จากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อคนไทยในหลายๆ ด้าน รวมไปถึงด้านธุรกิจท่องเที่ยว ก็เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ได้รับผลกระทบ บางบริษัทต้องปิดตัวลง บ้างก็ต้องสมัครสินเชื่อส่วนบุคคล หรือหาที่กู้เงินเพื่อนำเงินมาหมุนต่อ ซึ่งหลายๆ บริษัทท่องเที่ยวได้มีการปรับตัวและพร้อมที่จะกลับมาเดินหน้าต่ออีกครั้ง รวมทั้งพร้อมจะเป็นช่องทางส่งเสริม และสนับสนุนธุรกิจการท่องเที่ยวในประเทศไทยให้ฟื้นตัวได้อย่างมั่นคง และแน่นอนว่าโควิด-19 ทำให้เทรนด์การท่องเที่ยวของผู้คนนั้นเปลี่ยนไป แต่จะมีอะไรบ้างนั้น ตาม masii ไปดูกันเลย
7 เทรนด์การท่องเที่ยวยุคใหม่
เพราะโควิด-19 ทำให้ผู้คนส่วนใหญ่ได้เรียนรู้และปรับตัวในการใช้ชีวิตมากขึ้น เช่นเดียวกับเทรนด์การท่องเที่ยวและพฤติกรรมการท่องเที่ยวที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการปรับตัวและโอกาสของธุรกิจท่องเที่ยวในยุคใหม่ ดังนี้
เทรนด์ 1 : ความคุ้มค่าและความยืดหยุ่น
การใช้จ่ายแบบ “ซื้อก่อน จ่ายทีหลังเมื่อได้ไปเที่ยวจริง” จะได้รับความนิยมมากขึ้น เพราะหลังจากที่นักท่องเที่ยวได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ทำให้ทุกการใช้จ่ายต้องระมัดระวังและคุ้มค่าที่สุด เพราะไม่มีใครอยากเสียเงินไปโดยเปล่าประโยชน์หรือจ่ายเงินไปแล้วแต่ไม่สามารถเดินทางได้ อีกทั้งสถานการณ์การเดินทางในปัจจุบันยังมีความไม่แน่นอนค่อนข้างมาก เรื่องของความยืดหยุ่นจึงเป็นปัจจัยในการตัดสินใจเช่นเดียวกัน หากสินค้าและบริการสามารถตอบโจทย์นี้ได้ เชื่อว่าจะสามารถสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างดี
เทรนด์ 2 : มองหาประสบการณ์แบบใหม่ หลีกหนีความจำเจและกิจวัตรเดิมๆ
ในช่วงปลายปี 2020 พบว่านักท่องเที่ยวไทยเข้ามาค้นหาและจองกิจกรรมท่องเที่ยวในประเทศเพิ่มสูงมากถึง 5 เท่า นั่นเป็นสัญญาณที่สะท้อนว่า คนไทยคิดถึงการท่องเที่ยวและพร้อมที่จะออกเดินทางแทบจะทันทีเมื่อสถานการณ์ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม เราพบว่านักท่องเที่ยวมองหากิจกรรมการท่องเที่ยวที่พิเศษและแปลกใหม่สำหรับตัวเอง เพราะต้องการหลีกหนีและเปลี่ยนบรรยากาศจากกิจวัตรเดิมๆ ในช่วงโควิด-19 อาทิ กิจกรรมตกหมึกที่คาเฟ่ในพัทยา กิจกรรมดำน้ำลึกที่เกาะเต่า เป็นต้น
เทรนด์ 3 : จัดทริปแบบส่วนตัวที่ต้องมาพร้อมกับการเดินทางแบบส่วนตัวเช่นกัน
นักท่องเที่ยวหลีกเลี่ยงสถานที่ท่องเที่ยวหรือกิจกรรมท่องเที่ยวที่แออัด และพยายามที่จะลดการสัมผัสกับคนอื่น หรือเลือกที่จะเดินทางเป็นกลุ่มเล็กๆ ไปกับเพื่อนหรือครอบครัวที่ตนเองมั่นใจ และวิธีการเดินทางก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจ โดยจากสถิติการซื้อกิจกรรมท่องเที่ยวแบบบริการเช่ารถได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากในหลายประเทศทั่วทวีปเอเชีย โดยยอดการจองเพิ่มสูงขึ้นตั้งแต่ปลายปี 2020 มาจนถึงปัจจุบัน
เทรนด์ 4 : คอนเทนต์ต้องปังและต้องมีช่องทางการติดต่อที่รวดเร็วทันใจ
มีการคาดการณ์ว่า ในปี 2023 ประชากรชาวเอเชียแปซิฟิกมากกว่า 1,600 ล้านคน จะรับข่าวสารต่างๆ ผ่าน วิดีโอคลิปบนมือถือ ซึ่งตัวเลขนี้นับว่ากระโดดสูงขึ้น 75% จากตัวเลข 1,200 ล้านคนในปี 2019 ดังนั้นผู้ให้บริการการท่องเที่ยวต้องไม่มองข้ามการทำคอนเทนต์ผ่านวิดีโอ หรือการไลฟ์สตรีมมิ่ง โดยควรพัฒนาให้เป็นอีกหนึ่งช่องทางสำคัญในการสื่อสารกับลูกค้าและนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการการท่องเที่ยวให้กับนักท่องเที่ยว
เทรนด์ 5 : โหยหาทริปท่องเที่ยวยาวๆ กับจุดหมายปลายทางที่ไกลๆ
ช่วงที่ผ่านมา เราถูกจำกัดให้อยู่แต่กับบ้านนานเกินไป ดังนั้นไม่น่าแปลกใจที่นักท่องเที่ยวจะมองหาทริปท่องเที่ยวระยะไกลที่ใช้เวลานานกว่าทริปที่ผ่านมา โดยจากข้อมูลของ GlobalData ได้ทำการสำรวจว่าเมื่อสามารถเดินทางข้ามประเทศได้แล้วนั้น นักท่องเที่ยวจะสนใจทริปท่องเที่ยวแบบใด โดยผลสำรวจเปิดเผยว่า 22% ของนักท่องเที่ยวมองหาทริปท่องเที่ยวที่ยาวมากกว่า 10 วัน ในขณะที่ทริปท่องเที่ยวสั้นๆ 1-3 วันได้รับการสนใจเพียง 14%
เทรนด์ 6 : ตัวช่วยที่จะทำให้การเดินทางง่ายขึ้น
โควิด-19 ได้สร้างข้อจำกัดและกฎระเบียบมากมายให้นักท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นการต้องยื่นผลตรวจโควิดก่อนเดินทาง การทำประกัน ไปจนถึงการต้องแสดงผลการฉีดวัคซีน นักท่องเที่ยวต้องค้นหาข้อมูลและต้องดำเนินการหลายอย่างที่ทำให้การท่องเที่ยวยุ่งยากขึ้น ดังนั้นผู้ประกอบการท่องเที่ยวควรพิจารณานำเสนอบริการแบบครบวงจร ที่พร้อมให้บริการทุกอย่างครบจบที่เดียว เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้า ทำให้การเดินทางเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นมาได้
เทรนด์ 7 : มองหาทริปแบบ Slow life และเข้าหาธรรมชาติมากขึ้น
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบต่อชีวิตทุกคน หลายคนต้องเผชิญกับความเครียดและ burnout จากงานที่ทำ หลายคนรู้สึกซึมเศร้าเพราะไม่ได้กลับบ้านไปหาครอบครัว หลายคนต้องอุดอู้อยู่แต่ในห้องสี่เหลี่ยมแคบๆ เป็นระยะเวลานาน ดังนั้นเมื่อการท่องเที่ยวกลับคืนมา นักท่องเที่ยวจะต้องการการท่องเที่ยวแบบเนิบช้า ปล่อยใจปล่อยอารมณ์ไปกับธรรมชาติที่ห่างหายไปนาน
จาก 7 เทรนด์ข้างต้น สะท้อนให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมและความต้องการของนักท่องเที่ยวในช่วงที่ต้องเผชิญหน้ากับการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ในอีกมุมก็สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามในการปรับตัวของทุกภาคส่วน เพื่อที่จะอยู่รอดไปกับโควิด-19 หากผู้ประกอบการสามารถปรับตัว และคว้าโอกาสใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นได้ เชื่อว่าการท่องเที่ยวในประเทศไทยจะต้องฟื้นตัวกลับมาอีกครั้ง และนักท่องเที่ยวจะสามารถกลับเดินทางไปท่องเที่ยวได้อย่างปลอดภัยได้อย่างแน่นอน
ข้อมูลจาก klook.com
สนใจสมัครประกันเดินทาง
และในเมื่อหลายๆ คนเริ่มออกเดินทางท่องเที่ยวกันตามสถานที่ต่างๆ บ้างแล้ว เพื่อความปลอดภัยก็อย่าลืมใส่หน้ากากอนามัยกันด้วยนะคะ และหากใครที่อยากได้ความคุ้มครองเพิ่มเติมขณะไปเที่ยวละก็ สามารถ สมัครประกันเดินทาง กับ masii ได้ง่ายๆ เพียง คลิกที่นี่ หรือโทร. 02 710 3100 หรือใครที่ใช้โดรนถ่ายภาพสถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติ ก็สามารถซื้อประกันภัยโดรนกับมาสิได้เช่นกัน พร้อมติดตามข่าวสารและโปรโมชั่นโดนๆ ได้ที่ไลน์ @masii