DAIHATSU การรวมจุดเด่นเพื่อการพัฒนาสู่สุดยอดยานยนต์

DAIHATSU
DAIHATSU
สมัครรถแลกเงินโปรโมชั่น แจกฟรี Voucher Lazada

หากจะพูดถึงชื่อรถยนต์จากฝั่งญี่ปุ่นที่โด่งดังมากในอดีตก่อนทีจะกลายเป็นอีกหนึ่งรถยนต์ในเครือของ Toyota เชื่อว่าหลายคนก็คงจะคุ้นชื่อของ Daihatsu หรือ ไดฮัทสึกันเป็นอย่างดี ส่วนที่มาของเชื่อไดฮัทสึนั้นก็มาจากการผสมและแผลงคำกจากคำว่าโอซาก้าในภาษาญี่ปุ่นนั่นเอง

ประวัติของรถยนต์ DAIHATSU

ส่วนประวัติของรถยนต์ไอฮัทสึที่เราคุ้นเคยกันดีนั้น เริ่มมาตั้งแต่ค.ศ. 1907  ในชื่อของ Hatsudoki Seizo หรือฮัทสึโดคิ เซย์โซก่อนที่จะมีการเปลี่ยนชื่อในปีค.ศ. 1951 เป็นไดฮัทสึ ส่วนทางด้านการดำเนินกิจการของไดฮัทซึนั้นถือว่ามีการเติบโตอยู่ในระดับที่ดีมาก และมีฐานการผลิต ที่ใหญ่เพิ่มขึ้นจนเป็นที่สนใจของ Toyota group และถูกซื้อไปเป็นส่วนหนึ่งของ Toyotaในปี ค.ศ. 1967

รุ่นของรถยนต์ DAIHATSU

ทางด้านรุ่นของรถยนต์ของไดฮัทซึที่เป็นที่นิยมและเป็นที่รู้จักกันดีอย่างมากในประเทศไทยก็คือ ไดฮัทสุ มีล่า รถยนต์เอนกประสงค์ขนาดเล็กที่เปรียบเสมือนเป็นรุ่นบุกเบิกของรถในรูปแบบมินิคาร์ในปัจจุบัน ด้วยตัวรถที่มีขนาดเล็ก เหมาะสำหรับขับเคลื่อนในเมือง ประหยัดน้ำมัน และมีสีให้เลือกที่หลากหลาย นอกจากนี้ข้อดีของรถมิล่าก็คือสมรรถนะในการขับเคลื่อนที่ดีเยี่ยมไม่แพ้รถยนต์รูปแบบทั่วไป  นอกจากนี้อีกหนึ่งรูปแบบของรถยนต์ไดฮัทสุนั่นก็คือรถยนต์ในรูปแบบของรถโปรดักชั่นที่มีสัดส่วนกว้างยาวในสัดส่วนที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการใช้รถยนต์ขนาดเล็กและเป็นรถยนต์แบบเอนกประสงค์สามารถใช้ขับขี่บนท้องถนนหรือใช้สำหรับขายของบนรถได้ โดยรถยนต์รุ่นนี้จะเน้นไปที่การมีห้องโดยสารแบบเอนกประสงค์ที่เบาะหน้าและหลังสามารถปรับรูปแบบได้ตามความต้องการ

หลังจากนั้นไม่นานไดฮัทซึภายใต้การบริหารและดูแลโดย Toyota ก็ได้ทำการขยายฐานการธุรกิจให้มีขนาดใหญเพิ่มขึ้นด้วยการส่งรถยนต์ออกไปขายในประเทศโซนอเมริกาและยุโรปแต่ก็ถือว่ายังไม่ประสบความสำเร็จจนในที่สุดก็ยังคงต้องเปิดขายแค่เฉพาะในเอเซีย ล่าสุดในปี ค.ศ. 2016 บริษัทไดฮัทสึได้ขายสิทธิในนามให้กับ Toyota ครบ 100% ไปในที่สุด

แต่การรวมตัวกันในครั้งนี้เชื่อกันว่าจะเป็นการพัฒนารถยนต์ให้ดีขึ้นกว่าเดิมด้วยการมุ่งเน้นนำความสามารถหลักของทั้งสองค่ายมาพัฒนาศักยภาพและสมรรถนะของรถให้มีความแข็งแกร่งมากขึ้นและบรรลถเป้าหมายในการเติบโตในตลาดรถยนต์อย่างยั่งยืน

นอกจากนี้ อีกหนึ่งจุดมุ่งหมายของการร่วมมือกันทางธุรกิจในครั้งนี้ก็คือการช่วยเพิ่มมูลค่าของแบรนด์รถยนต์ทั้งคู่ให้เพิ่มมากขึ้น มีความแข็งแกร่งมากขึ้นเนื่องจากจะเป็นการนำจุดเด่นของทั้งสองค่ายมาใช้ประโยชน์ภายใต้กลยุทธ์เดียวกันส่งผลให้กลายเป็นธุรกิจยานยนต์ที่เติบโตอย่างมีศักยภาพ