ขับรถชนสัตว์ ต้องทำอย่างไร ประกันรถยนต์คุ้มครองไหม ตาม มาสิ ไปดู…แนะนำทำไว้เลย ประกันรถยนต์ ชั้น 1 คุ้มครองครบทุกกรณี

โดย

29/06/2023

masii blog-ขับรถชนสัตว์ — ขับรถชนสัตว์ ต้องทำอย่างไร ประกันรถยนต์คุ้มครองไหม ตาม มาสิ ไปดู...แนะนำทำไว้เลย ประกันรถยนต์ ชั้น 1 คุ้มครองครบทุกกรณี

สมัครรถแลกเงินโปรโมชั่น แจกฟรี Voucher Lazada

อย่างที่เรารู้กัน การใช้รถใช้ถนนในประเทศไทยของเรานั้นถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ทั่วโลกให้การยอมรับว่ามีความอันตรายสูงเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก ซึ่งไม่เพียงจำกัดแค่ถนนในสังคมเมือง ในส่วนนี้ยังรวมไปถึงถนนทุกสายทั้งในเเละนอกเมืองด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ต่างจังหวัดที่สภาพการจราจรไม่แอดอัดและรถสามารถที่จะทำความเร็วได้ ซึ่งไม่เพียงเเค่ปัญหาการชนกันของรถบนถนนเท่านั้น ยิ่งเป็นในพื้นที่ห่างไกลถนนบางสายจึงได้มีตัดผ่านในพื้นที่เขตป่าไม้ สิ่งที่ตามมานั่นก็คือปัญหาการเดินข้ามถนนและขวางการจราจรขึ้น ซึ่งเป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุรถชนสัตว์ขึ้นได้ ว่าแล้ววันนี้เรามาดูกันดีกว่าว่า หากเราเกิดอุบัติเหตุ ในการขับรถชนสัตว์ขึ้นมา ประกันรถยนต์ ที่เราทำจะตุ้มครองความเสียที่เกิดขึ้นหรือไม่ พร้อมกันนี้ มาสิ แนะนำเสริมสร้างให้ทุกการขับขี่ได้มีสุขให้เต็มที่ตลอดการเดินทางไปกับ ประกันรถยนต์ ชั้น 1 ที่ให้ความคุ้มครองครบในทุกกรณี ซึ่งรายลเอียดความคุ้มครองจะเป็นอย่างไรบ้างนั้น ต้องตา มาสิ ไปดูกัน

ขับรถชนสัตว์ ต้องทำอย่างไร ประกันรถยนต์คุ้มครองไหม ตาม มาสิ ไปดู…แนะนำทำไว้เลย ประกันรถยนต์ ชั้น 1 คุ้มครองครบทุกกรณี

หากขับรถชนสัตว์ต้องทำอย่างไร ?

หากเราขับรถอยู่ดีๆ แล้วเกิดมีสุนัขหรือสัตว์อื่นวิ่งตัดหน้า สิ่งแรกที่ควรทำเลย นั่นก็คือ พยายามตั้งสติ และตัดสินใจให้เด็ดขาด โดยดูจากสถานการณ์นั้นๆ หากขับมาไม่เร็วมากนัก สามารถหักหลบเข้าข้างทางได้ แต่ก็ควรดูด้วยว่ามีอะไรกีดขวางไหม มีรถสวนทางมาหรือเปล่า หรือหากตัดสินใจเหยียบเบรก ก็ควรดูกระจกมองหลัง และกระจกมองข้างก่อนว่า ไม่มีรถใดๆ วิ่งตามหลังมา แต่ต้องประคองรถให้ดีๆ เพราะการเหยียบเบรกกะทันหัน อาจทำให้รถหมุน และเสียหลักได้ แต่หากขับมาด้วยความเร็ว และเบรกไม่ทันจริงๆ อาจจำเป็นต้องขับชนเพื่อไม่ให้รถเสียหลัก และเเกอดเหตุที่รุ่นแรงกว่านี้ขึ้นได้

ขับรถชนสัตว์ ประกันรถยนต์ให้ความคุ้มครองหรือไม่?

ทั้งนี้ เพราะการขับรถชนสัตว์ ไม่ว่าจะเป็นสุนัข หรือสัตว์ใด นั้นทำให้รถเกิดความเสียหายขึ้นอย่างแน่นอน ซึ่งหากเราไม่ได้ทำประกันส่วนที่มีความคุ้มครองนี้ไว้ เราย่อมที่จะต้องจ่ายซ่อมรถเอง ยกเว้นว่ารถประกันภัยชั้น 1 ก็จะได้รับความคุ้มครองและดูแลความเสียหายเกี่ยวกับรถยนต์ และทรัพย์สินของบุคคลภายนอกตามที่ระบุไว้ตามกรมธรรม์ นอกจากนี้ยังสามารถแยกตามกรณีต่างๆ ดังนี้

1. ขับรถชนสัตว์ที่ไม่มีเจ้าของ

การขับรถชนสัตว์ที่ไม่เจ้าของ ด้วยเหตุสุดวิสัย ถือเป็นอุบัติเหตุแบบไม่มีคู่กรณี ซึ่งหากเราซื้อประกันรถยนต์ชั้น 1 ไว้ ก็จะได้รับความคุ้มครอง และสามารถเคลมประกันรถยนต์ได้ทั้งหมด โดยไม่ต้องเสียค่าเสียหายส่วนแรก แต่หากไม่ได้ซื้อประกันภัยรถยนต์ หรือเป็นประกันรถยนต์ประเภทอื่นๆ จะไม่ได้รับความคุ้มครอง เจ้าของรถต้องจ่ายค่าซ่อมรถเอง

2. ขับรถชนสัตว์ที่มีเจ้าของ

แต่ในกรณีที่สุนัขหรือสัตว์ตัวนั้นมีเจ้าของเลี้ยงไว้ ผู้ที่เป็นเจ้าของสุนัขจะกลายเป็นคู่กรณีที่มีความผิดในฐานปล่อยสุนัขให้ออกมาวิ่งบนถนน ซึ่งถือว่ากีดขวางการจราจร ตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 ไม่ถือว่าเป็นความผิดของคนขับรถ ไม่ต้องรับผิดชอบค่าเสียหายที่เกิดกับสุนัข ไม่ว่าจะบาดเจ็บหรือเสียชีวิต แต่เจ้าของสุนัขต้องรับผิดชอบค่าเสียหายที่เกิดกับรถของเรา เว้นแต่ว่า เจ้าของสุนัขสามารถพิสูจน์ว่าได้ระมัดระวัง ดูแลป้องกันสุนัขของตนเองอย่างดีแล้ว แต่ก็เกิดเหตุสุดวิสัยขึ้น หรือหากเจ้าของสัตว์ไม่รับผิดชอบ สามารถนำหลักฐานการชน เช่น ภาพถ่าย หรือภาพจากกล้องหน้ารถ ไปแจ้งความเพื่อลงบันทึกประจำวัน แล้วนำใบแจ้งความนั้นไปยื่นเคลมประกันกับบริษัทประกันได้

3. ขับรถชนสัตว์ในพื้นที่ส่วนบุคคล

แต่หากเป็นกรณีที่ขับรถชนสัตว์ในพื้นที่ส่วนบุคคล เช่น บริเวณบ้านพักอาศัย หรือที่อื่นๆ ที่ไม่ใช่ทางเดินรถ แล้วเกิดเฉี่ยวชนสุนัข หรือสัตว์อื่นโดยไม่ได้ตั้งใจ จนสัตว์บาดเจ็บหรือเสียชีวิต ในกรณีนี้ผู้ขับขี่ถือว่ามีความผิด และต้องรับผิดชอบค่าเสียหายเอง รวมถึงต้องชดใช้ค่าเสียหายให้แก่เจ้าของสัตว์ด้วย เพราะเจ้าของสัตว์ได้ป้องกันระมัดระวังอุบัติเหตุให้กับสัตว์เลี้ยงแล้ว แต่ผู้ขับขี่ไม่ระวังแล้วขับรถเข้าพื้นที่ของสัตว์จนเกิดความเสียหาย

4. ตั้งใจขับรถสัตว์โดยตรง

แต่หากผู้ขับขี่มีเจตนาขับรถชนสุนัข หรือสัตว์อื่นๆ จะถือว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ.2557 โดยระบุโทษจำคุก 2 ปี หรือปรับ 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ อีกทั้งยังมีความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 เนื่องจากทำให้เจ้าของสัตว์เลี้ยงเสียทรัพย์เพิ่ม มีค่าปรับ 1,000 บาท

และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ มาสิ ได้เอามาอัพเดทให้ทุกคนไปเตรียมพร้อมกัน นอกจากนี้ ด้วยยุคนี้สมัยนี้สภาพอากาศฤดูกาลแปรปรวนและเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเรื่องของการดูแลรักษาเตรียมความพร้อมรับมือกับสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้นให้กับรถเราเป็นสิ่งที่ดี ดังนั้นแล้ว เราควรเสริมความคุ้มครองด้วย ประกันรถยนต์ เพราะจะได้ความคุ้มครองครบ แถมอุ่นใจได้ทุกครั้งเมื่อเกิดปัญหา วันนี้ มาสิ จะเอาประกันรถยนต์ไหนมาแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักกันบ้างนั้นไปดูกัน

ประกันรถยนต์ ชั้น 1 Happy 1 Price

ประกัยรถยนต์ เจมาร์ท

ประกันภัยรถยนต์ ชั้น 1 Happy 1 Price เป็นโปรโมชั่นดีๆจาก Jaymart insurance ที่ เปิดให้รถยนต์ส่วนบุคคล (รถเก๋ง) รถกระบะ สมัครประกันรถยนต์ ชั้น 1 ได้ในราคาเดียวกัน และมีบริการพิเศษบนท้องถนน หรือบริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนนอีกด้วย ซึ่งรายละเอียดความคุ้มครอง มีดังนี้

รายละเอียดความคุ้มครองประเภท 1	รถเก๋ง 110 (5 ที่นั่ง)/กระบะ 320 (3 ที่นั่ง)
ความรับผิดต่อบุคคคลภายนอก
ความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย หรือ อนามัย ไม่เกิน (บาท/คน)	500,000
วงเงินสูงสุดตาม พ.ร.บ. ไม่เกิน (บาท/คน)	10,000,000
ความเสียหายต่อทรัพย์สิน ไม่เกิน (บาท/คน)	1,000,000
ความเสียหายต่อรถยนต์
ความเสียหายต่อตัวรถยนต์ (บาท/ครั้ง)	200,000
รถยนต์สูญหายหรือไฟไหม้	200,000
ความคุ้มครองของเอกสารแนบท้าย
การประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคลสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร (บาท/คน)	100,000

การประกันภัยค่ารักษาพยาบาลสำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสาร (บาท/คน)	100,000
การประกันตัวผู้ขับขี่(บาท/ครั้ง)	300,000
เบี้ยสุทธิ(บาท/ปี)	11,077
เบี้ยประกันรวมภาษีและอาการ (บาท/ปี)	11,900.54

เงื่อนไขการรับประกัน ประกันภัยรถยนต์

รับประกันภัยรถยนต์ประเภท 1 ซ่อมอู่
ทุนประกันภัยไม่เกิน 80% ราคาตลาด ณ วันขอทำประกันภัย
คุ้มครองอุปกรณ์ตกแต่งไม่เกิน 20,000 บาท
รถยนต์ที่รับประกันภัยตามเอกสารแนบและเบี้ยประกันภัยนี่เป็นอัตราเบี้ยที่คงที่
ตรวจสภาพรถยนต์ก่อนทำประกันภัย
ไม่รับประกันภัยรถยนต์นำเข้า,รถซุปเปอร์คาร์,รถเช่า,รถรับจ้าง,รถรับจ้างสาธารณะ,รถมูลนิธิ,รถพยาบาล,รถฉุกเฉินทุกชนิด,เป็นต้น รวมถึงรถทะเบียน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้(ยะลา ปัตตานี นราธิวาส)
ไม่รับประกันรถที่มีการปรับเปลี่ยน ดัดแปลงสภาพจากมาตรฐานโรงงาน เช่น โหลดสูง โหลดต่ำ ติดเกย์วัดความเร็ว,ติดเคฟร่า ติดตั้งโครงเหล็ก,คอก หลังคา ,ตู้
อายุการใช้งานรถ ให้นำ ปีปัจจุบัน ลบ ด้วยปีจดทะเบียนรถ +1
รับประกันภัยสำหรับรถที่มีอายุการใช้งานไม่เกิน 15 ปี
เอกสารประกอบการทำประกันภัย ได้แก่ 1) สำเนาบัตรประชาชน 2) สำเนาเล่มทะเบียนรถ

รถยนต์ที่รับ ประกันภัยรถยนต์

FORD: EcoSport, Escape, Everest, ranger, Focus, Fiesta
HONDA : Accord, Amaze, Brio, BR-V, City, Civic, CR-V, HR-V, Jazz, Mobilio
ISUZU: MU-7,MU-X,D-MAX
MAZDA: 2,3,BT-50,CX-3
MITSUBISHI: Attrage, Mirage, Pajero Sport,Triton
NISSAN: Almera, Frontier, Juke, march, Navara, Sunny, Sylphy, Teana, Tiida, X-Trail
TOYOTA :Avanza, Camry, Corolla Altis, Corolla Cross, Fortuner, Innova, Revo, Sienta, Wish, Vigo, Vios, Yaris

บริการฉุกเฉินบนท้องถนน

สำหรับ ประกันภัยรถยนต์ ชั้น 1 Happy 1 Price นั้นจะมีบริการฉุกเฉินบนท้องถนนด้วยครับ ซึ่งสามารถใช้ได้เวลาที่รถของเรามีปัญหา เช่น รถยนต์เสีย ยางรั่ว ยางแบน หรือ ลืมกุญแจรถยนต์ น้ำมันหมด ก็ติดต่อ02-099-0555 กด 2 ก็จะมีเจ้าหน้าที่คอลเซนเตอร์คอยให้บริการประสานงานบริการฉุกเฉินบนท้องถนนตลอด 24 ชั่วโมงครับ มีการบริการ ดังนี้

บริการรถยกฉุกเฉินบนท้องถนน หากรถเสียหรือมีปัญหา จะมีบริการรถลากยกฉุกเฉินนำรถของคุณไปยังอู่ซ่อมรถที่ใกล้ที่สุดใน 35 กิโลเมตร (2 ครั้งต่อปี)
บริการช่างซ่อมกุญแจรถ (2 ครั้งต่อปี)
บริการเติมน้ำมันฉุกเฉินไม่เกิน 5 ลิตร (2 ครั้งต่อปี)
บริการจองโรงแรมร้านอาหารตั๋วเครื่องบิน รถเช่าและคนขับส่วนตัว(2 ครั้งต่อปี)
บริการให้คำปรึกษาทางโทรศัพท์ ด้านเทคนิค กรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน

สนใจสมัครประกันภัยรถยนต์ ชั้น 1 Happy 1 Price

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถโทรมาสอบถามรายละเอียดต่างๆ ได้ที่ 02 710 3100 หรือแอดไลน์ @masii ( มี @ ด้วยนะครับ ) เพื่อติดตามข่าวสารและบทความดีๆ ที่ มาสิบล็อก เกี่ยวกับ บัตรเครดิต บัตรเดบิต บัตรกดเงินสด สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อบ้านแลกเงิน สินเชื่อรถแลกเงิน และผลิตภัณฑ์ทางการเงินจากสถาบันการเงินชั้นนำทั่วประเทศ

อ่านบทความที่น่าสนใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ประกันรถยนต์