น่ายินดี! “บางแก้ว” สุนัขไทย ดังไกลระดับโลก ขึ้นทะเบียนเป็นสุนัขโลกแล้ว….พร้อมส่อง ประกันสัตว์เลี้ยง เบี้ยประกันเริ่มต้นเพียง 500 บาทต่อปี

โดย

30/08/2022

น่ายินดี! “ บางแก้ว ” สุนัขไทย ดังไกลระดับโลก ขึ้นทะเบียนเป็นสุนัขโลกแล้ว....พร้อมส่อง ประกันสัตว์เลี้ยง เบี้ยประกันเริ่มต้นเพียง 500 บาทต่อปี

สมัครรถแลกเงินโปรโมชั่น แจกฟรี Voucher Lazada

เรียกได้ว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีอีกครั้งสำหรับน้องหมาพันธุ์ไทย อย่าง “ บางแก้ว “ ที่รับการขึ้นทะเบียนเป็นสุนัขโลกอย่างเป็นทางการแล้ว จากคณะกรรมการสมาพันธ์สุนัขโลก (FCI) เป็นหมาพันธุ์ไทยลำดับที่ 2 ต่อจากสายพันธุ์ไทยหลังอาน กลุ่มผู้เลี้ยงและพัฒนาหมาไทยบางแก้วจึงจัดงานเลี้ยงแสดงความยินดีขึ้น เมื่อ 28 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา ณ จังหวัดพิษณุโลก ในฐานะที่เป็น ‘บ้านเกิด’ ของหมาไทยสายพันธุ์นี้ เรื่องราวกว่าจะได้มาขึ้นทะเบียนได้นี้มีความเป็นอมาอย่างไรบ้างวันนี้ มาสิ ได้เอามาฝากกันแล้ว แต่ไม่หมดเพียงเท่านั้น สำหรับ เจ้าของผู้ที่เลี้ยงน้องหมา มาเสริมความคุ้มครองและดูแลกันให้เต็มที่ด้วย ประกันสัตว์เลี้ยง ที่ให้ความคุ้มครองครบ ทั้งเจ็บป่วยและบาดเจ็บ พร้อมความคุ้มครองเสริมพิเศษ ความเสียหายต่อบุคคลภายนอก เงื่อนไขการให้ความจะมีอย่างไรบ้างนั้นต้องไปติดตามกัน

น่ายินดี! “ บางแก้ว ” สุนัขไทย ดังไกลระดับโลก ขึ้นทะเบียนเป็นสุนัขโลกแล้ว….พร้อมส่อง ประกันสัตว์เลี้ยง เบี้ยประกันเริ่มต้นเพียง 500 บาทต่อปี

เมื่อ 28 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา กลุ่มผู้เลี้ยงและพัฒนาหมาไทยบางแก้วได้จัดงานเลี้ยงแสดงความยินดีขึ้นกับการที่หมาพันธุ์ไทยบางแก้วได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสุนัขโลกอย่างเป็นทางการแล้ว โดยหมาไทยบางแก้วเคยได้รับการรับรองแบบชั่วคราว จากสมาพันธ์สุนัขโลกมาก่อนแล้ว เมื่อปี 2554 แต่การขึ้นทะเบียนครั้งนี้ เป็นการบรรจุเป็นสุนัขสายพันธุ์ใหม่ของโลกแบบถาวร

Fédération Cynologique Internationale (FCI)

ต้นกำเนิดของหมาสายพันธุ์นี้อยู่ที่ ‘วัดบางแก้ว’ ตำบลท่านางงาม อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งต้นกำเนิดของ ‘ไทยบางแก้ว’ ได้รับการบันทึกไว้ในเว็บไซต์ของสมาพันธุ์สุนัขโลก (FCI) ที่เก็บรวบรวมและบันทึกรายละเอียดของสุนัขสายพันธุ์ต่างๆ ทั่วโลก มีรายละเอียดที่ระบุไว้ว่า หมาไทย บางแก้ว ที่พบและเลี้ยงกันอยู่ในปัจจุบันสืบทอดมาจากแม่พันธุ์ที่เป็น ‘หมาวัด’ ของพระสงฆ์ในวัดบางแก้วเมื่อราว ๆ ปี 2500 โดยเป็นหมาเพศเมียสีขาวดำซึ่งเป็นลูกผสมระหว่างสายพันธุ์สปิตซ์ในเอเชียกับหมาสายพันธุ์ท้องถิ่นดั้งเดิม นอกจากนี้ประวัติความเป็นมาของการกำเนิดตาม งานศึกษาตีพิมพ์ในวารสารสัตวแพทย์ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้ระบุไว้ว่า บรรพบุรุษรุ่นแรกของสุนัขบางแก้วถือกำเนิดขึ้นเป็นครั้งแรก ณ วัดบางแก้ว บ้านบางแก้ว ตำบลท่านางงาม อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก เมื่อหลวงปู่ มาก สุวัณณโชโต (เมธาวี) เจ้าอาวาส วัดบางแก้ว (ช่วงเวลาประมาณ พ.ศ. 2405) หรือ 160 ปีที่แล้ว เลี้ยงสุนัขบ้านพันธุ์ไทยเพศเมีย และสุนัขดังกล่าวได้รับการผสมข้ามสายพันธุ์จากสุนัขป่าเพศผู้ ตามคำบอกเล่าเชื่อกันว่าเป็น สุนัขจิ้งจอก หรือหมาใน เพราะไม่มีสุนัขป่า (wolf) ที่มีชีวิตเคยอาศัยอยู่ในประเทศไทย จึงให้กำเนิดสุนัขพันธุ์ ไทยที่มีหน้าแหลม หูเล็กตั้งชัน ขนยาว หางเป็นพวง และดุมาก นั่นคือบรรพบุรุษของสุนัขบางแก้ว

เดิมทีหมาไทยบางแก้วเป็นที่รู้จักและเป็นที่นิยมเพียงแค่ผู้คนในพื้นที่ถิ่นกำเนิดและหมู่บ้านใกล้เคียงเพียงเท่านั้น หลังจากนั้นเมื่อมีเจ้าหน้าที่และประชาชนจากภายนอกเข้ามาพบเห็นหมาไทยบางแก้วที่มีลักษณะรูปร่างสวยงาม นิสัยดุ และรักเจ้าของ จึงเกิดความประทับใจ และต้องการนำไปเลี้ยง และเมื่อมีการนำหมาไทยบางแก้วออกไปสู่สังคมภายนอก จึงเป็นผลให้กิตติศัพท์ชื่อเสียงของหมาบางแก้วเป็นที่รู้จัก มีผู้คนเลี้ยงบางแก้วเพิ่มมากขึ้นจนในที่สุดรู้จักกันอย่างกว้างขวาง แต่ทว่า “ความดุ” ของบางแก้วทำให้หมาไทยบางแก้วจึงเริ่มที่จะได้รับความนิยมลดลง เมื่อตลาดเริ่มเข้าสู่การซื้อเพื่อนำไปเลี้ยงตามบ้าน “จุดเด่นของบางแก้วสมัยก่อน นิยมเลี้ยงเฝ้าบ้าน เพราะเมื่อก่อนบางแก้วดุมาก ดุขึ้นชื่อ หลัง ๆ มาเริ่มพัฒนาคัดสาย เช่น พ่อแม่ที่ไม่ดุ เราก็พัฒนาไปแบบนั้น เพื่อไม่ให้จิตใจก้าวร้าว เพราะสนามประกวดที่กุรงเทพฯ เวลาประกวด ต้องตรวจฟัน ไข่ ดูโครงสร้าง ถ้าจับตัวไม่ได้ ขู่เขา เขาไล่ออกจากสนาม แต่เดี๋ยวนี้บางแก้วอารมณ์ดีขึ้นมาเยอะ สามารถประกวดได้จับตัวได้ ” สามารถ สิงห์โตทอง นายกชมรมสุนัขไทยพันธุ์บางแก้วประเทศไทย เจ้าของฟาร์มหมาบางแก้วที่ จ.พิษณุโลก และเจ้าของหมาที่ประกวดได้แชมป์ยุโรปที่ประเทศเบลเยียมเมื่อปี 2015 ได้กล่าว

โดยลักษณะนิสัยของหมาไทยบางแก้ว ได้รับการบันทึกไว้ว่า เป็นสายพันธุ์ที่ฉลาด ซื่อสัตย์ ตื่นตัว ระมัดระวังคนแปลกหน้า แต่ก็เชื่อฟังเจ้าของ และฝึกฝนได้ง่าย จึงได้รับความนิยมในกลุ่มผู้เลี้ยงจำนวนมาก ขณะที่รูปร่างและลักษณะโดยทั่วไป ถือว่าเป็นหมาที่สมส่วน ขาไม่สั้น ช่วงอกหนา ลำคอ และหางมีขนฟู แต่หูตั้ง หน้าเรียว และตัวผู้จะมีขนาดกระดูกใหญ่กว่าตัวเมีย นอกจากนี้ เว็บไซต์ FCI ยังแจกแจงรายละเอียดลักษณะที่ควรหลีกเลี่ยงถ้าหากคิดจะเลี้ยงหมาพันธุ์ไทยบางแก้ว โดยระบุว่าช่วงปากต้องไม่กว้างเกินไป และไม่ควรมีจมูกสีอ่อน ตาสีอ่อน หรือตาโตกว่าปกติ ทั้งยังไม่ควรมีใบหูใหญ่ หลังอาน หางชิดหลังเกินไป ขนไม่ค่อยฟู ตัวใหญ่กว่าค่าเฉลี่ยหรือเล็กกว่าค่าเฉลี่ย และถ้าหมาพันธุ์ไทยบางแก้วมีขนเป็นสีขาวปลอด หรือมีสีอื่นผสมเพียงประปราย จะถือเป็นความผิดปกติที่ควรหลีกเลี่ยง

ทั้งนี้ในเว็บไซต์ของ FCI ได้ให้การยอมรับและขึ้นทะเบียนน้องหมาทั้งหมด 355 สายพันธุ์ แบ่งแยกใน 10 หมวด ตามลักษณะของสุนัข อันได้แก่ 1.Sheepdogs and cattle dogs หรือ กลุ่มสุนัขต้อนแกะ 2.กลุ่มสายพันธุ์ Pinschers and schnauzers – molossoid /Swiss mountain /cattle dogs 3.กลุ่มสายพันธุ์ Terriers (เทอเรีย) 4.กลุ่มสายพันธุ์ Dachshunds (ดัชชุน) 5.กลุ่มสายพันธุ์ Spitz and primitive types (บางแก้ว และไทยหลังอาน อยู่ในกลุ่มที่5) 6.กลุ่มสายพันธุ์ เซนท์ฮาวด์และสายพันธุ์ที่เกี่ยวข้อง7Pointers and setters 8.กลุ่มสายพันธุ์ รีทรีฟเวอร์ 9.กลุ่มสายพันธุ์ สุนัขเล็ก และ 10.กลุ่มสายพันธุ์ Sighthounds โดยกลุ่ม 5 จะแบ่งเป็น 2 กลุ่มย่อยตามลักษณะของสุนัขและตามแหล่งกำเนิดของสุนัข ได้แก่ Spitz Type คือ สุนัขที่มีขนยาว หนา และมักเป็นสีขาว หูตั้ง ปลายหูแหลม หางมักจะโค้งอยู่เหนือหลัง รูปหน้าสุนัขจิ้งจอก หรือคล้ายกับหมาป่า และ Primitive type คือ สุนัขสายพันธุ์ดั้งเดิมหรือสุนัขโบราณ โดยหมาไทยบางแก้วอยู่ในกรุ๊ป 5 ประเภท Spitz นี้

ข้อมูล : Brand Think และ Spotlight

ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของชาวไทย และชาวพิษณุโลกเป็นอย่างมาก สำหรับ อีกหนึ่งของดีขึ้นชื่อที่ได้รับการรับรองระดับโลก เรียกได้ว่าไทยเรานี้ มีของดีของเด่นของขึ้นชื่อให้เราได้ชื่นชมกันตลอดเวลาเลยจริง ๆ และอย่างที่เราให้สัญญากันไว้เมื่อข้างต้น สำหรับ เหล่าทาสน้องหมาน้องแมวทั้งหลาย วันนี้ มาสิ ไม่เพียงเอาข่าวดี สาระเด่น มานำเสนอให้ทุกคนได้ติดตาม แลได้อัพเดทกันแต่เพียงเท่านั้น มาสิเองยังได้เอาอีกหนึ่ง ประกันสัตว์เลี้ยง ดีๆ เบี้ยประกันแสนถูก แต่ความคุ้มครองสุดคุ้ม พร้อมความคุ้มครองพิเศษ ความเสียหายต่อบุคคลภายนอก จะมีรายเอียดความคุ้มครองอย่างไรนั้น ไปดูกัน

แผนประกันสัตว์เลี้ยง จากไทยวิวัฒน์

เบี้ยเริ่มต้นที่ 500 บาทเท่านั้น ทั้งหมด มี 4 แผนประกันภัย แถมยังเลือกซื้อแผนประกันคุ้มครองบุคคลภายนอกเพิ่มเติมได้อีกด้วย โดยมีรายละเอียด ดังนี้

ความคุ้มครอง	แผน 1	แผน 2	แผน 3	แผน 4	แผนความคุ้มครองบุคคลภายนอก**
ค่ารักษาพยาบาล กรณีอุบัติเหตุ, เจ็บป่วย	⁄	⁄	⁄	⁄	คุ้มครองความรับผิดชอบต่อชีวิตร่างกาย หรืออนามัยของบุคคลภายนอกอันเนื่องมาจากสุนัข
การรักษาพยาบาล : ผ่าตัด, ผู้ป่วยนอก, ผู้ป่วยใน	⁄	⁄	⁄	⁄
ค่ารักษาพยาบาลต่อครั้ง	90% ของค่ารักษาพยาบาลจริง				100% ของค่ารักษาพยาบาลจริง
วงเงินความคุ้มครองสูงสุดต่อปี	10,000	30,000	100,000	50,000	30,000
ค่าเบี้ยประกันภัย
อายุ 8 สัปดาห์ – 5 ปี	1,200	2,500	4,500	3,390	500
อายุ 6 ปี – 11 ปี	2,630	4,830	9,500	6,900	500

ข้อยกเว้นสำคัญ การประกันภัยนี้ไม่คุ้มครอง

การเสียชีวิต การบาดเจ็บหรือการเจ็บป่วยที่เป็นมาก่อนการเอาประกันภัย (Pre-Existing Condition)
การเสียชีวิตหรือเจ็บป่วยที่มีสาเหตุจากพยาธิ เห็บ หมัด ไร เล็น โรคเรื้อน หรือโรคผิวหนังทุกชนิด
ภาวะที่เป็นมาแต่เกิด โรคทางพันธุกรรม
การเสียชีวิต การบาดเจ็บหรือการเจ็บป่วยที่สืบเนื่องมาจากการขนส่ง ภาวะโรคขาดอาหาร การขาดอากาศหายใจเนื่องจากคลื่นความร้อน
การเสียชีวิต การบาดเจ็บหรือการเจ็บป่วยที่อยู่นอกอาณาเขตประเทศไทย

ความคุ้มครองและเงื่อนไขอื่นๆ ที่ละเอียดครบถ้วนให้เป็นไปตามกรมธรรม์ ประกันภัยสัตว์เลี้ยง ที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.)

ไม่เพียงเท่านั้น สำหรับทาสหมาโดยเฉพาะ จากนี้ก็ไม่ต้องกังวลว่า หากเจ้านายของเราจะไปกัดคนอื่นเข้า เพราะเรามีแผนความคุ้มครองบุคคลภายนอก สำหรับเจ้านายตัวน้อยของเรา เท่านั้นอีกด้วย

สนใจทำประกันสัตว์เลี้ยง

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถโทรมาสอบถามรายละเอียดต่างๆ ได้ที่ 02 710 3100 หรือแอดไลน์ @masii ( มี @ ด้วยนะครับ ) เพื่อติดตามข่าวสารและบทความดีๆ ที่ มาสิบล็อก เกี่ยวกับ บัตรเครดิต บัตรเดบิต บัตรกดเงินสด สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อบ้านแลกเงิน สินเชื่อรถแลกเงิน และผลิตภัณฑ์ทางการเงินจากสถาบันการเงินชั้นนำทั่วประเทศ

อ่านบทความที่น่าสนใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ประกันสัตว์เลี้ยง