ในบทความนี้เราจะมาพูดถึงความหมายของตราสารหนี้และหุ้นกัน มาดูกันว่าสองอย่างนี้มันเป็นการ Trading ที่มีจุดต่างกันอย่างไร มีความเสี่ยงอะไร และมันจะสร้างผลตอบแทนให้กับเราได้อย่างไร

ตราสารหนี้ vs. หุ้น

ข้อแตกต่าง

การ Trading ในหุ้นเป็นการลงทุนที่จะทำให้คุณได้รับส่วนแบ่งการเป็นเจ้าของในบริษัท ซึ่งจะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับสัดส่วนหุ้นที่คุณถือ ในขณะที่ตราสารหนี้ถือเป็นการลงทุนที่คุณเอาเงินของคุณไปให้บริษัทได้ทำการกู้ยืม โดยผลตอบแทนที่คุณจะได้รับจะเป็นดอกเบี้ยนั่นเอง ข้อแตกต่างที่ใหญ่ที่สุดของการลงทุนทั้งสองอย่างนี้ก็คงจะเป็นเรื่องของผลตอบแทน โดยที่หุ้นจะสร้างผลตอบแทนให้คุณมากขึ้นเมื่อเวลาผ่านนานไปหากราคาของหุ้นนั้นเพิ่มสูงขึ้น ส่วนสิ่งที่ได้จากตราสารหนี้ก็คือดอกเบี้ยที่บริษัทจะจ่ายคืนให้คุณในอัตราคงที่ตามระยะเวลาที่ถูกกำหนดขึ้นในสัญญา

หุ้น

หุ้นเป็นตราสารที่ผู้ซื้อจะมีฐานะเป็นเจ้าของร่วมกับเจ้าของบริษัท โดยที่เราจะเป็นเจ้าของบริษัทแค่บางส่วนเท่ากับจำนวนหุ้นที่เราถืออยู่เท่านั้น ยกตัวอย่างก็เหมือนกับการที่เพื่อนของเรามาชวนไปเป็นหุ้นส่วนในการเปิดร้านอาหาร ถ้าเราตัดสินใจลงทุนด้วยก็เหมือนเราเป็นเจ้าของร้านอาหารนี้ด้วย เราก็ให้เพื่อนบริหารร้านไปเรื่อยๆ โดยเราอาจจะคอยติดตามว่าเพื่อนบริหารดีมีกำไร กิจการเติบโตไหม เราก็อาจจะลองไปนั่งที่ร้านดูว่าลูกค้าเยอะไหม พนักงานบริการดีหรือเปล่า

จากนั้นเพื่อนของเราก็มีหน้าที่ต้องเอางบการเงินของร้านอาหารมาให้เราดู ในส่วนนี้บริษัทในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะต้องส่งงบการเงินให้นักลงทุนอย่างเราดูทุกๆ ไตรมาส ทั้งนี้เพื่อให้เรารู้ว่าร้านอาหารมียอดขายเพิ่มไหม กำไรเพิ่มหรือเปล่า จากนั้นเมื่อทำธุรกิจจนได้กำไร หน้าที่อีกอย่างของเพื่อนของเราก็คือต้องจ่ายเงินปันผลให้ด้วย

สำหรับการ Trading ในหุ้นนี้ ผลตอบแทนนอกจากเงินปันผลแล้วเราอาจจะเอาหุ้นที่เราถืออยู่ไปขายต่อให้คนอื่นก็ได้ ซึ่งถ้าเป็นหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯ เราสามารถเทรดหุ้นกับนักลงทุนคนอื่นๆ ได้ทุกวัน

หากจะมาพูดถึงช่องทางการเทรดของตราสารทั้งสองนี้ก็ไม่เหมือนกันเช่นกัน สำหรับหุ้นแล้ว มันจะถูกเทรดผ่านตลาดหลักทรัพย์ ส่วนตราสารหนี้ก็จะถูกเทรดผ่าน OTC

และก่อนที่จะเลือกลงทุนกับบริษัทใดก็ตาม เราก็ต้องมีความมั่นใจในบริษัทก่อน เพราะว่าถ้าบริษัทดีเราก็ได้ผลตอบแทนที่ดีไปด้วย แต่ถ้าบริษัทเกิดบริหารไม่ดีหรือเจ้าของบริษัทเกิดทุจริต เราก็อาจจะเสียเงินที่ลงทุนไปหมด อย่างตัวอย่างที่เราจะเอาเงินลงทุนไปร่วมหุ้นเปิดร้านอาหารกับเพื่อน เราก็ต้องรู้จักเพื่อนของเราให้ดีก่อน เช่น ดูว่าเพื่อนนิสัยเป็นอย่างไร มีประสบการณ์การทำงานเป็นอย่างไร หากเพื่อนคนนี้เป็นคนที่มีความสามารถ ขยันทำงานและธุรกิจที่ทำนี้มีความเป็นไปได้ที่จะเติบโตได้ดีในอนาคต เราก็น่าจะลองลงทุนดู

ตราสารหนี้

การลงทุนในตราสารหนี้เป็นการที่เรานำเงินของเราไปให้ผู้ออกตราสารเป็นคนกู้ยืม ดังนั้นตราสารหนี้ทำให้เราได้มีฐานะเป็นเจ้าหนี้ของคนที่ออกพันธบัตรหรือหุ้นกู้นั่นเอง

ยกตัวอย่างเช่น เพื่อนเราที่เปิดร้านอาหารที่มีเราเป็นหุ้นส่วนอยู่ เมื่อกิจการดำเนินไปได้ดีแล้วอยากขยายสาขาเพิ่มขึ้นอีก ก็เลยอยากได้เงินเพิ่มเพื่อไปลงทุนขยายสาขาต่อไป เพื่อนเราก็อาจจะไปกู้แบงก์หรือกู้จากเพื่อนคนอื่น สมมติว่าเพื่อนที่เปิดร้านอาหารของเราชื่อ เอ เราคือ บี และเพื่อนเราที่เอไปขอยืมเงินชื่อ ซี

เอขอยืมเงินจากซีเป็นจำนวน 1,000,000 บาทแล้วตกลงว่าจะคืนเงินให้ในอีก 3 ปี และระหว่างนี้เอจะจ่ายดอกเบี้ยให้ซีในทุกๆ ปี ปีละ 5% กรณีนี้ซีจะถือเป็นเจ้าหนี้ของเอ ทำให้ซีจะมีสิทธิ์ได้รับเงินคืนก่อนเรา (บี) และจะได้ดอกเบี้ยค่อนข้างแน่นอน 5% ทุกปี ซึ่งก็คือปีละ 50,000 บาท (1,000,000 x 0.05) แล้วพอครบ 3 ปี ซีจะได้เงินที่ให้เอยืมคืน 1,000,000 บาท

จะสังเกตได้ว่าการลงทุนในตราสารหนี้นี้ จะทำให้เราค่อนข้างมั่นใจได้ว่าเราจะได้ดอกเบี้ยเป็นจำนวนเงินที่แน่นอนมากกว่าหุ้นที่ถ้าปีไหนกิจการกำไรลดลงเราก็อาจจะได้เงินปันผลลดลง แต่สำหรับตราสารหนี้ เราเป็นเจ้าหนี้จึงได้ดอกเบี้ยเท่าเดิมในทุกๆ ปี และจะได้เงินคืนเมื่อครบอายุของตราสารหนี้เท่ากับที่ลงทุนไปตอนแรก

สรุปภาพรวมข้อแตกต่างระหว่างตราสารหนี้ vs. หุ้น

การลงทุนในสินทรัพย์ 2 ประเภทนี้จึงมีความแตกต่างกันพอสมควร สรุปง่ายๆ คือ การลงทุนในตราสารหนี้จะมีความเสี่ยงน้อยกว่า แต่คุณก็จะได้ผลตอบแทนน้อยกว่าด้วยเช่นกัน ดังนั้นสำหรับการเลือกสินทรัพย์ลงทุนเราอาจจะเลือกลงทุนเฉพาะหุ้น 100% ก็ได้ถ้าอยากได้ผลตอบแทนมากๆ แต่ถ้าเราเป็นคนที่ยอมรับความเสี่ยงได้น้อย การลงทุนในตราสารหนี้อาจจะเป็นช่องทางที่ปลอดภัยมากกว่าหุ้น

การลงทุนไม่ได้มีแค่เพียงแบบเดียวเท่านั้น เรายังสามารถลงทุนได้ในทั้งสองทรัพย์สินพร้อมๆ กันในสัดส่วนต่างๆ ได้

สนใจเปรียบเทียบสินเชื่อส่วนบุคคล

Please become Masii Fan
Facebook: www.facebook.com/MasiiThailand
Website: www.masii.co.th
Line : @masii
Tel: 02 710 3100
Youtube: https://www.youtube.com/channel/UCV-5rpO5ZqAGfgLdKqzKGFw
Instagram: www.instagram.com/masii_thailand
Twitter: twitter.com/MasiiGroup 
#บัตรเครดิต #สมัครบัตรเครดิตออนไลน์ #ทำบัตรเครดิต #บัตรเครดิตใบแรก
#สินเชื่อส่วนบุคคล #บัตรกดเงินสด
#สินเชื่อส่วนบุคคลออนไลน์ #กู้เงิน
#ประกันภัยโดรน #ประกันโดรน #ลงทะเบียนโดรน #ขึ้นทะเบียนโดรน #Dronethailand
#ประกันรถยนต์ #ประกันรถยนต์ชั้น1 #สมัครประกันรถยนต์ #ประกันรถที่คุ้มที่สุด
#masii #มาสิ #ครบง่ายสะดวก #เพื่อความสุขในชีวิตที่ดีกว่า
#ครบง่ายสะดวกเพื่อความสุขในชีวิตที่ดีกว่า