธ จะ สังโฆ นาโถตตะโร มะมัง
เตโสตตะมานุภาเวนะ มาโรกาสัง ละภันตุ มา ฯ

ความหมายบทกรวดน้ำ (อิมินา)

ในวรรคที่1 เป็นการสวดไปให้แก่บุพการีชน คนมีอุปการะทั้งหลาย เช่น อุปัชฌาย์ อาจารย์ พ่อแม่ เป็นต้น รวมถึงพระอาทิตย์ พระจันทร์ พระราชา พระพรหม พระอินทร์ ท้าวจตุโลกบาล เทวดาทั้งหลาย พระยม ญาติสนิท มิตรสหาย และสรรพสัตว์ทั้งหลาย เป็นต้น ให้ได้รับส่วนบุญกุศลโดยทั่วกัน ดังความที่ท่านได้ประพันธ์เอาไว้ว่า

ด้วยบุญนี้ อุทิศนี้ อุปัชฌาย์ ผู้เลิศคุณ
แลอาจารย์ ผู้เกื้อหนุน ทั้งพ่อแม่ แลปวงญาติ
สูรย์จันทร์ แลราชา ผู้ทรงคุณ หรือสูงชาติ
พรหม มาร และอินทราช ทั้งทวยเทพ และโลกบาล
ยมราช มนุษย์มิตร ผู้เป็นกลาง ผู้จองผลาญ
ขอให้ เป็นสุขศานติ์ อย่างทั่วหน้า อย่าทุกข์ทน
บุญผอง ที่ข้าทำ จงช่วยอำ นวยศุภผล
ให้สุข สามอย่างล้น ให้ลุถึง นิพพานพลันฯ

ในวรรคที่ 2 เป็นการสวดไปให้แก่ตนเอง ในฐานะที่เป็นผู้ประกอบกุศล ให้บรรลุทันทีซึ่งการตัดตัณหาอุปทาน ธรรมอันชั่วในสันดาน ขอจงพินาศไปหมดตราบเท่าถึงนิพพานสิ้นกาลทุกเมื่อ แม้หากยังไม่บรรลุคุณวิเศษใดๆ ก็ขอให้เป็นผู้มีจิตซื่อตรงดำรงสติปัญญาไว ชาญฉลาด ให้มีความเพียรแก่กล้า สามารถขัดเกลากิเลสให้สูญหายไปได้ ดังความที่ท่านประพันธ์ต่อจากวรรคที่ 1 ว่า

ด้วยบุญนี้ ที่เราทำ แลอุทิศ ให้ปวงสัตว์
เราพลันได้ ซึ่งการตัด ตัวตัณหา อุปาทาน
สิ่งชั่ว ในดวงใจ กว่าเราจะ ถึงนิพพาน
มลายสิ้น จากสันดาน ทุกๆภพ ที่เราเกิด
มีจิตตรง และสติ ทั้งปัญญา อันประเสริฐ
พร้อมทั้ง ความเพียรเลิศ เป็นเครื่องขูด กิเลสหาย
โอกาส อย่าพึงมี แก่หมู่มาร สิ้นทั้งหลาย
เป็นช่อง ประทุษร้าย ทำลายล้าง ความเพียรจม
พระพุทธผู้ บวรนาถ พระธรรมที่ พึ่งอุดม
พระปัจเจกกะพุทธสม ทบพระสงฆ์ ที่พึ่งผอง
ด้วยอานุภาพนั้น ขอหมู่มาร อย่าได้ช่อง
ด้วยเดชบุญ ทั้งสิบป้อง อย่าเปิดโอกาสแก่มารเทอญฯ

………………………………………….

บทสวดแผ่ส่วนบุญส่วนกุศล

อิทัง เม มาตาปิตูนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ มาตาปิตะโร
ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่มารดา บิดาของข้าพเจ้า ขอให้มารดา บิดาของข้าพเจ้ามีความสุข

อิทัง เม ญาตีนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ ญาตะโย
ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้า ขอให้ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้ามีความสุข

อิทัง เม คุรูปัชฌายาจริยานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ คุรูปัชฌายาจริยา
ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่ครูอุปัชฌาย์อาจารย์ของข้าพเจ้า ขอให้ครูอุปัชฌาย์อาจารย์ของข้าพเจ้ามีความสุข

อิทัง สัพพะเทวะตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพเทวา
ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่เทวดาทั้งหลายทั้งปวง ขอให้เทวดาทั้งหลายทั้งปวงมีความสุข

อิทัง สัพพะเปตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ เปตา
ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่เปรตทั้งหลายทั้งปวง ขอให้เปรตทั้งหลายทั้งปวงมีความสุข

อิทัง สัพพะเวรีนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพเวรี
ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายทั้งปวง ขอให้เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลายทั้งปวงมีความสุข

อิทัง สัพพะสัตตานัง โหตุ สุขิตา โหนตุ สัพเพ สัตตา
ขอส่วนบุญนี้จงสำเร็จแก่สัตว์ทั้งหลายทั้งปวง ขอให้สัตว์ทั้งหลายทั้งปวงมีความสุขทั่วหน้ากันเทอญ

………………………………………….

บทสวดขอขมาและอธิษฐานจิต

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ

สัพพัง อะปะระธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ทะวารัตตะเย นะ กะตัง
สัพพัง อะปะระธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ขะมามิ ภันเต

หากข้าพเจ้า จงใจหรือประมาทพลาดพลั้งล่วงเกิน บิดา-มารดา ครูบาอาจารย์ พระพุทธ พระธรรม พระอรหันต์ทุกพระองค์ พระอริยสงฆ์เจ้า ตลอดจนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย รวมถึงผู้มีพระคุณ และท่านเจ้ากรรมนายเวร จะด้วย กาย วาจา ใจ ก็ดีขอได้โปรดอโหสิกรรมแก่ข้าพเจ้าด้วย

หากข้าพเจ้ามีเจ้าของในตัวติดตามมาขออนุณาตมีคู่ มีครอบครัวได้เหมือนคนปกติทั่วไป ขอถอนคำอธิษฐาน คำสาบาน ที่จะติดตามคู่ในอดีต ขอให้ต่างฝ่ายต่างเป็นอิสระต่อกัน ข้าพเจ้าจะประพฤติตนในทางที่ถูก ที่ชอบ ที่ควร ขอบุญบารมีในอดีตกาลที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน จงส่งผลให้ข้าพเจ้าและครอบครัวตลอดจนบริวารที่เกี่ยวข้องจงเจริญด้วย อายุ วรรณะ สุขะ พละ ลาภ ยศ สุข สรรเสริญ สติปัญญา ปฏิภาณ ธนสารสมบัติ อุปสรรคใดๆ โรคภัยใดๆ ขอให้มลายสิ้น ขอให้ข้าพเจ้ามีความสว่างทั้งทางโลก และทางธรรม ตั้งแต่บัดนี้ตราบเข้าสู่พระนิพพาน เทอญ

หากมีผู้ใดเคยสร้างเวรสร้างกรรมกับข้าพเจ้า ไม่ว่าจะชาติใดภพใดก็ตาม ข้าพเจ้ายินดีอโหสิกรรมให้ ขอถอนความพยาบาท ความอาฆาต และคำสาปแช่งในทุกชาติ ทุกภพ ขอให้ข้าพเจ้าพ้นจากคำสาปแช่งของปวงชน ของเจ้ากรรมนายเวร ขอให้พ้นนรกภูมิ พบแสงสว่างทั้งทางโลก และทางธรรม เทอญ

………………………………………….

บทสวดแผ่เมตตาตนเอง

อะหัง สุขิโต โหมิ
อะหัง นิททุกโข โหมิ
อะหัง อะเวโร โหมิ
อะหัง อัพยาปัชโฌ โหมิ
สุขี อัตตานัง ปะริหะรามิ

คำแปล

ขอให้ข้าพเจ้ามีความสุข
ขอให้ข้าพเจ้าปราศจากความทุกข์
ขอให้ข้าพเจ้าปราศจากเวร
ขอให้ข้าพเจ้าปราศจากอุปสรรคอันตรายทั้งปวง
ขอให้ข้าพเจ้าจงมีความสุขกายสุขใจ รักษากายวาจาใจให้พันจากความทุกข์ภัยทั้งปวงเถิด

เป็นคาถาที่ใช้ในการแผ่เมตตาให้กับตัวเรา เพื่อปราศจากอุปสรรคต่างๆ ให้มีความสุขกาย สุขใจ

………………………………………….

คำแผ่เมตตาให้สรรพสัตว์

สัพเพ สัตตา สัตว์ทั้งหลายทั้งปวงที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิดแก่ เจ็บ ตาย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น
อะเวรา โหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรแก่กันและกันเลย
อัพยาปัชฌา โหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย
อะนีฆา โหนตุ จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีความทุกข์กายทุกข์ใจเลย
สุขี อัตตานัง ปะริหะรันตุ จงมีความสุขกายสุขใจรักษาตนให้พ้นจากทุกข์ภัยด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้นเถิด

………………………………………….

……. อธิษฐานขอพร นึกถึงแต่สิ่งดีๆที่มุ่งหวังในทางดี ตามสมประสงค์ …….

………………………………………….

บทส่งท้าย

การหมั่นสวดภาวนาหรือการสวดมนตร์ อยู่เป็นประจำอย่างน้อยให้ได้วันละ 1 จบ จะทำให้เกิดสมาธิ และเสริมสิริมงคลให้กับชีวิต ใครที่มีหิ้งพระหรือโต๊ะหมู่บูชาก็สามารถจุดธูปเทียนบูชาหรือถวายดอกไม้ได้ตามปกติ พระอริยสงฆ์เจ้าทั้งหลายต่างก็กล่าวเน้นว่า พระพุทธศาสนาเป็นของจริงของแท้ที่เรายึดมั่นเป็นหลักชัยแห่งชีวิตได้

ยิ่งมีการปฏิบัติธรรมทั้งทาน ศีล ภาวนา สม่ำเสมอความสุขความเจริญเกิดขึ้นแก่ตนแน่ อย่าสงสัย การรวยทรัพย์สินเงินทองไม่ได้ก่ออานิสงส์ ไม่เท่ากับรวยบุญรวยกุศล ซึ่งจะบังเกิดความสุขความเจริญในปัจจุบัน และตามติดวิญญาณไปทุกภพทุกชาติด้วย ฉะนั้นชาวพุทธทั้งหลาย จงเจริญภาวนา ยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎกทุกเช้าค่ำเถิด จะบังเกิดความสวัสดิมงคลแก่ตนและครอบครัวโดยทั่วหน้า